สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากจะสอบถามผู้รู้ และเผื่อว่าจะมีใครเป็นเหมือนกันค่ะ

ปัจจุบันเราอายุ 22 ที่ผ่านมาร่างกายแข็งแรงดีมาตลอด จนกระทั่งช่วงต้น-กลางปีที่ผ่านมา 

ครั้งแรกที่มีอาการคือตอนที่เราไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนช่วงเดือนพฤษภาค่ะ จำได้ว่าหลังลงเครื่อง พอกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วกำลังเดินเที่ยว

จู่ๆก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลม โดยอาการคือ เหมือนกึ่งรู้สึกตัวไม่รู้สึกตัว มึนหัว หัวใจเต้นแรง ตาลาย ยิ่งอยู่ท่ามกลางคนเยอะๆยิ่งเป็น เหมือนจะล้มฟาดลงไปที่พื้นได้ทุกเมื่อ แต่ก็ไม่ได้เป็นลมค่ะ มีแค่อาการแรกเริ่ม (ยังเดินด้วยตัวเองและความเร็วปกติได้) ที่แปลกคือ พอเรากลับเข้าห้องพักปั๊บ อาการหายไปทันที

สังเกตก็คือ พออยู่ในสภาวะที่เงียบและไม่วุ่นวายอาการก็จะดีขึ้น

หลังจากนั้นทุกครั้งที่ออกจากบ้าน โดยเฉพาะเวลาไปห้าง สถานที่ที่คนเยอะๆ และอากาศร้อนก็จะมีอาการที่ว่ามาตลอด เป็นมาเจ็ดเดือนแล้วค่ะ แต่ถ้าอยู่ในบ้านจะไม่เป็นอะไร 

สุดท้ายเราไปหาหมอ ตรวจน้ำในหูไม่เท่ากันก็ไม่มี พอไปหาหมอทางสมอง ทำ MRI แล้วก็ปกติดี ยกเว้นมี pineal cyst ขนาดเล็กมากที่คุณหมอบอกว่าไม่อันตรายและไม่เป็นอะไร ตอนนั้นคุณหมอวิเคราะ์ว่าเป็นไมเกรนชนิดเวียนหัว ซึ่งเรารับยามาทาน (topamax) สามเดือนแต่สุดท้ายอาการก็ไม่หายไป

เราลองเสิร์ชดู มึโรค agoraphobia หรือโรคกลัวชุมชนที่มีอาการใกล้เคียง แต่เราไม่เคยเปนมาก่อน ตั้งแต่ด็กจนโตปกติมาตลอด

แต่การที่เราเป็นอย่างนี้ทำให้ใช้ชีวิตลำบากมาก เพราะทำให้เราเครียดเวลาต้องออกไปข้างนอก ไม่กล้าไปเที่ยวต่างประเทศเพราะกลัวอาการจะกำเริบ

สรุปอาการที่เป็นนะคะ

1. รู้สึกตัวไม่เต็มที่

2. ตาลาย ภาพที่เห็นชัดจนมึนหัว

3. มึนหัว

4. ถ้าหนักหน่อยจะใจเต้นแรง ตัวเย็นแต่เหงื่อแตก แขนขาไม่มีแรง

5. คลื่นไส้

อาการคล้ายคนจะเป็นลมแต่ไม่ได้เป็น

ที่สำคัญคือ ตั้งแต่เป็นมาเราเมารถ และเครื่องบินง่ายขึ้นมาก (เป็น motion sickness อยู่แล้วแต่เป็นหนักกว่าเดิม)

มีใครเป็นเหมือนกันมั้ยคะ เราควรไปหาหมออะไร คือเราไม่มั่นใจว่าอาการดั่งกล่าวเกิดจากความผิดปกติของร่างกายหรือจิตใจ เพราะบางทีเราไม่ได้คิดอะไรเราก็เป็น อาการก็หนักเบาไม่เท่ากันในแต่ละสถานการณ์ แต่เป็นมา 7 เดือน แล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