HP ได้เปิดตัว Pavilion Gaming 15 รุ่นล่าสุดที่จะเน้นในเรื่องของราคาไม่แพงเกินไปและเน้นสายเล่นเกมที่จับต้องได้ง่ายครับในครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนงานออกแบบให้ดูสวยงามขึ้นและเท่ขึ้นพอสมควรเลย และเป็นการออกแบบเหลี่ยมมุมที่คล้ายๆกับรุ่นอื่นๆหรือพวก Spectre ของค่ายนั้นเองแอบสวยงามและดูดีกว่าเดิมเยอะเลยครับ ในครั้งนี้มาพร้อมกับราคาเริ่มต้นกันแค่ 19,900 บาทเท่านั้นในรุ่นเริ่มต้น Ryzen 5 และใช้งานการ์ดจอ GTX 1050 ครับ แต่ในรุ่นที่เราจะเอามารีวิวนั้นจะใช้งาน Ryzen 5 ร่วมกับการ์ดจอ GTX 1650 ซึ่งจะอยู่ในเรทราคา 23,900 บาทครับผม ส่วนหน้าจอนั้นก็จะได้ตัวหน้าจอ 144Hz ครับแต่ถ้าใครไม่เน้นก็จะมีหน้าจอ 60Hz ให้เลือกใช้งานกันในราคา 21,900 บาทเท่านั้น ส่วนในแง่ของการใช้งานด้านอื่นๆจะเป็นยังไงสำหรับ Ryzen จากค่ายแดง AMD และการ์ดจอ GTX
HP Pavilion 15 ครั้งนี้เปิดตัวมาพร้อมกับการใช้งานค่ายแดง AMD Ryzen 5 3550H ทำงานร่วมกันกับ GTX 1650 4GB DDR5 และให้ RAM 8GBDDR4 2666MHz และ SSD 512GB PCle M2 ครับ สามารถเพิ่ม RAM และ HDD 2.5 ได้เพิ่มเติมครับ ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ IPS 144HZ FHD รองรับ sRGB 96% ขนาด 15.6 นิ้ว ในรุ่นที่เรารีวิวนะครับ ซึ่งรุ่นอื่นๆก็จะมี 60Hz ให้เลือกใช้งานกันด้วย มาพร้อมกับ Windows 10 และ ประกัน On Site 2 ปี รวมถึงในรายละเอียดอื่นๆเช่นลำโพงจากทาง Bang&Olufsen อีกทั้งยังใช้งาน Bluetooth 5.0 และ มีขนาดที่เล็กลงและน้ำหนักที่ 2.3 กิโล ส่วนการออกแบบในภาพรวมนั้นก็ยังคงสีเขียวดำ และ มีไฟบนคียบอร์ดสีเขียวมาให้ใช้งานกันครับ และขอบหน้าจออะไรก็บางขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนสีนั้นจะมีทั้ง ดำม่วง และ ดำเขียว แล้วแต่ชอบครับผม ซึ่งสีของมันก็จะเปลี่ยนไปทั้งโลโก้ด้านหลัง และ ตรงแป้นพิมพ์ด้วยครับในส่วนของสี
สำหรับทางด้านราคาของเจ้า HP มาพร้อมกับทั้งหมด 4 รุ่นย่อยครับ
- Ryzen 5 3550H / GTX 1050 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 60Hz ราคา 19,900 บาท
- Ryzen 5 3550H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 60Hz ราคา 21,900 บาท
- Ryzen 5 3550H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 23,900 บาท
และตัว Ryzen 7 นั้นจะมีตัวเดียวเท่านั้นในรุ่นสูงสุดของรุ่นนี้
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 30,900 บาท
