เพิ่งมีโอกาสได้นั่งดูหนังทั้งสองเรื่องจบไป ซึ่งเป็นหนังที่บอกเล่าเกี่ยวกับคู่รักทั้งสองเรื่อง โดยที่ความแตกต่างคือเรื่องแรก Marriagr Story เป็นเรื่องของคู่รักที่แต่งงานกันแล้วมีปัญหา กับอีกเรื่องคือ Crazy Rich Asian ที่เป็นเรื่องของคู่รักที่มีปัญหาก่อนแต่งงาน แต่ปัญหาขอทั้งสองคู่ก็มาจากประเด็นเรื่องราวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งหนังทั้งสองเรื่องเป็นหนังที่ดูจบแล้วรู้สึกสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างให้กับคนที่ใช้ชีวิตคู่ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการคู่กันแบบไหนก็ตาม
 

Marriage Story หนังจาก Netflix เป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยา “ชาร์ลี” และ “นิโคล” ที่เริ่มแรกดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ เพราะต่างคนต่างก็ตกหลุมรักในความเป็นตัวตนของกันและกัน แต่เมื่อมีการอยู่ด้วยกัน ก็ต้องมีการแสดงตัวตนและความต้องการของตัวเองออกมา และเมื่อทั้งคู่ต่างไม่มีใครยอมใคร ทำให้เกิดเรื่องราวการฟ้องหย่าเกิดขึ้นจนทำให้ครอบครัวแตกแยก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเนื้อแท้ทั้งสองยังคงรู้สึกรักกันอยู่
 

ส่วน Crazy Rich Asian เรื่องราวสาวนิวยอร์กแท้ๆ อย่าง "ราเชล" ที่เธอต้องเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทของ "นิค" แฟนหนุ่มเธอที่ประเทศสิงคโปร์ ไม่เพียงแต่จะตื่นเต้นที่จะได้ไปเยือนเอเชียเป็นครั้งแรกเท่านั้น แต่เธอยังกังวลที่จะต้องไปพบกับครอบครัวของนิค ซึ่งราเชลได้รู้อย่างไม่ทันตั้งตัวว่า นิคเป็นทายาทของครอบครัวที่รวยที่สุดในประเทศทำให้เธอกลายเป็นเป้าหมายของความอิจฉาจากวงสังคม และเลวร้ายยิ่งกว่าเพราะแม่ของนิคดันไม่ชอบเธออีกด้วย
 

Marriage Story นั้นเดินเรื่องได้โคตรฉลาด หนังยกเอาความรู้สึกของตัวละครที่รักในตัวละครอีกคนมาเป็นตัวบอกเล่าเรื่อง ทำให้เราเห็นความรักและความผูกพันของแต่ละฝ่ายที่มีให้แก่กันในตอนต้น ซึ่งดูเหมือนมันไม่น่าจะมีอะไร แต่แล้วหนังกลับเอาจุดนี้และมาบดขยี้คนดูให้รู้ว่า การที่แต่ละคนแสดงตัวตนของตัวเองออกมา แต่กลับไม่เคยมีการพูดคุยกันเลยว่า แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายชอบและยอมรับจริงๆ หรือแค่ปล่อยให้ผ่านไปและยอมรับจนกลายเป็นความเคยชิน จนเมื่อมาถึงวันที่มีประเด็นต้นเรื่องเกิดขึ้น จุดเล็กๆ มันกลับถูกขุดขึ้นมาให้ทะลักออกมาจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตและกลายเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ครอบครัวถึงขั้นแตกแยก
 

ในขณะที่ Crazy Rich Asian นั้นเล่าเรื่องแบบละครไทยบ้านเราเลย แม่ผัวลูกสะใภ้ ความเหลื่อมล้ำทางฐานะและสังคม บวกกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง มันกลายเป็นสิ่งที่เข้ามามีอิทธิพลต่อความรักของคนสองคนได้อย่างมาก ซึ่งมันสะท้อนภาพวัฒนธรรมทางสังคมของคนในประเทศแถบเอเชียได้เป็นอย่างดี เหมือนเรากำลังนั่งดู remake หนังบ้านทรายทองที่มี พจมาน ชายกลาง หญิงใหญ่ ชายน้อย และแม่ผัวตัวแสบ ในแบบฉบับของประเทศสิงคโปร์เลยล่ะ
 

