แฟน ๆ วันพีซคงจะรู้กันนะครับว่า อ. โอดะ เป็นคนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์และก็เรื่องราว ๆ ตำนานต่างๆ จากทั่วโลก แล้ว อ. แกก็จะนำเรื่องราวเหล่านั้นมาผนวกเข้ากับวันพีซ ในปัจจุบันเนี่ยวันพีซกำลังดำเนินเนื้อเรื่องมาถึงภาควาโนะคุนิ ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่าภาคนี้เนี่ย อ. แกต้องการให้ออกมาเป็นธีมญี่ปุ่นแบบสุด ๆ เพราะฉะนั้นเราก็จะได้เห็นพวกวัฒนธรรมและตำนานต่าง ๆ ลงไปอยู่ในเนื้อเรื่องมากมาย แต่ก่อนที่จะมาถึงภาควาโนะคุนิเนี่ย อ. โอดะก็ได้เคยเอาพวกนิทานหรือตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นมาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเนื้อเรื่องอยู่หลายต่อหลายครั้ง เพราะอย่างนั้นเนี่ยวันนี้เราก็จะมาพูดคุยกันถึงเรื่องของ นิทาน และตำนานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่นที่เคยถูกผนวกเข้ากับโลกของวันพีซกัน ว่าแล้วเราไปดูที่เรื่องแรกกันเลยดีกว่า
*ถ้าใครขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปที่ผมทำไว้ได้นะครับ
โดยเรื่องแรกเนี่ยเรียกได้ว่าเป็นตำนานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดเรื่องนึงเลยล่ะครับ ซึ่งก็คือเรื่องราวของ อุราชิมะ ทาโร่
โดยเรื่องราวเริ่มต้นที่หมู่บ้านริมทะเลแห่งนึง อุราชิมะ ทาโร่เป็นเด็กหนุ่มจิตใจดีและกตัญญู ทุก ๆ วันเขาจะออกหาปลาเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูแม่ วันหนึ่งเขาได้พบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังรังแกเต่าน้อยตัวหนึ่งอยู่ เขาจึงได้เข้าไปช่วยเต่าน้อยตัวนั้นไว้ จากนั้นเขาก็นำเต่าน้อยปล่อยลงสู่ทะเล วันต่อมาในขณะที่เขาออกหาปลาตามปกติ ได้มีเต่าตัวใหญ่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ แล้วบอกกับเขาว่าเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเต่าน้อยเอาไว้ เต่ายักษ์จะพาอุราชิมะ ทาโร่ไปยังวังมังกร ริวงูโจ อูราชิมะ ทาโรจึงขี่หลังเต่าตัวใหญ่ลงสู่ก้นทะเลลึก เขาได้พบกับเจ้าหญิงโอโตฮิเมะ หรือก็คือเต่าน้อยที่เค้าเคยช่วยเหลือไว้ซึ่งแอบปลอมตัวไปเที่ยวที่โลกมนุษย์นี่เอง เขาได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขในอาณาจักรใต้บาดาล เวลาผ่านไป 3 ปีเขาจึงเริ่มคิดถึงบ้าน เขาจึงขอลาเจ้าหญิงโอโตฮิเมะเพื่อเดินทางกลับบ้าน ก่อนเดินทาง เจ้าหญิงโอโตฮิเมะได้ให้กล่องที่ประดับด้วยอัญมณีเป็นของขวัญ โดยสั่งห้ามไม่ให้อุราชิมะทาโร่เปิดกล่องอย่างเด็ดขาด เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้าน อูราชิมะ ทาโร่ ก็พบว่าเวลาที่ใต้บาดาลแค่ 3 ปี นั้นเท่ากับเวลาบนโลกกว่า 300 ปีแล้ว ผู้คนที่เขารู้จักก็ไม่มีหลงเหลืออยู่ จะบอกว่าเพราะความเคว้งคว้างก็ได้นะครับอยู่ ๆ อุราชิมะทาโร่ก็ได้นึกถึงกล่องซึ่งได้รับเป็นของขวัญที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เปิดเด็ดขาด แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นบวกกับความไม่มีอะไรจะเสีย เขาจึงลองเปิดกล่องออกดู ก็ปรากฏควันขาวพวยพุ่งออกมา ในทันใดนั้นตัวเขาก็กลับชราลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นคนแก่อายุกว่า 300 ปีซึ่งแท้จริงแล้วก็คือที่ใช้กักเก็บอายุของเขานั่นเอง
และนี่ก็เป็นเรื่องราวคร่าว ๆ ของตำนานอุราชิมะ ทาโร่นะครับ เป็นไงครับฟังแล้วรู้สึกคุ้นๆ กับจุดไหนในวันพีซกันบ้างรึเปล่า ถ้านึกไม่ออกเดี๋ยวผมจะบอกให้ฟังครับ
1. อุราชิมะ ทาโร่ กับวันพีซภาคเกาะเงือก
คือเรื่องอุราชิมะทาโร่เนี่ยแทบจะเป็นแรงบันดาลใจหลัก ๆ ในเนื้อเรื่องภาคเกาะเงือกของวันพีซเลยแหละฮะ อย่างแรกก็คือพระราชวังริวงู ซึ่งเป็นวังใต้บาดาลที่งดงามมาก ซึ่ง อ. โอดะ แกก็ยกชื่อเอามาใช้ในวันพีซเป็นทั้งชื่อวัง แล้วก็ชื่อราชอาณาจักรของเกาะเงือกเลย เรื่องต่อมาก็คือองค์หญิงโอโตฮิเมะที่อยู่ในเนื้อเรื่องของอุราชิมะทาโร่เนี่ย ก็ได้กลายมาเป็นราชินีโอโตฮิเมะแม่ขององค์หญิงชิราโฮชิในวันพีซ ซึ่งในเนื้อเรื่องของอุราชิมะทาโร่ องค์หญิงโอโตฮิเมะ เค้าจะมีความหลงใหลและอยากรู้อยากเห็นกับโลกบนบกเป็นอย่างมากถึงขนาดแปลงร่างเป็นเต่าเพื่อขึ้นไปเที่ยวเล่น ซึ่งมันก็สอดคล้องกับโอโตฮิเมะของวันพีซที่มีความต้องการที่จะนำพาผู้คนของตนเนี่ยขึ้นไปสู่โลกเบื้องบน
2. อุราชิมะทาโร่ช่วยเต่า
จุดต่อมาเนี่ยเป็นจุดที่อุราชิมะทาโร่ช่วยเต่าน้อยเอาไว้ ซึ่งเนื้อเรื่องที่อ.โอดะนำมาดัดแปลงก็คือ ฉากที่พวกลูฟี่ช่วยเมกาโร่จากคราเค่นไว้ครับ ซึ่งเมกาโร่ก็คือฉลามสัตว์เลี้ยงของเจ้าหญิงชิราโฮชิ พอช่วยไว้แล้วราชาเนปจูนเนี่ยก็เลยขี่ปลาวาฬมาเชิญพวกลูฟี่ไปที่วังมังกรเพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณ จากเต่า อ. ก็เปลี่ยนเป็นฉลามซะอย่างนั้นนะฮะ แล้วเต่ายักษ์ก็กลายเป็นราชาเนปจูนกับปลาวาฬแทน ก็ถ้าเต่าน้อยเป็นฉลาม เต่ายักษ์ก็ต้องปลาวาฬนะฮะ 5555
3. ทามาเตะบาโกะ
