[CR] ##### สั้นสั้น.... จ อ ร์ เ จี ย ผมรักคุณ #####



ผ่านไปด้วยดีกับทริปในฝัน จ อ ร์ เ จี ย

ทริปนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าน้องฟ้า น้องตาล น้องออม ไม่มานั่งเล่า นั่งชวนตั้งแต่ต้นปี

ผมหารีวิวอ่านจากพันทิพและหน้าเฟช....เฮ้ย น่าสนใจ

น้องตาลกับน้องฟ้าเริ่มวางแผนทริปกัน ได้วันเวลาที่แน่นอนโดยใช้วันหยุดของน้องฟ้า(ที่กำลังเรียนหมอปีสุดท้ายที่นิวซีแลนด์)เป็นหลัก 

ปักหมุดที่ ๒๙ พย. - ๘ ธค. ซึ่งเป็นช่วงที่หนาว แม้จะไม่ใช่หนาวที่สุดของจอร์เจีย แต่เราก็โดนระดับ -๔ จนถึงพีคสุดที่ -๑๔ องศา เข้าจนได้

ดีที่ลูก ๆ ทุกคนวางแผนเรื่องกันหนาวให้เป็นอย่างดี

ในวันที่ - ๑๔ องศา ผมใช้กางเกงฮีทเทคแบบอุลตร้าสองตัวทับกัน ตามด้วยกางเกงยีนส์หนา เสื้อฮีทเทคแล้วตามด้วยเสื้อกันหนาวอีกสามชั้น หมวก ถุงมือ รองเท้าอย่างดี แต่....

ผล.........ป้องกันได้แค่ ๗๐% จริง ๆ ปลายนิ้วทั้งบนและล่างชาจนไม่รู้สึก ใบหูเหมือนจะขาดออกจากกัน

ความหนาวเป็นอุปสรรคที่สำคัญของทริป หนาวชนิดที่ว่านิ้วล๊อคกันเลยทีเดียว

ทริปนี้ผมใช้ canon 6D สองตัว ติดเลนส์ไวด์ 17-40 F4 กับ ติดเลนส์ 70-200 F2.8 จึงไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเลนส์ สะพายสองตัวตลอดเวลา ไม่เอาโน้ทบุ๊คไป พกเมมไปมากที่สุดเท่าที่จะมี แถมขอยืมการ์ดไปอีกเกือบ 100 G

ขาตั้งขนาดกลางติดสอยห้อยตามผมไปตลอดทริป แต่ไม่มีโอกาสได้กางออกมาใช้แม้แต่ครั้งเดียว....หนาวเหน็บจนเกินไปที่จะยืนกดแช่ชัตเตอร์ B

### ตั๋ว ###

เราจองผ่านเอเจนซี่ที่มีชื่อเสียง แต่โชคไม่ดีเจอแคนเซิล(จากสายการบิน)ไปสองครั้ง (ได้เงินกลับมารอบเดียว อีกรอบกำลังร้องเรียนอยู่) อันนี้ถือว่าแล้วแต่ดวง ของลูก ๆ ที่จองสายการบินอื่นก็ผ่านฉลุย(เพราะว่างไม่พร้อมกัน เหลื่อมกันวันสองวัน เลยต้องจองหลายบุ๊คกิ้ง)

เราหมดใจกับการถูกยกเลิกตั๋วถึงสองครั้ง จนกระทั่ง ๑๕ วันก่อนเดินทางก็ยังไม่มีตั๋วเลย สุดท้ายน้องฟ้าก็ใช้ความพยายามมาจนได้ แต่.....

ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่คาซักสถานถึง ๒๕ ชั่วโมง

ในความไม่ราบรื่น เรากลับโชคดีที่ได้ซื้อทัวร์วันเดย์เที่ยวในคาซักฯ ซึ่งเป็น ๒๕ ชั่วโมงที่ทำให้เรารู้สึกหลงรักประเทศคาซักสถานขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

คาซักสถาน ลบคำเชื่อของเราที่ว่า ประเทศไหนที่ลงท้ายด้วย "สถาน"...ยังไม่ปลอดภัย ไม่น่าเที่ยว ลงอย่างสิ้นเชิง

โชคดีถัดไป...อาจจะเป็นเพราะคาซักสถานเพิ่งเปิดประเทศได้สองปี(มั๊ง) สายการบินของประเทศคือ Air Astana จึง(คง)ร่วมมือกับรัฐบาลสนับสนุนนักท่องเที่ยวหลายเรื่อง เช่น

(อ่านให้ดีนะ) เราใด้รถรับส่งจากสนามบินไปโรงแรมระดับสี่ดาว(ใหม่ หรู กว่าทวินโลตัส) พักหนึ่งคืน สปาน้ำอุ่นอย่างดี อาหารเช้าดีเยี่ยมเท่าที่โรงแรมระดับนี้จะให้ได้ รถรับกลับไปส่งที่สนามบินในวันรุ่งขึ้น ทั้งหมดนี้เราจ่ายเงินไปแค่ 1 us ดอลล่า (อ่านไม่ผิด) ตอนแรกนึกว่าจะมีเรียกเก็บ แต่เมื่อเช็ครีวิวทุกอย่างแล้ว หนึ่งดอลล่าเป็นเรื่องจริง

ทริปคาซักสถาน จึงถูกบรรจุลงในทริปหน้าของครอบครัวไปเรียบร้อยโรงเรียนคาซักสถานแล้ว

.............................

สรุปสุดท้ายสำหรับราคาตั๋วเท่าที่ทราบจากลูก ๆ เล่าให้ฟัง มีตั้งแต่หมื่นเจ็ด สองหมื่น สองหมื่นสอง สองหมื่นห้า....แล้วแต่จังหวะ

น้องฟ้าจองสองหมื่นสอง ไป-กลับ แต่ถัดมาอีกไม่กี่ชั่วโมง น้องออมน้องภูกลับจองได้โปรที่หมื่นเจ็ด

แนะนำว่า....ดูตั๋วบ่อย ๆ ต่ำกว่าสองหมื่นผมว่าจองได้เลยครับ ได้ช่วงไหนก็ไม่ต้องสนใจมากนักหรอก เพราะ

...จอร์เจีย เที่ยวได้ทั้งปีแน่นอน

### วางแผนทริป ###

จะสรุปให้ฟังเลยว่า การวางแผนทริปที่จอร์เจียนั้นค่อนข้างง่ายมาก 

ที่ว่าง่ายเพราะ 

หนึ่ง ผมไม่ต้องวางแผนไรเลย เดินตามลูก ๆ อย่างเดียว น้องตาลกับน้องฟ้ารับหน้าที่วางแผนแพลนทัวร์ ๕๕๕๕๕๕ โดยเฉพาะน้องตาลวางแผนอย่างดีมาก จนผมไม่ต้องทำอะไรเลย ผมมีหน้าที่ทะเลาะกับเอเจนซี่ขายตั๋วอย่างเดียวพอ....แต่เอาเข้าจริงแล้ว แพลนง่ายครับ มีเวลาในประเทศแค่ ๗ วัน(ไม่นับการเดินทาง) ผมว่าได้สัมผัสจอร์เจียแบบเจาะลึกแน่นอน....แล้วจะหลงรักจอร์เจียเหมือนครอบครัวของผม

สอง จอร์เจียเที่ยวได้ทุกเมือง โดยเฉพาะเมืองเล็กเมืองน้อยทางด้านบนที่อยู่แถบเทือกเขาคอเคซัส(ติดรัสเซีย) มันสวยเสียจนบอกไม่ถูก ขนาดเมืองที่เราไม่เคยเจอในรีวิว ก็สวยมากมากกกกกกก ดังนั้นผมว่าใครจะไป อย่าไปซีเรียสกับจุดที่คนอื่นเช็คอินมาแล้วเลยครับ วางแผนเอาเวลาของเราเป็นหลัก ปักหมุดหมู่บ้านที่เปิดดูรูปจากกูเกิ้ลแล้วน่าสนใจก็พอเพราะมันสวยจริง ๆ 

