ปัญหาที่หมักหมมของ ต.ม. และการต่อวีซ่า มีใครเคยเจอบ้าง?

ใครทำงานอยู่บริษัทที่มีคนต่างชาติ คงทราบดีนะคะ ว่าต้องมีการยื่นขอวีซ่าทำงาน (NON-B) ให้คนต่างชาติทุกปี
บริษัทเราก็เช่นกันค่ะ เราเป็นคนเตรียมเอกสารไปยื่นที่แจ้งวัฒนะอยู่บ่อยๆ
กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง(ต.ม.) ตรวจเอกสารเข้มงวดสมคำร่ำลือ ผิดนิดหน่อยก็ต้องแก้ แล้วมายื่นใหม่
สาเหตุที่ต.ม.ต้องเข้มงวด ก็เพราะมีต่างชาติขาดคุณสมบัติจำนวนไม่น้อยมาขอวีซ่า เลยต้องคัดคนเหล่านี้ออกค่ะ

การเข้าเช็คสถานประกอบการของต่างชาติให้ครบทุกราย เป็นเรื่องยาก เพราะจำนวนมันเยอะจริงๆ
เจ้าหน้าที่เลยพึ่งการตรวจเอกสารอย่างเข้มงวดแทน ซึ่งช่วยคัดชาวต่างชาติที่ขาดคุณสมบัติออกไปได้ไม่น้อย
อีกด้านนึง มันเพิ่มภาระของผู้ประกอบการทุกรายที่คุณสมบัติครบถ้วน เพราะต้องเตรียมเอกสารอย่างละเอียด
ต้องไปขอคัดเอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สรรพากร ประกันสังคม
ต้องไปเข้าคิวรอที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะแต่เช้ามืด ใช้เวลาทั้งวันกว่าจะยื่นเสร็จ (คนต่างชาติก็ต้องมานั่งรอ)
ถ้าเอกสารมีปัญหา ก็ต้องกลับไปเตรียม แล้วตื่นเช้ามารอคิวใหม่
บางทีเจ้าหน้าที่บอกไม่หมด จู่ๆขอเอกสารเพิ่ม (ทั้งๆที่เอกสารนั้นไม่อยู่ในรายการเอกสารที่ต้องเตรียม)
ก็จะวนแบบนี้ไปจนกว่าเจ้าหน้าที่จะพอใจ บางที 3-4 รอบ กว่าจะยื่นเสร็จ

เราพอจะเข้าใจเจ้าหน้าที่นะคะ ว่าเค้าต้องการคัดคนขาดคุณสมบัติออก
เจ้าหน้าที่หลายคนทำงานแต่เช้า บางที 2 ทุ่ม 3 ทุ่มไม่ได้กลับบ้าน เพราะคิวต่างชาติยาวมาก
หลายรายคงเอกสารมีปัญหาเยอะ เพราะตรวจแล้วตรวจอีก แก้แล้วแก้อีก ก็ไม่ผ่านซะที
เหนื่อยทั้งเจ้าหน้าที่ เหนื่อยทั้งคนที่มายื่น

จากการที่เราไปยื่นมาหลายรอบ เราขอบ่นในมุมมองของคนที่มายื่น เกี่ยวกับสิ่งที่เราพบเจอ ดังนี้คะ

1. เจ้าหน้าที่ขอเอกสารที่ไม่อยู่ในรายการเอกสารที่ต้องเตรียม
แต่ละรอบที่เราไป เจ้าหน้าที่ขอเอกสารใหม่ที่ไม่เคยยื่นมาก่อน เช่น สัญญาเช่าอาคาร บิลค่าไฟฟ้า
สำเนาบัตรประชาชนของพนักงานคนไทย สำเนาพาสปอร์ตของกรรมการต่างชาติคนอื่นๆ ฯลฯ
ถ้าต้องใช้เอกสารเหล่านี้ อยากให้ระบุมาในรายการเอกสารที่ต้องเตรียมค่ะ จะได้เอาติดมาแต่แรกเลย
บางทีเจ้าหน้าที่บอกไม่หมด ขอเอกสารอื่นเพิ่มอีก ทำให้ต้องเตรียมหลายรอบ