ต่อมาก็จะเป็นเรื่องของกล่องที่โอโตฮิเมะให้กับอุราชิมะทาโร่ไว้ หลายคนก็คงจะเดากันได้นะครับว่าในวันพีซกล่องนี้ก็คือ ทามาเตะบาโกะ สมบัติชาติของราชอาณาจักรริวงู นั่นเอง ทามาเตะบาโกะเนี่ยเคยถูกเรียกว่ากล่องของอุราชิม่า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นของวิเศษที่สามารถทำให้คนแก่ลงได้ ซึ่งคนที่พูดถึงก็คือฟาน เดอ เดคเค่นที่ 9 ที่วางแผนจะใช้กล่องของอุราชิม่าในการทำให้เจ้าหญิงชิราโฮชิโตเป็นสาวไวขึ้นเพื่อจะได้แต่งงานด้วยแต่แกก็ต้องตัดใจไปเพราะ กล่องของอุราชิม่าเนี่ยอยู่ในพระราชวังริวงู ซึ่งก็ยากที่จะเข้าไปเอามาได้ แต่แล้ววันนึงกล่องสมบัติลับทามาเตะบาโกะ หรือกล่องของอุราชิม่าเนี่ยก็ถูกขโมยสิ่งที่อยู่ข้างในไปครับ ซึ่งหัวขโมยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน บักโฮดี้โจนส์นี่แหละฮะ ด้วยความที่เค้าเคยเป็นทหารของกองทัพเนปจูนมาก่อนเค้าจึงสามารถฉวยโอกาสเข้าไปขโมยมันมาได้ ซึ่งของที่อยู่ข้างในหรือสมบัติในตำนานของราชวงริวงูเนี่ยก็คือ ยาเอเนจี้สเตียรอยด์ ที่จะมอบพละกำลังให้อย่างมหาศาลโดยต้องแลกกับอายุไขของตัวเอง เป็นเหมือนคำสาบของการเปิดกล่องของอุราชิม่า มันจึงเป็นเหตุให้ในตอบจบภาคพวกโฮดี้โจนส์ต้องกลายเป็นคนแก่ไปครับ ซึ่งผมชอบเรื่องการผูกเรื่องตรงนี้ของ อ. โอดะมากๆ อะแล้วต่อมาเนี่ยทามาเตะบาโกะมีระเบิดอยู่ข้างในได้ยังไง คือรัฐมนตรีขวาเนี่ยเค้าอยากจะแก้เผ็ดพวกหัวขโมยที่มาขโมยของในวังเค้าจึงใส่กลไกลระเบิดไว้ในทามาเตะบาโกะ ถ้าใครมาขโมยไปอีกก็จะต้องโดนระเบิดเวลาเปิดกล่อง แต่ราชาเนปจูนไม่รู้เรื่องนี้จึงยกสมบัตินี้ให้กับพวกลูฟี่ไป ซึ่งลูฟี่ก็ยกให้บิ้กมัมในเวลาต่อมา
สำหรับเรื่องของอุราชิมะ ทาโร่ ที่ผมนึกออกก็จะมีประมาณนี้นะฮะ ว่าแล้วเราก็ไปดูที่ตำนานนิทานเรื่องต่อไปกันเลยดีกว่า ซึ่งก็คือเรื่องของ โมโมทาโร่ ครับ
เรื่องราวของโมโมทาโร่คร่าว ๆ เนี่ยเริ่มต้นที่ลำธารแห่งนึง มีคุณยายคนนึงที่โศกเศร้าเพราะไม่สามารถมีลูกได้กำลังนั่งซักผ้าอยู่แล้ว จู่ๆ ก็มีลูกท้อยักษ์ลอยมา คุณยายจึงนำลูกท้อยักษ์กลับไปบ้าน เมื่อคุณตาผ่าลูกท้อออกเป็น 2 ซีก คุณตากับคุณยายก็ได้พบว่ามีเด็กผู้ชายอยู่ข้างใน พวกเขาจึงเชื่อว่านี่คือเด็กที่สวรรค์ส่งมาให้ จึงตั้งใจจะเลี้ยงดูและตั้งชื่อให้ว่า โมโมทาโร่ โดย โมโมะแปลว่าลูกท้อ ส่วนทาโร่เป็นชื่อที่นิยมตั้งให้เด็กผู้ชายในสมัยนั้น เมื่อโมโมทาโร่เติบโตขึ้นเค้ากลายเป็นเด็กที่แข็งแรงมาก และในช่วงวัยเด็กของเขาเนี่ยโมโมทาโร่ได้ยินข่าวการออกอาละวาดของพวกยักษ์ซึ่งทำให้คนในหมู่บ้านเดือดร้อนอยู่เสมอ ๆ วันนึงเค้าจึงขออนุญาตตายายเพื่ออาสาไปปราบยักษ์ ก่อนไปคุณยายก็ได้ทำขนมคิบิดังโงะ เพื่อให้เค้านำติดตัวไปด้วย ระหว่างทางโมโมทาโร่ ได้พบกับ หมา ลิง และไก่ฟ้า ซึ่งโมโมทาโร่ก็ได้เอาขนมคิบิดังโงะให้สัตว์ทั้ง 3 พร้อมทั้งเล่าเรื่องของยักษ์ให้ฟัง สัตว์ทั้ง 3 จึงตกลงที่จะร่วมเดินทางไปปราบยักษ์ด้วย ในที่สุดทั้ง 4 ก็ผจญภัยไปด้วยกันจนสามารถปราบยักษ์ได้และก็นำสมบัติกลับมาคืนคนทั้งหมู่บ้านได้สำเร็จ
