พิธีกรรมของศาสนายูดาห์(ยิว)เเบบย่อ

กลับมาตั้งคำถามเเล้วหลังจากไม่ได้เขียนมานานจากคำถามเลยครับลองหาดูเเล้วมีเเต่เเบบยาวๆครับเช่น

1. วันสะบาโต (Sabbath) หรือซาบัท
ศาสนายิวเชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกใน 6 วัน วันที่ 7 พระเจ้าได้สร้างทุกอย่างสำเร็จหมดแล้วจึงหยุดในวันนี้ และให้วันที่เจ็ดเป็นวันที่จิตสงบ เพื่อระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า วันนี้เริ่ม ตั้งแต่ตอนเย็นพระอาทิตย์ตกของวันศุกร์ไปจนกระทั่งถึงตอนเย็นพระอาทิตย์ตกของวันเสาร์ ชาวยิวจะจัดทำพิธีภายในบ้านด้วยการจุดเทียนและสวดมนต์ จากนั้นจะนำอาหารที่ดีที่สุดมาเลี้ยงกันในตอนเย็นวันศุกร์ แล้วอวยพรด้วยการราดเหล้าไวน์บนขนมปัง พอถึงวันเสาร์ ตอนเช้าทุกคนจะเข้าสถานที่นมัสการ (Synagogue) เพื่อฟังธรรม อ่านพระคัมภีร์โทราห์ ชาวยิวอนุรักษ์บางกลุ่มจะถูกห้ามเปิดไฟ ห้ามขับขี่ยวดยานพาหนะ ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามใช้เงิน แต่กระทำจิตให้สงบเหมือนกับการเข้าเงียบ หรือการทำสมาธิ
2. เทศกาลอพยพ (Passover)
เทศกาลนี้เริ่มในวันที่ 15 ตามปฏิทินของพวกฮิบรู ประมาณเดือนนิซัน (Nisan) ซึ่งอยู่ในราวเดือนมีนาคม ถึงเมษายน เทศกาลนี้มีทั้งหมด 8 วัน การจัดเทศกาลนี้เพื่อระลึกถึงการที่พวกฮิบรูได้อพยพออกจากอียิปต์ พ้นจากความเป็นทาสไปสู่ความเป็นไท เร่ร่อนหา ดินแดนที่พระเจ้าทรงประทานให้ ในสองคืนแรกของเทศกาลนี้จะมีการเลี้ยงอาหารภายในครอบครัว อาหารนั้นได้แก่ ขนมปังไม่มีเชื้อ แกะย่าง ผักขม ฯลฯ
3. งานฉลองพืชผลครั้งแรก หรือพิธีชาวูออท (Shavuot)
งานนี้กระทำหลังจากเทศกาลอพยพแล้ว 50 วัน ตามปฏิทินของฮิบรูอยู่ในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน ซึ่งเรียกว่าเดือนสิวัน (Sivan) เป็นการฉลองให้กับการเก็บเกี่ยวพืชผลในไร่ครั้งแรก ในขณะเดียวกันวันนี้จะตรงกับวันที่โมเสสได้รับบัญญัติ 10 ประการที่ภูเขาซีไน (Mt.Sinai) ชาวยิวจะตบแต่งสถานที่นมัสการ (Synagogue) และบ้านเรือน อย่างสวยงาม โดยใช้ดอกไม้และต้นไม้มาประดับอย่างเต็มที่เพื่อแสดงความอุดมสมบูรณ์ที่พระเจ้าได้ประทานมาให้
4. วันปีใหม่ หรือ รอช ฮาชานาห์ (Rosh Hashanah)
วันปีใหม่ยิวนิยมฉลองกันในวันแรก และวันที่สองของเดือนติชเร (Tishre) คือ อยู่ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม ในวันนี้จะมีการสวดมนต์และฉลองกันด้วยขนมหวาน เพื่อว่าปีใหม่ที่มาถึงนี้ได้หวานชื่นและได้รับสิ่งที่สมหวัง
5. วันชดใช้บาป หรือวันแห่งการแก้ไขความประพฤติ (The Day of Atonement)
ศาสนายิวเรียกวันนี้ว่า ”ยม คิปปูร์Ž”(Yom Kippur) และเชื่อกันว่าวันนี้เป็นวันที่ ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเพราะมีการยกเลิกบาปและคืนดีต่อกัน อีกทั้งเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้สร้างกุศล นิยมฉลองกันในวันที่ 10 ของเดือนติชเร (Tishre) ในวันนี้ชาวยิวจะหยุดงาน หยุดกินอาหาร และไม่ดื่มอะไรทั้งสิ้น แต่จะไปชุมนุมกันที่สถานที่นมัสการ เพื่อสวดมนต์และอภัยบาปต่อกัน
