เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีกับ Smart TV เพราะปัจจุบันนี้ทีวีรุ่นใหม่ที่ผลิตออกมาก็ปรับโฉมเป็น Smart TV กันหมดแล้ว บ้างก็เรียก Digital TV บ้างก็ใส่ระบบปฎิบัติการ Android แล้วยกว่าเป็น Android TV ที่ทำให้ทีวีใช้งานง่ายขึ้น เป็นมากกว่าแค่ทีวีรับสัญญาณการออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์ทั่วไป แต่ปรับโฉมให้กลายเป็นศูนย์กลางความบันเทิงไปแล้ว ซึ่งวันนี้จะขอมารีวิวกับทีวีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัววางจำหน่ายได้ไม่นาน ชื่อแบรนด์ SKYWORTH รุ่น UB7500 ซึ่งทีวีรุ่นนี้จัดกลุ่มประเภทให้เป็น AI TV เพราะว่าออกแบบมาจากแนวคิดการผสานเทคโนโลยี AI+IoT เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้เจ้า SKYWORTH UB7500 กลายเป็นทีวีอัจฉริยะควบคุมการทำงานอุปกรณ์เชื่อมต่อ wifi ต่างๆ ในบ้านให้บ้านกลายเป็น Smart Home ได้เลย

วันนี้เรามาแกะกล่องรีวิว SKYWORTH UB7500 ขนาด 55” กัน

ทำความรู้จักแบรนด์ SKYWORTH

ก่อนอื่นถ้าใครยังไม่รู้จักแบรนด์ก็มาทำความรู้จักกันก่อนเลย SKYWORTH หรืออ่านว่า “สกายเวิร์ท” เป็นแบรนด์ทีวีชั้นนำที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของประเทศจีน มีวางจำหน่ายทั่วโลก ยุโรป อเมริกา และเอเชีย เป็นแบรนด์ที่ติดอันดับ 5 ของโลกเลยทีเดียว

ดีไซน์ของ SKYWORTH AI TV UB7500

SKYWORTH AI TV รุ่นนี้ดีไซน์แบบ Frameless ไร้ขอบ ทำให้ดูทันสมัยเข้ากับทุกมุมการจัดวางในบ้าน ซึ่งเป็นการออกแบบที่ได้รางวัลดีไซน์ด้านผลิตภัณฑ์จากงาน 2018 Red-dot Design Award ส่วนขอบล่างเป็นเหล็กสีเงินแบบเดียวกับขาตั้งที่แข็งแรง น้ำหนักเบาเพียง 11.2 kg หน้าจอกว้างถึง 55”

จอกว้าง 55” คมชัด รองรับ 4K HDR

จอของรุ่นนี้เป็นแบบ LED ที่มีความละเอียดระดับ UHD 4K โดยความพิเศษจะอยู่ที่เทคโนโลยีประมวลผลภาพและแสดงผลภาพ HDR อาทิ การแสดงผลคอนเทนต์ HDR10 และ HLG ที่ทำให้เราเห็นรายละเอียดส่วนมืดส่วนสว่างในภาพได้ชัดเจน มีมิติ และสีสันสดใสคมชัด เช่น เวลาดูภาพยนตร์ก็ให้รายละเอียดที่คมชัดทุกอณูสี เพิ่มอรรถรสในการรับชมได้สมจริงยิ่งขึ้น ซึ่ง SKYWORTH ได้พัฒนา Trochilus Extreme (TM) (PQ Engine ของ SKYWORTH) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ SKYWORTH ที่เข้าไปด้วย ช่วยเพิ่มค่าความคมชัดให้เข้ากับความสดใสของสีสัน ทำให้ UB7500 มีการแสดงผลความละเอียดสูง สามารถปรับโหมดภาพได้ตามที่ต้องการ เช่น โหมด Vivid เร่งความอิ่มสี โหมด Sport ลดความเบลอ โหมด Movie โหมด Game และโหมดประหยัดพลังงานเป็นต้น แต่ที่เป็นไฮไลท์เลย ก็คือสามารถปรับสีผิวของบุคคลในภาพให้ใกล้เคียงความจริงได้ด้วย

