สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้มาในหัวข้อเปิดกรุอีกแล้วน๊าาา ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ก็จะมีรีวิวแนวนี้เยอะหน่อย เป็นรีวิวรวมๆ ของที่ใช้มาตลอดต้นปีหรือของที่ชอบใช้ซ้ำวนๆไปไรงี้ และคราวนี้ก็มาในประเภทของลิปกันบ้าง เป็นลิปบำรุงริมฝีปาก มีทั้งลิปมัน ลิปทรีทเม้นท์ ลิปมาส์ก จัดไปแบบจุกๆ เลย7 แบรนด์ ด้วยกัน
นี่จ้า ทั้งหมดก็ตามภาพเลยนะเป็นลิปบำรุงที่เราเคยใช้มา (บางตัวก็รอด บางตัวก็ร่วง!) ใครใช้ตัวไหนอยู่ หรือกำลังเล็กตัวไหนไว้บ้างเอ่ย? ลองมาแชร์กันดูได้นะ... เพราะเรื่องริมฝีปากเป็นเรื่องที่สำคัญ เราเองก็เป็นคนนึงที่ปากชอบแห้งบ่อยๆ เวลาทาลิปก็ชอบตกร่องไม่ติดทนT_T จะปล่อยให้ปากแห้ง ลอก เป็นขุย ไม่ได้นะจ๊ะ สาวๆ อย่างเราต้องสวยเป๊ะ! ทุกส่วน มาจ๊ะไม่รอช้ามาดูกันไปทีละแบรนด์เลยนะ
Laneige Lip Sleeping Mask
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเป็นแบรนด์ที่หลายคนต้องรู้จักแหละกับ Laneige ลิปมาส์กสำหรับทาเวลากลางคืน ที่เค้าเคลมมาเลยว่าใช้แล้วปากจะเนียนนุ่มชั่วข้ามคืน ซึ่งจริงๆ เค้าก็ได้ผลดีเลยล่ะ เราใช้มานานแล้วเหมือนกันชอบความกลิ่นเบอร์รี่ของเค้าน่ะ
โดยเค้าจะมีส่วนผสมและเทคโนโลยีที่เรียกว่า The Berry Mix Complex จากส่วนผสมของเบอร์รี่แต่ละชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่จะเข้าไปผลัดเซลล์ผิว ทำให้ริมฝีปากของเราเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้ อีกทั้ง Moisture Wrap ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นของริมฝีปากได้เป็นอย่างดีอีกด้วย กลิ่นจะหอมเบอร์รี่เวลาใช้ส่วนตัวเราจะพอกก่อนนอนเลย ยิ่งวันไหนที่ปากแห้งพังยับจนแบบไม่ไหวแล้ว ก็พอกไปเลยจ้าหนาๆ ตื่นมาจะรู้สึกเลยว่านุ่มชุ่มชื้นจริงๆ อันนี้ใช้ดีควรลอง เค้ามีหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ไซส์ทดลองจนไปถึงกระปุกใหญ่เลยจ๊ะ
ราคา 260 บาท ปริมาณ 8 กรัม
Mali Malin Organic Lip Treatment
ตัวต่อมาเป็นลิปแก้ปากดำ เพิ่มความชุ่มชื่นแบรนด์น้องใหม่ ที่อยากจะป้ายยาทุกคนมากๆ โดยเฉพาะสาวขี้แพ้ เพราะเค้าเป็นแบรนด์ออแกนิค 100% เลย ไม่มีปิโตรเลียมเจล พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอมและสารเคมีทุกชนิด คือปลอดภัยและอ่อนโยนสุดๆ ขนาดที่ว่าเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปและคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ใช้ได้จ้า เราซื้อมาเพราะถูกใจสิ่งนี้แหละ