2. เจ้าหน้าที่ต.ม. มีกฎเกณฑ์ที่ไม่ตรงกับสรรพากร หรือประกันสังคม
บริษัทเรายื่นแบบภาษีทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 1 ได้ถึงวันที่ 15
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเราต้องยื่นแบบภายในวันที่ 7 ตามเกณฑ์การยื่นกระดาษ
ทำให้ต้องกุลีกุจอไปยื่นภาษี แล้วคัดเอกสารกลับมาส่งเจ้าหน้าที่ใหม่
อีกเรื่องนึงคือ รอบเงินเดือนของบริษัทเราคือ จ่ายเงินต้นเดือนถัดไป
เจ้าหน้าที่ ต.ม. บอกไม่ยอม บริษัทเราต้องจ่ายเงินเดือนภายในเดือนที่ทำงาน แล้วยื่นแบบภาษีตามนั้น
ส่วนเอกสารประกันสังคม เจ้าหน้าที่บอก ชื่อพนักงานคนไทยตกไม้เอกไปตัวนึง ในแบบยื่นเงินสมทบ
เราต้องกลับไปเช็คกับประกันสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น
ปรากฎว่า แบบยื่นเงินสมทบของประกันสังคม จะไม่แสดงไม้เอก-ไม้โท ถ้ามันอยู่สูงกว่าสระอึ-อือ ค่ะ
ซึ่งตรงนี้ เราว่ามันไม่ใช่ความผิดเรานะคะ

3. เจ้าหน้าที่ ต.ม. มีการเก็บเงินใต้โต๊ะ
ถ้าใครเคยไปรอคิวที่ต.ม. จะสังเกตเห็นการแทรกคิว ซึ่งบางคิวที่แทรก เป็นเอเย่นต์ที่ให้สินน้ำใจกับเจ้าหน้าที่ต.ม.บ่อยๆ เลยสนิทกัน
เคสเรา ก็เคยจ่ายเงินเจ้าหน้าที่ไปเหมือนกันค่ะ
อย่างที่เกริ่นไว้เมื่อกี้ ว่าบริษัทเรายื่นแบบทางอินเทอร์เน็ต เลยยื่นแบบได้ถึงวันที่ 15 ซึ่งถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของสรรพากร
แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันท่าเดียว ว่าต้องยื่นภายในวันที่ 7
ตอนนั้นวีซ่าของคนต่างชาติกำลังจะหมด ถ้ารอคัดเอกสาร คนต่างชาติก็จะวีซ่าขาด
แล้วต้องบินออกนอกประเทศ ไปขอวีซ่า NON-B ที่ต่างประเทศ
เราเลยจำใจจ่ายใต้โต๊ะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องไปก่อน วีซ่าของคนต่างชาติจะได้ไม่ขาด
จากนั้น เราก็รีบไปยื่นภาษี แล้วคัดเอกสารมาส่งต.ม.
จะเห็นได้ว่า เราทำถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของสรรพากรทุกอย่าง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมท่าเดียว

เนื่องจาก คนต่างชาติมีจำนวนมาก เจ้าหน้าที่คงทำให้ถูกใจทุกคนไม่ได้
เจ้าหน้าที่หลายคนคุยดี พยายามช่วยเหลือ พยายามให้คำแนะนำ 
คนต่างชาติที่มายื่น ใช่ว่าจะดีทุกราย บางรายก็ใช่เล่น เจ้าหน้าที่คงเหนื่อยใจน่าดู 
แต่ในมุมมองของเรา เรารู้สึกว่าบริษัทที่ทำถูกต้อง ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร
Thailand 4.0 น่าจะปรับปรุงให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่คุณสมบัติครบถ้วนได้รับความสะดวก และลดช่องทางการรับสินบน
อยากฝากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาด้วยค่ะ 
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เมื่อไม่นานมานี้ เคยมีกระทู้หัวเรื่อง นี่คือการทำงานปกติของศูนย์ One stop service ของ ตม.ทั่วไปหรือเปล่าคะ ??

https://ppantip.com/topic/39287130/

เนื้อหาในกระทู้มีความว่า …

สงสัยค่ะ  ใครเคยใช้บริการศูนย์   One  stop  service  ตม.สมุทรสาคร  ฝั่งตรงข้ามเยื้อง ๆ วัดโพธิ์แจ้ บ้างมั๊ยคะ ??