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่ยังคงความเหลี่ยมสัน ทำมุมสวยๆของค่ายไว้ที่คุ้นเคยกันในรุ่นอื่นๆของค่ายนี้และเล่นกับโทนสีเขียว เป็นโทนประจำของค่ายเลยและมีขนาดเล็กลง บางเบาขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆของ Gaming ค่ายนี้ครับ ส่วนขอบหน้าจอ หรือจะเป็นวัสดุ ที่ใช้งานวัสดุแบบดำด้านออกแบบคล้ายๆโลหะแต่จริงๆของมันจะเป็นวัสดุพลาสติกแบบที่เจอกันได้ในหลายๆตัวในเรทราคาประมาณนี้ครับแต่เก็บงานอะไรดีเหมือนกัน ในภาพรวมการออกแบบ วัสดุนั้นไม่ได้ติดปัญหาเลย มีความแน่นแข็งเรงพอสมควรและดีไซน์ค่อนข้างสวยดูทันสมัยดีขึ้นเยอะเลย
ด้านหลังนั้นจะเป็นวัสดุสีดำด้านตัดกับสีเขียวตรงโลโก้ ซึ่งตรงโลโก้นั้นจะเป็นสีเงาๆเขียวๆสะท้อนแสงได้สวยงามและเด่นมากๆ แต่ฝาหลังแบบนี้บอกเลยว่าอาจจะติดรอยนิ้วมือได้ง่ายเลยแหละ ส่วนชื่อรุ่นนั้นจะเขียนอยู่ตรงด้านขอบล่างของเครื่องครับ เมื่อดูข้างในกันบ้าง ในรุ่นนี้หน้าจอแอบยกให้สูงขึ้นเลยทำให้ขอบล่างนั้นมีมากกว่าด้านอื่นๆแต่ก็ช่วยในเรื่องของมุมมองได้ดีไม่ต้องก้มมากเกินไป หน้าจอแบบด้านทำให่สบายตาเวลาเล่นเกม และ ขอบบางขึ้น สวยงามขึ้น และกล้องหน้าก็ยังคงมีอยู่ไม่ได้ตัดออกไปไหน ส่วนแป้นพิมพ์สีเขียวสวยงาม โดดเด่นเลยแหละเปลี่ยนสีไม่ได้นะครับ แต่ปรับความสว่างได้ พร้อมกับลำโพงในขอบบน และ การันตีเสียงจากทาง Bang and Olufsen เลยทีเดียว
มาส่องฐานของเครื่องนั้นจะเห็นเลยว่ามันมีการออกแบบที่เรียบสวยและดูดีมากๆ คือดูดีและยังมีช่องระบายความร้อนที่ยาวและระบายได้ดีเลยแหละ ด้านฐานนั้นรองรับการแกะเปลี่ยนได้ และจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนเป็นแถบยาวด้านหลัง ต่อเนื่องเลยและมียางรองมาให้ 3 จุดทั้งด้านหน้า 2 จุดและด้านหลัง 1 จุดเป็นยางยาวเต็มตัวเครื่อง และมีส่วนที่สูงกว่าตรงอื่นเล็กน้อยอาจจะช่วยในเครื่องของการไหลเวียนอากาศได้นิดหน่อยไม่ให้มันติดกับพื้นมากเกินไป สว่นด้านในถ้าจะแกะนั้นสามารถทำได้ครับ ข้างในมี HeatPipe 2 เส้นหลักๆ พร้อมพัดลม 2 ตัว รวมถึงช่องว่างสำหรับใส่ HDD SATA 2.5 และสามารถอัพแรมได้อีก 1 แถว ครับใช้งานตัว RAM 2666 DDR4 นะครับ
มาส่องข้างในกันต่อในส่วนนี้จะเป็นลำโพงหลักของเครื่องทั้งหมด วางไว้ข้างบนยิงตรงๆมาเลยครับไม่ได้ไว้ส่วนฐานเครื่องแน่นอนว่าลำโพงมีมาให้ไม่ได้ยาวเต็มเท่าไรหลักๆมี 2 จุดครับ แต่ก็เป็นการออกแบบของรุ่นนี้ทำให้ต่อเนื่องและสวยขึ้นในส่วนของการออกแบบช่องลำโพงซึ่งเมื่อมองไปยังช่องระหว่างขอบจอนั้นจะเป็นช่องระบายอากาศ ออกไปด้านหลัง และไหลออกไปไม่ได้ขึ้นมาข้างบนครับทำให้เรื่องระบายความร้อนนั้นโอเคเลยสำหรับรุ่นนี้ ใช้งานจริงๆก็ไมไ่ด้รู้สึกร้อนตรงที่วางมือหรือตรงหน้าจอเท่าไรด้วย และช่องในด้านหลังนั้นก็มีให้เยอะและยาวเต็มๆขอบเครื่องเลย