ส่วนผสมของเค้าใช้เกรดออร์แกนิคที่ผ่านการรับรองจาก Ecocert Cosmos Organic และ USDA ซึ่งปราศจากสารเคมีทุกขั้นตอน มี Shea Butter, Beewax, Coconut oil เพิ่มความชุ่มชื่น Avocado oil, Jojoba oil ลดเลือนริ้วรอย ให้ปากเนียนนุ่ม ลดการระคายเคืองและป้องกันแสงแดด และที่สำคัญมี Alpha-melight สารสกัดจากต้น Candeia Tree ที่ช่วยลดความหมองคล้ำ ถึงว่าเราใช้ตัวนี้แล้วปากดูชมพูขึ้น
ตัวลิปไม่เหนียวหนืด แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก ที่ชอบมากคือทาตัวนี้ก่อนลงลิปสีแล้วไม่ตกร่อง ทำให้สีลิปชัด ติดทนนาน แถมลิปนี้ยังเป็นแบบ 3 in 1 ด้วยนะ ใช้ทาปากตามปกติ ทาเป็นเบสก่อนลงลิปสี และใช้เป็นมาส์กปากทาก่อนนอนได้ ....เคล็ดลับของเราคือโบกหนาๆ ก่อนนอน ตื่นมาปากงี้เด้งเลย ลองทำติดต่อกันอาทิตย์นึงปากชมพูขึ้นจริงๆ เค้าจะมี 2 สูตรนะ แต่เราชอบสูตรนี้หอมผ่อนคลายดี ดูแท่งจิ๋วๆแต่ใช้ได้เกิน 3 เดือนขึ้นเลยค่า แต่หาซื้อยากหน่อยต้องสั่งทางเพจจ้า
ราคา 290 บาท ปริมาณ 5 กรัม
Eucerin Aquaphor
Eucerin เรารู้กันอยู่แล้วล่ะเรื่องความอ่อนโยนต้องยกให้เค้าเลย สำหรับตัวนี้เป็นบาล์มบำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูเรื่องผิวแตกได้เป็นอย่างดี อันนี้สามารถใช้ได้กับเด็กด้วย เพราะว่ามีความอ่อนโยนมากๆ เค้าปราศจากน้ำหอม พาราเบน แอลกฮอล์ โดยเค้าจะเน้นบำรุงและแก้ปัญหาผิวที่แห้งมากๆ แห้งจนแตก มีการระคายเคืองด้วยนี่เอาอยู่
ซึ่งเค้าจะมีสารป้องกันการสูญเสียน้ำและช่วยให้ออกซิเจนผ่านเข้าผิวได้ ทำให้ผิวเกิดความสมดุล และยังมีส่วนผสมของกลีเซอรินที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย สำหรับยูเซอรีนนี้เราแนะนำว่าเหมาะมากกับช่วงที่ปากแห้งหนักๆ แบบแตกยับอ่ะใช้ดีเลย แต่เราชอบเอาไปทาที่เล็บกับศอกมากกว่า เพราะว่าเค้าใช้ได้กับส่วนอื่นของร่างกายที่มีความแห้งจ๊ะ
ราคา 250 บาท ปริมาณ 7 กรัม
L'occitane Ultra Rich Lip Balm
อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ มากันครึ่งทางแล้วจ๊ะเพื่อนๆ ต่อเลยจ้ากับ
L'occitane แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความหอมและความชุ่มชื้นอยู่แล้ว แน่นอนว่าลิปบาล์มของเค้าก็ดีไม่แพ้พวกสกินแคร์ตัวอื่นเลยนะ ส่วนผสมหลักๆ ของเค้าก็คงหนีไม่พ้น Shea Butter นั่นแหลจ้า จริงๆ เค้ามีแบบที่เป็นรุ่นกันแดดด้วยนะ แต่เราว่าแบบธรรมดาแบนี้ก็โอเคอยู่
สูตรนี้เค้าจะช่วยบำรุง ฟื้นฟู และปกป้องให้ริมฝีปากอ่อนนุ่ม ไม่แห้งตึงนั่นเองจ้า เนื้อเค้าจะเป็นแบบนุ่มลื่นไม่เหนียวหรือหนักปากเลย ส่วนตัวเราชอบเนื้อฟิลลิ่งหลังทาและกลิ่นของเค้า มันละมุนดี จะใช้เวลาที่อยู่บ้านหรือวันที่ไม่ได้แต่งหน้า ทาแล้วชุ่มชื้นนานเลยล่ะ
ราคา 360 บาท ปริมาณ 12 กรัม
Curel Moisture Lip Care Cream
ต่อมาเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นนะจ๊ะ กับ