ให้บริการเป็นอย่างไรบ้าง ??  คือพอดีปีนี้ต้องทำเรื่องต่อวีซ่าให้เจ้านายชาวสิงค์โปร์เอง  ปกติต่อวีซ่าที่  ศูนย์  one  stop  service  ที่จามจุรีสแควร์  แต่ปีนี้ทาง จนท.ที่นั่นแจ้งว่าไม่รับต่อ  เพราะไม่ได้เป็น บ.BOI  และ บ.ยังอยู่ในเขตพื้นที่ จ.สมุทรสาคร  ให้มาดำเนินการที่ศูนย์ฯ ที่ บ.ตั้งอยู่
จึงได้ไปติดต่อสอบถามเบื้องต้นที่ ตม.สมุทรสาคร ( วัดโพธิ์แจ้ ) ไว้ก่อน  เพราะเกรงว่าทำที่ ตจว.อาจจะมีรายละเอียดบางอย่างที่ไม่เหมือนกับทีทำ  ที่ศูนย์ฯจามจุรี

ปรากฏว่า  :
-   โทรศัพท์สอบถาม  3-4 วัน โทรวันละ  3-4  รอบ  เป็นระบบโทรศัพท์ อัตโนมัติ   แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ติดให้บริการอยู่ตลอดเวลา รอสายนานมากจนสายหลุด หรือจนรอไม่ไหว  เคยจับเวลาสูงสุดก่อนสายตัดคือรอประมาณ ครึ่ง ชม.โดยระบบอัตโนมัตจะพูดวน ๆ อยู่แบบนั้น  ว่า จนท.ติดให้บริการอยู่

-    จากข้างบน ทนไม่ไหวแล้ว  เลยเดินทางไปติดต่อสอบถามที่ศูนย์ฯ ด้วยตัวเอง พอไปถึง  ที่ชั้น 1  ป้ายหน้าห้องเขียนว่า “ ศูนย์บริการ One stop  service ” 2 ด้าน ทั้งซีกซ้ายมือและขวามือ  เลือกที่จะถาม จนท.ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่เคาร์เตอร์ติดต่อสอบถาม  ด้านขวามือ (หันหน้าเข้าสนง.) คิดว่าจะได้คำตอบอะไรบ้าง เพราะจะมาแค่ถามข้อมูล ปรากฏว่า จนท.ฟังคำถามจนจบ  แล้วก็กดบัตรคิวให้ บอกว่าให้ไปสอบถามด้านใน   ในความรู้สึกคือ......จนท.คนนี้ตอบไรไม่ได้เลยเหรอ ?? แล้วมานั่งตรงนี้ทำไม ??  ตอนไปรอคิวด้านในแอบมองผ่านกระจกเห็น จนท.คนนี้นั่งไถโทรศัพท์อย่างเดียวเลย

-    เข้ามารอด้านในห้อง  ใช้เวลารอเพื่อถามข้อมูลอย่างเดียวประมาณเกือบ ๆ 2 ชม. หลังจากได้คิวแล้วเข้าไปสอบถาม ทาง  จนท.แจ้งว่าต้องเอาเอกสารของต่างด้าว ทำมาอย่างละ 2 ชุด  มาให้ตรวจก่อนล่วงหน้า ก่อนที่วีซ่าจะหมดอายุไม่น้อยกว่า 30 วัน  OMG !!!   มันนานขนาดนั้นเลยหรือ???......เมื่อตรวจเอกสารว่าครบถ้วนและถูกต้อง (ภายในระยะเวลา 30 วันที่ตรวจเอกสารนี้) จึงจะต่อวีซ่าให้  

**  คำถามที่สงสัยคือ  นี่คือขั้นตอนการทำงานของศูนย์  One  stop  service  ของ ตม. แบบปกติทั่ว ๆ ไปใช่มั๊ยคะ ?




_______


เคยไปร่วมแสดงความคิดเห็นเอาไว้ ดังนี้ …


//

"คือพอดีปีนี้ต้องทำเรื่องต่อวีซ่าให้เจ้านายชาวสิงค์โปร์เอง"

"ใช้เวลารอเพื่อถามข้อมูลอย่างเดียวประมาณเกือบ ๆ 2 ชม."


