จริงๆ มีหลายอย่างที่อยากจะเขียนถึงเรื่องนี้ แต่ขอเขียนถึงส่วนที่ชอบที่สุดสำหรับเวอร์ชั่นนี้ก่อนแล้วกัน
คือรายละเอียดของตัวละคร คาแรกเตอร์ แบ็คกราวน์ในชีวิตที่ทำให้ตัวละครหลักสี่คนสองคู่เค้ารักกัน

เริ่มที่คู่รอง

//ก่อนเขียนกระทู้ เราไปสแกนดูสองเวอร์ชั่นก่อนมาคร่าวๆ เพราะเวอร์แรกดูตอนเด็กมากกก ส่วนเวอร์สอง แทบไม่ได้ดู//
ขอพูดถึงของเก่าคร่าวๆ ว่า เท่าที่ดูเผด็จ-หนึ่งธิดา แต่ละเวอร์ชั่นไม่ค่อยเหมือนกันเลย มีความเหมือนแค่หนึ่งชอบพี่รุจ และสุดท้ายมาคู่กับเผด็จ
เดี๋ยวพวกส่วนของเวอร์เก่าจะใส่สปอยล์ไว้แล้วกันนะคะ เผื่อมีใครอยากรู้ว่าต่างกันยังไง

  ** เผด็จ **   
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- เวอร์แรก เผด็จเป็นเพื่อนดนุรุจมาก่อน ก่อนที่รุจจะย้ายมาอยู่สน.เดียวกัน และก่อนที่เผด็จจะถูกผู้การทวนเทพดึงเข้าร่วมทีม 
เผด็จไม่เคยชอบส้วมแบบคนรัก เห็นเป็นเด็กสลัมตัวแสบ ตอนที่น้าทวนจะดึงส้วมมาเป็นสายลับ เผด็จขอทดสอบส้วมด้วย
กับหนึ่งธิดา เท่าที่สแกนดูหาไม่เจอว่าไปรักกันยังไง รู้แค่ตอนท้ายก็มาคู่กันเฉยเลย 
- เวอร์สอง เผด็จไม่ได้เป็นตำรวจที่สน. แต่เป็นตำรวจลับที่ปลอมตัวมาพร้อมน้าทวนและหมวดสงครามเลย (น้าทวนเวอร์นี้เปิดคณะเชิดสิงโต)
เผด็จเวอร์นี้แอบชอบส้วม เหมือนที่หนึ่งธิดาแอบชอบรุจ พอคู่นั้นรักกัน คู่นี้เลยเหมือนคนอกหักสองคนที่เห็นใจกันแล้วเลยหันมารักกันเอง

- สำหรับเวอร์ชั่นนี้ เราชอบการดีไซน์ให้เผด็จเป็นสารวัตรผีดิบผู้จริงจังมุ่งมั่นกับงานจนแทบไม่สนใจโลกในตอนต้นเรื่อง
(คือปาริธ พระเอกใหม่เนี่ย เราว่าหน้าตาน้องเค้าเวลานิ่งๆ หล่อกว่าตอนยิ้ม ก่อนนี้เคยเห็นรูปตอนยิ้มจากกระทู้งานบอลช่อง ดูเด็กๆ ธรรมดา 
แต่มาเรื่องนี้ เปิดตัวมาหน้านิ่งๆ คือหล่อมาก ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย สมกับบทที่ยศ พ.ต.ต. อายุเกือบสามสิบ 
ถ้าเปิดเผด็จมาด้วยบุคลิกปกติมนุษย์ เราว่าด้วยอายุจริงของน้อง ความเคยชินต่างๆ อาจทำให้เล่นออกมาดูเด็กไป)
แล้วก็ความแข็งข้อกับพระเอกซึ่งย้ายมาเป็นผู้บังคับบัญชา ทำให้ดูมีกิมมิก 
ได้เห็นอินเนอร์ความกวนความท้าทายจากท่าทางที่นิ่งๆ เหมือนจะไม่สนใจ แถมเป็นเคมีกับพระเอกไปเฉยเลย 
เพราะกวนๆ เหมือนไม่ชอบหน้า แต่ดั๊นหมั่นหาเรื่องเข้าบ้านเค้าซะงั้น (คือตอนแรกๆ คนดูยังไม่รู้ว่าสาระก็สอดแนมรองฯ อยู่ :p)