6. งานพิธีกรรมซุกคอท (Sukkot)
เริ่มต้นในวันที่ 15 ของเดือนติชเร แต่เดิมมาเป็นงานฉลองพืชผลในฤดูใบไม้ร่วง ต่อมาได้เป็นการฉลองเพื่อระลึกถึงวิถีชีวิตของยิวที่ต้องอพยพเร่ร่อน และต้องผูกพันชะตาชีวิตอยู่กับพระมหากรุณาของพระผู้เป็นเจ้า พิธีนี้นิยมจัดในบ้านและจำลองสภาพชีวิตที่เคยเดินทางอยู่ ในทะเลทราย
7. งานเลี้ยงปูริม (Purim) หรือวันแห่งโชคชะตา (The Feast of Lots)
งานเลี้ยงฉลองนี้ตรงกับวันที่ 14 ของเดือนอาดาร์ (Adar) คืออยู่ในช่วงเวลาระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม เป็นวันที่ระลึกถึงชัยชนะของพวกยิวที่มีต่อศัตรู นอกศาสนา เป็นวันรื่นเริงวันหนึ่ง ที่มีการแลกของขวัญกันและเลี้ยงฉลองกันด้วยอาหารมื้อพิเศษ นอกจากนี้อาจจะแจกของให้แก่ผู้ยากไร้ด้วย
8. พิธีกรรมเข้าสุหนัต
พิธีนี้กระทำเมื่อเด็กชายมีอายุ 8 วัน พวกเขาจะถูกนำเข้าในที่ประชุม จากนั้นผู้ทำสุหนัตซึ่งเรียกว่า โมเฮล (Mohel) จะทำการขลิบหนังหุ้มปลายองคชาติ ในขณะเดียวกันก็มีการ สวดมนต์ให้เด็กด้วยจึงจะถือว่าเด็กนั้นได้พ้นบาป
9. พิธีบาร์ มิตซวาห์ (Bar Mitzvah)
งานนี้ไม่ใช่เทศกาลประจำปี แต่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตในสังคมยิว คือ เด็กชายยิว เมื่ออายุ 13 ปี จะต้องเข้าพิธีเพื่อแสดงว่าพวกเขาได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่หลังจากที่ผ่านพ้นอายุ 13 ปีไปแล้ว ในวันสะบาโตต่อมา เขาจะต้องอ่านพระคัมภีร์ที่สถานที่นมัสการ และมีโอกาสที่จะได้แสดงสุนทรพจน์ทางศาสนา ในวันนี้จะมีการให้ของขวัญแก่ผู้ที่อายุครบ 13 ปี
10. พิธีแต่งงาน (Kiddushin)
พิธีแต่งงานของยิวเรียก ”คิดดูชิน”Ž จัดว่าเป็นพิธีที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการเพิ่มผลผลิตตามเจตจำนงของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นการสัญญาระหว่างคน 2 คน ที่จะใช้ชีวิต ร่วมกันอย่างซื่อสัตย์ ฉะนั้นจึงต้องมีสักขีพยาน และมอบของมีค่าคือแหวน เพื่อเป็นพยานรักโดยเจ้าบ่าวเป็นผู้ให้แก่เจ้าสาว จากนั้นจึงดื่มไวน์ร่วมแก้วเดียวกัน เสร็จแล้วเจ้าสาวจะทุบแก้ว และมอบเอกสารการแต่งงานให้เจ้าบ่าว
11. พิธีไว้ทุกข์
พิธีนี้เริ่มตั้งแต่ทำศพผู้ตายให้สะอาดแล้วแต่งตัวด้วยชุดขาว จากนั้นนำไปทำพิธีศพ ให้เร็วที่สุดจึงจะไว้ทุกข์ 7 วันหลังจากทำพิธีฝังศพแล้ว ผู้ไว้ทุกข์จะต้องนั่งสงบเสงี่ยมภายในบ้าน ยกเว้นวันสะบาโตจะต้องไปสถานที่นมัสการเพื่อสวดมนต์ บางแห่งอาจจะไว้ทุกข์อีก 11 เดือนในการฝังศพนี้จะมีการสลักชื่อบนป้ายหินในสุสาน เพื่อระลึกถึงผู้ตาย และเมื่อครบรอบทุกปี ญาติพี่น้องจะต้องไปที่สุสานของผู้ตายเพื่อสวดมนต์ให้
12. พิธีสวดมนต์
พวกยิวสวดมนต์ 3 เวลา คือ เวลาเช้า เวลาบ่าย และเวลาเย็น ซึ่งอาจจะสวดที่ใด ก็ได้ เพื่อผูกจิตของตนให้แนบแน่นกับพระเจ้า

เว็บครับผมhttp://book.dou.us/doku.php?id=df404:11
เลยอยากได้เเบบย่อๆครับ(ถ้าไม่ได้จริงๆก็ไม่เป็นไรครับ)
ขอบคุณล่างหน้าครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่