จอ Infinity Screen ของ UB7500 ดีไซน์ได้บางเฉียบเพียง 1 มิลลิเมตร ทำให้มองภาพได้กว้างขึ้น สบายตาขึ้น แถมไม่เปลืองเนื้อที่ในการจัดวาง แถมยังมี Eye Protection ลดแสงสีฟ้าเพื่อป้องกันดวงตาจากอาการประสาทตาอักเสบ ที่มีสาเหตุมาจากการจ้องมองแสงสีฟ้า

มาดูเรื่องฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีกันบ้าง...

ระบบปฏิบัติการใหม่สุด Android 9.0

สำหรับระบบปฏิบัติการบน SKYWORTH UB7500 ถือว่าล้ำสุดๆ นะครับเพราะเป็น Android 9.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด เร็วสุด ที่ช่วยให้การประมวลผลต่างๆ ของ UB7500 ทำให้อย่างรวดเร็วขึ้นมาก ซึ่งรุ่นนี้มีจุดเด่นที่ Google Play Store และ Google Assistant ที่สามารถดาวน์โหลด Games หรือ Application ได้เหมือนใช้งานบนมือถือเลย ที่สำคัญที่ผมชอบสุดคือ การใช้งานคำสั่งเสียงผ่านรีโมท

เพียงกดปุ่มเริ่มต้นคำสั่งเสียง แล้วพูดสิ่งที่ต้องการ Google Assistant บน SKYWORTH UB7500 ก็พร้อมทำงานเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะให้เราทันที เช่น สอบถามสภาพอากาศ, เปิดใช้งาน Netflix หรือสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในบ้านที่เชื่อมต่อกับ UB7500 ไว้แล้ว ก็ได้เช่นกัน ซึ่งใช้ภาษาไทยได้เลยนะ SKYWORTH ก็จะตอบเราเป็นภาษาไทยเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถนำอุปกรณ์เสริม เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด จอยเกมส์ หรือไมค์มาเชื่อมต่อได้อีกด้วย

Chromecast built-in SKYWORTH รุ่น UB7500 ก็สามารถแชร์ภาพวิดีโอ เพลง หรือ Cast หน้าจอสมาร์ทโฟนให้ไปแสดงผลขึ้นทีวีได้สบาย ๆ ด้วยเช่นกัน

ระบบเสียง Dolby Audio + DTS TruSurround

เรื่องระบบเสียง SKYWORTH UB7500 ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งมากจาการผสานเทคโนโลยีระบบเสียง Dolby Audio และ DTS TruSurround เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความคมชัด และกระจายเสียงให้โอบล้อมจากรอบทิศทาง ซึ่งให้เสียงกระหึ่มเหมือนนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว

Built-in Netflix และ Youtube

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นสำคัญของสมาร์ททีวียุคปัจจุบันที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การรับชม Netflix และ Youtube ผ่านทีวี ซึ่ง UB7500 ก็มีฟังก์ชั่น Netflix and Youtube Built-in ที่ปุ่มบนรีโมทเลย เพียงคลิกเดียวก็เข้าสู่หน้าจอ Netflix หรือ Youtube ได้ทันที

หรือจะโหลด Application ความบันเทิงอื่นๆ เพิ่มก็ทำได้ อย่างเช่น Line TV ก็สามารถโหลดผ่าน Google Play Store มาดูซีรีย์เจ๋งๆ ผ่าน Line TV บนจอ SKYWORTH UB7500 ได้เลย

