รายละเอียดบทความ
จาก 7 คดี(ที่ท่านทักษิณถูกฟ้อง ศาลยกฟ้องแล้ว ๕ คดี) ตอนนี้เหลืออีกแค่ 2 คดีที่รอคำตัดสิน คือ
.
- คดีแปลงสัมปทานมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต และ
- คดีหมิ่นประมาทกองทัพ
.
คดีแรกนั้นปีใหม่มั่นใจว่า สุดท้ายศาลก็คงยกฟ้องนายกทักษิณ อีกเช่นเคย เพราะไม่มีใครเสียหาย ทุกคนได้ win-win ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐที่จัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ค่ายมือถือที่มีโอกาสขยายฐานลูกค้าได้กว้างกว่าเดิมมหาศาล ที่สำคัญก็ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ใดให้ AIS ตามที่ ปปช ฟ้องว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน
.
ไม่ดีแบบไหน ประยุทธ์ยังคิดจะเอามาปัดฝุ่นใช้อีก !
.
ส่วนคดีหมิ่นกองทัพ ก็คงไม่หนักหนาอะไร สุดท้ายถ้าจะเอาผิดจริงก็คงแค่ปรับ หรือ รอลงอาญา
.
สามคดีที่ตัดสินว่านายกทักษิณผิด ก็ล้วนค้านสายตาประชาชนผู้รักความยุติธรรมทั้งสิ้น อาทิ
.
●เซ็นชื่อให้ภรรยาประมูลซื้อที่ดินรัชดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหนี้เน่า ปรส ที่เกิดจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ในราคาสูงกว่าท้องตลาด ดำเนินการแข่งขันครบถ้วนถูกต้องเป็นธรรม เอาผิดอะไรในข้อกฎหมายไม่ได้ ก็มาเล่นแง่แค่ผิดม.157 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเซ็นให้ภรรยาประมูลแข่งคนอื่นไม่เหมาะ ไม่งาม อาจเกิดความยำเกรง ไม่กล้าสู้ราคา
.
ซึ่งใครก็ว่าข้อหาปัญญาอ่อน !
.
● เอาหวยใต้ดิน ขึ้นบนดิน ได้เงินสีเทาๆ ที่แต่ก่อนรัฐก็ไม่เคยได้เพราะตกเป็นของมาเฟียไม่กี่คน แต่นายกทักษิณเอาผลประโยชน์นี้มาส่งลูกหลานชาวไร่ชาวนาให้มีโอกาสได้เรียนนอก ทุกอย่างสวยงาม ไร้ข้อตำหนิ เอาผิดทักษิณแค่ว่าทำไปโดยไม่มีกฎหมายรองรับ (ทั้งที่สลากกาชาดก็ทำแบบนี้)
.
แต่ประยุทธ์จะเอากลับมาทำใหม่ !
.
● ให้ Exim Bank ปล่อยกู้พม่า 4500 ล้านพร้อมดอกเบี้ย 3% เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์จากประเทศกู้ IMF มาเป็นประเทศให้เขากู้ และ แลกกับสัญญา 3 ข้อจากพม่า
1) ไม่รบกันตามชายแดน
2) ไม่ส่งยาเสพติดเข้าไทย
3) เขียน road map to democracy
รวมทั้งผลประโยชน์ด้านแหล่งพลังงาน และ ทรัพยากรธรรมชาติ
.
คุ้มค่ามหาศาล แต่โดนเล่นงานแค่ว่า พม่ากู้แล้วเอาเงินกลับมาซื้ออุปกรณ์ดาวเทียมจากชินคอร์ป มูลค่า 600 ล้านบาท ที่คิดเป็น 13% ของวงเงินกู้ หรือถ้าคิดเฉพาะกำไร 10% ของมูลค่าสินค้า ชินคอร์ปก็ได้กำไรแค่ 1% ของเงินกู้ ซึ่งหากเทียบกับทรัพย์สิน 60,000ล้านที่นายกทักษิณมีอยู่ เงินกำไรที่ชินคอร์ปได้ก็แค่ 0.1% เท่านั้น
.
มันไม่ Make Sense เลยที่จะลงทุนโกงเพื่อเงินเท่านี้ ที่สำคัญเงินต้น และ ดอกเบี้ยก็ได้คืนครบทุกบาทสตางค์ ไม่มีใครเสียหายใดๆ แล้วยังจะเอาอะไรอีก ?
.
ที่มันย้อนแย้งคือ คุณประยุทธ์ยังจะให้พม่ากู้ทำโครงการทวาย ในวงเงิน 4500 ล้านเท่ากัน แต่คิดดอกเบี้ย 0%
.
ฟังแล้วมันขำจนขื่น !
.