ข้อพับนั้นดูแข็งแรงทั้ง 2 ฝั่งสามารถจับฝั่งใดฝั่งนึงเปิดได้โดยไม่เอียงหรือโยกเยกด้วยครับในส่วนของข้อพับการเปิดอะไรพวกนี้ทำออกมาได้แข็งเลยทีเดียว และมีสันเครื่องรับกับตัวฝาของหน้าจอรวมถึงมีเหลี่ยมมุมที่คล้ายกับขอบเครื่องด้านหน้าด้วย และด้านในนั้นจะเห็นว่าตัวคียบอร์ดนั้นชิดเครื่องเลยคือเห็นเลยว่าเค้าพยายามออกแบบให้มันเล็กที่สุดเลยมีพื้นที่ค่อนข้างน้อยในรอบๆตัวคีย์บอร์ดนั้นเอง พร้อมกับ สีดำด้านและเขียวสดใสตัดกันแบบชัดๆ และ ปุ่มเปิดปิดอยู่ด้านซ้ายมีไฟสีเขียวเด่นชัด และ คียบอร์ดมีไฟเช่นกันและตัว WSAD นั้นจะเน้นขอบปุ่มให้ชัดมากขึ้นไปอีก
ขอบหน้าจอในภาพรวมนั้นบางขึ้นและดูดีขึ้นแต่ก็ยังมีกล้องหน้าแทรกเข้ามาในส่วนของขอบบนครับและจะเห็นว่ามีไมค์มาให้อีก 2 ตัวข้างกล้อง ส่วนขอบด้านล่างนั้นมีโลโก้ HP และจะเห็นว่ามีความหนาพอสมควรเพราะต้องยกหน้าจอให้สูงเวลาเล่นเกมหรือใช้งานนั้นจะได้มุมองศาที่ค่อนข้างพอดี อันนี้ก็เป็นหลักการออกแบบของแต่ละค่ายนะครับ แต่หน้าจอสูงมันช่วยได้จริงๆเวลาใช้งานไม่ต้องก้มหน้าเยอะก็จะไม่ปวดคอด้วยนั้นเอง แต่อาจจะไม่สวยมากนักครับ และในรุ่นที่จอเป็น 144Hz นั้นจะมีสติกเกอร์แปะเอาไว้บอกว่ารุ่นไหนจอเท่าไรครับซึ่งรุ่น 60 นั้นจะไม่มีมาให้
SPEC
- Windows 10 Home 64
- AMD Ryzen 5 3550H + Vega 8 2.1GHz
- Nvdia GTX 1650 4GB DDR5
- SSD 512GB PCle NVMe M.2 รองรับการเพิ่ม HDD 2.5 SATA
- RAM 8 GB 2666MHz DDR4 รองรับการเพิ่มอีก 1 แถว
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว FHD IPS Anti-Glare WLED 300 Nits 144Hz 96% sRGB
- คีย์บอร์ด Fullsize พร้อมไฟ Backlit
- B&O Dual Speaker
- HD Webcam
- Wifi 5 MU-MIMO – Bluetooth 5
- 1 USB 3.1 Gen 1 Type-C™ (Data Transfer Only, 5 Gb/s signaling rate); 1 USB 3.1 Gen 1 Type-A (Data Transfer Only); 1 USB 2.0 Type-A (HP Sleep and Charge); 1 AC smart pin; 1 HDMI 2.0; 1 headphone/microphone combo; 1 RJ-45
- ขนาด 36 x 25.7 x 2.35 cm หนัก 1.98 กิโลกรัม
- ประกัน 2 ปีพร้อม Onsite Service
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับ AMD Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ 12 nm ความเร็ว 2.1 – 3.7 GHz แบบ 4 Core 8 Thread ทำงานร่วมกันกับ RAM 8GB DDR4 Buss 2666MHz ซึ่งสามารถอัพเกรดได้อีก 1 แถวครับ ส่วนตัวการ์ดจอนั้น ติดตั้งมาเลยกับตัว Radeon Vega 8 และมี การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 RAM 4 GB GDDR5 และมาพร้อม SSD 512GB PCIe NVMe ในตัว แต่จะไม่มี HDD มาให้นะครับ แต่มีพื้นที่ใส่ได้สบายๆพร้อมเลย แต่ในส่วนตัว ระบบนั้น ติดตั้งตัว Windows 10 มาให้เรียบร้อย