สาม แม้ว่าการขับรถจะใช้เลนขวา พวงมาลัยซ้าย(แต่มีขวาปะปนอยู่บ้าง) แต่ด้วยที่ถนนดีมากกว่าที่คิด ปริมาณรถน้อยกว่าเมืองไทยเป็นสิบเท่า ผมฟันธงว่า สายถ่ายภาพ สายชิลล์ สายสโลว์ไลฟ์ เช่ารถขับดีที่สุด(ถ้าไม่ต้องจ้างคนขับจะเยี่ยมมากเลยครับ....เพราะเสี่ยงกับบุหรี่มาก เราโดนมาแล้ว พี่ท่านพ่นควันรมเราสามชั่วโมงรวด เกือบตายคารถ) ถ้าเราเช่ารถขับ ผมเชื่อว่า เราต้องจอดถ่ายรูปทุกสิบนาที ถนนขับง่าย ราดยางอย่างดี แม้บนเทือกเขาคอเคซัสที่ทะลุไปออกรัสเซีย ถนนดีมาก ราคารถเช่าที่เป็นโฟร์วีลเท่าที่รู้มาแค่ระดับสองพัน(รถค่อนข้างใหม่) นั่งสบายสบายสี่คน เฉลี่ยไม่เกินพันบาทต่อคน(รวมน้ำมันที่ราคาถูกกว่าเมืองไทยอีกเล็กน้อย)

สี่ ทุกเมืองร้านอาหารหาได้สะดวกมากกก ราคาน่าตกใจ ถูกกว่าเมืองไทยครึ่งหนึ่ง แต่อย่าเข้าร้านที่เป็นจุดท่องเที่ยวจ๋า ให้หาร้านที่ออกมาจากย่านนักท่องเที่ยวสักหน่อย เฉลี่ยแล้ว ร้านอาหารดีดีหน่อย เราทานแบบสั่งมาจนเหลือเก็บกลับมาที่พัก เฉลี่ยคนหนึ่งแค่ราว ๑๕๐ บาทเท่านั้น

ห้า ที่พัก อย่าคิดมาก เอาที่ใจกลางที่เที่ยวนั้นแหล่ะ เพราะราคาถูกกว่าเมืองไทยเกือบครึ่งหนึ่ง(จริงๆ) ชอบแบบไหนจองเลยครับ

สำหรับทริปของครอบครัวผมวางแผนที่เที่ยวแบบใช้ที่พักตามจุดท่องเที่ยวเป็นตัวล๊อควันเวลา แล้วค่อยใส่ที่เที่ยวเอา รายละเอียด ผมจะใส่ไล่ไปตามภาพถ่ายในอัลบั้มนะครับ(อาจจะใช้เวลานานหน่อยครับ)

- นอนเมืองหลวง ทบิลิชิ สองคืน พักที่ G Old town ซึ่งเป็นที่พักกึ่งโฮสเทล ใจกลางจุดท่องเที่ยว เดินไปแม่น้ำห้านาที ถ้าพักที่นี่ ไม่ต้องเช่ารถเที่ยวในเมืองเลย เพราะเดินไปได้แทบทุกจุดที่น่าไป ที่พักสะอาด สงบ ชั้นบนสุดห้องสวยที่สุด มองเห็นวิว ๑๘๐ องศา ที่ดีที่สุดคือมองเห็นโบสถ์ใหญ่ใจกลางเมืองชัดเจนด้วย มีระเบียงใหญ่ไว้นั่งสังสรรค์กันได้อย่างดีด้วย