ซึ่งตำนานของโมโมทาโร่เนี่ยก็ได้ถูกนำมาผนวกเข้ากับวันพีซในหลาย ๆ เรื่องเลยครับแต่จะมีเรื่องไหนบ้างเรามาดูกันดีกว่า
1. หมา ลิง และไก่ฟ้า
เรื่องแรกเนี่ย ผมมุ่งประเด็นไปที่ตัวละครหลักที่เป็นสัตว์ ทั้ง 3 ก่อนนะครับ ถ้าเราจะพูดถึง หมา ลิง และ ไก่ฟ้า เนี่ยในโลกของวันพีซคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากอดีต 2 พลเอก กับอีกหนึ่งพลเอกในปัจจุบัน แห่งกองทัพเรือใช่มั้ยฮะ ซึ่งก็จะมี หมาแดง อาคาอินุ ลิงเหลือง คิซารุ และ ไก่ฟ้าครามอาโอคิยิ ซึ่งอ. โอดะคงต้องการจะสื่อประมาณว่า ทั้ง 3 เป็นผู้พิทักษ์ที่คอยต่อต้านความชั่วร้าย จึงได้ใช้สัตว์ทั้ง 3 ในเรื่องโมโมทาโร่มาเป็นฉายาของแต่ละคนครับ
2. คิบิดังโงะ
ต่อมาคือเรื่องของขนมคิบิดังโงะ คือโมโมทาโร่เนี่ยเป็นนิทานพื้นบ้านของจังหวัดโอกายามะ ซึ่งคิบิดังโงะเองก็เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งคิบิเนี่ยมันแปลว่าข้าวฟ่างครับ คิบิดังโงะก็หมายถึงขนมดังโงะที่ทำจากข้าวฟ่างนั่นเอง ซึ่งในตำนานของโมโมทาโร่เนี่ย โมโมทาโร่เอาขนมคิบิดังโงะให้สัตว์ทั้ง 3 กิน สัตว์ทั้ง 3 จึงยอมติดตามไปด้วย คนญี่ปุ่นเค้าจึงเชื่อว่าขนมคิบิดังโงะของโมโมทาโร่เนี่ยแหละที่ทำให้สัตว์เชื่องได้ ซึ่งเราก็จะเห็นได้บ่อย ๆ ในการ์ตูนโดราเอม่อนครับ คือมันจะมีของวิเศษชิ้นนึงชื่อว่า คิบิดังโงะ ตราโมโมทาโร่ ที่ให้สัตว์กินแล้วสัตว์จะเชื่องได้ครับ ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานนี้แหละฮะ แล้วในโลกของวันพีซเองเนี่ยก็ได้มีการนำคิบิดังโงะมาผนวกเข้ากับเรื่องให้เป็นพลังพิเศษจากผลปีศาจ โดยเด็กที่เป็นเจ้าของพลังเนี่ยก็คือ โอทามะ ครับ ซึ่งเธอสามารถดึงคิบิดังโงะออกมาจากแก้มได้แล้วพอเอาให้สัตว์กินสัตว์ตัวนั้นเนี่ยก็จะเชื่องกับเธอครับ
3. โมโมทาโร่ กับ วาโนะคุนิ
ต่อมาคือเนื้อเรื่องของโมโมทาโร่เนี่ยก็เรียกได้ว่าเป็นธีมใหญ่ธีมนึงสำหรับภาควาโนะคุนินี้เลยล่ะครับ ลองมาคิดกันนะครับเนื้อเรื่องที่โมโมทาโร่นำ หมา ลิง แล้วก็ไก่ฟ้าไปปราบยักษ์ เนี่ยมันฟังดูคุ้นๆ มั้ยครับ โมโมทาโร่เนี่ยก็คือโมโมโนะสุเกะครับ เด็กผู้ชายที่ต้องการรวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อช่วยเหลืออาณาจักรของตัวเอง