(แรกๆ เห็นคอมเมนท์ในยูทูปจะบอกว่า ปาริธเล่นแข็ง แต่เราว่าน้องเล่นดีนะ ดีจนแปลกใจเลยพอรู้ว่าเรื่องแรก
ในความนิ่งๆ อินเนอร์กับตัวละครร่วมฉากแต่ละคนไม่เหมือนกัน นิ่งจริงจังกับงานกับทีมสโนว์ไวท์กับพวกหมวดจ่าที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา,
มีความไม่พอใจ แอบยียวนท้าทายพระเอก จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นยอมรับกัน, เอ็นดูและเป็นมิตรกับส้วม, หมั่นไส้บ้างเห็นใจบ้างกับหนึ่งธิดา ฯลฯ
แต่ละซีนมันมีการโฮลคาแรกเตอร์ แต่มีรายละอียดของอารมณ์ที่ต่างกันอยู๋ ไม่ใช่นิ่งทื่อเหมือนกันหมด 

อันนี้ต้องชมทั้งน้องและพี่เหมี่ยวผู้กำกับ เห็นเบื้องหลังพี่เหมี่ยวมีวิธีบรีฟ มีคีย์เวิร์ดที่ใช้บรีฟให้นักแสดงจับจุด ทำความเข้าใจบท
แบบเข้าถึงได้ชัดเจน ครอบคลุม ตรงประเด็นแบบแทบว่าคำเดียวอยู่
น้องโชคดีมากที่เรื่องแรกก็ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ แบบนี้ ถ้าตั้งใจดีๆ น่าจะเก็บวิชาได้หลายอยู่)

- เรื่องความรัก 
เผด็จเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้แอบรักส้วม เห็นเป็นเพื่อนเป็นน้องจริงๆ
(อันนี้เราว่าดี ไม่ต้องให้ใครๆ รุมรักพระเอกนางเอกขนาดนั้นหรอกถ้าไม่จำเป็นกับการเดินเรื่อง ละครไป)
จากฉากแฟลชแบ็คที่เผด็จเห็นหนึ่งมารับส้วมเมื่อ 7 ปีก่อน เห็นหลายคนว่าเผด็จแอบรักหนึ่งตั้งแต่ตอนนั้น
แต่เราว่า น่าจะยังไม่ถึงเลเวลนั้นหรอก ที่แฟลชแบ็คน่าจะแค่บอกว่าจำได้มากกว่า(แสดงว่าเผด็จจำคนแม่น) อย่างมากก็แค่สนใจนิดๆ อ่ะ
กลับมาเจอกันอีกที หนึ่งธิดาเปลี่ยนไป จนคำแรกของเผด็จคือ "ใช่เหรอวะ" แล้วความเรื่องเยอะของนางคงน่าหมั่นไส้ เลยเจอผีดิบกวนประสาทใส่รัวๆ
(คือถ้ารักมาตั้งแต่แรกอ่ะนะ ตอนหนึ่งเมาแล้วพากลับมานอนบ้าน น่าจะดูแลกว่านี้นิดนึง หาหมอนหาผ้าห่มให้น้องสักนิดก็ยังดี
ไม่ใช่ทิ้งไว้ให้หนุนกระเป๋าตัวเองที่โซฟาโล้นๆ แล้วพี่ขึ้นไปนอนบนห้องแบบนั้น ---ไม่อ่อนโยนเลยพี่แตงโม 🤣)  
แต่เผด็จจริงๆ คงเป็นคนละเอียดอ่อนและช่างสังเกตอยู่ (สมกับสายสืบฯ) เลยมองออกว่าจริงๆ หนึ่งธิดาใช้ความเยอะปิดบังอะไรในใจอยู่
ความเข้าใจนี้ทำให้ยอมหยวนให้หนึ่งมาใช้บ้าน แล้วเลยกลายเป็นว่ารับเข้ามาในใจโดยไม่รู้ตัว

ซึ่งถ้าสาระจะเพิ่งมารักหนึ่งช่วงหลังนี่แหละที่เราว่าวางดี ทั้งคาแรกเตอร์ของสองคน และเหตุที่เขาจะรักกัน
(ที่มากกว่าแค่.. อ่ะ ก็เป็นพระรองนางรองไง ตอนจบก็จับคู่กันไปเหอะ งงๆ )

สารวัตรคือ วันๆ ทำแต่งาน โลกทั้งใบคงมีแค่งานจริงๆ มีพูดถึงครอบครัวแค่ครั้งสองครั้ง ที่ว่าญาติส่งน้ำพริกมา กับที่พูดถึงตอนพ่อตาย
บ้าน ep แรกๆ คือดูโล้นๆ จนแอบสงสัยว่านี่บ้านจริงๆ อยู่มาก่อน หรือเพิ่งตามรองฯ มาอยู่เพื่อสอดแนมกันแน่
พอหนึ่งเข้ามา บ้านสาระดูเป็นบ้านมากขึ้น การที่กลับบ้านมามีคนรออยู่หรือมีร่องรอยของใครอีกคนที่ทำอะไรไว้ให้ มันอบอุ่นมากนะ
(ใครที่อยู่ตัวเดียว หรือจากบ้านมาทำงานคนเดียวในเมืองใหญ่คงรู้ดี) 
ในเรื่องจะเห็นการพัฒนาปฏิกิริยาของสารวัตรที่เข้าบ้านมาเห็นสิ่งต่างๆ ที่หนึ่งธิดาทำทิ้งไว้ตลอด 
แล้วในความวุ่นวายน้องหนึ่งคือมีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนโคตรๆ ใส่ใจเอาใจสุดๆ 