3D MARK เราทดสอบแบบสายเกมเลยนั้นถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยแหละคะแนนในส่วนของ Firestrike แบบโหด และพื้นฐานนั้นทำได้ดีมากๆ Ultra สามารถทำได้ 1827 และ Time Spy Extream ทำได้ 1543 เลยครับในแง่ของการประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายนั้นทำได้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์สายเกมเริ่มต้นได้เลยครับส่วนของ Timespy ที่จะโหดขึ้นมาหน่อยนั้นทำไปได้ 3475 คะแนน Firestrike ธรรมดานั้น 7986 คะแนนถือว่า CPU+GPU ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆทั้งเล่นเกม ทำงานครับ ซึ่งถ้าเอามาทำงานหนักๆนั้น RAM 8GB อาจจะไม่พอครับแนะนำให้เพิ่มอีก 8 จะดีมากๆ และ ความร้อนทำได้ 73-76 GPU 85-90 CPU
PC MARK คะแนนทำได้ 3741 ถือว่าตามระดับของ CPU Ryzen 5 เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไรเลยทำงานได้ครบทุกอย่าง รวมถึงเล่นเกมสบายครับ แน่นอนว่าทำงานหลายๆอย่างนั้นไม่มีปัญหา และจัดการเรื่องความร้อนได้ดีครับมีแตะ 80+ บ้าง
CINEBENCH R15 – R20 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU Cinebench R15 ทำไปได้ 169 / 74.50 FPS ทำได้ดีครับสมราคา และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1735cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ในส่วนของ SSD ใส่มาให้แต่เรื่องของความเร็วนั้นโหดมากเลยให้ตัวแรงมาเลยครับ อ่านไปได้ที่ 3295 และ เขียนที่ 2540
[SR] รีวิว HP Pavilion Gaming 15 ตัวคุ้ม AMD Ryzen 5 + GTX 1650 พร้อมจอ 144Hz !
HP ได้เปิดตัว Pavilion Gaming 15 รุ่นล่าสุดที่จะเน้นในเรื่องของราคาไม่แพงเกินไปและเน้นสายเล่นเกมที่จับต้องได้ง่ายครับในครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนงานออกแบบให้ดูสวยงามขึ้นและเท่ขึ้นพอสมควรเลย และเป็นการออกแบบเหลี่ยมมุมที่คล้ายๆกับรุ่นอื่นๆหรือพวก Spectre ของค่ายนั้นเองแอบสวยงามและดูดีกว่าเดิมเยอะเลยครับ ในครั้งนี้มาพร้อมกับราคาเริ่มต้นกันแค่ 19,900 บาทเท่านั้นในรุ่นเริ่มต้น Ryzen 5 และใช้งานการ์ดจอ GTX 1050 ครับ แต่ในรุ่นที่เราจะเอามารีวิวนั้นจะใช้งาน Ryzen 5 ร่วมกับการ์ดจอ GTX 1650 ซึ่งจะอยู่ในเรทราคา 23,900 บาทครับผม ส่วนหน้าจอนั้นก็จะได้ตัวหน้าจอ 144Hz ครับแต่ถ้าใครไม่เน้นก็จะมีหน้าจอ 60Hz ให้เลือกใช้งานกันในราคา 21,900 บาทเท่านั้น ส่วนในแง่ของการใช้งานด้านอื่นๆจะเป็นยังไงสำหรับ Ryzen จากค่ายแดง AMD และการ์ดจอ GTX
HP Pavilion 15 ครั้งนี้เปิดตัวมาพร้อมกับการใช้งานค่ายแดง AMD Ryzen 5 3550H ทำงานร่วมกันกับ GTX 1650 4GB DDR5 และให้ RAM 8GBDDR4 2666MHz และ SSD 512GB PCle M2 ครับ สามารถเพิ่ม RAM และ HDD 2.5 ได้เพิ่มเติมครับ ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ IPS 144HZ FHD รองรับ sRGB 96% ขนาด 15.6 นิ้ว ในรุ่นที่เรารีวิวนะครับ ซึ่งรุ่นอื่นๆก็จะมี 60Hz ให้เลือกใช้งานกันด้วย