ถ้าโรงเรียนลูกมีเด็กพิเศษก้าวร้าวต้องกินยามารังแกลูก คุณพ่อคุณแม่มีวิธีจัดการยังไงคะ

ลูกอยู่ป 2 โรงเรียนเอกชน ในห้องจะมีเด็กสมาธิสั้นและมีพฤติกรรมก้าวร้าวมาคอยแกล้ง เอารองเท้าไปซ่อนบ้าง ล้อลูกเสียงดังว่าโง่บ้าง(ทั้งๆลูกได้ 4 ทุกวิชา)ว่าลูกต่อหน้าเรา  เรากำลังกลับกับลูกอยู่ๆเดินมาต่อยแม้จะแบบเล่นแต่ก็แรงอยู่เหมือนกัน 3-4 หมัด ลูกเราถอยหลบ เรารีบปราม ครูก็เคยทำโทษแต่ก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่เพราะเป็นเรื่องของโรค เด็กไม่รับฟัง แก้พฤติกรรมได้ง่ายๆ ต้องปรับพึ่งยากันไป
ปัญหาคือ ลูกเราหัวอ่อน ปกป้องตัวเองไม่เป็น ตอนถูกเพื่อนต่อยต่อหน้า เราก็บอกให้กลับมา มาสู้กลับ ลูกวิ่งหลบถอยไปไม่ยอมสู้ เค้าไม่สู้กลับไม่โต้ตอบ อีกคนเลยได้ใจในความเก่งตัวเองลูกต่อสู้ก็แพ้ วิ่งก็แพ้ ข่มได้ ยิ่งเข้าหา

ที่แก้ตอนนี้ ปีหน้าคงให้ลูกเรียนเทคอนโด้เพิ่ม จะได้ป้องกันตัวเองได้ เลิกสุงสิงกับเพื่อนคนนี้ แม่ขอครูอยู่คนละห้องปีการศึกษาถัดไป

อยากทราบว่า ลูกคนอื่นเจอกรณีเด็กพิเศษทำร้ายบ้างมั้ยคะ พ่อแม่แก้ปัญหายังไง โรงเรียนแก้ปัญหายังไง เด็กพิเศษที่ก้าวร้าวมีทุกโรงเรียนเลยมั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
มาให้ข้อมูลในฐานะแม่ที่ฝึกลูกและสามีสมาธิสั้น ช่วยให้เค้าควบคุมอารมณ์หงุดหงิดง่ายโมโหง่ายได้ดีขึ้นโดยไม่เคยให้กินยาริทาลิน ค่ะ

1.โรคสมาธิสั้น ถ่ายทอดทางพันธุกรรม สาเหตที่ลูกเป็นเพราะ ไม่พ่อก็แม่เป็นสมาธิสั้นด้วยค่ะ เพียงแต่เจ้าตัวไม่รู้ตัว แต่หมอบอกว่าสถิติส่วนใหญ่เกิดจากพ่อเป็นสมาธิสั้นแถมพ่อมักไม่รู้ตัวว่าเป็นค่ะ(สังเกตว่าขี้หงิดหงิดมั้ย) ไม่ก็ปู่ย่าตายาย (เราบอกลูกว่า ถ้าสงสารลูกของหนูในอนาคตก็อย่าสืบสายพันธ์สมาธิสั้นต่อไปอีกเลย)

2.ไม่มีผลกับ IQ หรือความฉลาด (ลูกเราอยู่ห้องกิ๊ฟทั้ง 2คน) แถมข้อดีให้ชื่นใจบ้างคือเด็กสมาธิสั้นส่วนใหญ่จะมีจินตนาการสูงและความจำดีค่ะ

3.โรคสมองนี้ เกิดจากระบบรับ-ส่งสารโดปามีนทำงานบกพร่องมีผลทำให้ ประสาทรับรู้ผิดปกติ ประสาทสัมผัส 1ใน 5 จะอ่อนไหวง่าย สามีsensitiveด้านเสียง สมองไม่สามารถกรองเสียงรบกวนได้ จะใส่ใจกับเสียงรบกวนมากกว่าใส่ใจคนที่กำลังพูดด้วย/ ลูกคนโตหนักไปทางมองโลกในแง่ลบน้อยใจง่าย+ผิวหนังแพ้ง่าย สัมผัสฝุ่นนิดหน่อยก็จะผดผื่นขึ้น /คนเล็กหนักไปทางไฮเปอร์เดินวิ่งไม่หยุด+ motor tics
ทั้ง3คน ก่อนฝึก จะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกให้อดทนกับสิ่งรอบตัวที่เค้าไม่ชอบได้น้อยมาก และถ้าเจอสิ่งที่ชอบ สมองก็จะหวนคิดวนลูปซ้ำสิ่งที่ชอบไปอีกหลายรอบ  

4.ไม่ว่าคนสมาธิสั้น หรือ คนธรรมดา ตอนเกิดมาตอนเด็กๆสมองส่วนหน้ายังโตไม่เต็มที่ ก็มีระดับการควบคุมอารมณ์ต่ำมากๆ กันทุกคน สังเกตได้จาก หิวก็ร้องไห้ พอเอานมใส่ปากก็เงียบทันที อยากได้อะไรแล้วไม่ได้ก็โกรธ ผลัก ดึงแย่ง  สารพัดการกระทำ ล้วนเป็นผลจากสมองส่วนอารมณ์ทั้งนั้น แต่พอโตขึ้น "เหตผล" จะตัวยับยั้งอารมณ์  "เหตุผล" จะเป็นตัวติดเบรคให้สมองส่วนอารมณ์ ตรงนี้โกรธช้าลง ฝึกระงับอารมณ์โดยนึกถึงเหตผลบ่อยๆ ก็จะถึงขั้นหยุดตัวเองได้