แล้วยิ่งวันที่มีเรื่องเสียใจกลับมา ที่สูญเสียเพื่อนร่วมงาน(และก็คงรู้สึกว่าพ่ายแพ้ต่อคนเลว) ผู้ชายหน้านิ่งที่ไม่เคยแสดงอารมณ์อ่อนไหวกับใคร
กลับบ้านมาเห็นคนที่รออยู่ แล้วความรู้สึกต่างๆ มันค่อยๆ ท้นออกมา ...คือเราชอบดีไซน์ฉากร้องไห้ของผีดิบฉากนี้มาก น้อยแต่มาก 
การค่อยๆ ส่งอารมณ์ออกไป ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้แล้วเอนตัวไปซบ ไม่ได้กอด แต่ขอทิ้งตัวเกยคางที่หัวไหล่ แล้วค่อยร้องไห้ออกมา
นอกจากมันจะแสดงถึงความสุดๆ ทางอารมณ์แล้ว ก็คงแสดงให้เห็นด้วยว่า ผีดิบก็มีหัวใจ แล้วก็ไว้ใจหนึ่งธิดามากพอที่จะให้เห็นความอ่อนแอ

สุดท้ายพอมีหนึ่งอยู่ด้วย หัวใจผีดิบเลยอุ่นจนเต้นได้ กลายเป็นผีสุขขึ้นมา จนคนดูตาร้อนตามไปเลย 

ปล. ตอนไปบ้านหนึ่ง ทีแรกสาระมองเค้าตาดุเชียว แต่พอว่าที่พ่อตาจะเอาจริงบอกจะไม่ยอมให้คบ พี่แกแอบทำคะแนนนะเฮ้ยยย

 ** หนึ่งธิดา **   
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ของเวอร์ชั่นแรก เรางงหนึ่งธิดาสุด ตอนก่อนไปเมืองนอกคือโอเคปกติ ดีกับส้วมเป็นเพื่อนส้วม แต่ตอนกลับมา คืองงๆ ว่านางดีรึไม่ดี 
เวอร์นั้น หนึ่งจะแพ็คคู่กับดาริกาที่คอยเชียร์อยากได้หนึ่งเป็นพี่สะใภ้ ดาจะคอยชง พามาหารุจ ส่วนหนึ่งคือบางทีดูเหมือนนิ่งๆ แต่บางที
เหมือนเหวี่ยงกว่าดาริกาอีก เรียงลำดับเวอร์แรกเฉพาะภาพลักษณ์ หนึ่งธิดาดูเป็นนางร้ายสุดเลย ดาค่อนข้างปกติมนุษย์ คุณสุหวานมาก
- ส่วนเวอร์สอง หนึ่งธิดามาแบบใสๆ แบ๊วๆ มันแกว แตงกวาเลย ไม่ได้ตัวติดดาเท่าเวอร์แรก มีไปคนเดียวให้ได้เจอเผด็จเป็นระยะ

- เวอร์ชั่นนี้ เราว่าหนึ่งธิดาน่ารักมาก คาแรกเตอร์ชัดเจน มีที่มาที่ไปให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแบบมีมิติ มีเรื่องราวให้ไปต่อของตัวเอง
ความเกาหลีของหนึ่ง น่าจะเป็นความจงใจที่คิดมาแล้ว เพื่อสตอรี่ต่อๆ มาด้วย ทำไมต้องเป็นเกาหลีไม่ใช่ประเทศอื่น 
ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้จัดชอบและดูซีรี่ย์เกาหลี ซึ่งก็ไม่แปลก และเราว่าเขาเอามาย่อยใช้ได้ดีเลย 
พล็อตคู่รองคือเกาหลีจริงๆ แต่มันออกมาน่ารัก กลมกลืน แบบไม่ขัดตาไม่ขัดกับบริบทแบบไทยๆ แต่ดูมีเสน่ห์ ยิ้มตามทุกฉากทุกสเตปความสัมพันธ์
การแสดงของพายคิดว่ามีการ ref ด้วยคาแรกเตอร์และบุคลิกนางเอกเกาหลีบางส่วนด้วย ตอนเมานั่งซดโซจูนี่ใช่มาก 
แล้วพายเล่นคอมมาดี้ได้ดีเลย จังหวะได้ ที่ต้องร้องไห้คร่ำครวญที่อกหัก หรือตอนที่โดนสาระไล่ออกจากบ้าน 
ต้องร้องจริงเศร้าจริง แต่ต้องให้ดูคอมมาดี้ด้วยอ่ะ ยากนะ แต่เราว่าน้องผ่านฉลุย  