- นอนเมือง Gori สองคืน เราพักที่โฮสเทลเล็ก ๆ ใจกลางเมือง เป็นโฮสเทลที่น่ารัก บริหารโดยตากับยาย ที่ยามว่างก็ต้มเหล้าองุ่นแบบวิธีดั้งเดิม เราได้ชิมด้วย แรงใช้ได้

- นอน Kazbegi สามคืน ที่พักที่เราสุดแสนประทับใจคือ OISHE TERRACE (จำง่าย ๆ โออิชิ)

- กลับมานอนที่เมืองหลวง ทบิลิชิ อีกหนึ่งคืน พักที่เดิมคือ G Old town พักที่เดิมดีอย่างคือ ไปเที่ยวที่อื่น เราสามารถเอากระเป๋าฝากไว้ได้

เหมือนที่เคยบอกว่าจอร์เจียเที่ยวได้ทั้งปี เที่ยวได้ทุกเมือง แล้วแต่จะชอบเลย แต่สำหรับในเมืองหลวงทบิลิชิ มีอะไรมากมายให้ค้นหา ผมอยากให้ใช้เวลาอย่างน้อยสองคืนเต็ม ๆ มีที่เดินเยอะมาก โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำ Mtkvari เดินจนรู้สึกว่า เวลาสองวันสองคืนสำหรับผมยังน้อยไป

เมือง Gori เป็นบ้านเกิดของสตาลิน มีอะไรให้น่าค้นหา เมืองอาจจะไม่มีเสน่ห์มากนัก เพราะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบ คล้ายเมืองนครศรีธรรมราชเลยครับ มีกำแพงเมืองเก่า ป้อมปราการตระหง่านอยู่กลางเมือง ใช้เป็นเมืองพักแล้วหารถออกไปเที่ยวตามเมืองใกล้ ๆ ก็ได้ แต่ถ้าไม่มีเวลามากนัก ผ่านเมืองนี้ไปก็ไม่น่าเสียดายนัก

Kazbegi เป็นไฮไลท์ของทริปเลย ไปเมืองนี้เหมือนจะเข้าไปถึงหัวใจจอร์เจีย สามคืนอาจจะน้อยไปสำหรับผม หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง เส้นทางที่เรานั่งรถผ่านมันสวยเหมือนเมืองสวรรค์(มันเลยต้องตอกย้ำแบบฟันธงว่าไปคราวหน้าต้องเช่ารถขับเอง จะได้จอดตลอดเส้นทาง)

### รถเช่า ###

ไม่น่าเชื่อว่าที่จอร์เจีย คุณภาพของรถเช่า ดีและมีมากกว่าที่คิดไว้เยอะ ราคาถูกกว่าเมืองไทยราวสามสี่สิบเปอร์เซนต์ รถใหม่ และส่วนใหญ่ขับเคลื่อนสี่ล้อ 

เดินเล่นในเมืองเก่า เจอจอดริมถนนค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็น SUV คุณภาพดีดี ถ้าเป็นทริปใหญ่ คนราวเจ็ดแปดคนจะมีคล้ายลีมูซีนคันโตหลังคาสูง สบายมาก ข้างในเป็นแบบวีไอพี(แต่คงไม่มีคาราโอเกะเหมือนบ้านเรา)

ราคาที่พวกเราเช่า ๗ คน เที่ยวหนึ่งวันพันสอง พร้อมคนขับและน้ำมัน(น้ำมันไม่แน่ใจว่ารวมมั๊ย เดี๋ยวถามลูกตาลอีกที)(ถามมาแล้ว ราคานี้รวมน้ำมันด้วย)
ที่เราเช่าแล้วขับเองก็มีเยอะ ราคาถูก และถนนหนทางดีมากกกกก จะงงหน่อยก็ตรงเป็นรถขับขวานี่แหล่ะ ตอนเลี้ยวเข้าวงเวียนผมลุ้นทุกที
ชื่อสินค้า:   ประเทศจอร์เจีย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่