10. เชส ฟาเบรกาส - 8.1 ล้านปอนด์
จาก เชลซี
ไป โมนาโก
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ สเปน
ยอดกองกลางจอมแอสซิสต์ กลายเป็นส่วนเกินในทีม เชลซี ของ เมาริซิโอ ซาร์รี ในขณะนั้น ซึ่งเจ้าตัวแทบไม่มีโอกาสได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เลย กระทั่ง โมนาโก ยื่นข้อเสนอมูลค่ากว่า 8 ล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อตัวกองกลางวัย 31 ปี รายนี้ไปกู้วิกฤตให้กับทีมทีม และนั่นจึงเป็นจุดสิ้นสุดการเป็นนักเตะของ สิงห์บลู ของเจ้าตัวนับแต่นั้นเป็นต้นมา
9. บิเซนเต้ อิบอร์รา - 9 ล้านปอนด์
จาก เลสเตอร์ ซิตี้
ไป บียาร์เรอัล
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ สเปน
อดีตแข้งของ เซบียา ถูก เลสเตอร์ ซื้อตัวมาร่วมทัพในช่วงหน้าร้อนปี 2017-18 แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่น ทำให้กว่าเจ้าตัวจะได้ประเดิมสนามก็ปาเข้าไปช่วงปลายปี ซึ่งหลังจากนั้นดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ดีเท่าที่ควร จนทำให้สุดท้ายต้องถูกปล่อยตัวกลับไปยัง แดนกระทิงดุ อีกครั้งกับ บียาร์เรอัล ในช่วงเดือน มกราคม ที่ผ่านมา
8. มาโนโล กับเบียดินี - 10.7 ล้านปอนด์
จาก เซาต์แธมป์ตัน
ไป ซามพ์โดเรีย
ตำแหน่ง กองหน้า
สัญชาติ อิตาลี
ทีมนักบุญ จัดการคว้าตัว ศูนย์หน้าชาวอิตาเลียน รายนี้ มาร่วมทัพในช่วงหน้าหนาวปี 2016-17 ซึ่งช่วงแรกเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจด้วยการซัดไป 6 ประตูในช่วงครึ่งซีซั่นที่เหลือ แต่แล้วอาการบาดเจ็บก็พรากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาไป เพราะหลังจากที่หายกลับมา เจ้าตัวไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกเลย จนต้องถูกปล่อยตัวให้กับ ซามพ์โดเรีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
7. คริส เมพแฮม - 12.2 ล้านปอนด์
จาก เบรนท์ฟอร์ด
ไป บอร์นมัธ
ตำแหน่ง กองหลัง
สัญชาติ เวลส์
มาถึงนักเตะที่ถูกดึงตัวเข้ามายัง พรีเมียร์ลีก กันบ้าง กับ ครืส เมพแฮม เซ็นเตอร์แบ็คชาวเวลส์ ที่ บอร์นมัธ ซื้อตัวมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ทีมในลีกรอง ด้วยค่าตัวสูงถึง 12 ล้านปอนด์ ซึ่งปัจจุบัน ปราการหลังวัย 22 ปี รายนี้ ก้าวขึ้นมามีบทบาทในถิ่น ไวทัลลิตี้ สเตเดี้ยม มากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ พลพรรคเดอะเชอร์รีส์ ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกว่าครึ่งทีม ณ เวลานี้
6. บราฮิม ดิอาซ - 15.3 ล้านปอนด์
จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ไป เรอัล มาดริด
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ สเปน
ดาวรุ่งวัย 19 ปี ณ ขณะนั้น ย้ายกลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดอีกครั้งหลังจากถูกดึงตัวมาปลุกปั้นตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนเมื่อปี 2014 ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเริ่มมีโอกาสขึ้นทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในฤดูกาล 2017-18 แต่ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ จนกระทั่ง เรอัล มาดริด สนใจดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อเดือน มกราคม ที่ผ่านมา
5. เอมิเลียโน ซาลา - 15.3 ล้านปอนด์
จาก น็องต์ส
ไป คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
ตำแหน่ง กองหน้า
สัญชาติ อาร์เจนตินา
ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเศร้าในวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้ กับการศูนย์เสียกองหน้าคนใหม่ของทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่ยังไม่เคยลงสนามให้กับทีมเลยแม้แต่เกมเดียว เพราะประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางทางร่วมทีม จึงถือเป็นโชคร้ายและเรื่องน่าหดหู่อย่างยิ่งทั้งกับทีม กับแฟนบอล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าตัวเอง
4. จอนนี คาสโตร อ็อตโต้ - 18.4 ล้านปอนด์
จาก แอตเลติโก มาดริด
ไป วูล์ฟแฮมป์ตัน
ตำแหน่ง วิงแบ็ค
สัญชาติ สเปน
อันที่จริงวิงแบ็ครายนี้ ย้ายมาร่วม ทัพหมาป่า ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนปี 2018 ด้วยสัญญายืมด้วยอยู่ก่อนแล้ว กระทั้งช่วงเดือน มกราคม ที่ผ่านมา พวกเขาจึงตัดสินใจซื้อขาด อดีตแข้งตราหมี วัย 25 ปี รายนี้ มาคุมเกมทางกราบซ้ายอย่างถาวรด้วยค่าตัวกว่า 18 ล้านปอนด์ โดยต้องบอกว่าเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวาเลยทีเดียว แถมยังเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ วูล์ฟส คว้าโควต้าไปเล่น ยูโรปาลีก ในซีซั่นก่อนได้สำเร็จอีกด้วย
3. โดมินิค โซลันกี้ - 19 ล้านปอนด์
จาก ลิเวอร์พูล
ไป บอร์นมัธ
ตำแหน่ง กองหน้า
สัญชาติ อังกฤษ
อดีตหัวหอกดาวรุ่งของ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ที่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับทีมได้ จนทำให้ต้องย้ายมาเพื่อหาโอกาสลงเล่นในทีมที่มีขนาดเล็กกว่าอย่าง บอร์นมัธ เมื่อเดือน มกราคม ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวสูงถึง 19 ล้านปอนด์ แต่แล้วจนถึงบัดนี้ เจ้าตัวยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มเทพได้ตามที่
ถูกคาดหวังเอาไว้ แถมโอกาสในการลงสนามของเจ้าตัวก็ดูจะลดน้อยลง ๆ ทุกที
2. มิเกล อัลไมรอน - 21.6 ล้านปอนด์
จาก แอตแลนต้า ยูไนเต็ด
ไป นิวคาสเซิล
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ ปารากวัย
อดีตกองกลางตัวจี๊ดจาก เมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์ ที่ถูก ทีมสาลิกาดง ดึงตัวมาร่วมทัพด้วยยค่าตัวมหาศาลกว่า 21 ล้านปอนด์ แม้เจ้าตัวจะมีความเร็วและความคล่องตัวสูง แต่ก็ยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มเก่ง ยิงประตูถล่มทลายได้เหมือนสมัยเล่นใน สหรัฐอเมริกา คงต้องมาดูกันต่อไปว่าหลังจากเวลาล่วงเลยมาร่วม 1 ปี เต็ม เจ้าตัวจะสร้างมารถปรับสไตล์การเล่นให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้หรือไม่
1. คริสเตียน พูลิซิช - 57.6 ล้านปอนด์
จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์
ไป เชลซี
ตำแหน่ง ปีก
สัญชาติ สหรัฐอเมริกา
ดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะเดือน มกราคม ที่ผ่านมา จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก คริสเตียน พูลิซิช ดาวรุ่งไฟแรงจาก ทีมเสือเหลือ ดอร์ทมุนต์ ในศึก บุนเดสลีกา โดยถูกคาดหวังว่าจะมาเป็นหนึ่งในตัวตายตัวแทนของ เอเดน อาซาร์ ที่จะอำลาทีมไปหลังจบซีซั่น ซึ่งจนถึงบัดนี้เจ้าตัวเริ่มฉายแววออกมาทีละนิด ๆ พร้อมกับค่อย ๆ ปรับตัวให้เข้ากับทีม ซึ่งหากดูจากผลงานที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่ามีแววอยู่พอสมควร ด้วยความคล่องตัวและสปีดต้นที่ค่อนข้างสูง หากพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้ อีกไม่นานคงก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ดวงใหม่ของฟุตบอลอังกฤษ ก็เป็นได้
cr : www.90min.com/th