- เรื่องความรัก  
คือตอนแรกคาแรกเตอร์หนึ่งธิดา เปิดด้วยความเยอะ ความเว่อ ความโวยวาย แต่เรายังไม่เห็นพื้นฐานจริงๆ ของตัวละคร 
ที่เพิ่งมาย้อนอดีตให้ดูทีหลัง ว่าความจริงหนึ่งเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เปิดเผย จริงใจมากๆ คนหนึ่ง 
แล้วก็เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เหมือนไม่คิดอะไรเยอะ เกรดน้อยก็บอกว่าตัวเองโง่ได้แบบเสียงใสๆ 
แต่ลึกๆ ในใจ หนึ่งธิดาก็คงมีอะไรบ้างแหละ อาจคิดว่าตัวเองไม่ดีไม่เก่งเท่าคนอื่น เป็นปมเล็กๆ อยู่ลึกๆ
ที่เคยฝังใจกับดนุรุจ คงเพราะที่รุจเคยบอกว่า น้องหนึ่งเป็นที่หนึ่งเสมอ เหมือนนางต้องการความรู้สึกเชื่อมั่นจากใครสักคนอยู่เหมือนกัน 
พอเจอสาระที่แสดงความใส่ใจ เก็บจำเรื่องราวของเธอได้ละเอียดยิบ ความรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญคงทำให้ประทับใจแหละ
แล้วจริงๆ ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น สาระก็เป็นคนที่รับฟังหนึ่งมาตลอด เป็นคนที่ฟังเธอรู้เรื่องจริงๆ แม้ว่าเธอจะอาจพูดไม่รู้เรื่องในบางครั้ง
ถ้าหนึ่งไม่แพ้ความใส่ใจของสาระก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว...

 

สรุปแล้ว คู่รองนี่คือฟินแรงมาก ตีคู่กันมากับคู่หลักแบบไม่ทิ้งกันเลย 
แถมพอช่วงที่คู่หลักต้องอึน ผกก.คือส่งคู่รองแซงหน้าเข้าเส้นชัยไปแบบหวานแหวว 
จัดจังหวะมาดีมาก จะได้ไว้ตัดรสความอึนของพระนางหลัก และความเครียดของพาร์ทสืบสวนที่กำลังตามมา 

ปล. ขอเพิ่มว่าชอบซีนลงเอยคู่รองมาก เห็นความละเอียดของบทที่ไม่ค่อยใส่อะไรมาสูญเปล่า
ทำไมฐานลับต้องอยู่ในม่านรูด นอกจากเพื่อความเนียนในการซ่อนตัวแล้ว ยังเอามาใช้สร้างซีนนี้ได้อีก 
แล้วก็คาแรกเตอร์สาระ ดูตั้งแต่ต้นจะเห็นแหละว่านางเป็นคน concentrate สุดๆ
คนรอบข้างบ้าบอต่อมุกกันแค่ไหน สาระไม่เคยไหลตาม คอยตัดบทขัดคอตบเข้าประเด็นตลอด 
จนซีนที่หนึ่งมาโวยวายใส่ ทั้งด่าแรงทั้งพูดไม่รู้เรื่อง สาระยังอุตส่าห์โฟกัสที่การจับประเด็น จนต้อนกลับอย่างกับสอบสวนผู้ต้องหา 
สกิลสายสืบสวนขนาดนี้ มิน่าถึงเลื่อนขั้นไว คุณแม่น้องหนึ่งดูตย.ผลงานที่ซีนนี้ได้นะคะ 😆
(*ส่วนตัวเราจะจำซีนนี้ไว้เลย เวลาคนอื่นโยนอารมณ์มา เราไม่จำเป็นต้องโยนอารมณ์กลับ 
ถ้ามีสติ โฟกัสถูกจุด เราจะแก้ปัญหาได้ดีกว่า อาจหยุดเรื่องแย่ๆ เปลี่ยนให้เป็นเรื่องดีๆ ได้ แบบสาระนี่แหละ 
ถ้าสาระโดนด่าแล้วโมโห ด่ามาด่ากลับไม่โกง ก็คงไม่รู้เรื่องกัน แล้วก็กลายเป็นยิ่งเข้าใจผิดกันเตลิดเปิดเปิงตามสไตล์ละครทั่วไป)