ประวัติ วง ฌา-มา กลับบ้าน....
…ปลดประจำการแล้ว ยังไม่อยากกลับบ้าน (ทั้งที่ตอนไปใหม่ๆอยากจะหนี555)...ยังคงตั้งวงเล่นกับเพื่อนๆอยู่แถวพัทยา ระยอง จัทบุรี (วง ตอนนั้นก็มีผม เล่นเบส สมพงษ์ วง ลูกคลักเล่นกีตาร์..พี่ศล กุศล ช่วยดู เล่นคีบอร์ด ส่วนมือกลองชื่อ ริน.).เราเล่นกันอยู่อีกหลายปี จนเบื่อ เมื่อเล่นแล้วไม่เหลือเงินเก็บเลย พ่อก็ให้พี่สาวไปรับกลับบ้าน เมื่อปี 2535 จากบ้านไปเกือบ5ปีเลยทีเดียว
…กลับมาบ้าน พ่อก็พยายามหางานให้ทำ โดยพ่อลงทุนให้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะใจยังคงรักดนตรี ทั้งที่ตอนกลับมาก็คิดว่าจะหยุดเล่นแล้ว แต่พอเห็นเขาเล่นก็อดไม่ได้ จนต้องเข้าเมืองอีก..ไปหาเพื่อนเก่าๆที่เคยเล่นกันมา เขาก็หางานให้ ...ในที่สุดก็หนีไม่พ้น ต้องกลับมาในวังวนเดิมๆอีก กลายเป็นนักดนตรีคาเฟ่เหมือนเดิม
…...สู่เส้นทางนักร้องประกวด…...
....ด้วยความเป็นห่วงพ่อ กลางคืนเล่นดนตรี กลางวันก็ไปช่วยพ่อทำงานบ้าง...งานในตอนนั้นก็คือ ขับรถบันทุกไม้ฟืนส่งโรงงานปลาป่น. วันหนึ่งขณะไปส่งไม้เสร็จแล้ว ก่อนกลับบ้านเพื่อนชวนไปดูเขาประกวดร้องเพลง จำได้ว่าเพื่อนชื่อ หนุ่ม ปิยะ ศรีเมือง และ ทำนอง ไกลลาศ ทั้งสองคนทำงานอยู่ที่ บริษัทโตโยต้า ระนอง เพื่อนชวนไปที่ตลาดใหม่ ระนองธานี ที่เขามีการประกวดร้องเพลงเพื่อโปรโมทตลาดใหม่ ในตอนนั้น...ผมก็ไปทั้งตัวเหม็นๆนั้นแหละ ไปถึงเห็นเค้าประกวดกันก็เฉยๆ แต่เพื่อนหวังดีไปสมัครให้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ อยู่ๆเขาเรียกชื่อให้ขึ้นไปร้องเพลงก็ตกใจ เพื่อนบอกไปเถอะๆกูสมัครให้..ก็จำยอมขึ้นไปวันนั้นผมก็ร้องเพลงของครูสุรพลอีกเช่นเดิม คือเพลง น้ำตาจ่าโท จำได้เหมือนเดิมคือ พอผมร้อง แม่ค้าในตลาดต่างก็วิ่งออกมากันหมดทั้งตลาด แม่ค้ากล้วยทอดก็ทิ้งกะทะกล้วยทอด ออกมาดูผมแม่ค้าก๋วยเตี๊ยวก็ทิ้งหม้อก๋วยเตี๊ยวออกมาดูผม..ทุกคนต่างทึ่งที่ อยู่ๆมีคนมาร้องเพลงครูได้อย่างใกล้เคียง...ปรากฏว่าวันนั้นชนะได้ที่1เฉยเลยคับ
.....ทีนี้ก็เลยพูกพันต้องมาร้องทุกอาทิตย์กลายเป็นนักร้องประกวดที่ไม่แพ้ใครเลย1ปีเต็มๆ...จนได้รับการคัดเลือกไปเป็นตัวแทนจังหวัดระนอง(ในประกวดการร้องเพลงชิงถ้วยของสมเด็จพระเทพฯเพื่อหาตัวแทนของ14จังหวัด ภาคใต้ ไปแข่งต่อที่ กทม.เขาเอาแค่คนเดียว.)..เขาคัดเอาจังหวัดละ2คนหญิง1คน ชาย1คน 14จังหวัด 28คน ไปวันแรกคัดเหลือ 3คน(อ่อ..ลืมบอกว่ากรรมการที่มาตัดสินการประกวดร้องเพลงในครั้งนั้นมี4ท่านที่ผมจำได้ คือ คุณประจวบ จำปาทอง และครูพยงค์ มุกดา ส่วนอีก2 ท่านผมจำไม่ได้) ไปถึงวันแรกเขาคัดจาก28ให้เหลือ3คน..ผมติด1ใน3 แข่งวันต่อมา(ออก ทีวีช่อง11หาดใหญ่ ในขณะนั้น) ปรากฏว่าผมได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ก็เลยเลิกประกวดตั้งแต่นั้นมา
“พรสวรรค์ พรแสวง จินตนาการ”
…มีคนเคยบอกว่า ศิลปิน จะต้องมีพรสวรรค์ และพรแสวง จึงจะเป็นศิลปินได้ แต่ผมคิดว่า มันต้องมีอีกอย่างหนึ่ง ถ้าคุณจะเป็นศิลปิน คือ..จินตนาการ ..
#ยังไม่เกี่ยวอะไรกับ วง ฌา-มา เลยไช่มั่ยคับ..ติดตามต่อมาเลยนะครับ..รับรองต้องเกี่ยวแน่...
