อยากแนะนำร้านกาแฟดีดีในนิกโกะแถว shimo imaichi เผื่อใครจะลองตามรอยครับ
ถ้าไปร้าน nikko coffee ฝากบอกเจ้าของร้านว่ามาจากเมืองไทยด้วยนะครับ ^^
————
นิกโกะ จะบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ผมหลงรักก็ได้ สองปีก่อนตอนมาที่นี่ เป็นฤดูใบไม้ผลิ ตอนนั้นผมยังรู้สึกได้ชัดๆ ถึงกับเขียนไว้ในเฟซบุคของผมว่าเมืองนี้เป็นเมืองสวยแบบอารมณ์เหงาๆ ถ้ามีโอกาสผมอยากมานอนที่นี่สักคืน..
วันนี้ ผมกลับมาที่นิกโกะอีกครั้งในฤดูหนาว ยังไม่มีโอกาศได้มานอนที่นี่ แต่ครั้งนี้ผมหลงรักนิกโกะมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า..
บ้านเรามาติดต่อสอบถามเรื่องเที่ยวนิกโกะจาก Ticket information center ของโทบุที่แถวๆอาสะกุสะ ที่ห้างMatsuya ใครอยากไปนิกโกะ ผมอยากแนะนำให้มาคุยกับที่นี่ครับ มีน้องคนไทยคนนึงชื่อ คุณ Pitsinee ทำงานอยู่ที่นี่ ช่วยแนะนำ หาข้อมูลหลายๆอย่างร้อยแปดให้เที่ยวสนุกขึ้น ขอขอบคุณน้องไว้ ณ ที่นี่ครับ
นิกโกะวันนี้ เทียบกับสองปีก่อนที่ผมมา เริ่มมีความสวยงามของอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นใหม่มากขึ้น แต่ยังคงความเป็นเมืองสวยแบบเหงาๆในความรู้สึกของผมเหมือนเดิม
เราเดินเที่ยว ขึ้นรถบัสรายทางไปวัดต่างๆ ไหว้พระ ในบริเวณ world heritage ถ่ายรูป เดินเล่นในแถวๆตัวสถานี กินไอติม เมืองสวย สะอาด เงียบ สงบ วันนี้มีความหนาวเข้ามาเพิ่มอีก ทำให้ผมยิ่งรู้สึกได้ชัดมากๆว่ามันมีอารมณ์ให้เราคิดถึงความเหงาปนอยู่ในบรรยากาศที่เราสัมผัส
ไม่รู้สิ ผมว่า ถ้าคุณๆ ใครสักคน มานิกโกะในช่วงที่คุณกำลังอกหัก โดยเฉพาะถ้าเป็นหน้าหนาวแบบนี้ ผมว่าคุณตายแน่นอน ได้เหงา,ได้รู้สึกอกหักให้สะใจกันไปเลย
จากเส้นทางรถไฟสายโทบุที่ผมเดินทาง เราจะต้องต่อรถที่สถานี Shimo Imaichi และเราเผื่อเวลามาเที่ยวที่นี่ตามคำแนะนำของน้องPitsinee ครับ นอกจากน้องจะช่วยหารายชื่อฟาร์มที่เปิดให้เก็บสตรอเบอรี่แล้ว (ช่วงนี้ฟาร์มยังเปิดน้อยครับ ต้องเป็นข่วงปลายปีจะเริ่มมีเยอะ) น้องบอกว่า พี่ไปร้านกาแฟ Nikko coffeeนะ แล้วถ้ามีเวลาอีก ไปร้าน Shogetsu himuro เป็นร้านน้ำแข็งไสคากิโกริอร่อย
