ไม่มีเสียงอะไรในโลกนี้..ที่นกLyre Birdเลียนแบบไม่ได้



เชื่อหรือไม่..นกสายพันธุ์หนึ่งที่ไม่เพียงจะมีเสียงร้องเฉพาะตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถเลียนเสียงนก เสียงคน เสียงสัตว์ และเสียงสิ่งของต่างๆ ได้อย่างเนียนสุดๆ นั่นคือ Lyre Bird หรือ นกหางพิณออสเตรเลีย
 
แม้จะดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะนกแก้วนกขุนทองก็สามารถเลียนแบบการสร้างเสียงเหล่านี้ได้ แถมยังสามารถเลียนแบบคนพูดได้อีกต่างหาก แต่สิ่งที่ทำให้ Lyre Bird เหนือชั้นกว่านกแก้วนกขุนทองคือ …การทำเสียงเลียนนกสายพันธุ์อื่น ชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป หรือเสียงเลื่อยไฟฟ้าตัดต้นไม้นั้น เป็นหนึ่งในวิธีการหาคู่และประกาศเขตแดนของพวกมัน
 
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า Lyre Bird แต่ละตัวนั้นมีวิธีการสร้างเสียงที่แตกต่างกัน และมีเสียงที่ชอบเลียนแบบแตกต่างกันออกไป พูดง่ายๆ คือพวกมันทุกตัวสามารถเลียนแบบเสียงได้เหมือนๆ กัน แต่พวกมันไม่ได้ชอบเสียงแบบเดียวกันทั้งหมด และจะเลือกทำเสียงเฉพาะที่ตัวเองชอบ หรือคิดว่านกตัวเมียจะชอบมากเป็นพิเศษ  Lyre Bird เรื่องมากในการเลือกคู่เป็นพิเศษ เพราะนอกจากตัวผู้จะต้องทำเสียงที่ทำให้พวกมันประทับใจได้แล้ว ยังต้องทำเสียงที่หลากหลายพอที่จะชนะใจอีกด้วย



นับตั้งแต่ยุคการล่าอาณานิคมเป็นต้นมา ประเทศออสเตรเลียนั้นสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ไปแล้วมากกว่า 40% ซึ่งนั่นเป็นพื้นที่ที่เจ้านก Lyrebird อาศัยอยู่
ในสมัยก่อน นก Lyrebird ที่อาศัยอยู่อย่างสงบภายในป่านั้นไม่เคยพบเห็นมนุษย์ แต่ปัจจุบัน มนุษย์ได้บุกรุกจนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมัน จนตอนนี้เหล่านก Lyrebird กำลังพยายามเลียนเสียงที่มาจากมนุษย์
ขอบคุณ https://www.spokedark.tv/animals/feathers/sound-of-lyrebird
Cr.https://www.pohchae.com/2017/09/23/2797/



เมื่อแมงมุมอยากเหมือนมด...



แมงมุมที่มีวิวัฒนาการด้านรูปร่างคล้ายกับมดมีอยู่ 13 วงศ์ และมากกว่า 300 ชนิด โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในวงศ์แมงมุมกระโดด การเลียนแบบมดในหมู่แมงมุมนั้นเชื่อกันว่าได้วิวัฒนาการมาอย่างน้อย 50 ล้านปี 
แมงมุมกระโดดคล้ายมดแดง (แมงมุมมดแดง Myrmarachne plataleoides ) เลียนแบบรูปร่าง พฤติกรรมรวมถึงสีสันของมดแดง (Asian weaver ant, Oecophylla smaragdina) ซึ่งช่วยให้มันรอดพ้นจากสัตว์นักล่าและอันตรายอื่นๆ 

แมงมุมกระโดดคล้ายมดแดงเพศเมียจะเลียนแบบพฤติกรรมและท่าทางของมดงาน ส่วนเพศผู้จะพิเศษกว่าเพศเมีย คือ ส่วนเขี้ยวจะยืดยาวออกมา ช่วยให้ขนาดของเพศผู้เพิ่มขึ้น 50 – 70 % โดยเชื่อว่าเป็นการเลียนแบบมดงานที่กำลังขนอาหารอยู่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้มดงานคิดว่าแมงมุมเป็นพวกเดียวกันที่กำลังขนอาหารอยู่