22ปี แห่งความหลัง วง ฌา มา ตำนานที่ยังคงอยู่ ตอนที่ 4
…ปลดประจำการแล้ว ยังไม่อยากกลับบ้าน (ทั้งที่ตอนไปใหม่ๆอยากจะหนี555)...ยังคงตั้งวงเล่นกับเพื่อนๆอยู่แถวพัทยา ระยอง จัทบุรี (วง ตอนนั้นก็มีผม เล่นเบส สมพงษ์ วง ลูกคลักเล่นกีตาร์..พี่ศล กุศล ช่วยดู เล่นคีบอร์ด ส่วนมือกลองชื่อ ริน.).เราเล่นกันอยู่อีกหลายปี จนเบื่อ เมื่อเล่นแล้วไม่เหลือเงินเก็บเลย พ่อก็ให้พี่สาวไปรับกลับบ้าน เมื่อปี 2535 จากบ้านไปเกือบ5ปีเลยทีเดียว
…กลับมาบ้าน พ่อก็พยายามหางานให้ทำ โดยพ่อลงทุนให้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะใจยังคงรักดนตรี ทั้งที่ตอนกลับมาก็คิดว่าจะหยุดเล่นแล้ว แต่พอเห็นเขาเล่นก็อดไม่ได้ จนต้องเข้าเมืองอีก..ไปหาเพื่อนเก่าๆที่เคยเล่นกันมา เขาก็หางานให้ ...ในที่สุดก็หนีไม่พ้น ต้องกลับมาในวังวนเดิมๆอีก กลายเป็นนักดนตรีคาเฟ่เหมือนเดิม
…...สู่เส้นทางนักร้องประกวด…...
....ด้วยความเป็นห่วงพ่อ กลางคืนเล่นดนตรี กลางวันก็ไปช่วยพ่อทำงานบ้าง...งานในตอนนั้นก็คือ ขับรถบันทุกไม้ฟืนส่งโรงงานปลาป่น. วันหนึ่งขณะไปส่งไม้เสร็จแล้ว ก่อนกลับบ้านเพื่อนชวนไปดูเขาประกวดร้องเพลง จำได้ว่าเพื่อนชื่อ หนุ่ม ปิยะ ศรีเมือง และ ทำนอง ไกลลาศ ทั้งสองคนทำงานอยู่ที่ บริษัทโตโยต้า ระนอง เพื่อนชวนไปที่ตลาดใหม่ ระนองธานี ที่เขามีการประกวดร้องเพลงเพื่อโปรโมทตลาดใหม่ ในตอนนั้น...ผมก็ไปทั้งตัวเหม็นๆนั้นแหละ ไปถึงเห็นเค้าประกวดกันก็เฉยๆ แต่เพื่อนหวังดีไปสมัครให้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ อยู่ๆเขาเรียกชื่อให้ขึ้นไปร้องเพลงก็ตกใจ เพื่อนบอกไปเถอะๆกูสมัครให้..ก็จำยอมขึ้นไปวันนั้นผมก็ร้องเพลงของครูสุรพลอีกเช่นเดิม คือเพลง น้ำตาจ่าโท จำได้เหมือนเดิมคือ พอผมร้อง แม่ค้าในตลาดต่างก็วิ่งออกมากันหมดทั้งตลาด แม่ค้ากล้วยทอดก็ทิ้งกะทะกล้วยทอด ออกมาดูผมแม่ค้าก๋วยเตี๊ยวก็ทิ้งหม้อก๋วยเตี๊ยวออกมาดูผม..ทุกคนต่างทึ่งที่ อยู่ๆมีคนมาร้องเพลงครูได้อย่างใกล้เคียง...ปรากฏว่าวันนั้นชนะได้ที่1เฉยเลยคับ
.....ทีนี้ก็เลยพูกพันต้องมาร้องทุกอาทิตย์กลายเป็นนักร้องประกวดที่ไม่แพ้ใครเลย1ปีเต็มๆ...จนได้รับการคัดเลือกไปเป็นตัวแทนจังหวัดระนอง(ในประกวดการร้องเพลงชิงถ้วยของสมเด็จพระเทพฯเพื่อหาตัวแทนของ14จังหวัด ภาคใต้ ไปแข่งต่อที่ กทม.เขาเอาแค่คนเดียว.)..เขาคัดเอาจังหวัดละ2คนหญิง1คน ชาย1คน 14จังหวัด 28คน ไปวันแรกคัดเหลือ 3คน(อ่อ..ลืมบอกว่ากรรมการที่มาตัดสินการประกวดร้องเพลงในครั้งนั้นมี4ท่านที่ผมจำได้ คือ คุณประจวบ จำปาทอง และครูพยงค์ มุกดา ส่วนอีก2 ท่านผมจำไม่ได้) ไปถึงวันแรกเขาคัดจาก28ให้เหลือ3คน..ผมติด1ใน3 แข่งวันต่อมา(ออก ทีวีช่อง11หาดใหญ่ ในขณะนั้น) ปรากฏว่าผมได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ก็เลยเลิกประกวดตั้งแต่นั้นมา
“พรสวรรค์ พรแสวง จินตนาการ”
…มีคนเคยบอกว่า ศิลปิน จะต้องมีพรสวรรค์ และพรแสวง จึงจะเป็นศิลปินได้ แต่ผมคิดว่า มันต้องมีอีกอย่างหนึ่ง ถ้าคุณจะเป็นศิลปิน คือ..จินตนาการ ..
#ยังไม่เกี่ยวอะไรกับ วง ฌา-มา เลยไช่มั่ยคับ..ติดตามต่อมาเลยนะครับ..รับรองต้องเกี่ยวแน่...