^^^
^^^
ที่สิงคโปร์ เวลาคนต่างชาติทำเวิร์ค เพอร์มิท ทำเรสซิเด๊นซ์การ์ด

คือทางแผนกเอชอาร์ จะประสานงาน ใช้เวลาไม่นาน แค่สัปดาห์ สองสัปดาห์

ส่วนวันทำจริง ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 15 นาที และ ได้บัตรทันที ไม่ต้องรอ

เมื่อสถานะเป็นเรสซิเด๊นซ์แล้ว จะเข้าจะออกที่สนามบิน ก็ใช้ออโต้ฯ เกทได้เลย ไม่ต้องเจอ ต.ม. ไม่ต้องลงทะเบียนอะไรทั้งสิ้น

และ ออโต้ฯ เกทที่สนามบินชางงี ไวมาก ลื่นปรื๊ดๆ เครื่องเสถียรมาก และเครื่อง ไม่เคยเสีย และ ไม่ต้องมีคนมาคอยยืนคุมด้วย

เพราะเป็นสังคมที่พัฒนาแล้ว คนคิดได้เอง ใช้คอมม่อนเซ้นส์ช่วยเหลือตนเองได้ โดยแค่อ่านขั้นตอนง่ายๆ ที่หน้าจอ แล้วทำตาม
ทั้งหมด เวลาเข้าออกที่สนามบินชางงีในแต่ละครั้ง ใช้เวลาผ่านออโต้เกท ไม่เกิน 10-15 วินาที

พอบัตรเรสซิเด๊นซ์การ์ด หรือ ถ้าวีซ่าทำงานใกล้หมดอายุ ถ้าจะต่อใหม่ ก็แค่ทางเอชอาร์ประสานงาน
ได้บัตรใหม่ทันที โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไหนเลย


//


ในหลายๆ ปท ก็คล้ายๆ ที่สิงคโปร์ คือ สะดวก รวดเร็ว ฉับไว ขั้นตอนไม่มาก เอื้อต่อการทำงานของคนต่างชาติ
เอื้อต่อการลงทุนของคนต่างชาติ

ทุกอย่างออนไลน์หมด ทุกอย่างใช้เทคโนโลยีช่วยหมด เอกสารเป็นแผ่นๆ เป็นกระดาษแทบจะไม่มี
หรือ แค่แสดงแค่ครั้งแรกครั้งเดียว

ในหลายๆ ประเทศ เจ้าหน้าที่ในแต่ละแผนก ก็ใช้คนน้อยมาก และ เครื่องไม้เครื่องมือไฮเทคมาก

//

หรือ บางประเทศขั้นตอนเยอะกว่าที่ไทย ใช้เวลารอเรสซิเด๊นซ์การ์ดนานกว่า ใช้เวลารอเวิร์คเพอร์มิทนานกว่า
แต่ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และ ไม่ต้องเดินทางไปทำเอง หรือ ไม่ต้องบินเข้าๆ ออกๆ นอกประเทศ

//

ส่วนใหญ่ ในหลายๆ ปท ที่เคยเจอมา คือ ง่าย ไว ขั้นตอนไม่ซับซ้อน และ สะดวก


//


เท่าที่เคยติดต่อสถานทูตมาหลายประเทศ หรือ เคยติดต่อแผนกประเภททำเรสซิเด๊นซ์การ์ดของหลายประเทศ หรือ ต.ม.ของหลาย ปท
หรือ ติดต่อเรื่องการคืนภาษีให้นักท่องเที่ยว

พบว่า ปท ที่เจริญแล้ว ทุกอย่างง่าย ไว ไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมา มาตรฐานเดียว หรือ ข้อมูลต่างๆ หาง่าย

ส่วนถ้าเป็น ปท กำลังพัฒนา ขั้นตอนจะค่อนข้างซับซ้อน ใช้เวลานาน ใช้เอกสารเยอะ ข้อมูลน้อย ข้อมูลหายาก
ข้อมูลเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก

และ ส่วนใหญ่ ปท ที่ชอบทำอะไรเยอะสิ่งเยอะอย่าง ชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ความคิดไม่เป็นระบบ จัดลำดับความคิดไม่เป็น
ระบบความคิดของคนซับซ้อนแต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ทำอะไรอิรุงตุงนัง ลีลาเยอะ คนชอบใช้อำนาจชั่วคราวข่มเหงผู้อื่น
หรือ ใช้อำนาจชั่วคราวบุลลี่โดยทำให้ผู้อื่นลำบาก คือมักจะเจริญช้า หรือ ไม่ค่อยเจริญ พัฒนาช้า หรือ ยากที่จะพัฒนา
ความคิดเห็นที่ 24
ตม แจ้งวัฒนะ คือที่สุดของความเลวร้ายแล้วคับ ถ้าไม่ยัดเงิน คุณจะต้องใช้พลังงานและแต้มบุญที่คุณสะสมมาทั้งหมด เพื่อการนี้โดนเฉพาะ เป็นหน่วยงานที่ไม่มีความแน่นอนเรื่องเอกสาร และไร้ประสิทธิภาพที่สุดที่มวลมนุษยชาติไม่พึงประสบ  ใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์ จะไม่มีวันรู้เลย
ความคิดเห็นที่ 25
Work Permit ที่จัดหางาน เจ้าหน้าที่ดีมากให้คำแนะนำดี และรายการเอกสารก็เป็นไปตามที่เขาระบุไว้และร ไม่นานเท่าไร อันนี้ต้องของชม  อาจจะเพราะจังหวัดเล็กด้วย คนเลยไม่เยอะ

แต่พอเป็นตม. เหรอ เบะปากสัก 10 ทีเลย ขอระบายยาวๆ เพราะเป็นอะไรที่พอต้องไปพบแล้วต้องทำใจ เตรียมใจถูกด่า เตรียมตัวถูกดูหมิ่น เจ้าหน้าที่บางคนก็ดี แต่ก็มีคนไม่ดีด้วยเช่นกัน จะเอานู่น เอานี่เพิ่มนอกเหนือรายการเอกสารที่เคยให้มา ย้ำ ว่าที่เคยให้มา เพราะถามมาก่อนแล้ว  แต่พอมายื่นจริงๆ เรียกนู่นนี่อีก เสียเวลาผู้ประกอบการมากๆ เดินทางไปกลับก็มากกว่า 150 กม. เปลืองค่าน้ำมันโดยใช่เหตุ เป็นหน่วยงานที่อยากให้มียื่นผ่านออนไลน์ จะได้ประหยัดเวลา ประหยัดแรงทั้งจนท.และผู้ประกอบการ เคยพาคนจีนไปรอคือวีซ่า คือนั่งรอมากกว่า 4 ชม. ทุกรอบ ทั้งๆที่อยู่จังหวัดเล็ก เคสไม่เยอะเท่าจังหวัดใหญ่ แต่ไม่รู้ทำไมทำงานกันช้า หรืองานมันต้องใช้ความละเอียดเลยเสียเวลาเยอะ ไม่แน่ใจ จนคนจีนทนไม่ไหว มาระบายว่า ทำไมระบบรายการบ้านยูวมันห่วยแตกแบบนี้ ที่จีนเขายื่นทางออกนไลน์กันได้ พอไฟเขียวแล้วค่อยมาติดต่อ เราก็ได้แต่บอกเขา ทำใจเถอะ ราชการไทยก็แบบนี้แหล่ะ ปลง