โดยส่วนใหญ่แล้ว แมงมุมกระโดดคล้ายมดเป็นแมงมุมที่หากินในเวลากลางวัน และมักใช้การสื่อสารข้อมูลผ่านการมองเห็นในการล่าหรือสื่อสารกับพวกเดียวกันเป็นหลักมากกว่าการสื่อสารกันด้วยสารเคมี แมงมุมกระโดดคล้ายมดเพียงส่วนน้อยที่จะกินมดต้นแบบ แต่ส่วนใหญ่จะกินแมลงขนาดกลางหรือขนาดเล็กอื่นๆ เป็นอาหารโดยเฉพาะแมลงในกลุ่มแมลงวันและผีเสื้อ และในบางครั้งก็กินไข่ของแมงมุมชนิดอื่นเช่นกัน

นอกจากการเลียนแบบด้านรูปร่าง และพฤติกรรมของมดในแมงมุมแล้ว ยังมีกลุ่มแมงมุมอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้วิวัฒนาการรูปร่างให้คล้ายกับมด แต่พวกเค้ากลับสร้างสารเคมีขึ้นมาเพื่ออำพรางตัว และเข้าไปในรังมดเพื่อกินไข่ ตัวอ่อน หรือดักแด้ของมดได้นั่นเอง 
ที่มาของข้อมูล : http://www.siamensis.org/article/35132
Cr.https://th-th.facebook.com/SirinartCenter/posts/885148511566980/



เป็ดที่คิดว่าตัวเองนกฟลามิงโก้



สมาชิกเว็บไซต์ boredpanda ได้แบ่งปันภาพความน่ารักของบรรดาเป็ดที่คิดว่าตัวเองเป็นนกฟลามิงโก้ พวกมันมีพฤติกรรมการลอกเลียนแบบนกฟลามิงโก้ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการยืน ซึ่งโดยทั่วไปในลูกเป็นนั้นจะพบพฤติกรรมการการฝังใจ ถือเป็นพฤติกรรมที่ตอบสนองสิ่งเร้าในช่วงแรกของชีวิตด้วยการจดจำสิ่งเร้าต่างๆ
นกฟลามิงโก้ ได้ชื่อว่าเป็นนกที่ไม่มีประสาทรับกลิ่น และเป็นนกที่ส่งเสียงดังตลอดเวลา ซึ่งลูกนกแ้แต่อยู่ในไข่ก็ส่งเสียงร้องแล้ว ซึ่งพ่อแม่นกจะจดจำลูกของตัวเองได้จากเสียงร้องอันนี้
Cr.https://www.facebook.com/samrujlok/posts/10154453266492226/



การเลียนแบบใบหน้าของ หมีหมา 



หมีหมา หรือ หมีคน (Sun Bears)  เป็นหมีที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก และอาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่าพวกมันสามารถแสดงสีหน้าให้เหมือนกับสัตว์ตัวอื่นที่อยู่ต่อหน้าได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เคยคิดว่าเป็นของสัตว์ในกลุ่มไพรเมตและมนุษย์เท่านั้น
เมื่อมนุษย์อยู่ในสถานการณ์ทางสังคมเรามักจะปรับการแสดงออกทางสีหน้าเพื่อตอบสนองต่อคนอื่น มันเรียกว่าการเลียนแบบใบหน้า ซึ่งมีความซับซ้อนมากจนนักวิทยาศาสตร์คิดว่าเป็นลักษณะพิเศษที่สงวนไว้สำหรับคนและสัตว์กลุ่มไพรเมต (Primates)

ทีมนักวิจัยพบว่าหมีมีแนวโน้มที่จะแสดงฟันบนของพวกมันในระหว่างการเล่นที่อ่อนโยน ที่สำคัญพวกมันจะแสดงพฤติกรรมเหล่านี้เมื่อพวกมันเห็นอีกฝ่ายกำลังมองอยู่ และเมื่อหมีตัวใดตัวหนึ่งโชว์ฟันของมัน หมีอีกตัวหนึ่งก็จะตอบสนองด้วยการแสดงออกแบบเดียวกัน

สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถเลียนแบบสีหน้าได้คือสุนัข แต่ไม่น่าแปลกใจนักเพราะสุนัขเองก็มีความใกล้ชิดกับมนุษย์ จึงอาจเกิดการเรียนรู้ได้ไม่ยากนัก  ขณะที่หมีหมาที่อาศัยอยู่ในป่าจะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับตัวอื่น ๆ นอกเหนือจากการผสมพันธุ์
Cr.http://realmetro.com/sun-bear-habit/



Coyote หมาป่าโคโยตีในตำนาน



หมาป่าโคโยตี หรือ ไคโยตี เป็นสัตว์ในตำนาน อย่างในยุคเตโอติอัวกันแห่งอาณาจักรแอซเท็ก โคโยตีเป็นสัญลักษณ์ทางทหาร โดยทหารจะแต่งตัวเลียนแบบโคโยตีเพื่อเรียกพลังและความกล้า และในตำนานของแอซเท็ก มีเทพเจ้าแห่งความรื่นเริงชื่อ Huehuecóyotl เป็นผู้ชายมีหัวเป็นโคโยตี
 
โคโยตีเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาศัยอยู่บริเวณทุ่งราบ สามารถพบได้ในทวีปอเมริกาเหนือ ชอบกินเนื้อเป็นอาหาร ทั้งกระต่าย กวาง นก สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก (ยกเว้นคางคก) งู ปลา สัตว์พวกกุ้งกั้งปู แต่พวกมันก็กินผลไม้และแมลงเหมือนกันนะ
 
ความสง่างามในแบบหมาป่า ขนของโคโยตี 1 ตัวมีหลายสี ข้างบนมีสีน้ำตาลอมเทา-เทาอมเหลือง ลำคอและท้องมีสีน้ำตาลเหลือง-ขาว หน้าปากเท้ามีสีน้ำตาลอมแดง และปลายหางมีสีดำ ลำตัวยาว 76-86 เซนติเมตร หางยาว 30-41 เซนติเมตร เมื่อยืน 4 ขาจะสูง 58-66 เซนติเมตร
 
พวกมันมักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง สื่อสารกันด้วยเสียงเห่าหอนโทนสูง แต่ความสัมพันธ์ภายในไม่มั่นคงเท่าไหร่ ออกล่าเหยื่อเป็นคู่หรือกลุ่มเล็กๆ ไม่เหมือนหมาป่าที่จะอยู่กันเป็นฝูงใหญ่และออกล่าเป็นกลุ่ม
ที่มา Fauna : สัตวโลก
Cr.https://www.blesstraveler.com/post/coyote



คางคกลอกเลียนลวดลายเหมือนงูพิษ



 ซีเอ็นเอ็น รายงานผลการศึกษาของนักชีววิทยาที่พบ คางคกยักษ์คองโก มีความสามารถพิเศษในการพรางตัว ด้วยการลอกเลียนลวดลายเหมือนงูพิษ ช่วยให้รอดชีวิตจากสัตว์นักล่าได้
การศึกษานี้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Natural History เปิดความลับของคางคกยักษ์คองโกเป็นครั้งแรกว่าพวกมันเลียนแบบลวดลายให้คล้ายงูพิษกาบูนเพื่อทำให้สัตว์นักล่าสับสนและเป็นการป้องกันภัยตัวเองซึ่งได้ผลดีมาก เพราะสัตว์นักล่าไม่ค่อยกิน แม้ตัวอวบอ้วนและให้พลังงานสูงก็ตาม

“นี่ไม่ใช่การจับคู่สมบูรณ์แบบหรอกครับ แต่ความที่งูพิษกาบูนนั้นอันตรายมาก ดังนั้นการสวมรอยให้คล้ายงูพิษจะทำให้ฝ่ายนักล่าต้องชั่งใจว่า จะเข้าใกล้ไหวหรือ งูพิษกาบูนทำให้สัตว์หลายชนิดไม่กล้าเฉียดเลย ดังนั้นมันก็คงจะเลี่ยงจากเจ้าคางคกเหมือนกัน” เอลี กรีนโบม ผู้เขียนผลการศึกษา และผู้อำนวยการศูนย์รวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพ มหาวิทยาลัยเท็กซัส วิทยาเขตเอลปาโซ กล่าว

งูพิษกาบูนเป็นงูขนาดใหญ่ที่สุดชนิดหนึ่งในแอฟริกา อาจมีความยาวกว่า 182 ซม. และหนัก 20 กก. ที่สำคัญ คือ มีเขี้ยวยาวที่สุดในบรรดางูทุกชนินในโลกและกัดตายได้ มีถิ่นอาศัยในป่าฝนของคองโก

คางคกยักษ์คองโก อาศัยอยู่ในถิ่นเดียวกับงูกาบูน มันเลียนแบบลวดลายบนหัวงูกาบูนโดยตัวมีสีน้ำตาล มีจุดสีน้ำตาลและเส้นสีน้ำตาลเข้มพาดผ่านกลางลำตัว โดยเฉพาะเขาเล็กๆ เหนือตาของมันทำให้ดูคล้ายปากงูพิษกาบูนอย่างยิ่ง
กลเม็ดเอาตัวรอดของคางคกยักษ์คองโกยังไม่หมดเท่านี้ นอกจากลอกเลียนแบบสีสันแล้ว ยังเลียนเสียงขู่ฟ่อของงูด้วย ช่วยให้รอดพ้นจากสัตว์นักล่าเพราะแยกไม่ออกระหว่างงูพิษตัวจริงกับคางคกนักเลียนแบบ
Cr.https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2994665


ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด