Somewhere In Time 1980
....จะมารีวิวหนังรักแต่ยาวหน่อยน้า พอดีหาได้เเต่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ไม่มีซับไทยด้วย อาจฟังไม่ออกบ้างบางคำ รีวิวไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยไปบ้าง แต่ก็จะพยายามจ้า
....เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังไม่ถึง 5 เรื่องที่ดูแล้วร้องไห้แบบหนักมาก เป็นแนวโรแมนติก ดราม่า แฟนซีนิดหน่อย คือนางเอกสวยมาก(เจน ซีมัวร์) แบบมากจริงๆ พระเอกก็คือหล่อล่ำ(คริสโตเฟอร์ รีฟ) คือแบบคัดนักแสดงมาได้ลงตัวมาก นี่อยากวาร์ปไปเกิดในช่วงที่หนังเรื่องนี้ฉายมากอ่ะ จะไปดูในโรงสักสิบรอบเพราะปกติไม่ค่อยอินกับหนังแนวนี้ยกเว้นเรื่อง The Bluelagoon เรื่องเดียว นี่แบบขอยกเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจขึ้นหิ้งไปเลยจ้า
.....สปอยล์เลยนะ ในเรื่องเนี่ยเป็นปี 1979 ซึ่งพระเอกชื่อ Collier เป็นนักเขียนหนุ่มรูปหล่อ มีผลงานติดตลาดมากมาย โดยพระเอกกำลังจัดงานแจกลายเซ็นอยู่ ทีนี้มีหญิงแก่ดูสูงศักดิ์คนหนึ่ง(การแต่งตัวคือบ่งบอกว่าฐานะดี) เดินเข้ามาหาพระเอกแล้วยื่นนาฬิกาแบบเปิดปิดฝาได้(ที่คล้องคอได้สีทอง) ให้พระเอก พร้อมบอกว่า “come back to me” แล้วเดินจากไปเลย ทุกคนงงมาก ยิ่งพระเอกยิ่ง งง หนัก พระเอกบอก “ I never saw it before in my life” แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
.....จนผ่านไป 8 ปี พระเอกคิดพล็อตแต่งนิยายไม่ออกเลยขับรถจะไปเที่ยวรัฐอื่นเพื่อหาแรงบันดาลใจ จนระหว่างทางไปเจอโรงแรมติดทะเลที่นึง ชื่อว่า แกรนด์ โฮเทล อยู่บนเกาะแม็กคินแน็ก พระเอกรู้สึกชอบเลยรีบขับเข้าไปเช็กอินทันที ทีนี้พระเอกได้เข้าไปดูห้องนิทรรศการประวัติของโรงแรม และได้ไปเจอรูป ผญ คนนึงคือแบบสวยมาก(รูปนางเอก) พระเอกเกิดตกหลุมรักคนในรูปทันที เลยไปถามอาร์เธอร์(พนักงานโรงแรมเก่าแก่)ว่า ผญ คนนี้ใครอ่ะ ชื่ออะไร อาร์เธอร์บอกว่าชื่อ แม็กเคนน่า เป็นดาราดังสมัยก่อน เธอมาทำการแสดงที่โรงแรมนี้ในปี1912 ตอนนั้นฉันเพิ่ง 5 ขวบเองนะ พอได้คำตอบพระเอกก็ยิ้มละกลับไปนอน แต่นอนไม่หลับเพราะนึกถึงแต่รูปของนางเอกเนี่ยแหละ พลิกไปพลิกมา ภาพติดตา พอรุ่งเช้าพระเอกเลยไปหอสมุดเพื่อไปหาประวัติของนางเอก(เป็นนักแสดงดังต้องมีประวัติในหอสมุดแน่นอน) จนเจอว่านางเอกเป็นใคร ประวัติอย่างไร และที่ช็อกคือไปเจอรูปที่นางเอกถ่ายไว้เมื่อแปดปีที่แล้ว ดันคือคนเดียวกับหญิงแก่ที่เอานาฬิกามาให้เรา พระเอกเลยไปถามอาร์เธอร์ว่าบ้านของนางเอกอยู่ไหน อาร์เธอร์บอกว่านางเอกมาใช้ชีวิตในวัยชราหลังโรงแรมนี่เอง มาสร้างบ้านไว้อยู่กับคนดูแล พระเอกก็รีบไปบ้านนั้นแต่คนดูแลบอกว่านางเอกตายไปเมื่อแปดปีที่แล้ว (ตายคืนที่กลับจากเอานาฬิกาไปให้พระเอก) พระเอกก็เศร้า แล้วเหลือบไปเห็นหนังสือการย้อนเวลา เลยงงว่านางเอกอ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอ คนดูแลบอกว่านางเอกสนใจหนังสือเล่มนี้มาก แล้วพาพระเอกไปดูกล่องดนตรี ที่พอเปิดเพลง
เป็นเพลงที่พระเอกดันชอบแบบเพลงที่พระเอกฟังบ่อยๆอ่ะ พระเอกเลยคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ เลยตัดสินใจไปพบคนเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องย้อนเวลา คนเขียนบอกว่า ให้ลองย้ำกับตัวเองบ่อยๆว่าจะกลับไปในช่วงไหน แต่สถานที่ก็ควรต้องเป็นที่ที่เดียวกันกับที่เราอยากย้อนไปในอดีตด้วย แต่คนเขียนลองทำก็ยังไม่เคยสำเร็จนะ ด้วยความที่พระเอกเป็นนักเขียน ก็จะชอบมโนมากหน่อยเลยไปซื้อสูทย้อนยุค ตัดผมให้เข้ากับยุค1912 ละไปนอนในห้องที่โรงแรมเดิม แล้วอัดเทปว่าจะขอกลับไปในวันที่นางเอกมาทำการแสดงที่โรงแรม ปี1912 เเล้วเปิดเทปวนกล่อมตัวเอง แต่ก็ไม่ย้อนสักที จนสุดท้ายดันตื่นมาเป็น ปี1912 ก่อนวันที่นางเอกจะแสดง 1 วัน ปาฏิหาริย์สุดๆ เอาจริงก็พรหมลิขิตนั่นแหละ แล้วพระเอกก็เดินตามหานางเอกจนเจอที่ริมทะเล นางเอกโคตะระสวยจนพระเอกตะลึง ครั้งแรกที่เจอกันนางเอกเผลอพูดขึ้นมาว่า “It’s you” ทั้งที่ก็ไม่เคยรู้จักพระเอกมาก่อน แล้วนางเอกก็งงว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นนะ แต่รู้สึกถูกชะตากับพระเอกมาก แต่อีผู้จัดการแก่ๆ(ผช) ก็รีบมาตามนางเอกกลับโรงแรมแล้วบอกพระเอกว่าอย่ามายุ่งกะนางเอกนะไรงี้
เนี่ย!!! นางเอกสวยจริงๆนะ
.....ทีนี้หนังก็จะเล่าถึงฉากต่างๆที่แสดงถึงความตื่นเต้นของพระเอกที่ได้ย้อนวันเวลากลับมา 67 ปี ว่าเจออะไรบ้าง ผู้คนในสมัยนั้นเป็นอย่างไร แล้วพระเอกได้เจออาร์เธอร์ในวัย 5 ขวบด้วยนะ(พ่อของอาร์เธอร์ทำงานเป็นfrontที่โรงแรมนี้)เลยก็เข้าไปทักทาย แล้วสูทที่พระเอกใส่มันดูแปลกในสมัยนั้นอ่ะ คือคนสมัยนั้นนิยมสูทดำ ขาว ครีม แต่พระเอกใส่สูทลายทางน้ำตาล555 คนเลยมอง พระเอกเนียนๆไปเต้นรำกับนางเอก ละอีผู้จัดการมาขัดขวาง นางเอกบอกขอคุยกับพระเอกแป๊บนึง แล้วออกไปคุยกันข้างนอก พระเอกถามทำไมคุณถึงพูดว่า “it’s you” ทั้งที่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก นางเอกบอกว่าฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วเดินจากไป