15ปีที่อยู่กับคนสมาธิสั้น ทำให้เห็นว่า เด็กธรรมดาที่ไม่ได้เป็นสมาธิสั้น แต่ถ้ามีพ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจฝึกให้เค้าควบคุมอารมณ์ ไม่ห้ามปรามเวลาใช้อารมณ์ หรืออยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่ใช้อารมณ์ระเบิดใส่กันทะเลาะตีกันบ่อยๆ สภาพแวดล้อมแบบนี้ ก็สามารถฝึกให้คนธรรมดากลายเป็นคนอารมณ์หุนหันพลันแล่นได้มากกว่าคนสมาธิสั้นที่ถูกฝึกให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อย่างดีแล้วค่ะ

5.ศาตราจารย์ท่านนึงกล่าวว่า สมองสมาธิสั้นจะมีอาการ blind of time ค่ะ คือ ไม่รับรู้ปัจจุบันขณะ (สติ/ตัวรู้) วิธีแก้ แนะนำให้เปิด app Pomodoro timer ในขณะทำงานหรือทำการบ้านเพื่อฝึกสติให้รับรู้เวลาทุกชั่วขณะ

6.ภายในหัวเค้า อารมณ์จะเหมือนช่องทีวี ที่โดนสับเปลี่ยนช่องไปมาตามอารมณ์หุนหันพลันแล่น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ก่อนที่เราจะฝึกแบบนี้ เค้าจะหยุดเขียนการบ้านทุก5วิ และหันไปทำอย่างอื่นตลอด เพราะช่องสัญญาณเบื่อเข้าแทรกตลอดเวลา เค้าก็จะหยุดทำการบ้านเป็นร้อยครั้ง(การบ้านแค่หน้าเดียวทำให้ใช้เวลาทำการบ้านเกือบ3ชั่วโมงกว่าจะเสร็จ) แล้วหันไปทำอะไรอย่างอื่นรอบๆตัว อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องทำการบ้าน เช่น เหม่อ หยิบยางลบมาหมุนเล่น หยิบลิควิดมาดู เอาดินสอมาควง สารพัด..จะหาอย่างอื่นมาแทนที่สิ่งที่น่าเบื่อตรงหน้า

เราต้องสอนให้เค้าฝืนสะกดอารมณ์(อะไรก็ตามที่เข้ามาแทรกค่ะ) ต้องฝึกตั้งแต่เล็กๆถึงจะฝึกง่าย เราเริ่มฝึกตั้งแต่4ขวบและสม่ำเสมอจนถึง6ขวบ สุดท้ายเค้าก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีในระดับที่อยู่ร่วมกับเด็กทั่วไปได้อย่างดี  พอ 6ขวบเราใช้การชี้ชวนดูคลิปข่าวการใช้อารมณ์ซ้ำๆ เพื่อตอกย้ำว่าใช้อารมณ์จะเกิดผลอย่างไร และชวนให้ดูบุคคลที่ใช้เหตผลว่าประสบความสำเร็จอย่างไร ฝึกให้ลูกระงับอารมณ์ด้วยเหตผล จนตอน ป.3 วันนึงลูกกลับมาบอกเราว่า มีเพื่อนคนนึง บอกเค้าว่า ไม่อยากเล่นกับเธอแล้ว เพราะอะไรก็ใช้เหตผล เล่นด้วยแล้วไม่สนุกเลย เราเลยต้องสอนเค้าว่า เวลาเล่นก็ปล่อยใจทำตามอารมณ์บ้างก็ได้

ปล.วิธีเราอาจดูโหดร้ายและเผด็จการ แต่เราต้องสู้กับอาการสมาธิสั้นถึง 3คนในครอบครัวทุกวัน สามีนี่หนักสุดทำเราหมดแรงเยอะสุด ถ้าเราไม่ใช้วิธีที่เห็นผลไวสุดกับลูก ไหนจะสามีอีก เราอาจหมดแรงใจแรงกาย ก่อนฝึกพวกเค้าทั้ง3คน ควบคุมตัวเองได้สำเร็จค่ะ

แก้ไขเพราะ ลืมตอบในส่วนเจ้าของกระทู้
เราแนะนำว่า
คุณกำลังเจอกับเด็กสมาธิสั้นที่มีพ่อแม่ที่ไม่รับผิดชอบกับปัญหา
เป็นเราต้องนัดคุยปัญหานี้อย่างจริงจังกับทางพ่อแม่เด็กต่อหน้าผู้อำนวยการโรงเรียนค่ะ
ถามผอว่า ในเมื่อเค้าก็สามารถฝึกลูกเค้าให้ควบคุมอารมณ์ได้(ถึงแม้จะยากและพ่อแม่ต้องใช้ความอดทนสูงแต่มันก็สำเร็จถ้าเค้าใส่ใจจะทำมากพอ) แล้วถ้าเค้าปล่อยปละละเลยไม่ฝึกลูก ปล่อยให้มีพฤติกรรมทำตามอารมณ์มาทำร้ายลูกเราอีก ต้องมีบทลงโทษตามสมควรค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่