เห็นหัวเรื่องแล้วก็คงจะพอเดาออกว่ากระทู้นี้คนเขียนอายุไม่น้อยแล้ว ใช่ครับ ผมอายุเข้าสู่วัยเกษียณไปเรียบร้อยแล้ว เลขกำลังสวย 66 พอดิบพอดี  พอดีเพิ่งสร้างบ้านเสร็จ เลยอยากจะมาอวดบ้านในชาวพันทิปได้ดูกัน เผื่อใครที่กำลังคิดจะสร้างบ้าน น่าจะได้ไอเดียกันไปบ้างไม่มากก็น้อย


ชาวพันทิปเคยคิดเล่น ๆ มั้ยว่าเกษียณแล้วจะทำอะไรหรือใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน เชื่อว่าหลายคนที่ตั้งใจเข้ามาอ่านหรืออาจจะหลงกดเข้ามา น้อยคนที่จะคิดถึงชีวิตช่วงวัยเกษียณ เพราะชาวพันทิปส่วนใหญ่คงยังเป็นวัยรุ่น วัยทำงานที่สนุกกับการใช้ชีวิตกันอยู่

แต่สำหรับผม หลังจากทำงานมาครึ่งค่อนชีวิต ตอนนี้ก็ถึงเวลาพัก ไม่มีอะไรให้ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะลูก ๆ ก็โต มีงานมีการทำกันหมดแล้ว ผมเลยมีเวลาว่างมานั่งอ่าน นั่งเขียนพันทิป และวางแผนกับภรรยาว่าจะใช้ชีวิตจากนี้กันอย่างไร ด้วยความที่เงินเก็บก็พอมี และอยากอยู่สบาย ๆ กันตามประสาสองคนตายาย เลยสรุปได้ว่าจะสร้างบ้านหลังใหม่กัน


ต้องบอกก่อนว่าจริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ผมกับภรรยาใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา พอถึงวัยเกษียณก็อยากกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่ไทย เลยตกลงว่าจะสร้างบ้านบนที่ดินที่เคยซื้อไว้เมื่อ 20 ปีก่อน

ช่วงที่กลับมาที่ไทย พอดีมีงานรับสร้างบ้านจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เลยชวนภรรยาไปเดินดู ด้วยความที่เรารู้จักบริษัทรับสร้างบ้านน้อยมาก เลยมาเก็บข้อมูล เดินดูแบบบ้านไปก่อน จนมาหยุดอยู่ที่บูธของแลนดี้ โฮม เพราะแบบบ้านสวย เซลล์เค้าขายเก่งดี แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทันที ขอกลับบ้านมานั่งคิดนอนคิดก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นถึงกลับไปวางมัดจำ

เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ผมกับภรรยาตัดสินใจสร้างบ้านกับแลนดี้ โฮม คือแบบบ้านสวย ราคาสมเหตุสมผล และที่สำคัญเลยคือการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผมได้  


แบบบ้านที่ผมเลือกคือ The Pride 330 มีทั้งหมด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เห็นจากแคตตาล็อกแล้วชอบเลย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูโมเดิร์น ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะที่จะอยู่กัน 2 คน สามีภรรยา หรือถ้าเวลาลูก ๆ หรือญาติ ๆ มาหาก็มีห้องไว้รองรับ ฟังก์ชั่นภายในบ้านถือว่าโอเค สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

ผมปรับฟังก์ชั่นภายในเยอะเหมือนกัน เอาจริง ๆ ถ้าเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่อื่น อาจจะมองว่าผมเป็นลูกค้าที่เรื่องเยอะ แต่แลนดี้ โฮม เข้าใจ ด้วยความที่ผมและภรรยาอยู่ต่างประเทศกันมานาน ตั้งแต่เรียนจบก็ทำงานอยู่ที่โน่น บ้านที่โน่นเป็นยังไง เราก็อยากให้ที่นี่เป็นอย่างนั้น ก็พูดคุยบอกความต้องการกับทางเซลล์ และปรับเปลี่ยนกันจนลงตัว  

หลัก ๆ ที่เปลี่ยน คือห้องนอนชั้นบน อยากให้บ้านดูโล่ง ๆ กว้าง ๆ จากเดิมที่มี 3 ห้องนอน ก็ทุบและขยายเป็น Master Bedroom ทั้ง 2 ห้อง


ย้ายห้องน้ำไปอยู่ด้านหลัง ขยายพื้นที่ห้องน้ำให้กว้างขึ้น เพราะไม่ชอบห้องน้ำเล็ก ๆ โถสุขภัณฑ์ก็อัปเกรด เปลี่ยนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มบานซิงค์เพื่อความสวยงาม และมีติดเครื่องทำน้ำร้อนเพราะอยู่ต่างประเทศ อากาศมันหนาว อาบน้ำอุ่นไม่ทันใจ มาอยู่ที่ไทยแต่ก็ยังติดต้องอาบน้ำร้อน  