การเชื่อมต่อและพอร์ทต่างๆ

SKYWORTH UB7500 รองรับการเชื่อมต่อได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wifi (รองรับเฉพาะคลื่น 2.4GHz) และ Bluetooth (5.0) UB7500 ก็ทำได้ หรือจะเสียบสายนู่นนี่ รุ่นนี้ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานครบครัน ทั้งพอร์ต USB 2 พอร์ต , พอร์ต HDMI 3 พอร์ต เป็นต้น ที่สำคัญรุ่นนี้เราไม่ต้องหากล่อง Digital TV มาต่อเลย เพราะเค้ามีภาครับสัญญาณทีวีดิจิทัลมาให้ในตัว พูดง่าย ๆ ก็คือเสียบปลั๊กปั๊ปก็ดูทีวีได้ทันทีแต่หากต้องการอยากให้ภาพคมชัดมากขึ้น เพิ่มช่องสัญญาณได้อย่างครบถ้วน เพียงแค่หาเสาอากาศมาเชื่อมต่อก็สามารถรับชมภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รับประกันการซ่อม นาน 3 ปี

ถือเป็นแบรนด์ทีวีที่ให้การรับประกันนานที่สุดก็ว่าได้ ถึง 3 ปี ซึ่งใครที่กำลังลังเลเรื่องบริการหลังการขายก็หมดกังวลไปได้เลย SKYWORTH มีศูนย์บริการตัวแทนในแต่ละภาค ซึ่งเท่าที่เช็คดูก็มีครอบคลุมเกือบทุกจังหวัดเลยนะ สามารถตรวจสอบศูนย์บริการใกล้บ้านได้ที่นี่ https://skyworththailand.com/service-center/ หรือจะเรียกใช้บริการ On-side ซ่อมให้ถึงบ้านก็ทำได้เช่นกัน

สรุปโดยรวมก็คือ SKYWORTH UB7500 รุ่นนี้ ครบจบในเครื่องเดียว มีทีวีเครื่องเดียวก็สามารถเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น Smart Home ได้ มีระบบปฏิบัติการที่ฉลาดและเร็วมากอย่าง Android 9.0 Pie เป็น AI TV ที่มี Google Assistant มาเป็นผู้ช่วยด้วยคำสั่งเสียงง่ายๆ ผ่าน Remote Control เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ง่าย สะดวก โหลดติดตั้งแอปเพิ่มได้ผ่าน Google Play Store มีระบบเสียงรอบทิศทาง และฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ความความบันเทิงได้ดีมากราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,990 บาทเท่านั้นสำหรับหน้าจอ 43 นิ้ว ซึ่งเทียบกับฟังก์ชั่นขนาดนี้ ผมถือว่าคุ้มมากครับ

ขอสรุปจุดเด่นของ SKYWORTH UB7500 กันอีกครั้งให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้เลย

จุดเด่น

- ระบบ Android 9.0 มาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ประมวลผลได้เร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่า
- มี Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถสั่งการด้วยเสียงผ่านรีโมทได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องพิมพ์
- มีเทคโนโลยี EYE Protection ลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสายตา
- รองรับเทคโนโลยี HDR 10 และ HLG ซึ่งเป็นที่นิยมและหารับชมได้ในปัจจุบัน
- ระบบเสียง Dolby Audio และ DTS TruSurrounds
- รับสัญญาณ Digital TV ได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องแยก
- รับประกัน 3 ปี
- มีบริการซ่อม On-side ถึงบ้าน (สำหรับทีวีขนาด 40 นิ้วขึ้นไป)

ข้อสังเกต

- หน้าจอกว้างแบบไร้ขอบ ส่วนขอบล่างเป็นเหล็กสีเงินแบบเดียวกับขาตั้งที่แข็งแรงมั่นคง
- รองรับ Wifi 2.4 GHz กระจายสัญญาณในพื้นที่ได้กว้างกว่า

สำหรับใครที่เริ่มสนใจ SKYWORTH มาเป็นทางเลือกใหม่ของ AI TV ที่ฟังก์ชั่นครบในราคาคุ้มค่าแบบนี้ละก็SKYWORTH มีวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปเลย เช่น เดอะมอลล์, พาวเวอร์บาย, เมกาโฮม และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือจะเข้าไปดูข้อมูลรุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.skyworththailand.com หรือสอบถามข้อมูลที่ facebook SKYWORTH Thailand

[Advertorial]