สมาคม ได้รับเชิญจาก AFF ส่งสโมสรเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหม่ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน 2020
......................................
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับเชิญจากสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ให้ส่งสโมสร เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน (ASEAN Club Championship) โดยจะเริ่มต้นปี 2020 ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน
.
ฟุตบอลรายการดังกล่าว ถูกจัดขึ้นเพื่อยกระดับการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับพัฒนาศักยภาพนักกีฬาในอาเซียน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมความนิยมเกมฟุตบอลระหว่างประเทศสมาชิก รวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศด้วยเช่นกัน
.
สำหรับรูปแบบการแข่งขันของรายการชิงแชมป์สโมสรอาเซียน ประกอบด้วย
.
1. ทีมเข้าร่วมแข่งขัน จะมีทั้งหมด 12 ทีม ซึ่งทีมเหล่านี้จะต้องผ่านเกณฑ์คลับ ไลเซนซิง ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี)
.
2. สำหรับ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม จะได้รับสิทธิ์เข้าแข่งขัน ประเทศละ 2 ทีม ขณะที่ เมียนมา และสิงคโปร์ จะได้สิทธิ์ประเทศละ 1 ทีม ส่วนตัวแทนจากประเทศ บรูไน, ฟิลิปปินส์, สปป.ลาว, กัมพูชา และติมอร์ เลสเต จะทำการเล่นเพลย์ออฟ เพื่อหา 2 ทีมร่วมแข่งขัน
.
3. สโมสรจากประเทศไทย ที่จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วม ได้แก่ ทีมชนะเลิศ โตโยต้า ไทยลีก และ โตโยต้า ลีก คัพ ซึ่งจะทำให้ทุกทัวร์นาเมนต์ในระดับสโมสรของไทย จะมีรายการระดับนานาชาติให้ลงแข่งขัน นอกเหนือจากที่แชมป์ลีก, รองแชมป์ และแชมป์รายการช้าง เอฟเอ คัพ ได้เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่เดิม ซึ่งรายการนี้ ถือเป็นรายการระดับอาเซียน แทนที่ของ โตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ ที่งดจัดการแข่งขัน
.
4. ทั้ง 12 ทีม จะถูกแบ่งเป็น 2 สาย สายละ 6 ทีม โดยแต่ละทีม จะเล่นเหย้า-เยือน รวมกันทีมละ 5 นัด (ทีมใดได้เล่นเกมเหย้าหรือเกมเยือนมากกว่า ขึ้นอยู่กับการจับสลากแบ่งสาย) เพื่อหาทีมแชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม ไปเล่นในรอบรองชนะเลิศแบบนัดเดียวรู้ผล โดยทีมแชมป์กลุ่มจะได้สิทธิ์เล่นในบ้าน ขณะที่นัดชิงชนะเลิศจะเป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน
.
5. การลงทะเบียน แต่ละทีมสามารถลงทะเบียนนักเตะต่างชาติได้ 3 คน นักเตะเอเชีย 1 คน ขณะที่นักเตะอาเซียนและนักเตะท้องถิ่นของแต่ละประเทศ สามารถลงทะเบียนได้ไม่จำกัดจำนวน แต่รวมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นต่างชาติ, ผู้เล่นเอเชีย, ผู้เล่นอาเซียน และผู้เล่นในประเทศแล้ว จะต้องมีขั้นต่ำ 25 คน แต่ไม่เกิน 30 คน
.
6. สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรมในเกมเยือน ทางพันธมิตรด้านพาณิชย์ของรายการแข่งขันจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
.
7. สำหรับทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 ล้านบาท) และรวมกับเงินสนับสนุนในรอบต่างๆ อีก 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านบาท) รวมทั้งสิ้นกว่า 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา เพจแฟร์
สมาคม ได้รับเชิญจาก AFF ส่งสโมสรเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหม่ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน 2020
......................................
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับเชิญจากสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ให้ส่งสโมสร เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน (ASEAN Club Championship) โดยจะเริ่มต้นปี 2020 ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน
.
ฟุตบอลรายการดังกล่าว ถูกจัดขึ้นเพื่อยกระดับการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับพัฒนาศักยภาพนักกีฬาในอาเซียน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมความนิยมเกมฟุตบอลระหว่างประเทศสมาชิก รวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศด้วยเช่นกัน
.
สำหรับรูปแบบการแข่งขันของรายการชิงแชมป์สโมสรอาเซียน ประกอบด้วย
.
1. ทีมเข้าร่วมแข่งขัน จะมีทั้งหมด 12 ทีม ซึ่งทีมเหล่านี้จะต้องผ่านเกณฑ์คลับ ไลเซนซิง ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี)
.
2. สำหรับ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม จะได้รับสิทธิ์เข้าแข่งขัน ประเทศละ 2 ทีม ขณะที่ เมียนมา และสิงคโปร์ จะได้สิทธิ์ประเทศละ 1 ทีม ส่วนตัวแทนจากประเทศ บรูไน, ฟิลิปปินส์, สปป.ลาว, กัมพูชา และติมอร์ เลสเต จะทำการเล่นเพลย์ออฟ เพื่อหา 2 ทีมร่วมแข่งขัน
.
3. สโมสรจากประเทศไทย ที่จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วม ได้แก่ ทีมชนะเลิศ โตโยต้า ไทยลีก และ โตโยต้า ลีก คัพ ซึ่งจะทำให้ทุกทัวร์นาเมนต์ในระดับสโมสรของไทย จะมีรายการระดับนานาชาติให้ลงแข่งขัน นอกเหนือจากที่แชมป์ลีก, รองแชมป์ และแชมป์รายการช้าง เอฟเอ คัพ ได้เข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่เดิม ซึ่งรายการนี้ ถือเป็นรายการระดับอาเซียน แทนที่ของ โตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ ที่งดจัดการแข่งขัน
.
4. ทั้ง 12 ทีม จะถูกแบ่งเป็น 2 สาย สายละ 6 ทีม โดยแต่ละทีม จะเล่นเหย้า-เยือน รวมกันทีมละ 5 นัด (ทีมใดได้เล่นเกมเหย้าหรือเกมเยือนมากกว่า ขึ้นอยู่กับการจับสลากแบ่งสาย) เพื่อหาทีมแชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม ไปเล่นในรอบรองชนะเลิศแบบนัดเดียวรู้ผล โดยทีมแชมป์กลุ่มจะได้สิทธิ์เล่นในบ้าน ขณะที่นัดชิงชนะเลิศจะเป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน
.
5. การลงทะเบียน แต่ละทีมสามารถลงทะเบียนนักเตะต่างชาติได้ 3 คน นักเตะเอเชีย 1 คน ขณะที่นักเตะอาเซียนและนักเตะท้องถิ่นของแต่ละประเทศ สามารถลงทะเบียนได้ไม่จำกัดจำนวน แต่รวมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นต่างชาติ, ผู้เล่นเอเชีย, ผู้เล่นอาเซียน และผู้เล่นในประเทศแล้ว จะต้องมีขั้นต่ำ 25 คน แต่ไม่เกิน 30 คน
.
6. สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินและค่าโรงแรมในเกมเยือน ทางพันธมิตรด้านพาณิชย์ของรายการแข่งขันจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
.
7. สำหรับทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 ล้านบาท) และรวมกับเงินสนับสนุนในรอบต่างๆ อีก 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านบาท) รวมทั้งสิ้นกว่า 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา เพจแฟร์