ทางฝั่งของยักษ์นี่ก็จะเป็นใครไปไม่ได้ครับนอกจากไคโดกับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร ในส่วนที่น่าสนใจเนี่ยคือส่วนของ หมา ลิง และ ไก่ฟ้า ครับเพราะ ผมเชื่อว่าในคราวนี้เนี่ยสัตว์ทั้ง 3 ไม่ได้หมายถึง 3 พลเอก แต่อย่างใด แต่จะหมายถึงใครกันได้บ้างไปดูกันดีกว่าครับ ลิง เนี่ยแน่นอนอยู่แล้วครับว่าจะต้องเป็น มังกี้ ดี ลูฟี่อย่างแน่นอน ไก่ฟ้า เนี่ยตอนแรกผมคิดว่ายังไงก็คงจะต้องเป็นมัลโก้แน่ ๆ ฮะ แต่ที่นี้ในเนื้อเรื่องเนี่ยมัลโก้ก็ไม่ยอมมาตามคำชวนของเนโกะมามูชิซะแล้วครับ ก็ไม่รู้นะฮะว่าอาจจะตามมาทีหลังรึเปล่า หรือว่าคุซันอาจจะมามีบทบาทในส่วนนี้แทน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ในส่วนของหมาเนี่ยบทมันค่อนข้างจะไปทาง อินุอาราชิ นะฮะ แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจเพราะว่า ในวันพีซเนี่ยอินุอาราชิ กับเนโกะมามูชิเค้าจะมีบทบาทไล่เลี่ยกันมาตลอด ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ถ้าจะให้กองทัพของเผ่ามิงค์ทั้งหมดไปรวมอยู่ในส่วนของ หมา ฝ่ายเดียวเนี่ยผมก็ยังรู้สึกขัด ๆ ใจอยู่ครับ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเนี่ยก็ไม่รู้นะครับว่าใครจะมาแทนบทบาทของหมาได้บ้าง ซึ่งที่ผมนึกออกก็มีแค่ หมาบ้าไฮยีน่าเบลลามี่ กับ กาฟ เนี่ยแหละครับ
นิทาน-ตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นที่ถูกผนวกเข้ากับโลกของวันพีซ
*ถ้าใครขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปที่ผมทำไว้ได้นะครับ
โดยเรื่องแรกเนี่ยเรียกได้ว่าเป็นตำนานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดเรื่องนึงเลยล่ะครับ ซึ่งก็คือเรื่องราวของ อุราชิมะ ทาโร่
โดยเรื่องราวเริ่มต้นที่หมู่บ้านริมทะเลแห่งนึง อุราชิมะ ทาโร่เป็นเด็กหนุ่มจิตใจดีและกตัญญู ทุก ๆ วันเขาจะออกหาปลาเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูแม่ วันหนึ่งเขาได้พบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังรังแกเต่าน้อยตัวหนึ่งอยู่ เขาจึงได้เข้าไปช่วยเต่าน้อยตัวนั้นไว้ จากนั้นเขาก็นำเต่าน้อยปล่อยลงสู่ทะเล วันต่อมาในขณะที่เขาออกหาปลาตามปกติ ได้มีเต่าตัวใหญ่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ แล้วบอกกับเขาว่าเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเต่าน้อยเอาไว้ เต่ายักษ์จะพาอุราชิมะ ทาโร่ไปยังวังมังกร ริวงูโจ อูราชิมะ ทาโรจึงขี่หลังเต่าตัวใหญ่ลงสู่ก้นทะเลลึก เขาได้พบกับเจ้าหญิงโอโตฮิเมะ หรือก็คือเต่าน้อยที่เค้าเคยช่วยเหลือไว้ซึ่งแอบปลอมตัวไปเที่ยวที่โลกมนุษย์นี่เอง