พูดุย เรื่องราคาอสังหา ในฮ่องกง และถูกนำมาเป็นเหตุผลหนึ่งของการประท้วง

กระทู้สนทนา
ราคา ที่อยู่อาศัยและสภาพห้องที่อยู่มันเป็นแบบนี้มาหลายสิบปีแล้วไม่ใช่พึ่งเกิด ก่อนที่ฮ่องกงจะถูกส่งมอบให้จีนเป็นเวลานานด้วยซ้ำ ถ้าคนเคยไปฮ่องกงหลายสิบปีก่อนจะเห็นสภาพ หรือถ้าใครดูหนังฮ่องกงเก่าๆจะเห็น ทั้งนี้เพราะสภาพภูมิศาสตร์ที่มีจำกัด และมีเกาะย่อยๆ ไม่กี่เกาะ ซึ่งปัจจุบันได้มีการขยายพื้นที่การอยู่อาศัยออกไปแต่มันไกล  มันเกิดจากผู้มีอำนาจที่ไหน เกิดจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีต่างชาติเปิดสำนักงานในฮ่องกงเยอะดังจะเห็นได้ว่าคนฮ่องกงพูดภาษาอังกฤษเก่ง และความต้องการที่ดินทำให้นักธุรกิจกว้านซื้อที่ดินเพื่อตั้งสำนักงาน ผสมกับนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มีการเก็งกำไร ทำให้ราคาที่ดินพุ่งสูงจน คนฮ่องกงต้องอยู่บนตึกสูงๆห้องแคบๆ เพราะ demand และ supply มันกันเหมือนทุกแห่งในโลก คนไปเที่ยวฮ่องกงจะเห็นว่ามีตึกสูงๆเต็มไปหมด ข้างล่างเป็นร้านค้าธรรมดาและร้านค้าดัง ส่วนข้างบนในแต่ละชั้นจะเป็นสำนักงานเล็กๆ  guest house ที่พักอาศัยแทบทั้งนั้น
ราคาอสังหาริมทรัพย์ ฮ่องกงมันเริ่มตั้งแต่ยุคเป็นประชาธิปไตยภายใต้การปกครองของอังกฤษ ที่มีเสรีทางการค้า ต่างชาติเปิดสำนักงานมาก มายและ เป็นศูนย์กลางทางการเงิน ภายใต้ที่ดินจำกัดและความต้องการสูง มันก็ทำให้ราคาสูง เป็นกันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการปกครองในระบอบการปกครองแบบใดก็ตาม นิวยอร์ค โตเกียว สิงค์โปร์ก็เป็น ประชากรในฮ่องกง  เกือบ  7 ล้านกว่า สิงค์โปร์ 5 ล้านกว่า ถึงแม้พื้นที่ทางสิงค์โปร์ จะเล็กกว่า แต่พิ้นที่ทางธุรกิจและการอยู่อศัยที่ไม่ไกลจากแหล่งทำงาน ไม่ต่างกันมากแต่ประชากรฮ่องกงมากกว่าถึง 2 ล้านคน
เมื่อจีนเข้ามาปกครอง คนจีนที่มีเงินเข้ามาทำธุรกิจในฮ่องกง เขาก็ซื้ออสังหาริมทรัพย์จากคนฮ่องกงและชาวต่างชาติที่ครอบครอง ในราคาแพง มันเป็นเรื่องของ demand supply คนขายอยากขายแพง คนซื้ออยากซื้อถูก ไม่มีนักธุรกิจคนไหนอยากซื้อของแพง ทำให้ราคามันถีบตัวสูงขึ้น เป็นเรื่องของการค้าขาย ถามว่ารัฐบาลออกกฎหมายได้ไหมว่า ราคาอสังหาที่มีห้ามขายในราคาเกินกว่านี้ ห้ามคนซื้ออสังหาในราคาเกินกว่านี้  ถ้าเป็นแบบนี้จะเป็นประชาธิปไตยได้เหรอ ยิ่งถ้ารัฐบาลไปสั่งและควบคุมยิ่งโดนด่า ประท้วงหนักกว่าปัจจุบัน แล้วคนที่ขายให้คนจีนคือใครหละ ถ้าไม่ใช่คนฮ่องกงเองและชาวต่างชาติในยุคอังกฤษปกครอง 
