ตุรกี นี่นี้ใครครอง – 9 วัน 8 คืน (เดือนตุลาคม) EP.1 Selçuk (Ephesus), Pamukkale มีแต่คำว่าว้าววว และ เมี๊ยวววว

[CR] ตุรกี นี่นี้ใครครอง – 9 วัน 8 คืน (เดือนตุลาคม) EP.1 Selçuk (Ephesus), Pamukkale มีแต่คำว่าว้าววว และ เมี๊ยวววว

กระทู้รีวิว

เที่ยวต่างประเทศ ประเทศตุรกี บันทึกนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ Backpack

สวัสดีทุกคน

กลับมาอีกครั้งกับการเขียนรีวิว เหนือสิ่งอื่นใด บอกไว้ก่อน เราอดขึ้นบอลลูน T.T แต่ก็นั่นแหละ มันคือดวงอะนะ นอกจากบอลลูนที่ทำให้เราอยากมาแล้ว อีกอย่างก็คือ อยากรู้ว่า น้องแมว เยอะจริงแบบที่ทุกคนบอกหรือเปล่า เราไปหาคำตอบกันในกระทู้นี้เลยจ้า

แพลน(เราไปช่วงเดือนตุลาคม อากาศดีมาก แต่ลมแรง เลยอดบอลลูน เจอฝนแค่วันเดียว)

Day0 - ขึ้นเครื่อง BKK>Muskat>Istanbul
Day1 – Istanbul>Izmir
Day2 – Ephesus
Day3 – Pamukkale
Day4 – Cappadocia (Red Tour)
Day5 – Cappadocia (Green Tour)
Day6 – Cappadocia > Istanbul
Day7 – Istanbul
Day8 – Istanbul
Day9 – Istanbul

ค่าใช้จ่าย

-ตั๋วเครื่องบิน Oman Air - 17K (หาได้ถูกสุดในตอนนั้นแล้ว)

-ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ Istanbul>Izmir - 900 THB, Nevşehir>Istanbul - 1500 THB

-ค่าโรงแรม ประมาณคนละ - 4500 THB (7 คืน มีนอนบนรถจาก Denizli>Goreme 1 คืน)

-ค่ากิน+ค่าเดินทาง+ค่าเที่ยว - 9000

ปล. ส่วนใครจะขึ้น Balloon - ราคา 6000 - 10000 (แต่เราไม่ได้ขึ้นเพราะสภาพอากาศแย่ ได้เงินคืน 6000)

Day1 - Selcuk

เข้าเรื่อง เริ่มจากนั่งเครื่อง 5 ชั่วโมงเต็มๆ ไปลง มัสกัต แม่เจ้าโวย สนามบินคือดูทันสมัยมากเว่อร์ จากที่บ่นอุบอิบ กับการนั่งเครื่อง หายเมื่อย แถมถ้าใครอยากเล่น Wifi สามารถไปเอาได้ที่เครื่อง Kios ถ้าหาไม่เจอ ถามพนักงานเอาได้ อยู่แถวๆ Information นั่นแล นั่งรอชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้เวลาขึ้น Turkish Airline ไป Istanbul เด้อ แต่ ไม่เจอเพียงแค่นั้น ชีวิตคือการเดินทาง นั่งหลังแข็งไปอีก 5 ชั่วโมง เราต้องไปต่อเครื่องในประเทศอีก รอบนี้ไป Pagesus Air เพื่อไป Izmir ตอนแรกอยากไป Cappadocia ก่อน แต่หลังจากไปดูราคาตั๋ว 3000 ต่อคน ไม่ไหวอะ เลยไป Izmir ก่อนก็ได้ 900 บาท รวมกระเป๋า หลังจากนี้การผจญภัยก็เริ่มขึ้น

หลังจากได้กระเป๋าเราต้องหาทางไป สถานีรถไฟ ใช่ การเดินทางเราไม่จบจ้า ไปต่อรถไฟ ไป Selcuk สถานีรถไฟ หาง่ายมาก ออกจากสนามบินให้เดินไปทางซ้าย พวกเธอจะเห็นสถานีรถไฟอยู่ ถึงตรงนี้ทุกคนคิดชิวแน่นอน ไปถึงซื้อตั๋วพร้อมถามเจ้าหน้าที่ว่า ไป Selcuk มีรอบกี่โมง พนักงานบอกว่ารอบ 11:45 เราก็ซื้อตั๋ว และรอ แต่ชีวิต Lost in translation มีรถไฟมาจอด เราและคนไทยอีกกรุ๊ปนึง โดยเรียกให้ขึ้น พร้อมกับพนักงานทำภาษามือ หมุนๆ นาทีนั้น คืออะไร!! โอเคขึ้นไปก่อนแบบงงๆ 55 ต้องขอบคุณคนไทย อีกกรุ๊ปนึงที่มาหลงด้วยกันในวันนั้นนะคะ

เพราะพอนั่งไปสักพักใกล้ๆ ถึง Tepekoy บนหน้าจอมันไม่มีเส้นทางต่อ คนไทยที่มาหลงด้วยกันบอก “พี่ครับ ผมว่าเราต้องเปลี่ยนสาย” 55 นาทีนั้นถามใครก็ไม่ได้ โอเคลงไปก่อน

หน้าตาตั๋วรถไฟ ถ้าจำไม่ผิด 22TL ต่อคน

หลังจากลงเสร็จเจอเด็กวัยรุ่น ตุรกี ลองถามๆดู เค้าก็บอกว่ารอตรงนี้แหละ แต่ก็นะหวั่นใจเลยเดี๋ยวลอง Google ดู แล้วก็เจอว่า ปกติถ้ารถ Local สำหรับไป Selcuk มันต้องมาเปลี่ยนสายที่ Tepekoy โอเค รออีกไม่นานประมาณ 15 นาที ก็มีรถไฟมา นั่งแค่ไม่เกิน 10 นาที ในที่สุดเราก็มาถึง Selcuk

หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จได้เวลาออกไปเดินเที่ยวแล้ว เราสองคนตัดสินใจกันว่า จะไป ปราสาท ที่เห็นจากหลังห้องพัก นั่งคือ Ayasuluk Castle โอเค โก

Ayasuluk Castle

กว่าจะถึงปราสาทมันไม่ง่ายขนาดนั้น พวกเราต้องเดินขึ้นเขา ถึงจะไม่ได้สูงอะไรมาก แต่ขอบอกว่าเหนื่อย ด้วยความบินจาก ไทย จนถึงที่นี่ จัดไปเต็มๆ เกือบ 14 ชั่วโมง จะไม่เหนื่อยได้อย่างไร แต่ใจสู้ จุดหมายมีไว้พุ่งชน

ระหว่างทางก่อนปีนไปถึงปราสาท เจอซากอารยธรรม เต็มไปหมดเลย

ในที่สุดการปีนเขาเตี้ยๆ ของเราก็สิ้นสุด ข้างหน้าคือ Saint John Cathedral หรือ ที่นี่เขียนว่า Saint Jean นี่ก็อ่านว่า เซนต์จีน 55 แต่มันคือ เซนต์จอห์น ตะหาก

ข้างในเรียกได้ว่า มีความอลัง พอสมควร เรียกว่าประทับใจ หายเหนื่อยเลย ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อน แต่แบบมันน่าถ่ายรูปไปทุกที่ โดยเฉพาะ วิว Ayasoluk Castle ข้างหน้า อารมณ์แบบ เรากำลังจะตีเมือง คือกำแพงปราสาท คือยิ่งใหญ่ อย่างกับในหนัง