ตามที่เป็นกระเเสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ ณ ขณะนี้ ในกรณีที่ร้านตำฯ ดูหมิ่นเหยียดหยามลูกค้า ซึ่งเคสแบบนี้ เราก็เคยมีประสบการณ์เช่นกัน เข้าใจถึงลูกค้าที่โดนกล่าวหาเช่นนั้น แต่ที่เคยเจอหนักกว่านั้น ร้านอยู่จ.นครนายก ครัวป่า (แทมมารีน) มะขาม ร้านนี้มีดีอยู่อย่างเดียวคือ บรรยากาศ ที่ตั้งโต๊ะในธารน้ำ ไม่แน่ใจว่าทำแบบนี้เป็นการรุกล้ำพื้นที่ธรรมชาติหรือไม่ รสชาติไม่ได้เรื่อง มารยาทต่ำทรามมาก สั่งน้อยก็ไม่ได้ นั่งนานก็ไม่ได้ กฎระเบียบเยอะแยะไปหมด
ครั้งแรกที่ไปกิน ก็เห็นว่าบรรยากาศดี เรามากับแฟน 2 คน ก็สั่ง 3-4 อย่าง ปรากฎว่า ไม่ได้จ้าาาาา ต้องสั่งเมนูต้มๆ เป็นหม้อ หรือ เมนูปลาเพิ่มด้วย ไม่งั้นไม่ให้กินจ้า ซึ่งคนรับออเดอร์ก็เป็นเด็กสาว อายุน้อยกว่าเราหลายปี แต่ใช้คำพูดจิกกัด กระแทกเสียงใส่ลูกค้า และด้วยความเกรงใจ จึงสั่งเพิ่ม แม้จะทานไม่หมดก็ตาม หลังจากนั้น 2 ปี ก็ไปเที่ยวนครนายกอีกครั้ง เราก็มองหาร้านอาหารหลายร้าน สุดท้ายก็ วกกลับมาร้านนี้ ซึ่งก็ลืมไปแล้วว่าร้านนี้ รสชาติก็ไม่ได้เรื่อง แถมบริการแย่ พอมาครั้งที่ 2 เราเริ่มสังเกตเห็นตั้งแต่เดินเข้าร้านว่า ห้ามนั่งนานเกิน 2 ชั่วโมง เป็นป้ายใหญ่โตมาก พอเดินลงมาธารน้ำเพื่อหาโต๊ะนั่ง ก็จำได้ว่า ร้านนี้นี่เองที่มาทานเมื่อ 2 ปีก่อน มารอบนี้เพื่อไม่ให้ทางร้านว่าได้ จึงสั่งเยอะมาก พออาหารมาก็ทานกันตามปกติ แต่แฟนเราไม่ค่อยสบาย จึงทานได้น้อยและอิ่มเร็ว ส่วนเราก็ยังคงนั่งทานต่อไป ระหว่างนั้นแฟนเรารู้สึกเมื่อยหลังจึงเอนตัวนอนพักหลังบนแคร่ที่นั่ง พอเอนตัวไม่ถึง 5 นาที ก็มีป้าคนนึงเดินมาถามว่า เช็คบิลเลยไหม เราตอบว่ายัง ตอนนั้นก็งงๆว่าทำไมมาพูดไล่ลูกค้าด้วยวิธีนี้ ซึ่งเรานั่งไปแค่ 30 นาทีและปากยังเคี้ยวอาหารอยู่เลย เหลืออาหารอีกเยอะที่ยังทานไม่หมด ป้าจึงพูดกฎระเบียบขึ้นมาว่า ห้ามนอน ตอนนั้นด้วยความที่ไม่อยากมีเรื่อง จึงบอกป้าไปว่า เช็คบิลเลย จากนั้นเราก็นั่งกินต่อไป เนื่องจากอาหารยังไม่หมด หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย ผ่านไปได้ไม่ถึง 10 นาที ก็เห็นว่าป้ามาแอบมองดูอยู่เป็นระยะๆ คิดในใจว่า จะมาไล่อีกหรือไม่ เราก็พยายามมองหาป้ายที่ระบุว่า ห้ามนอน ซึ่งตั้งแต่เดินเข้ามา เรายังไม่เห็นสักป้ายเลย พอขากลับ เจอป้ายืนอยู่จึงได้ถามป้าดีๆ ว่ามีติดป้ายหรือไม่ เนื่องจากทางเราไม่ทราบว่ามีกฎระเบียบนี้ ป้าจึงพาเราไปดูป้ายที่อยู่ด้านล่างข้างกำแพงโซนที่เราไม่ได้นั่ง เราก็ถามป้าว่า ไม่ได้ติดหน้าร้านทางเข้าหรอ ป้าก็พูดทำนองว่า อยากมีปัญหาหรอ รู้ไหมเจ้าของที่นี่เป็นทนายความ เราก็บอกไปว่า ไม่สนใจหรอกว่า เจ้าของจะเป็นใคร สนใจแค่ว่า ป้ายนี้เราไม่เห็น ทำไมไม่ติดทางเข้าร้าน แล้วป้าก็ด่าเราลั่นร้านว่า ไอ้ตาบอด บลาๆๆๆ ซึ่งเราจำไม่ได้แล้วว่าด่าอะไรบ้าง เนื่องจากจุกกับคำพูดแค่คำเดียว สักพักก็มีสามีป้า ออกโรงมาสมทบด่าไล่เรากับแฟนเสียงดังลั่นร้าน คนทั้งร้านก็หันมามอง
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครด่าเเบบนี้ หรือร้านไหนให้บริการได้ต่ำทรามเท่าร้านนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านให้คนแบบนี้มาบริหารร้านได้อย่างไร หรือมีนโยบายในการบริการเช่นนี้ ดูถูกเหยียดหยามด้วยวาจาไม่พอ แต่ยังมองแรงด้วยสายตาอาฆาต ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า
พอกันที ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ไปเหยียบจังหวัดนี้อีกเลย โดยเฉพาะร้านนี้ ครั้งนี้คงเป็นความซวยดวงไม่ดีเองที่วนมาเจอร้านเยี่ยงนี้ และรับไม่ได้ที่เห็นธารน้ำตกสวยงาม ณ พื้นที่เเห่งนั้นที่โดนรุกล้ำพื้นที่ธรรมชาติอันงดงาม เพื่อให้คนกลุ่มนึงได้กอบโกยแสวงหาผลประโยชน์ในการทำการค้าด้วยจิตใจที่หยาบกระด้าง
ร้านอาหารที่ดูหมิ่นเหยียดหยามลูกค้า
ครั้งแรกที่ไปกิน ก็เห็นว่าบรรยากาศดี เรามากับแฟน 2 คน ก็สั่ง 3-4 อย่าง ปรากฎว่า ไม่ได้จ้าาาาา ต้องสั่งเมนูต้มๆ เป็นหม้อ หรือ เมนูปลาเพิ่มด้วย ไม่งั้นไม่ให้กินจ้า ซึ่งคนรับออเดอร์ก็เป็นเด็กสาว อายุน้อยกว่าเราหลายปี แต่ใช้คำพูดจิกกัด กระแทกเสียงใส่ลูกค้า และด้วยความเกรงใจ จึงสั่งเพิ่ม แม้จะทานไม่หมดก็ตาม หลังจากนั้น 2 ปี ก็ไปเที่ยวนครนายกอีกครั้ง เราก็มองหาร้านอาหารหลายร้าน สุดท้ายก็ วกกลับมาร้านนี้ ซึ่งก็ลืมไปแล้วว่าร้านนี้ รสชาติก็ไม่ได้เรื่อง แถมบริการแย่ พอมาครั้งที่ 2 เราเริ่มสังเกตเห็นตั้งแต่เดินเข้าร้านว่า ห้ามนั่งนานเกิน 2 ชั่วโมง เป็นป้ายใหญ่โตมาก พอเดินลงมาธารน้ำเพื่อหาโต๊ะนั่ง ก็จำได้ว่า ร้านนี้นี่เองที่มาทานเมื่อ 2 ปีก่อน มารอบนี้เพื่อไม่ให้ทางร้านว่าได้ จึงสั่งเยอะมาก พออาหารมาก็ทานกันตามปกติ แต่แฟนเราไม่ค่อยสบาย จึงทานได้น้อยและอิ่มเร็ว ส่วนเราก็ยังคงนั่งทานต่อไป ระหว่างนั้นแฟนเรารู้สึกเมื่อยหลังจึงเอนตัวนอนพักหลังบนแคร่ที่นั่ง พอเอนตัวไม่ถึง 5 นาที ก็มีป้าคนนึงเดินมาถามว่า เช็คบิลเลยไหม เราตอบว่ายัง ตอนนั้นก็งงๆว่าทำไมมาพูดไล่ลูกค้าด้วยวิธีนี้ ซึ่งเรานั่งไปแค่ 30 นาทีและปากยังเคี้ยวอาหารอยู่เลย เหลืออาหารอีกเยอะที่ยังทานไม่หมด ป้าจึงพูดกฎระเบียบขึ้นมาว่า ห้ามนอน ตอนนั้นด้วยความที่ไม่อยากมีเรื่อง จึงบอกป้าไปว่า เช็คบิลเลย จากนั้นเราก็นั่งกินต่อไป เนื่องจากอาหารยังไม่หมด หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย ผ่านไปได้ไม่ถึง 10 นาที ก็เห็นว่าป้ามาแอบมองดูอยู่เป็นระยะๆ คิดในใจว่า จะมาไล่อีกหรือไม่ เราก็พยายามมองหาป้ายที่ระบุว่า ห้ามนอน ซึ่งตั้งแต่เดินเข้ามา เรายังไม่เห็นสักป้ายเลย พอขากลับ เจอป้ายืนอยู่จึงได้ถามป้าดีๆ ว่ามีติดป้ายหรือไม่ เนื่องจากทางเราไม่ทราบว่ามีกฎระเบียบนี้ ป้าจึงพาเราไปดูป้ายที่อยู่ด้านล่างข้างกำแพงโซนที่เราไม่ได้นั่ง เราก็ถามป้าว่า ไม่ได้ติดหน้าร้านทางเข้าหรอ ป้าก็พูดทำนองว่า อยากมีปัญหาหรอ รู้ไหมเจ้าของที่นี่เป็นทนายความ เราก็บอกไปว่า ไม่สนใจหรอกว่า เจ้าของจะเป็นใคร สนใจแค่ว่า ป้ายนี้เราไม่เห็น ทำไมไม่ติดทางเข้าร้าน แล้วป้าก็ด่าเราลั่นร้านว่า ไอ้ตาบอด บลาๆๆๆ ซึ่งเราจำไม่ได้แล้วว่าด่าอะไรบ้าง เนื่องจากจุกกับคำพูดแค่คำเดียว สักพักก็มีสามีป้า ออกโรงมาสมทบด่าไล่เรากับแฟนเสียงดังลั่นร้าน คนทั้งร้านก็หันมามอง
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครด่าเเบบนี้ หรือร้านไหนให้บริการได้ต่ำทรามเท่าร้านนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านให้คนแบบนี้มาบริหารร้านได้อย่างไร หรือมีนโยบายในการบริการเช่นนี้ ดูถูกเหยียดหยามด้วยวาจาไม่พอ แต่ยังมองแรงด้วยสายตาอาฆาต ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า
พอกันที ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ไปเหยียบจังหวัดนี้อีกเลย โดยเฉพาะร้านนี้ ครั้งนี้คงเป็นความซวยดวงไม่ดีเองที่วนมาเจอร้านเยี่ยงนี้ และรับไม่ได้ที่เห็นธารน้ำตกสวยงาม ณ พื้นที่เเห่งนั้นที่โดนรุกล้ำพื้นที่ธรรมชาติอันงดงาม เพื่อให้คนกลุ่มนึงได้กอบโกยแสวงหาผลประโยชน์ในการทำการค้าด้วยจิตใจที่หยาบกระด้าง