ที่ Shimo imaichi ต้องบอกว่าแม้จะเป็นเขตที่มีสถานีรถไฟใหญ่ (ซึ่งน่าจะบ่งบอกถึงความสำคัญของเขตนี้) แต่นี่เป็นเมืองที่คนท้องถิ่นอยู่จริงๆ (นิกโกะเป็นเมืองท่องเที่ยว) เมืองยิ่งเงียบ รถราคันเล็กๆ คนยิ่งน้อย เวลาที่นี่ดูช้า ไม่มีความเร่งรีบ และแน่นอน ความเหงาๆยิ่งปนอยู่ในบรรยากาศมากกว่านิกโกะ
ร้านNikko Coffee ทำให้ผมรักได้ตั้งแต่เดินเข้าร้านครับ ร้านตกแต่งได้เรียบ หรู อารมณ์คลาสสิกแบบไม้ๆ ออกRetroแบบพอดีๆ ไม่ยัดเยียดให้เกินงาม บวกบรรยากาศเงียบๆของร้าน ผมเข้าใจได้เลยว่า ทำไมน้องเขาถึงบอกให้มาแวะที่นี่ ร้านนี้ดูน่านั่ง น่าใช้เวลาเงียบๆสบายๆกับตัวเองเป็นที่สุดแล้วจริงๆ
กาแฟของที่นี่เป็นกาแฟดริป รสชาติหอมกลิ่นคั่ว รสเข้มไม่มาก แต่ก็เข้มกว่าทั่วๆไป (กาแฟที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะจางนะ) กาแฟเย็นใส่นมก็อร่อยครับ
ร้านนี้ เนื่องจากเป็นกาแฟดริป ดังนั้นจึงไม่สามารถสั่งเป็นแก้ว take away ได้ แต่พนักงานที่ร้านบอกว่า ถ้าพี่จะใส่ถ้วยออกไป เดี๋ยวจะเทใส่ให้นะครับ
ปล.พนักงานทั้งชายและหญิงของที่นี่ หน้าตาดีล้วนๆครับ ^^
กาแฟร้านนี้ไม่ถูกนะครับ ราว¥600 แต่กาแฟดี บรรยากาศเงียบๆ ร้านสวยๆ เป็นช่วงเวลาที่โคดดีครับ..
ผมได้แต่บอกตัวเองว่า ถ้ามานิกโกะครั้งหน้า ผมจะแวะที่Chimo imaichi มาใช้เวลาช้าๆของผมที่นี่อีกครั้งให้ได้เลย
=เที่ยวนิกโกะ แนะนำร้านกาแฟNikko Coffee ร้านกาแฟอบอุ่น=
ถ้าไปร้าน nikko coffee ฝากบอกเจ้าของร้านว่ามาจากเมืองไทยด้วยนะครับ ^^
————
นิกโกะ จะบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ผมหลงรักก็ได้ สองปีก่อนตอนมาที่นี่ เป็นฤดูใบไม้ผลิ ตอนนั้นผมยังรู้สึกได้ชัดๆ ถึงกับเขียนไว้ในเฟซบุคของผมว่าเมืองนี้เป็นเมืองสวยแบบอารมณ์เหงาๆ ถ้ามีโอกาสผมอยากมานอนที่นี่สักคืน..
วันนี้ ผมกลับมาที่นิกโกะอีกครั้งในฤดูหนาว ยังไม่มีโอกาศได้มานอนที่นี่ แต่ครั้งนี้ผมหลงรักนิกโกะมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า..