Curel สกินแคร์เค้าก็ดีนะ ลิปเค้าก็ใช้ได้อยู่เหมือนกัน ลิปรุ่นนี้เค้าก็มีความอ่อนโยนมากเช่นเดียวกัน เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอลล์ และสี เป็นสูตร Hypoallergenic ที่เน้นช่วยพื้นฟู บำรุงริมฝีปาก ถ้าใครที่ไปใช้ลิปมาแล้วมีอาการแพ้ ลิปอันนี้ช่วยได้นะ เค้าจะฟื้นฟูและป้องกันการระคายเคืองได้
เค้าจะมีส่วนผสมหลายอย่างเลย ส่วนใหญ่จะเป็นพืชจากธรรมชาติและ Jojoba Oil ที่ช่วยเรื่องเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ส่วนตัวเราว่าเนื้อเค้าแอบหนาไปหน่อย ถ้าคนที่ไม่ชอบหรือไม่เคยใช้ลิปแนวนี้มาก่อนอาจจะไม่ชอบได้ เราว่าไม่เหมาะกับการทาทุกวัน อาจจะทาในวันที่ปากแห้งมากๆ ก็จะช่วยให้ปากชุ่มชื้นขึ้นได้
ราคา 350 บาท ปริมาณ 4.2 กรัม
DHC lip cream
แบรนด์ญี่ปุ่นอีกอันจ้า
DHC ก็เป็นลิปบำรุงริมฝีปากอีกอันที่ใช้ดีอยู่ (แต่ราคาแรงนะ) ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากเป็นหลัก ใครที่ปากแห้งอย่าเดียวไม่มีปัญหาเรื่องความหมองคล้ำเราว่าอันนี้ก็โอเคนะ
ส่วนผสมหลักๆ ของเค้าจะเป็น Olive Virgin oil และ Aloe Vera ที่จะเข้าไปช่วยบำรุง เติมความชุ่มชื้น ให้ปากเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้านได้เป็นอย่างดี เราว่าลิปอันนี้เนื้อบางเบาดี แต่มีความมันสูง ถ้าใครที่ไม่ชอบความมันเวลาทาเสร็จอ่ะ อาจจะไม่ชอบเลยล่ะ เพราะส่วนผสมเค้าเน้นบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นล้วนๆ น่าจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาปากแห้งลอก เค้าจะฟื้นฟูได้ดี
ราคา 298 บาท ปริมาณ 1.5 กรัม
Carmex Moisturizing Lip Balm
สุดท้ายแล้วจ้าทุกคน เป็นลิปบาล์มจากอเมริกา
Carmex ที่หลายคนใช้แล้วก็ชอบ เพราะเค้าเป็นลิปที่ช่วยทั้งเรื่องลดความคล้ำและเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากด้วย และถ้าใช้ต่อเนื่องเค้าบอกว่าจะทำให้ริมฝีปากเรียบเนียนด้วยนะ
เค้ามีส่วนผสมของการบูรและเมนทอล ที่จะช่วยเพิ่มความเย็นและผ่อนคลายเวลาใช้ด้วยล่ะ...ส่วนใหญ่คนอื่นที่ใช้แล้วจะบอกว่าดี ใช่ม่ะ แต่เราใช้แล้วรู้สึกว่าไม่โอเคอ่ะ มันเย็นยิ่งทำให้แห้งไปอีก T_T เอาเป็นว่าอันนี้แล้วแต่คนเนอะเพื่อนๆ ต้องไปลองใช้กันดูก่อน คือเนื้อเค้าลิปก็โอเคนะแต่ความเย็นนั้นสำหรับเรามันเย็นเกินไปจ้า
ราคา 135 บาท ปริมาณ 7.5 กรัม
....ก็จบไปแล้วทั้งหมด 7 แบรนด์เลยนะ ก็มีอันที่ชอบมากชอบน้อย อันที่โอเคบ้างไม่โอเคบ้างรวมๆ กันไป ถ้าจะให้เลือกว่าอันไหนชอบสุด เราคัดมา 3 อันแล้วกันนะ ได้แก่
- Mali Malin Organic Lip Treatment : ที่ชอบอันนี้เพราะนอกจากเพิ่มความชุ่มชื่นแล้วยังทำให้ปากเราชมพูขึ้นได้จริงด้วย หมดปัญหาทาลิปสีตกร่อง ไม่ติดทนของเราไปเลย และปลื้มในความเป็นออแกนิค 100%