.....เช้าวันต่อมาพระเอกไปเคาะห้องนางเอก (ห้อง117 พระเอกรู้เพราะเคยดูประวัติโรงแรมนี้สมัยที่ยังอยู่ในโลกปัจจุบันมาก่อน) แล้วตื๊อจนนางเอกยอมไปเที่ยวด้วยวันนึง ระหว่างเที่ยวด้วยกันนางเอกก็รู้สึกประทับใจพระเอก เพราะพระเอกเป็นคนเฮฮา เป็นตัวของตัวเอง นางเอกบอกพระเอกว่าเธอไม่เคยได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ เพราะผู้จัดการปกป้องเธอจากสังคมภายนอกจนเกินไปไรงี้ พระเอกก็พานางเอกไปพายเรือเล่น ละฮัมเพลงที่พระเอกชอบฟังบ่อยๆขึ้นมา นางเอกก็ถามว่า เพลงไรอ่ะ ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อนเพราะดีนะไรงี้ (นี่จึงเป็นที่มาของเพลงจากกล่องเพลงที่พระเอกไปเปิดฟังที่บ้านนางเอกในยุคปัจจุบัน) ละก็มาส่งนางเอกที่ห้อง แต่พระเอกก็ขอเข้าไปในห้องนางเอก แล้วจูบกัน นางเอกพยายามหักห้ามใจนะ แต่ห้ามไม่ได้555 ทีนี่อีผู้จัดการมาเคาะประตูพอดี ละก็ต่อว่านางเอก บลาๆ พระเอกเลยขอตัวออกไปก่อน
นี่คือตอนที่ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกัน
....ถึงตอนนางเอกแสดงละครเวที พอนางเห็นพระเอกมานั่งดู นางเอกเลยพูดนอกบทบอกรักพระเอก บอกประมาณว่าในชีวิตนี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน คุณมาเปลี่ยนโลกของฉัน บลาๆแล้วตัดจบด้วย “I love you” แล้วก็เนียนๆเข้าบทต่อ ผู้ชมก็ไม่รู้ว่านางนอกบท แต่อีผู้จัดการคือโกรธมาก ละพักเบรกนางเอกต้องไปนั่งให้ข่างภาพถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึกให้โรงแรมนี้ พอดีกับที่พระเอกเดินเข้ามา นางเอกเลยยิ้มเเล้วมองพระเอกด้วยความสุข ภาพถ่ายเลยออกมาเป็นภาพติดผนังที่พระเอกเห็นในปัจจุบันนั่นเอง ทีนี้ระหว่างดูการแสดงต่อช่วงท้าย มีคนนำจดหมายไปให้พระเอกให้ออกไปพบข้างนอก เป็นอีผู้จัดการ มันบอกว่ากว่ามันจะดันนางเอกมาจุดนี้ได้ผ่านไรมาเยอะ มันไม่อยากให้ชีวิตนางเอกมาพังเพราะพระเอกแค่คนเดียวแต่พระเอกไม่ยอมเลิกยุ่ง ผู้จัดการเลยให้ลูกน้องมาทำร้ายแล้วจับพระเอกไปมัดไว้ในรองม้าเพื่อไม่ให้มาเจอนางเอกทันวันพรุ่งนี้ที่นางเอกจะต้องกลับแล้ว ด้านางเอกแสดงเสร็จรีบมาตามหาว่าพระเอกไปไหน แต่หาไม่เจอละไปด่าอีผู้จัดการจนผู้จัดการหน้าเสียเดินออกจากห้องไป
....รุ่งเช้า นางเอกไปห้อง 416 ที่พระเอกพักแล้วไปหยิบมีดโกนหนวดของพระเอกขึ้นมาดูด้วยความคิดถึง นางเอกร้องไห้แล้วเดินออกจากห้องไป ทางด้านพระเอกมาฟื้นตอนเช้าเลยรีบหาทางแก้มัดแล้วสิ่งมาโรงแรมไปเคาะห้องนางเอก แต่ไม่ทัน พนักงานบอกว่านางเอกไปแล้ว พระเอกมานั่งเศร้าๆที่หน้าโรงแรม ละสรุปคือนางเอกไม่กลับจ้า นางเอกวิ่งมากอดพระเอก จูบกันและคืนนั้นก็โซเดมาคอมกันที่ห้อง 117 ของนางเอก คือฉากนี้โรแมนติกมากเด้อออ พอตื่นมาก็มานั่งแทะไก่กินกันบนพื้อนในห้องนอน ละนางเอกหยิบนาฬิกาของพระเอกมาบอกว่าซ่อนของบางสิ่งไว้ในของใช้พระเอก ให้เวลา 15 วิให้ไปหาให้เจอ พระเอกนึกถึงชุดสูทของตนเลยรีบเอาสูทมาใส่แล้วล้วงตามกระเป๋าว่ามีของอะไรที่นางเอกซ่อนไว้มั้ย นางล้วงเจอเหรียญเลยหยิบขึ้นมากำลังจะบอกนางเอกว่าเจอละ แต่เหรียญดันเป็นเหรียญในยุคปัจจุบันปี1979 พระเอกตกใจเอื้อมมือจะไปคว้านางเอก นางเอกร้องเรียกพระเอก แล้วพระเอกก็มาโผล่ยุคปัจจุบันที่โรงแรมเดิมพระเอกตกใจมากรีบไปที่เตียงอธิษฐานขอกลับไปปี1912 อีก แต่ไม่สำเร็จ พระเอกร้องไห้หนักมาก แบบมากๆเหมือนหมดสิ้นทุกอย่างแล้วอ่ะ แล้วต่อมาพระเอกก็เริ่มตรอมใจ ป่วย แล้วฉากจบคือได้ไปอยู่กับนางเอกในโลกหลังความตาย ประมาณนี้
.........ฮือออออ เศร้ามาก สงสารทั้งคู่ นางเอกคงต้องอยู่แบบทุกข์ทรมานกว่าจะมาเจอพระเอกในปัจจุบันแล้วไปมอบนาฬิกาให้ พระเอกเองก็ทุกข์ทรมาน เพิ่งรักกันแป๊บเดียวพรากเราซะงั้น อยากให้ลองไปหามาดูกันน้าหนังเรื่อยๆแต่เราว่าสื่อความรัก ความผูกพันออกมาได้ดีมาก นางเอกคงเดาเอาจากที่พระเอกค่อยๆหายไปว่าย้อนเวลามา หรือไม่ก็มาเจอพระเอกตอนยังหนุ่มๆในยุคปัจจุบันเลยจำได้และไปเอาหนังสือย้อนเวลามาอ่านเพื่อรอว่าสักวันนึงพระเอกจะต้องกลับมาแน่นอน แล้วเก็บนาฬิกาไว้อย่างดีจนกระทั่งเอามามอบให้พระเอก โอ๊ย ซึ้ง
ป.ล. เราแก้ไขสรรพนามจากคำว่า นาง เป็น พระเอก แทนแล้วนะคะ จะได้ดูไม่ขัดตามที่ผู้เห็นคนหนึ่งแจ้งมาค่ะ
รีวิวหนังเรื่อง Somewhere In Time ปลาบปลื้มมากหลังจากที่ได้ดู (สปอยล์หนักมาก)
Somewhere In Time 1980
....จะมารีวิวหนังรักแต่ยาวหน่อยน้า พอดีหาได้เเต่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ไม่มีซับไทยด้วย อาจฟังไม่ออกบ้างบางคำ รีวิวไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยไปบ้าง แต่ก็จะพยายามจ้า
....เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังไม่ถึง 5 เรื่องที่ดูแล้วร้องไห้แบบหนักมาก เป็นแนวโรแมนติก ดราม่า แฟนซีนิดหน่อย คือนางเอกสวยมาก(เจน ซีมัวร์) แบบมากจริงๆ พระเอกก็คือหล่อล่ำ(คริสโตเฟอร์ รีฟ) คือแบบคัดนักแสดงมาได้ลงตัวมาก นี่อยากวาร์ปไปเกิดในช่วงที่หนังเรื่องนี้ฉายมากอ่ะ จะไปดูในโรงสักสิบรอบเพราะปกติไม่ค่อยอินกับหนังแนวนี้ยกเว้นเรื่อง The Bluelagoon เรื่องเดียว นี่แบบขอยกเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจขึ้นหิ้งไปเลยจ้า
.....สปอยล์เลยนะ ในเรื่องเนี่ยเป็นปี 1979 ซึ่งพระเอกชื่อ Collier เป็นนักเขียนหนุ่มรูปหล่อ มีผลงานติดตลาดมากมาย โดยพระเอกกำลังจัดงานแจกลายเซ็นอยู่ ทีนี้มีหญิงแก่ดูสูงศักดิ์คนหนึ่ง(การแต่งตัวคือบ่งบอกว่าฐานะดี) เดินเข้ามาหาพระเอกแล้วยื่นนาฬิกาแบบเปิดปิดฝาได้(ที่คล้องคอได้สีทอง) ให้พระเอก พร้อมบอกว่า “come back to me” แล้วเดินจากไปเลย ทุกคนงงมาก ยิ่งพระเอกยิ่ง งง หนัก พระเอกบอก “ I never saw it before in my life” แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