มาพร้อมกับ Windows 10 และ ประกัน On Site 2 ปี รวมถึงในรายละเอียดอื่นๆเช่นลำโพงจากทาง Bang&Olufsen อีกทั้งยังใช้งาน Bluetooth 5.0 และ มีขนาดที่เล็กลงและน้ำหนักที่ 2.3 กิโล ส่วนการออกแบบในภาพรวมนั้นก็ยังคงสีเขียวดำ และ มีไฟบนคียบอร์ดสีเขียวมาให้ใช้งานกันครับ และขอบหน้าจออะไรก็บางขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนสีนั้นจะมีทั้ง ดำม่วง และ ดำเขียว แล้วแต่ชอบครับผม ซึ่งสีของมันก็จะเปลี่ยนไปทั้งโลโก้ด้านหลัง และ ตรงแป้นพิมพ์ด้วยครับในส่วนของสี
สำหรับทางด้านราคาของเจ้า HP มาพร้อมกับทั้งหมด 4 รุ่นย่อยครับ
- Ryzen 5 3550H / GTX 1050 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 60Hz ราคา 19,900 บาท
- Ryzen 5 3550H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 60Hz ราคา 21,900 บาท
- Ryzen 5 3550H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 23,900 บาท
และตัว Ryzen 7 นั้นจะมีตัวเดียวเท่านั้นในรุ่นสูงสุดของรุ่นนี้
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 30,900 บาท
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่ยังคงความเหลี่ยมสัน ทำมุมสวยๆของค่ายไว้ที่คุ้นเคยกันในรุ่นอื่นๆของค่ายนี้และเล่นกับโทนสีเขียว เป็นโทนประจำของค่ายเลยและมีขนาดเล็กลง บางเบาขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆของ Gaming ค่ายนี้ครับ ส่วนขอบหน้าจอ หรือจะเป็นวัสดุ ที่ใช้งานวัสดุแบบดำด้านออกแบบคล้ายๆโลหะแต่จริงๆของมันจะเป็นวัสดุพลาสติกแบบที่เจอกันได้ในหลายๆตัวในเรทราคาประมาณนี้ครับแต่เก็บงานอะไรดีเหมือนกัน ในภาพรวมการออกแบบ วัสดุนั้นไม่ได้ติดปัญหาเลย มีความแน่นแข็งเรงพอสมควรและดีไซน์ค่อนข้างสวยดูทันสมัยดีขึ้นเยอะเลย
ด้านหลังนั้นจะเป็นวัสดุสีดำด้านตัดกับสีเขียวตรงโลโก้ ซึ่งตรงโลโก้นั้นจะเป็นสีเงาๆเขียวๆสะท้อนแสงได้สวยงามและเด่นมากๆ แต่ฝาหลังแบบนี้บอกเลยว่าอาจจะติดรอยนิ้วมือได้ง่ายเลยแหละ ส่วนชื่อรุ่นนั้นจะเขียนอยู่ตรงด้านขอบล่างของเครื่องครับ เมื่อดูข้างในกันบ้าง ในรุ่นนี้หน้าจอแอบยกให้สูงขึ้นเลยทำให้ขอบล่างนั้นมีมากกว่าด้านอื่นๆแต่ก็ช่วยในเรื่องของมุมมองได้ดีไม่ต้องก้มมากเกินไป หน้าจอแบบด้านทำให่สบายตาเวลาเล่นเกม และ ขอบบางขึ้น สวยงามขึ้น และกล้องหน้าก็ยังคงมีอยู่ไม่ได้ตัดออกไปไหน ส่วนแป้นพิมพ์สีเขียวสวยงาม โดดเด่นเลยแหละเปลี่ยนสีไม่ได้นะครับ แต่ปรับความสว่างได้ พร้อมกับลำโพงในขอบบน และ การันตีเสียงจากทาง Bang and Olufsen เลยทีเดียว