ตอนที่บ้านกำลังสร้าง ผมยังไป ๆ มา ๆ พักอยู่คอนโดฯ ที่ชะอำ สลับกับบ้านที่ศรีราชา รอเวลาบ้านหลังนี้เสร็จ แต่ทุกสเต็ปของการก่อสร้าง ช่างจะไลน์และถ่ายรูปบอกความคืบหน้าให้รู้ ตั้งแต่ตอกเสาเข็ม ลงคาน ขึ้นเสา หลังคา จนเป็นรูปเป็นร่าง รวม ๆ แล้วก่อสร้างอยู่ปีเศษ ๆ คือมาดูหน้างานอีกทีบ้านก็ใกล้เสร็จแล้ว สวยตรงตามแบบ สีก็ใกล้เคียงกับแคตตาล็อก ซึ่งผมไม่ได้เปลี่ยนอะไร เพราะกลัวว่าเปลี่ยนแล้วจะออกมาไม่สวยเหมือนแบบ

จริง ๆ ความตั้งใจของผมคืออยากมีบ้านที่อยู่สบาย ไม่เอาแบบต้องมาโชว์เคส เฟอร์นิเจอร์หรูหรา การตกแต่งก็เลยออกมาเป็นสไตล์คอนเทมโพรารี เรียบง่าย ไม่สีสัน ไม่ดูวัยรุ่นจนเกินไป แต่ต้องสวยสมวัย สำคัญเลยคือต้องสะอาดสะอ้าน เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ต้องอำนวยความสะดวก ใช้งานได้จริง และเป็นสไตล์ที่เราทั้งคู่ชอบ


ผ้าม่านชั้นล่างอันนี้สั่งมาจากต่างประเทศ นอกจากจะเข้ากับบ้านแล้ว มีความพิเศษตรงซับในผ้าม่านเป็นสีดำ กรองแสง กันแดด ที่สำคัญยังกันเสียงได้ด้วย เพราะแถวนี้ใกล้สนามบิน


มุมที่ชอบ คือห้องนอนกับห้องครัว เป็นห้องที่ใช้ชีวิตอยู่มากที่สุด อย่างห้องครัวนี่ผมซื้อตู้เย็นมาก่อน แล้วค่อยสร้างครัวให้สีเข้ากับตู้เย็น มีเครื่องซักผ้าและอบผ้าไว้ในห้องครัว


ส่วนห้องพักผ่อนก็เป็นพื้นที่โล่ง ๆ ไม่มีผนังกั้น มีเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟา โทรทัศน์ เครื่องเล่นวิดีโอไว้ดูหนังกัน  


ตอนนี้ชีวิตลงตัว มีความสุข กลายเป็นคนติดบ้าน เพราะบ้านตรงใจเรา สวยงาม สะอาดสะอ้าน ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของเรา และที่ภูมิใจคือไม่ใช่แค่ผมที่มองว่าบ้านสวย มีหลายครั้งที่คนขับรถผ่านหน้าบ้าน แล้วมาขอถ่ายรูปบ้าน หรือเวลาที่มีคนมาหา รปภ.ด้านหน้าก็จะบอกว่ามาหาบ้านหลังที่สวยที่สุด ได้ยินแบบนี้ยิ่งปลื้มใจ  

บ้านสร้างเสร็จ นอกจากจะมาอวดบ้านแล้ว คิดไว้ว่าจะสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน ถึงจะจ่ายแพงกว่าแต่ก็ถือว่าซื้อความสบายใจ เพราะถ้าสร้างกับผู้รับเหมาทั่วไป เอาจริง ๆ ก็ไม่ค่อยมั่นใจ แอบกลัวอยู่เหมือนกัน สร้างบ้านที ลงทุนเยอะ เป็นของชิ้นใหญ่ มีราคา กลัวว่าถ้าผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำ ๆ แล้วหาย ก็ต้องต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง เลยตัดสินใจสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้านดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าบ้านสร้างเสร็จแน่ หรือถ้ามีปัญหาก็ยังรู้ว่าจะไปตามตัวที่ไหนให้มาแก้ไข สบายใจกว่า

สำหรับคนที่กำลังคิดสร้างบ้าน อยากแนะนำให้สร้างกับบริษัทรับสร้างบ้าน ถึงจะจ่ายแพงกว่า แต่ก็ถือว่าซื้อความสบายใจ เพราะถ้าเป็นผู้รับเหมาทั่วไป เกิดทิ้งงานขึ้นมา ทำ ๆ แล้วหาย เผลอ ๆ งบบานปลายอีก แต่ถ้าเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ถ้ามีปัญหา ก็ยังรู้ว่าจะไปตามตัวได้ที่ไหน อยากให้การสร้างบ้านเป็นเรื่องง่ายและสบายใจ สร้างเสร็จและเข้าอยู่อาศัยอย่างมีความสุข ก็ต้องเลือกให้ถูกตั้งแต่บริษัทรับสร้างบ้าน  



[Advertorial]