ท่านใดพอชี้แนะ ไขข้อข้องใจได้บ้าง เรียนเชิญครับ
อยากทราบว่าบทความนี้ มีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใดครับ เห็นแชร์ๆกันตามเฟซบุ๊ค(การเมือง)
จาก 7 คดี(ที่ท่านทักษิณถูกฟ้อง ศาลยกฟ้องแล้ว ๕ คดี) ตอนนี้เหลืออีกแค่ 2 คดีที่รอคำตัดสิน คือ
.
- คดีแปลงสัมปทานมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต และ
- คดีหมิ่นประมาทกองทัพ
.
คดีแรกนั้นปีใหม่มั่นใจว่า สุดท้ายศาลก็คงยกฟ้องนายกทักษิณ อีกเช่นเคย เพราะไม่มีใครเสียหาย ทุกคนได้ win-win ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐที่จัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น ค่ายมือถือที่มีโอกาสขยายฐานลูกค้าได้กว้างกว่าเดิมมหาศาล ที่สำคัญก็ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ใดให้ AIS ตามที่ ปปช ฟ้องว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน
.
ไม่ดีแบบไหน ประยุทธ์ยังคิดจะเอามาปัดฝุ่นใช้อีก !
.
ส่วนคดีหมิ่นกองทัพ ก็คงไม่หนักหนาอะไร สุดท้ายถ้าจะเอาผิดจริงก็คงแค่ปรับ หรือ รอลงอาญา
.
สามคดีที่ตัดสินว่านายกทักษิณผิด ก็ล้วนค้านสายตาประชาชนผู้รักความยุติธรรมทั้งสิ้น อาทิ
.
●เซ็นชื่อให้ภรรยาประมูลซื้อที่ดินรัชดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหนี้เน่า ปรส ที่เกิดจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ในราคาสูงกว่าท้องตลาด ดำเนินการแข่งขันครบถ้วนถูกต้องเป็นธรรม เอาผิดอะไรในข้อกฎหมายไม่ได้ ก็มาเล่นแง่แค่ผิดม.157 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเซ็นให้ภรรยาประมูลแข่งคนอื่นไม่เหมาะ ไม่งาม อาจเกิดความยำเกรง ไม่กล้าสู้ราคา
.
ซึ่งใครก็ว่าข้อหาปัญญาอ่อน !
.
● เอาหวยใต้ดิน ขึ้นบนดิน ได้เงินสีเทาๆ ที่แต่ก่อนรัฐก็ไม่เคยได้เพราะตกเป็นของมาเฟียไม่กี่คน แต่นายกทักษิณเอาผลประโยชน์นี้มาส่งลูกหลานชาวไร่ชาวนาให้มีโอกาสได้เรียนนอก ทุกอย่างสวยงาม ไร้ข้อตำหนิ เอาผิดทักษิณแค่ว่าทำไปโดยไม่มีกฎหมายรองรับ (ทั้งที่สลากกาชาดก็ทำแบบนี้)
.
แต่ประยุทธ์จะเอากลับมาทำใหม่ !
.
● ให้ Exim Bank ปล่อยกู้พม่า 4500 ล้านพร้อมดอกเบี้ย 3% เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์จากประเทศกู้ IMF มาเป็นประเทศให้เขากู้ และ แลกกับสัญญา 3 ข้อจากพม่า
1) ไม่รบกันตามชายแดน
2) ไม่ส่งยาเสพติดเข้าไทย
3) เขียน road map to democracy
รวมทั้งผลประโยชน์ด้านแหล่งพลังงาน และ ทรัพยากรธรรมชาติ
.
คุ้มค่ามหาศาล แต่โดนเล่นงานแค่ว่า พม่ากู้แล้วเอาเงินกลับมาซื้ออุปกรณ์ดาวเทียมจากชินคอร์ป มูลค่า 600 ล้านบาท ที่คิดเป็น 13% ของวงเงินกู้ หรือถ้าคิดเฉพาะกำไร 10% ของมูลค่าสินค้า ชินคอร์ปก็ได้กำไรแค่ 1% ของเงินกู้ ซึ่งหากเทียบกับทรัพย์สิน 60,000ล้านที่นายกทักษิณมีอยู่ เงินกำไรที่ชินคอร์ปได้ก็แค่ 0.1% เท่านั้น
.
มันไม่ Make Sense เลยที่จะลงทุนโกงเพื่อเงินเท่านี้ ที่สำคัญเงินต้น และ ดอกเบี้ยก็ได้คืนครบทุกบาทสตางค์ ไม่มีใครเสียหายใดๆ แล้วยังจะเอาอะไรอีก ?
.
ที่มันย้อนแย้งคือ คุณประยุทธ์ยังจะให้พม่ากู้ทำโครงการทวาย ในวงเงิน 4500 ล้านเท่ากัน แต่คิดดอกเบี้ย 0%
.
ฟังแล้วมันขำจนขื่น !
.
ท่านใดพอชี้แนะ ไขข้อข้องใจได้บ้าง เรียนเชิญครับ