มาส่องฐานของเครื่องนั้นจะเห็นเลยว่ามันมีการออกแบบที่เรียบสวยและดูดีมากๆ คือดูดีและยังมีช่องระบายความร้อนที่ยาวและระบายได้ดีเลยแหละ ด้านฐานนั้นรองรับการแกะเปลี่ยนได้ และจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนเป็นแถบยาวด้านหลัง ต่อเนื่องเลยและมียางรองมาให้ 3 จุดทั้งด้านหน้า 2 จุดและด้านหลัง 1 จุดเป็นยางยาวเต็มตัวเครื่อง และมีส่วนที่สูงกว่าตรงอื่นเล็กน้อยอาจจะช่วยในเครื่องของการไหลเวียนอากาศได้นิดหน่อยไม่ให้มันติดกับพื้นมากเกินไป สว่นด้านในถ้าจะแกะนั้นสามารถทำได้ครับ ข้างในมี HeatPipe 2 เส้นหลักๆ พร้อมพัดลม 2 ตัว รวมถึงช่องว่างสำหรับใส่ HDD SATA 2.5 และสามารถอัพแรมได้อีก 1 แถว ครับใช้งานตัว RAM 2666 DDR4 นะครับ
มาส่องข้างในกันต่อในส่วนนี้จะเป็นลำโพงหลักของเครื่องทั้งหมด วางไว้ข้างบนยิงตรงๆมาเลยครับไม่ได้ไว้ส่วนฐานเครื่องแน่นอนว่าลำโพงมีมาให้ไม่ได้ยาวเต็มเท่าไรหลักๆมี 2 จุดครับ แต่ก็เป็นการออกแบบของรุ่นนี้ทำให้ต่อเนื่องและสวยขึ้นในส่วนของการออกแบบช่องลำโพงซึ่งเมื่อมองไปยังช่องระหว่างขอบจอนั้นจะเป็นช่องระบายอากาศ ออกไปด้านหลัง และไหลออกไปไม่ได้ขึ้นมาข้างบนครับทำให้เรื่องระบายความร้อนนั้นโอเคเลยสำหรับรุ่นนี้ ใช้งานจริงๆก็ไมไ่ด้รู้สึกร้อนตรงที่วางมือหรือตรงหน้าจอเท่าไรด้วย และช่องในด้านหลังนั้นก็มีให้เยอะและยาวเต็มๆขอบเครื่องเลย
ข้อพับนั้นดูแข็งแรงทั้ง 2 ฝั่งสามารถจับฝั่งใดฝั่งนึงเปิดได้โดยไม่เอียงหรือโยกเยกด้วยครับในส่วนของข้อพับการเปิดอะไรพวกนี้ทำออกมาได้แข็งเลยทีเดียว และมีสันเครื่องรับกับตัวฝาของหน้าจอรวมถึงมีเหลี่ยมมุมที่คล้ายกับขอบเครื่องด้านหน้าด้วย และด้านในนั้นจะเห็นว่าตัวคียบอร์ดนั้นชิดเครื่องเลยคือเห็นเลยว่าเค้าพยายามออกแบบให้มันเล็กที่สุดเลยมีพื้นที่ค่อนข้างน้อยในรอบๆตัวคีย์บอร์ดนั้นเอง พร้อมกับ สีดำด้านและเขียวสดใสตัดกันแบบชัดๆ และ ปุ่มเปิดปิดอยู่ด้านซ้ายมีไฟสีเขียวเด่นชัด และ คียบอร์ดมีไฟเช่นกันและตัว WSAD นั้นจะเน้นขอบปุ่มให้ชัดมากขึ้นไปอีก
ขอบหน้าจอในภาพรวมนั้นบางขึ้นและดูดีขึ้นแต่ก็ยังมีกล้องหน้าแทรกเข้ามาในส่วนของขอบบนครับและจะเห็นว่ามีไมค์มาให้อีก 2 ตัวข้างกล้อง ส่วนขอบด้านล่างนั้นมีโลโก้ HP และจะเห็นว่ามีความหนาพอสมควรเพราะต้องยกหน้าจอให้สูงเวลาเล่นเกมหรือใช้งานนั้นจะได้มุมองศาที่ค่อนข้างพอดี อันนี้ก็เป็นหลักการออกแบบของแต่ละค่ายนะครับ แต่หน้าจอสูงมันช่วยได้จริงๆเวลาใช้งานไม่ต้องก้มหน้าเยอะก็จะไม่ปวดคอด้วยนั้นเอง แต่อาจจะไม่สวยมากนักครับ และในรุ่นที่จอเป็น 144Hz นั้นจะมีสติกเกอร์แปะเอาไว้บอกว่ารุ่นไหนจอเท่าไรครับซึ่งรุ่น 60 นั้นจะไม่มีมาให้
SPEC
- Windows 10 Home 64
- AMD Ryzen 5 3550H + Vega 8 2.1GHz
- Nvdia GTX 1650 4GB DDR5
- SSD 512GB PCle NVMe M.2 รองรับการเพิ่ม HDD 2.5 SATA
- RAM 8 GB 2666MHz DDR4 รองรับการเพิ่มอีก 1 แถว
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว FHD IPS Anti-Glare WLED 300 Nits 144Hz 96% sRGB