.....จนผ่านไป 8 ปี พระเอกคิดพล็อตแต่งนิยายไม่ออกเลยขับรถจะไปเที่ยวรัฐอื่นเพื่อหาแรงบันดาลใจ จนระหว่างทางไปเจอโรงแรมติดทะเลที่นึง ชื่อว่า แกรนด์ โฮเทล อยู่บนเกาะแม็กคินแน็ก พระเอกรู้สึกชอบเลยรีบขับเข้าไปเช็กอินทันที ทีนี้พระเอกได้เข้าไปดูห้องนิทรรศการประวัติของโรงแรม และได้ไปเจอรูป ผญ คนนึงคือแบบสวยมาก(รูปนางเอก) พระเอกเกิดตกหลุมรักคนในรูปทันที เลยไปถามอาร์เธอร์(พนักงานโรงแรมเก่าแก่)ว่า ผญ คนนี้ใครอ่ะ ชื่ออะไร อาร์เธอร์บอกว่าชื่อ แม็กเคนน่า เป็นดาราดังสมัยก่อน เธอมาทำการแสดงที่โรงแรมนี้ในปี1912 ตอนนั้นฉันเพิ่ง 5 ขวบเองนะ พอได้คำตอบพระเอกก็ยิ้มละกลับไปนอน แต่นอนไม่หลับเพราะนึกถึงแต่รูปของนางเอกเนี่ยแหละ พลิกไปพลิกมา ภาพติดตา พอรุ่งเช้าพระเอกเลยไปหอสมุดเพื่อไปหาประวัติของนางเอก(เป็นนักแสดงดังต้องมีประวัติในหอสมุดแน่นอน) จนเจอว่านางเอกเป็นใคร ประวัติอย่างไร และที่ช็อกคือไปเจอรูปที่นางเอกถ่ายไว้เมื่อแปดปีที่แล้ว ดันคือคนเดียวกับหญิงแก่ที่เอานาฬิกามาให้เรา พระเอกเลยไปถามอาร์เธอร์ว่าบ้านของนางเอกอยู่ไหน อาร์เธอร์บอกว่านางเอกมาใช้ชีวิตในวัยชราหลังโรงแรมนี่เอง มาสร้างบ้านไว้อยู่กับคนดูแล พระเอกก็รีบไปบ้านนั้นแต่คนดูแลบอกว่านางเอกตายไปเมื่อแปดปีที่แล้ว (ตายคืนที่กลับจากเอานาฬิกาไปให้พระเอก) พระเอกก็เศร้า แล้วเหลือบไปเห็นหนังสือการย้อนเวลา เลยงงว่านางเอกอ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอ คนดูแลบอกว่านางเอกสนใจหนังสือเล่มนี้มาก แล้วพาพระเอกไปดูกล่องดนตรี ที่พอเปิดเพลงเป็นเพลงที่พระเอกดันชอบแบบเพลงที่พระเอกฟังบ่อยๆอ่ะ พระเอกเลยคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ เลยตัดสินใจไปพบคนเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องย้อนเวลา คนเขียนบอกว่า ให้ลองย้ำกับตัวเองบ่อยๆว่าจะกลับไปในช่วงไหน แต่สถานที่ก็ควรต้องเป็นที่ที่เดียวกันกับที่เราอยากย้อนไปในอดีตด้วย แต่คนเขียนลองทำก็ยังไม่เคยสำเร็จนะ ด้วยความที่พระเอกเป็นนักเขียน ก็จะชอบมโนมากหน่อยเลยไปซื้อสูทย้อนยุค ตัดผมให้เข้ากับยุค1912 ละไปนอนในห้องที่โรงแรมเดิม แล้วอัดเทปว่าจะขอกลับไปในวันที่นางเอกมาทำการแสดงที่โรงแรม ปี1912 เเล้วเปิดเทปวนกล่อมตัวเอง แต่ก็ไม่ย้อนสักที จนสุดท้ายดันตื่นมาเป็น ปี1912 ก่อนวันที่นางเอกจะแสดง 1 วัน ปาฏิหาริย์สุดๆ เอาจริงก็พรหมลิขิตนั่นแหละ แล้วพระเอกก็เดินตามหานางเอกจนเจอที่ริมทะเล นางเอกโคตะระสวยจนพระเอกตะลึง ครั้งแรกที่เจอกันนางเอกเผลอพูดขึ้นมาว่า “It’s you” ทั้งที่ก็ไม่เคยรู้จักพระเอกมาก่อน แล้วนางเอกก็งงว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นนะ แต่รู้สึกถูกชะตากับพระเอกมาก แต่อีผู้จัดการแก่ๆ(ผช) ก็รีบมาตามนางเอกกลับโรงแรมแล้วบอกพระเอกว่าอย่ามายุ่งกะนางเอกนะไรงี้