- Laneige Lip Sleeping Mask : อันนี้ ยังไงก็ต้องยกให้เค้าแหละ ความดีงามในเรื่องความชุ่มชื้นคือเห็นผลจริงจัง
- L'occitane Ultra Rich Lip Balm : อันนี้ชอบเนื้อและกลิ่นที่มีความละมุนทาแล้วหอมๆ ผ่อนคลายดี
ยังไงฝากไว้นิดนึงนะ จริงๆ แล้วต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้ปากแห้งหรือไม่ได้แต่งหน้าต้องทาลิปบ่อยๆ ก็มีความจำเป็นต้องใช้ลิปบำรุงเหล่านี้นะ เพราะว่าเค้าจะไปบำรุงให้ริมฝีปากเราให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นจ้า
....หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มาก็น้อย ต้องบอกก่อนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของเรานะเพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังเพื่อน ก็ต้องไปลองใช้กันดูก่อนนะจ๊ะ ส่วน ใครเคยใช้อันไหนอยากแนะนำก็มาแชร์มาบอกต่อกันได้เลยนะ
วันนี้เราต้องขอตัวไปก่อน คราวหน้าจะมีอะไรดีๆ มาแชร์กันอีกฝากติดตามด้วยน๊าาา บ้ายย บายย จ้า
……………………………………………………………………………………………
[CR] เปิดกรุ! 7 ลิปมันแห่งปี 2019 ตัวไหนรอด ตัวไหนร่วงมาดูกัน
ราคา 290 บาท ปริมาณ 5 กรัม
ซึ่งเค้าจะมีสารป้องกันการสูญเสียน้ำและช่วยให้ออกซิเจนผ่านเข้าผิวได้ ทำให้ผิวเกิดความสมดุล และยังมีส่วนผสมของกลีเซอรินที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย สำหรับยูเซอรีนนี้เราแนะนำว่าเหมาะมากกับช่วงที่ปากแห้งหนักๆ แบบแตกยับอ่ะใช้ดีเลย แต่เราชอบเอาไปทาที่เล็บกับศอกมากกว่า เพราะว่าเค้าใช้ได้กับส่วนอื่นของร่างกายที่มีความแห้งจ๊ะ
ราคา 250 บาท ปริมาณ 7 กรัม
ราคา 360 บาท ปริมาณ 12 กรัม
ราคา 350 บาท ปริมาณ 4.2 กรัม
ราคา 298 บาท ปริมาณ 1.5 กรัม
- Laneige Lip Sleeping Mask : อันนี้ ยังไงก็ต้องยกให้เค้าแหละ ความดีงามในเรื่องความชุ่มชื้นคือเห็นผลจริงจัง
- L'occitane Ultra Rich Lip Balm : อันนี้ชอบเนื้อและกลิ่นที่มีความละมุนทาแล้วหอมๆ ผ่อนคลายดี
ยังไงฝากไว้นิดนึงนะ จริงๆ แล้วต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้ปากแห้งหรือไม่ได้แต่งหน้าต้องทาลิปบ่อยๆ ก็มีความจำเป็นต้องใช้ลิปบำรุงเหล่านี้นะ เพราะว่าเค้าจะไปบำรุงให้ริมฝีปากเราให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นจ้า
....หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มาก็น้อย ต้องบอกก่อนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของเรานะเพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังเพื่อน ก็ต้องไปลองใช้กันดูก่อนนะจ๊ะ ส่วน ใครเคยใช้อันไหนอยากแนะนำก็มาแชร์มาบอกต่อกันได้เลยนะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้