- คีย์บอร์ด Fullsize พร้อมไฟ Backlit
- B&O Dual Speaker
- HD Webcam
- Wifi 5 MU-MIMO – Bluetooth 5
- 1 USB 3.1 Gen 1 Type-C™ (Data Transfer Only, 5 Gb/s signaling rate); 1 USB 3.1 Gen 1 Type-A (Data Transfer Only); 1 USB 2.0 Type-A (HP Sleep and Charge); 1 AC smart pin; 1 HDMI 2.0; 1 headphone/microphone combo; 1 RJ-45
- ขนาด 36 x 25.7 x 2.35 cm หนัก 1.98 กิโลกรัม
- ประกัน 2 ปีพร้อม Onsite Service
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับ AMD Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ 12 nm ความเร็ว 2.1 – 3.7 GHz แบบ 4 Core 8 Thread ทำงานร่วมกันกับ RAM 8GB DDR4 Buss 2666MHz ซึ่งสามารถอัพเกรดได้อีก 1 แถวครับ ส่วนตัวการ์ดจอนั้น ติดตั้งมาเลยกับตัว Radeon Vega 8 และมี การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 RAM 4 GB GDDR5 และมาพร้อม SSD 512GB PCIe NVMe ในตัว แต่จะไม่มี HDD มาให้นะครับ แต่มีพื้นที่ใส่ได้สบายๆพร้อมเลย แต่ในส่วนตัว ระบบนั้น ติดตั้งตัว Windows 10 มาให้เรียบร้อย
3D MARK เราทดสอบแบบสายเกมเลยนั้นถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยแหละคะแนนในส่วนของ Firestrike แบบโหด และพื้นฐานนั้นทำได้ดีมากๆ Ultra สามารถทำได้ 1827 และ Time Spy Extream ทำได้ 1543 เลยครับในแง่ของการประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายนั้นทำได้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์สายเกมเริ่มต้นได้เลยครับส่วนของ Timespy ที่จะโหดขึ้นมาหน่อยนั้นทำไปได้ 3475 คะแนน Firestrike ธรรมดานั้น 7986 คะแนนถือว่า CPU+GPU ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆทั้งเล่นเกม ทำงานครับ ซึ่งถ้าเอามาทำงานหนักๆนั้น RAM 8GB อาจจะไม่พอครับแนะนำให้เพิ่มอีก 8 จะดีมากๆ และ ความร้อนทำได้ 73-76 GPU 85-90 CPU
PC MARK คะแนนทำได้ 3741 ถือว่าตามระดับของ CPU Ryzen 5 เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไรเลยทำงานได้ครบทุกอย่าง รวมถึงเล่นเกมสบายครับ แน่นอนว่าทำงานหลายๆอย่างนั้นไม่มีปัญหา และจัดการเรื่องความร้อนได้ดีครับมีแตะ 80+ บ้าง
CINEBENCH R15 – R20 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU Cinebench R15 ทำไปได้ 169 / 74.50 FPS ทำได้ดีครับสมราคา และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1735cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ในส่วนของ SSD ใส่มาให้แต่เรื่องของความเร็วนั้นโหดมากเลยให้ตัวแรงมาเลยครับ อ่านไปได้ที่ 3295 และ เขียนที่ 2540
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้