ควรรับมือกับคุณพ่อที่พยายามติดต่อเรามาตั้งแต่เราเริ่มทำงานยังไงดีคะ

ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะ ว่าคุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเด็ก ที่ผ่านมาแม่เราเลี้ยงดูเราเองคนเดียวตลอด
ค่าเทอมต่างๆ พ่อเราอย่างมากแค่พาเราไปดูหนังกินข้าวเดือนละครั้ง สองเดือนครั้ง เหมือนไม่ได้ห่างไปไหนมาก
ก่อนเราเรียนจบสักพัก พ่อเคยเปรยตอนพาเราไปกินข้าวว่าถ้าเราทำงาน เขาจะให้เราค้ำบ้านให้ พูดเหมือนเชิงขำๆค่ะ

พอเราเรียนจบ พ่อก็ติดต่อมาบ่อยขึ้น พอเราได้งานก็ถามเงินเดือน แม่บอกว่าไม่ต้องไปบอก แต่สุดท้ายเขาถามจี้จนเราต้องบอกอยู่ดี
ทำงานได้เดือนเดียวพ่อก็โทรมาบอกให้ไปเซ็นค้ำซื้อรถให้หน่อย แต่เราก็ปฏิเสธไปค่ะ ช่วงนั้นก็เครียดๆพักนึง ใจนึงก็สงสารเขา ตัวคนเดียว

แต่พอผ่านเรื่องนี้ไป เขาก็โทรมาถี่ขึ้น โทรมาบ่นเรื่องเงืนตลอด พูดเหมือนฟีลไม่ได้อยากได้อะไรจากเรา แล้วก็บอกว่ารู้สึกผิดที่ไม่มีเวลามากินข้าว
กับเราแล้วเพราะต้องทำงานผ่อนรถ เหมือนเราไม่ได้เซ็นค้ำให้พ่อเลยต้องจ่ายหนักขึ้น

ตอนนี้เขาโทรมาอาทิตย์ละสองครั้ง พยายามซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้กินที่ทำงาน  แต่ทุกครั้งก็จะมีเรื่องเงินมาพูดตลอด จนเราไม่อยารกับโทรศัพท์แล้ว
ตอนนี้เรากับแม่พึ่งซื้อบ้านกันได้สักพัก ลำพังช่วยแม่ผ่อนบ้าน รถ ก็ไม่เหลือแล้ว ไม่รับสายจากพ่อเลยเราก็ไม่กล้า เผื่อพ่อเป็นอะไรขึ้นมาเพราะพ่ออยู่คนเดียวด้วย ตอนนี้เลยอึดอัดทุกครั้งที่เขาโทรมาเลยค่ะ 

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็นนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
ถ้าพ่อสวนว่าลูกมีเงินเดินห้าง แต่พ่อไม่มีเงินกินข้าว
งั้นบอกพ่อว่า งั้นพ่อไม่ต้องซื้อข้าวซื้อของมาให้หนูหรอก เก็บไว้กินข้าวเถอะ
ทำงานหนักจะเดินห้างแล้วยังไง เงินของหนูเนอะ จะใช้ยังไงก็ได้

เลิกเกรงใจเพราะขึ้นชื่อว่าพ่อ  หากเขาไม่ได้ทำหน้าที่พ่อเลย (ค่าเลี้ยงดูไม่มี ไม่เคยเลี้ยง) อย่างมากถ้าอยากชดเชยที่พ่อพาไปดูหนัง น้องก็พาพ่อไปกินข้าวเดือนละ1-2ครั้งตามจำนวนปีที่น้องเคยได้รับจากพ่อค่ะ จบ ไม่ต้องไปอะไรมาก

ไม่ใช่คนปล่อยน้ำเชื้อทุกคนสมควรถูกเรียกว่าพ่อนะคะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่