ย้อนรอย 10 อันดับ การซื้อ-ขาย ที่มีมูลค่าสูงที่สุด ในตลาดซื้อขายนักเตะเดือน มกราคม ซีซั่นที่ผ่านมา (2018-2019)
10. เชส ฟาเบรกาส - 8.1 ล้านปอนด์
จาก เชลซี
ไป โมนาโก
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ สเปน
ยอดกองกลางจอมแอสซิสต์ กลายเป็นส่วนเกินในทีม เชลซี ของ เมาริซิโอ ซาร์รี ในขณะนั้น ซึ่งเจ้าตัวแทบไม่มีโอกาสได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เลย กระทั่ง โมนาโก ยื่นข้อเสนอมูลค่ากว่า 8 ล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อตัวกองกลางวัย 31 ปี รายนี้ไปกู้วิกฤตให้กับทีมทีม และนั่นจึงเป็นจุดสิ้นสุดการเป็นนักเตะของ สิงห์บลู ของเจ้าตัวนับแต่นั้นเป็นต้นมา
9. บิเซนเต้ อิบอร์รา - 9 ล้านปอนด์
จาก เลสเตอร์ ซิตี้
ไป บียาร์เรอัล
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ สเปน
อดีตแข้งของ เซบียา ถูก เลสเตอร์ ซื้อตัวมาร่วมทัพในช่วงหน้าร้อนปี 2017-18 แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่น ทำให้กว่าเจ้าตัวจะได้ประเดิมสนามก็ปาเข้าไปช่วงปลายปี ซึ่งหลังจากนั้นดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ดีเท่าที่ควร จนทำให้สุดท้ายต้องถูกปล่อยตัวกลับไปยัง แดนกระทิงดุ อีกครั้งกับ บียาร์เรอัล ในช่วงเดือน มกราคม ที่ผ่านมา
8. มาโนโล กับเบียดินี - 10.7 ล้านปอนด์
จาก เซาต์แธมป์ตัน
ไป ซามพ์โดเรีย
ตำแหน่ง กองหน้า
สัญชาติ อิตาลี
ทีมนักบุญ จัดการคว้าตัว ศูนย์หน้าชาวอิตาเลียน รายนี้ มาร่วมทัพในช่วงหน้าหนาวปี 2016-17 ซึ่งช่วงแรกเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจด้วยการซัดไป 6 ประตูในช่วงครึ่งซีซั่นที่เหลือ แต่แล้วอาการบาดเจ็บก็พรากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาไป เพราะหลังจากที่หายกลับมา เจ้าตัวไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกเลย จนต้องถูกปล่อยตัวให้กับ ซามพ์โดเรีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
7. คริส เมพแฮม - 12.2 ล้านปอนด์
จาก เบรนท์ฟอร์ด
ไป บอร์นมัธ
ตำแหน่ง กองหลัง
สัญชาติ เวลส์
มาถึงนักเตะที่ถูกดึงตัวเข้ามายัง พรีเมียร์ลีก กันบ้าง กับ ครืส เมพแฮม เซ็นเตอร์แบ็คชาวเวลส์ ที่ บอร์นมัธ ซื้อตัวมาจาก เบรนท์ฟอร์ด ทีมในลีกรอง ด้วยค่าตัวสูงถึง 12 ล้านปอนด์ ซึ่งปัจจุบัน ปราการหลังวัย 22 ปี รายนี้ ก้าวขึ้นมามีบทบาทในถิ่น ไวทัลลิตี้ สเตเดี้ยม มากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ พลพรรคเดอะเชอร์รีส์ ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกว่าครึ่งทีม ณ เวลานี้
6. บราฮิม ดิอาซ - 15.3 ล้านปอนด์
จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ไป เรอัล มาดริด
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ สเปน
ดาวรุ่งวัย 19 ปี ณ ขณะนั้น ย้ายกลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดอีกครั้งหลังจากถูกดึงตัวมาปลุกปั้นตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนเมื่อปี 2014 ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเริ่มมีโอกาสขึ้นทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในฤดูกาล 2017-18 แต่ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ จนกระทั่ง เรอัล มาดริด สนใจดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อเดือน มกราคม ที่ผ่านมา
5. เอมิเลียโน ซาลา - 15.3 ล้านปอนด์
จาก น็องต์ส
ไป คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
ตำแหน่ง กองหน้า
สัญชาติ อาร์เจนตินา
ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเศร้าในวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้ กับการศูนย์เสียกองหน้าคนใหม่ของทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่ยังไม่เคยลงสนามให้กับทีมเลยแม้แต่เกมเดียว เพราะประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางทางร่วมทีม จึงถือเป็นโชคร้ายและเรื่องน่าหดหู่อย่างยิ่งทั้งกับทีม กับแฟนบอล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าตัวเอง
4. จอนนี คาสโตร อ็อตโต้ - 18.4 ล้านปอนด์
จาก แอตเลติโก มาดริด
ไป วูล์ฟแฮมป์ตัน
ตำแหน่ง วิงแบ็ค
สัญชาติ สเปน
อันที่จริงวิงแบ็ครายนี้ ย้ายมาร่วม ทัพหมาป่า ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนปี 2018 ด้วยสัญญายืมด้วยอยู่ก่อนแล้ว กระทั้งช่วงเดือน มกราคม ที่ผ่านมา พวกเขาจึงตัดสินใจซื้อขาด อดีตแข้งตราหมี วัย 25 ปี รายนี้ มาคุมเกมทางกราบซ้ายอย่างถาวรด้วยค่าตัวกว่า 18 ล้านปอนด์ โดยต้องบอกว่าเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวาเลยทีเดียว แถมยังเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ วูล์ฟส คว้าโควต้าไปเล่น ยูโรปาลีก ในซีซั่นก่อนได้สำเร็จอีกด้วย
3. โดมินิค โซลันกี้ - 19 ล้านปอนด์
จาก ลิเวอร์พูล
ไป บอร์นมัธ
ตำแหน่ง กองหน้า
สัญชาติ อังกฤษ
อดีตหัวหอกดาวรุ่งของ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ที่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับทีมได้ จนทำให้ต้องย้ายมาเพื่อหาโอกาสลงเล่นในทีมที่มีขนาดเล็กกว่าอย่าง บอร์นมัธ เมื่อเดือน มกราคม ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวสูงถึง 19 ล้านปอนด์ แต่แล้วจนถึงบัดนี้ เจ้าตัวยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มเทพได้ตามที่
ถูกคาดหวังเอาไว้ แถมโอกาสในการลงสนามของเจ้าตัวก็ดูจะลดน้อยลง ๆ ทุกที
2. มิเกล อัลไมรอน - 21.6 ล้านปอนด์
จาก แอตแลนต้า ยูไนเต็ด
ไป นิวคาสเซิล
ตำแหน่ง กองกลาง
สัญชาติ ปารากวัย
อดีตกองกลางตัวจี๊ดจาก เมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์ ที่ถูก ทีมสาลิกาดง ดึงตัวมาร่วมทัพด้วยยค่าตัวมหาศาลกว่า 21 ล้านปอนด์ แม้เจ้าตัวจะมีความเร็วและความคล่องตัวสูง แต่ก็ยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มเก่ง ยิงประตูถล่มทลายได้เหมือนสมัยเล่นใน สหรัฐอเมริกา คงต้องมาดูกันต่อไปว่าหลังจากเวลาล่วงเลยมาร่วม 1 ปี เต็ม เจ้าตัวจะสร้างมารถปรับสไตล์การเล่นให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้หรือไม่
1. คริสเตียน พูลิซิช - 57.6 ล้านปอนด์
จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์
ไป เชลซี
ตำแหน่ง ปีก
สัญชาติ สหรัฐอเมริกา
ดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะเดือน มกราคม ที่ผ่านมา จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก คริสเตียน พูลิซิช ดาวรุ่งไฟแรงจาก ทีมเสือเหลือ ดอร์ทมุนต์ ในศึก บุนเดสลีกา โดยถูกคาดหวังว่าจะมาเป็นหนึ่งในตัวตายตัวแทนของ เอเดน อาซาร์ ที่จะอำลาทีมไปหลังจบซีซั่น ซึ่งจนถึงบัดนี้เจ้าตัวเริ่มฉายแววออกมาทีละนิด ๆ พร้อมกับค่อย ๆ ปรับตัวให้เข้ากับทีม ซึ่งหากดูจากผลงานที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่ามีแววอยู่พอสมควร ด้วยความคล่องตัวและสปีดต้นที่ค่อนข้างสูง หากพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้ อีกไม่นานคงก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ดวงใหม่ของฟุตบอลอังกฤษ ก็เป็นได้
cr : www.90min.com/th