เนี่ย!!! นางเอกสวยจริงๆนะ
.....ทีนี้หนังก็จะเล่าถึงฉากต่างๆที่แสดงถึงความตื่นเต้นของพระเอกที่ได้ย้อนวันเวลากลับมา 67 ปี ว่าเจออะไรบ้าง ผู้คนในสมัยนั้นเป็นอย่างไร แล้วพระเอกได้เจออาร์เธอร์ในวัย 5 ขวบด้วยนะ(พ่อของอาร์เธอร์ทำงานเป็นfrontที่โรงแรมนี้)เลยก็เข้าไปทักทาย แล้วสูทที่พระเอกใส่มันดูแปลกในสมัยนั้นอ่ะ คือคนสมัยนั้นนิยมสูทดำ ขาว ครีม แต่พระเอกใส่สูทลายทางน้ำตาล555 คนเลยมอง พระเอกเนียนๆไปเต้นรำกับนางเอก ละอีผู้จัดการมาขัดขวาง นางเอกบอกขอคุยกับพระเอกแป๊บนึง แล้วออกไปคุยกันข้างนอก พระเอกถามทำไมคุณถึงพูดว่า “it’s you” ทั้งที่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก นางเอกบอกว่าฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วเดินจากไป
.....เช้าวันต่อมาพระเอกไปเคาะห้องนางเอก (ห้อง117 พระเอกรู้เพราะเคยดูประวัติโรงแรมนี้สมัยที่ยังอยู่ในโลกปัจจุบันมาก่อน) แล้วตื๊อจนนางเอกยอมไปเที่ยวด้วยวันนึง ระหว่างเที่ยวด้วยกันนางเอกก็รู้สึกประทับใจพระเอก เพราะพระเอกเป็นคนเฮฮา เป็นตัวของตัวเอง นางเอกบอกพระเอกว่าเธอไม่เคยได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ เพราะผู้จัดการปกป้องเธอจากสังคมภายนอกจนเกินไปไรงี้ พระเอกก็พานางเอกไปพายเรือเล่น ละฮัมเพลงที่พระเอกชอบฟังบ่อยๆขึ้นมา นางเอกก็ถามว่า เพลงไรอ่ะ ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อนเพราะดีนะไรงี้ (นี่จึงเป็นที่มาของเพลงจากกล่องเพลงที่พระเอกไปเปิดฟังที่บ้านนางเอกในยุคปัจจุบัน) ละก็มาส่งนางเอกที่ห้อง แต่พระเอกก็ขอเข้าไปในห้องนางเอก แล้วจูบกัน นางเอกพยายามหักห้ามใจนะ แต่ห้ามไม่ได้555 ทีนี่อีผู้จัดการมาเคาะประตูพอดี ละก็ต่อว่านางเอก บลาๆ พระเอกเลยขอตัวออกไปก่อน
นี่คือตอนที่ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกัน
....ถึงตอนนางเอกแสดงละครเวที พอนางเห็นพระเอกมานั่งดู นางเอกเลยพูดนอกบทบอกรักพระเอก บอกประมาณว่าในชีวิตนี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน คุณมาเปลี่ยนโลกของฉัน บลาๆแล้วตัดจบด้วย “I love you” แล้วก็เนียนๆเข้าบทต่อ ผู้ชมก็ไม่รู้ว่านางนอกบท แต่อีผู้จัดการคือโกรธมาก ละพักเบรกนางเอกต้องไปนั่งให้ข่างภาพถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึกให้โรงแรมนี้ พอดีกับที่พระเอกเดินเข้ามา นางเอกเลยยิ้มเเล้วมองพระเอกด้วยความสุข ภาพถ่ายเลยออกมาเป็นภาพติดผนังที่พระเอกเห็นในปัจจุบันนั่นเอง ทีนี้ระหว่างดูการแสดงต่อช่วงท้าย มีคนนำจดหมายไปให้พระเอกให้ออกไปพบข้างนอก เป็นอีผู้จัดการ มันบอกว่ากว่ามันจะดันนางเอกมาจุดนี้ได้ผ่านไรมาเยอะ มันไม่อยากให้ชีวิตนางเอกมาพังเพราะพระเอกแค่คนเดียวแต่พระเอกไม่ยอมเลิกยุ่ง ผู้จัดการเลยให้ลูกน้องมาทำร้ายแล้วจับพระเอกไปมัดไว้ในรองม้าเพื่อไม่ให้มาเจอนางเอกทันวันพรุ่งนี้ที่นางเอกจะต้องกลับแล้ว ด้านางเอกแสดงเสร็จรีบมาตามหาว่าพระเอกไปไหน แต่หาไม่เจอละไปด่าอีผู้จัดการจนผู้จัดการหน้าเสียเดินออกจากห้องไป
....รุ่งเช้า นางเอกไปห้อง 416 ที่พระเอกพักแล้วไปหยิบมีดโกนหนวดของพระเอกขึ้นมาดูด้วยความคิดถึง นางเอกร้องไห้แล้วเดินออกจากห้องไป ทางด้านพระเอกมาฟื้นตอนเช้าเลยรีบหาทางแก้มัดแล้วสิ่งมาโรงแรมไปเคาะห้องนางเอก แต่ไม่ทัน พนักงานบอกว่านางเอกไปแล้ว พระเอกมานั่งเศร้าๆที่หน้าโรงแรม ละสรุปคือนางเอกไม่กลับจ้า นางเอกวิ่งมากอดพระเอก จูบกันและคืนนั้นก็โซเดมาคอมกันที่ห้อง 117 ของนางเอก คือฉากนี้โรแมนติกมากเด้อออ พอตื่นมาก็มานั่งแทะไก่กินกันบนพื้อนในห้องนอน ละนางเอกหยิบนาฬิกาของพระเอกมาบอกว่าซ่อนของบางสิ่งไว้ในของใช้พระเอก ให้เวลา 15 วิให้ไปหาให้เจอ พระเอกนึกถึงชุดสูทของตนเลยรีบเอาสูทมาใส่แล้วล้วงตามกระเป๋าว่ามีของอะไรที่นางเอกซ่อนไว้มั้ย นางล้วงเจอเหรียญเลยหยิบขึ้นมากำลังจะบอกนางเอกว่าเจอละ แต่เหรียญดันเป็นเหรียญในยุคปัจจุบันปี1979 พระเอกตกใจเอื้อมมือจะไปคว้านางเอก นางเอกร้องเรียกพระเอก แล้วพระเอกก็มาโผล่ยุคปัจจุบันที่โรงแรมเดิมพระเอกตกใจมากรีบไปที่เตียงอธิษฐานขอกลับไปปี1912 อีก แต่ไม่สำเร็จ พระเอกร้องไห้หนักมาก แบบมากๆเหมือนหมดสิ้นทุกอย่างแล้วอ่ะ แล้วต่อมาพระเอกก็เริ่มตรอมใจ ป่วย แล้วฉากจบคือได้ไปอยู่กับนางเอกในโลกหลังความตาย ประมาณนี้
.........ฮือออออ เศร้ามาก สงสารทั้งคู่ นางเอกคงต้องอยู่แบบทุกข์ทรมานกว่าจะมาเจอพระเอกในปัจจุบันแล้วไปมอบนาฬิกาให้ พระเอกเองก็ทุกข์ทรมาน เพิ่งรักกันแป๊บเดียวพรากเราซะงั้น อยากให้ลองไปหามาดูกันน้าหนังเรื่อยๆแต่เราว่าสื่อความรัก ความผูกพันออกมาได้ดีมาก นางเอกคงเดาเอาจากที่พระเอกค่อยๆหายไปว่าย้อนเวลามา หรือไม่ก็มาเจอพระเอกตอนยังหนุ่มๆในยุคปัจจุบันเลยจำได้และไปเอาหนังสือย้อนเวลามาอ่านเพื่อรอว่าสักวันนึงพระเอกจะต้องกลับมาแน่นอน แล้วเก็บนาฬิกาไว้อย่างดีจนกระทั่งเอามามอบให้พระเอก โอ๊ย ซึ้ง
ป.ล. เราแก้ไขสรรพนามจากคำว่า นาง เป็น พระเอก แทนแล้วนะคะ จะได้ดูไม่ขัดตามที่ผู้เห็นคนหนึ่งแจ้งมาค่ะ