แน่นอนปัญหาเรื่องราคาอสังหาที่ถีบตัวสูงขึ้นทำให้คนรุ่นใหม่ที่จบการศึกษาไม่สามารถซื้อได้  ถ้าจะแก้รัฐบาลต้องออกคำสั่งแทรกแซง ก้าวก่ายการค้าเสรี ก้าวก่ายการปกครอง 1 ประเทศ สองระบบ คนฮ่องกงบางส่วนก็ใช้ข้ออ้างเล่นงานจีนได้  ระบบการศึกษาของฮ่องกงดีมาก มีมหาวิทยาลัยติดระดับโลก คนเก่งๆ ฮ่องกง ย้ายไปอยู่แคนนาดามากมายและประเทศอื่นๆ จีนเองก็มีการรับนักศึกษาจบใหม่เข้าไปทำงาน คนเก่งเหล่านั้นรู้ดีถึงปัญหาของฮ่องกง เขาโชคดีกว่าคนฮ่องกงอื่นเพราะศักยภาพเขาสูง
สรุปแล้วงานนี้โทษจีนไม่ถูก เพราะต้นตอ ปัญหา มันสั่งสมมานานหลายสิบปี มันมีเรื่องของ demand supply พื้นที่ที่คนอยากอยู่อาศัยน้อยเมื่อเทียบกับประชากร เเข้ามาเกี่ยวข้อง และผู้บริหารที่ปกครองฮ่องกงไม่ดำเนินการแก้ไขและออกมาตรการอะไรตั้งแต่แรก ตั้งแต่ยุคภายใต้การปกครองของอังกฤษ ถ้าเป็นจีนเจอปัญหานี้แต่แรก จีนเขาจัดการได้เพราะระบอบการปกครองคอมมูนิสต์ สมัยก่อนจีนยากจน ประชากรมากมาย ไม่เจริญแบบนี้ แต่ด้วยระบอบการปกครองที่เผด็จการแต่ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติ  เขาถึงจัดการประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติความอดอยากและนำพาประเทศสู่ความยิ่งใหญ่ และค่อยๆผ่อนคลายความเข้มงวด ปัจจุบันไปถามคนจีนดูว่าเขารู้สึกว่าตนเองถูกกดขี่ไหมภายใต้ระบอบการปกครงแบบเผด็จการ เขามีความภูมิใจในชาติของตัวเองด้วยซ้ำ
ดังนั้นระบอยการปกครองไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ข้อสำคัญคือผู้นำที่บริหารบ้านเมืองเพื่อชาติและประชาชน ไม่ใช่เผด็จการในคราบประชาธิปไตย โดยเอาคำว่าประชาธิปไตยมาอ้างเพื่อล้มอีกฝ่ายหนึ่งแล้วให้ตัวเองขึ้นครองอำนาจเอง นักประชาธิปไตยโกงบ้านเมืองทำประเทศยากจนมีให้เห็นในหลายประเทศ เวเนซุเอล่า เป็นตัวอย่าง นักประชาธิปไตยแย่งชิงอำนาจกันจนบ้านเมืองแตกแยก แถมไปเอาต่างชาติเข้ามาแทรกแซงจนประเทศล่มจม ฝ้ายหนึ่งไปเอาอเมริกาเข้ามา อีกฝ่ายก็ไปเอารัสเซียเข้ามา ขนอาวุธห้ำหั่นกันจนประเทศกลายเป็นสงครามการเมืองก็มี ซีเรีย เป็นตัวอย่าง
ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเรามีเวียดนามที่กำลังโตเร็วแบบก้าวกระโดด แน่นอนเขายังอยู่ห่างจากเราพอสมควร แต่ถ้าเราประมาทไม่นานเขาก็ขึ้นมาทัดเทียมและแซงเราได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่