บ้านเรามาติดต่อสอบถามเรื่องเที่ยวนิกโกะจาก Ticket information center ของโทบุที่แถวๆอาสะกุสะ ที่ห้างMatsuya ใครอยากไปนิกโกะ ผมอยากแนะนำให้มาคุยกับที่นี่ครับ มีน้องคนไทยคนนึงชื่อ คุณ Pitsinee ทำงานอยู่ที่นี่ ช่วยแนะนำ หาข้อมูลหลายๆอย่างร้อยแปดให้เที่ยวสนุกขึ้น ขอขอบคุณน้องไว้ ณ ที่นี่ครับ
นิกโกะวันนี้ เทียบกับสองปีก่อนที่ผมมา เริ่มมีความสวยงามของอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นใหม่มากขึ้น แต่ยังคงความเป็นเมืองสวยแบบเหงาๆในความรู้สึกของผมเหมือนเดิม
เราเดินเที่ยว ขึ้นรถบัสรายทางไปวัดต่างๆ ไหว้พระ ในบริเวณ world heritage ถ่ายรูป เดินเล่นในแถวๆตัวสถานี กินไอติม เมืองสวย สะอาด เงียบ สงบ วันนี้มีความหนาวเข้ามาเพิ่มอีก ทำให้ผมยิ่งรู้สึกได้ชัดมากๆว่ามันมีอารมณ์ให้เราคิดถึงความเหงาปนอยู่ในบรรยากาศที่เราสัมผัส
ไม่รู้สิ ผมว่า ถ้าคุณๆ ใครสักคน มานิกโกะในช่วงที่คุณกำลังอกหัก โดยเฉพาะถ้าเป็นหน้าหนาวแบบนี้ ผมว่าคุณตายแน่นอน ได้เหงา,ได้รู้สึกอกหักให้สะใจกันไปเลย
จากเส้นทางรถไฟสายโทบุที่ผมเดินทาง เราจะต้องต่อรถที่สถานี Shimo Imaichi และเราเผื่อเวลามาเที่ยวที่นี่ตามคำแนะนำของน้องPitsinee ครับ นอกจากน้องจะช่วยหารายชื่อฟาร์มที่เปิดให้เก็บสตรอเบอรี่แล้ว (ช่วงนี้ฟาร์มยังเปิดน้อยครับ ต้องเป็นข่วงปลายปีจะเริ่มมีเยอะ) น้องบอกว่า พี่ไปร้านกาแฟ Nikko coffeeนะ แล้วถ้ามีเวลาอีก ไปร้าน Shogetsu himuro เป็นร้านน้ำแข็งไสคากิโกริอร่อย
ที่ Shimo imaichi ต้องบอกว่าแม้จะเป็นเขตที่มีสถานีรถไฟใหญ่ (ซึ่งน่าจะบ่งบอกถึงความสำคัญของเขตนี้) แต่นี่เป็นเมืองที่คนท้องถิ่นอยู่จริงๆ (นิกโกะเป็นเมืองท่องเที่ยว) เมืองยิ่งเงียบ รถราคันเล็กๆ คนยิ่งน้อย เวลาที่นี่ดูช้า ไม่มีความเร่งรีบ และแน่นอน ความเหงาๆยิ่งปนอยู่ในบรรยากาศมากกว่านิกโกะ
ร้านNikko Coffee ทำให้ผมรักได้ตั้งแต่เดินเข้าร้านครับ ร้านตกแต่งได้เรียบ หรู อารมณ์คลาสสิกแบบไม้ๆ ออกRetroแบบพอดีๆ ไม่ยัดเยียดให้เกินงาม บวกบรรยากาศเงียบๆของร้าน ผมเข้าใจได้เลยว่า ทำไมน้องเขาถึงบอกให้มาแวะที่นี่ ร้านนี้ดูน่านั่ง น่าใช้เวลาเงียบๆสบายๆกับตัวเองเป็นที่สุดแล้วจริงๆ
กาแฟของที่นี่เป็นกาแฟดริป รสชาติหอมกลิ่นคั่ว รสเข้มไม่มาก แต่ก็เข้มกว่าทั่วๆไป (กาแฟที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะจางนะ) กาแฟเย็นใส่นมก็อร่อยครับ
ร้านนี้ เนื่องจากเป็นกาแฟดริป ดังนั้นจึงไม่สามารถสั่งเป็นแก้ว take away ได้ แต่พนักงานที่ร้านบอกว่า ถ้าพี่จะใส่ถ้วยออกไป เดี๋ยวจะเทใส่ให้นะครับ
ปล.พนักงานทั้งชายและหญิงของที่นี่ หน้าตาดีล้วนๆครับ ^^
กาแฟร้านนี้ไม่ถูกนะครับ ราว¥600 แต่กาแฟดี บรรยากาศเงียบๆ ร้านสวยๆ เป็นช่วงเวลาที่โคดดีครับ..
ผมได้แต่บอกตัวเองว่า ถ้ามานิกโกะครั้งหน้า ผมจะแวะที่Chimo imaichi มาใช้เวลาช้าๆของผมที่นี่อีกครั้งให้ได้เลย