ที่เด็ดที่สุดที่ทำให้สมเพชหน่วยงานนี้มากคือ มาเรี่ยไรเงินของบไปซื้อคอมพิวเตอร์ เพราะจะเปิดสาขาที่จังหวัดอื่น  แต่ไม่มีงบ อึ้งมาก ที่เคาเตอร์ก็มีป้ายติดห้ามให้สินบน NO TIP ยังกล้าเรียกกันอีก ไม่ใช่คนเดียวมาแอบพูดเบาๆกับเรานะ แต่เออ ออกกันทั้งสำนักงานเลย เลยตอกกลับไป โรงเรียนที่ผมทำงานด้วย เป็นโรงเรียนมูลนิธิ เรายังไม่มีเงินซื้อรถ BMW แบบพวกคุณเลย แล้วคุณจะมาเรียกร้องอะไรจากโรงเรียนที่เพิ่งเปิด และยังหาเลี้ยงตัวเองยังได้ไม่ดี พูดแล้วโมโห คับแค้นใจ เพราะบางทีก็รู้สึกเหมือนถูกแกล้งให้รอนาน เพราะไปทีไรรอมากกว่า 4 ชม.ทุกที และบางที ตม.ที่สนามบินแสตมป์วันผิด ก็ต้องกลับมาแก้ รอนานเป็นชาติ เพราะตม.ต้องโทรไปสุวรรณภูมิ รอเขาตรวจสอบ ระหว่างรอ เขาก็บ่น ว่าเราน่ะแหล่ะผิด ทำไมไม่ตรวจสอบให้ดี ว่าวันที่ได้รับประทับตราถูกต้องไหม คือเขาพูดแบบนั้นก็ใช่ คนต่างชาติคงต้องดูว่าวันที่ได้ถูกต้องไหม แต่จนท.ก็ต้องมีสติไหม ว่าประทับตราไปถูกวันรึเปล่า ทำงานพลาดแบบนี้บ่อยๆจะดีเหรอ เพราะที่โรงเรียนเจอผิดพลาดมาแล้ว 3 ราย จนต้องเตือนคนต่างชาติว่าให้เช็คทุกครั้ง พอเรารอนาน ก็เลยทวงถาม บอกให้รอ ไม่เร่งให้ เพราะทางนู้นเขาเปลี่ยนกะอยู่ ไปตั้งแต่บ่ายโมง นั่งรอจน ห้าโมง จนเราไม่ไหวแล้ว เลยขออีเมล์ของตม.สุวรรณภูมิ จะเขียนร้องเรียน เพราะเจ้าหน้าทำงานืำงานพลาด ประทับตราผิดวัน แถมไม่ใส่ใจปล่อยให้รอนานมากกว่า 4 ชม. แล้ว พอพูดแบบนี้ หน่วยงานตม.ที่ตจว. ที่เดิมพูดจาดูถูกดูหมิ่นเปลี่ยนท่าทีเลย จนท.คนนึงเลยโทรหาคนรู้จักที่สุวรรณภูมิว่าให้ช่วยดูให้หน่อย ทำไมเคสนี้ยังไม่ติดต่อกลับมา ไอ้เราก็คิดจะเร่งก็เร่งได้นิ ทำไมไม่เร่งต่อแรก  พอเสร็จเรื่อง หัวหน้าออกมาเสนอหน้าพร้อมเล่มที่ประทับตราวันที่ถูกต้อง แล้วบอกด้วยวาจาสุภาพปลอมกับรอยยิ้มปลอมๆว่า ขอโทษด้วยนะคะที่พนักงานทางนั้น ทำงานพลาด เขาอาจจะเข้ามาทำงานใหม่ ยกโทษให้เขาละกัน ฮึ คิดในใจ แล้วเวลากับค่าเดินทางที่เสียไป จ่ายให้ไหมล่ะ เบื่อ บริการห่วยๆ แล้วยังมาทำตัวกลับกลอกอีก

มีเรื่องอีกเยอะ สำหรับหน่วยงานนี้ พูดแล้วโมโหมากๆครับ
ความคิดเห็นที่ 11
เรื่องเสียเงินคือเรื่องจริงค่ะ มีเพื่อนทำงานอยู่ในนั้น เค้าบอกบริษัทเอเจนซี่ที่รับทำ เสียเดือนละหลายแสน ไปถึงปุ๊บก็เข้าช่องทางด่วนค่ะ การทำกับเอเจนซี่จึงสะดวกแต่จ่ายแพงกว่า ไปยื่นเองรอไปเถอะค่ะเอกสารครบก็ดองไว้ก่อน เพื่อนทำงานเลิก 2-3 ทุ่มทุกวันก็เคยถามว่าโอเคเหรอ ที่รู้ๆคือโอเคมาก เงินเดือนไม่รู้ แต่เงินอื่นสะพัดมาก รวมถึงคอนเนคชั่นต่างๆอีกเพียบ นี่แหละประเทศไทย สะกิดตรงไหนก็เจอระบบแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 31
อ่านแล้วก็อมยิ้มไม่ได้ มันเรื่องจริง ขำตรงที่ หน่วยงานราชการไม่เคยประสานงานกันเลย สรรพากร ประกันสังคม กรมพัฒน์ แรงงาน ตม. แต่ละหน่วยงานจะมีรูปแบบมีเอกสารเป็นของตัวเอง แม้กระทั้ง หนังสือมอบอำนาจ ก็ต้องใช้ที่เค้าออกแบบมาให้ ทั้ง ๆ ที่หนังสือมอบอำนาจ โดยเนื้อหาคือมันก็เหมือน ๆ กัน แค่ระบุให้ชัดเจนว่า มอบอำนาจเรื่องอะไร แต่เอาจริง ต้องใช้หนังสือมอบอำนาจของหน่วยงานนั้น ๆ ใช้มอบอำนาจแบบเดียวกันทั้งหมดของหน่วยงานรัฐก็ไม่ได้ ติดต่อ 10 หน่วยงาน หนังสือมอบอำนาจก็จะ 10 รูปแบบ

ยืนยันได้ว่า ตม. เรื่องเอกสารต้องถูกต้องจริง ๆ พิมพ์ตก ขาดสระ วรรณยุกต์ไม่ได้ ห้ามเย็บแม็ก สำเนาเอกสารเยอะมาก ติดต่อทุกปี ก็ต้องเอาเอกสารเหมือนเดิมทุกครั้ง ถ่ายเอกสารกันวนไป ขนเอกสารไปตรวจเป็นปึก ๆ สงสัยมากว่า เอกสารพวกนั้น ตม. เค้าขนไปเก็บไว้ที่ไหน เพราะชาวต่างชาติที่ไปติดต่อเยอะมาก เอกสารที่เตรียมไปของแต่ละคน ก็ไม่ใช่น้อย ๆ เอกสารส่วนตัว เอกสารบริษัท เอกสารภาษี เอกสารประกันสังคม แผนที่ กูเกิ้ลแม็พ เอกสารงบการเงิน และอื่น ๆ อีกมากมาย ตามแต่ที่ท่านต้องการ

ในยุคที่โลกเทคโนโลยีก้าวหน้าไปเยอะแล้ว แต่ ตม. ก็ยังชอบทำงานแบบกระดาษ ยิ่งเอสการเยอะ ยิ่งดี ในขณะที่หน่วยงานราชการอื่น สามารถนำส่งเอกสารข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต แต่ ตม. จะไม่ยอมรับเอกสารเหล่านั้น ต้องเดินทางไปที่หน่วยงานนั้น ๆ ให้สำเนาเอกสารชุดเดิม ประทับตรา และเซ็นต์ชื่อกำกับทุกรอบ (คำถามคือ เพื่ออะไร?) ถ้าไม่ใช่ทำให้ผู้ยื่นเสียเวลา เรื่องนี้เจอมากับตัว มีแบบภาษีที่พิมพ์ออกจากอินเตอร์เน็ต ท่านไม่ยอมรับ ไล่ให้ไปติดตาม สรรพากรให้คัดสำเนาที่สรรพากรมาแสดง แล้วที่น่าขำคือ เอกสารมันก็หน้าตาเหมือนกันนั้นแหละ เพิ่มเติมคือ มี เจ้าหน้าที่สรรพากรเซ็นต์กำกับ ก็ได้แต่ถอนหายใจ จ่ายเงิน แล้วกลับไปยื่นเรื่องใหม่ แต่อย่างน้อยก็จะเจอเรื่องแบบนี้ ปีละครั้ง เอาให้สุดเลยจ๊ะพี่

นั่งคิดอยู่ว่า จะ ตม. นำระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้ การจัดเก็บเอกสารเป็นรูปแบบ ดิจิตอล น่าจะช่วยให้การตรวจสอบและจัดเก็บเอกสารดีขึ้น ลดการใช้กระดาษ ลดการถ่ายเอกสาร ลดโลกร้อนได้เยอะเชียว

ก็ได้แต่ภาวนาให้วันนั้นมาถึงโดยเร็ววัน สาธุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่