จุดเด่นชัดๆ เลยของ Marriage Story คือตัวนักแสดงและ Dialog ของบทที่ส่งให้อารมณ์หนังมันพีคถึงขีดสุด ฉากที่นักแสดงทั้งสองคนระเบิดอารมณ์ใส่กัน ถึงมันจะไม่ได้ดูรุนแรงทางกายภาพ แต่มันดูรุนแรงทางอารมณ์ถึงขั้นที่ถ้าอยู่ในสถานการณ์จริง มันอาจจะทำร้ายจิตใจกันอย่างแสนสาหัสเลยทีเดียว ซึ่ง Adam Driver และ Scarlett Johansson ระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดมากๆ คนที่เคยทะเลาะกับคนใกล้ตัวด้วยเรื่องแบบนี้จะเข้าใจเหตุการณ์นี้สุดๆ มันคือความเป็นชีวิตคู่หรือความสัมพันธ์ของคนเราจริงๆ ที่ถ้าเราเมินเฉยหรือปล่อยผ่านอะไรบางอย่างไปเรื่อยๆ มันจะกลายเป็นว่าเราตีกรอบตัวเองจากอีกฝ่ายให้มันแน่นหนามากขึ้นกว่าเดิม และรอวันที่กรอบนั้นจะกลายเป็นฉากกั้นอีกฝ่ายไม่ให้เข้ามาหาเราได้อีกเลย
 

ส่วนจุดเด่นของ Crazy Rich Asian คือเนื้อหาที่ถูกจริตคนดูเหลือเกิน คนไทยอาจจะชอบเพราะมันใกล้ตัวและเหมือนดูละครไทย ฝรั่งก็จะชอบด้วยอารมณ์อีกแบบ เพราะอาจจะไม่มีอะไรแบบนี้ในวัฒนธรรมบ้านเขา แต่อีกอย่างที่โดดเด่นมากๆ ก็คือ Production อลังการดาวล้านดวงในหนัง ผมไม่รู้ว่าในประเทศสิงคโปร์จะมีสังคมแบบนี้อยู่เยอะน้อยแค่ไหน หรือจะมีครอบครัวที่มีบ้านราคา 200 ล้านหรือครอบครัวที่เวลาแต่งงานทีแทบจะปิดเกาะสิงคโปร์แต่งกันเลยทีเดียว แต่ด้วยฉากที่สวยงามอลังการ ดูหรูหรา บวกกับเนื้อหาที่มันโดนใจก็ทำให้หนังมันเดินทางไปได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม่เนื้อเรื่องมันจะไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรมากมายก็ตาม
 

พอดูหนังทั้งสองเรื่องจบแล้ว ความรู้สึกที่ได้มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่สะท้อนความเป็นจริงของชีวิตคนเราอยู่เยอะ โดยเฉพาะเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ต้องเป็นความสัมพันธ์แบบคู่รักก็ได้ แต่มันคือสิ่งที่คนเราเมื่อจะคบกันหรืออยู่ด้วยกัน ยังไงมันก็ต้องเจอ เรื่องแรก Marriage Story คือปัญหาที่เกิดจากคนสองคนตีกรอบของตัวเองขึ้นมาโดยที่ไม่คุยกันถึงความต้องการที่แท้จริงและตัวตนที่อยากจะเป็น ในขณะที่เรื่องที่สอง Crazy Rich Asian ปัญหาคือคนรอบข้างที่มองแต่หน้าตาทางสังคมและกรอบที่ถูกตีโดยคนอื่นเพื่อกีดกันคนสองคน เรียกว่าเป็นหนังดีทั้งสองเรื่อง ถึงแม่พล็อตเรื่องจะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่

ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ  >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/