เขาได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขในอาณาจักรใต้บาดาล เวลาผ่านไป 3 ปีเขาจึงเริ่มคิดถึงบ้าน เขาจึงขอลาเจ้าหญิงโอโตฮิเมะเพื่อเดินทางกลับบ้าน ก่อนเดินทาง เจ้าหญิงโอโตฮิเมะได้ให้กล่องที่ประดับด้วยอัญมณีเป็นของขวัญ โดยสั่งห้ามไม่ให้อุราชิมะทาโร่เปิดกล่องอย่างเด็ดขาด เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้าน อูราชิมะ ทาโร่ ก็พบว่าเวลาที่ใต้บาดาลแค่ 3 ปี นั้นเท่ากับเวลาบนโลกกว่า 300 ปีแล้ว ผู้คนที่เขารู้จักก็ไม่มีหลงเหลืออยู่ จะบอกว่าเพราะความเคว้งคว้างก็ได้นะครับอยู่ ๆ อุราชิมะทาโร่ก็ได้นึกถึงกล่องซึ่งได้รับเป็นของขวัญที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เปิดเด็ดขาด แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นบวกกับความไม่มีอะไรจะเสีย เขาจึงลองเปิดกล่องออกดู ก็ปรากฏควันขาวพวยพุ่งออกมา ในทันใดนั้นตัวเขาก็กลับชราลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นคนแก่อายุกว่า 300 ปีซึ่งแท้จริงแล้วก็คือที่ใช้กักเก็บอายุของเขานั่นเอง
และนี่ก็เป็นเรื่องราวคร่าว ๆ ของตำนานอุราชิมะ ทาโร่นะครับ เป็นไงครับฟังแล้วรู้สึกคุ้นๆ กับจุดไหนในวันพีซกันบ้างรึเปล่า ถ้านึกไม่ออกเดี๋ยวผมจะบอกให้ฟังครับ
1. อุราชิมะ ทาโร่ กับวันพีซภาคเกาะเงือก
คือเรื่องอุราชิมะทาโร่เนี่ยแทบจะเป็นแรงบันดาลใจหลัก ๆ ในเนื้อเรื่องภาคเกาะเงือกของวันพีซเลยแหละฮะ อย่างแรกก็คือพระราชวังริวงู ซึ่งเป็นวังใต้บาดาลที่งดงามมาก ซึ่ง อ. โอดะ แกก็ยกชื่อเอามาใช้ในวันพีซเป็นทั้งชื่อวัง แล้วก็ชื่อราชอาณาจักรของเกาะเงือกเลย เรื่องต่อมาก็คือองค์หญิงโอโตฮิเมะที่อยู่ในเนื้อเรื่องของอุราชิมะทาโร่เนี่ย ก็ได้กลายมาเป็นราชินีโอโตฮิเมะแม่ขององค์หญิงชิราโฮชิในวันพีซ ซึ่งในเนื้อเรื่องของอุราชิมะทาโร่ องค์หญิงโอโตฮิเมะ เค้าจะมีความหลงใหลและอยากรู้อยากเห็นกับโลกบนบกเป็นอย่างมากถึงขนาดแปลงร่างเป็นเต่าเพื่อขึ้นไปเที่ยวเล่น ซึ่งมันก็สอดคล้องกับโอโตฮิเมะของวันพีซที่มีความต้องการที่จะนำพาผู้คนของตนเนี่ยขึ้นไปสู่โลกเบื้องบน
2. อุราชิมะทาโร่ช่วยเต่า
จุดต่อมาเนี่ยเป็นจุดที่อุราชิมะทาโร่ช่วยเต่าน้อยเอาไว้ ซึ่งเนื้อเรื่องที่อ.โอดะนำมาดัดแปลงก็คือ ฉากที่พวกลูฟี่ช่วยเมกาโร่จากคราเค่นไว้ครับ ซึ่งเมกาโร่ก็คือฉลามสัตว์เลี้ยงของเจ้าหญิงชิราโฮชิ พอช่วยไว้แล้วราชาเนปจูนเนี่ยก็เลยขี่ปลาวาฬมาเชิญพวกลูฟี่ไปที่วังมังกรเพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณ จากเต่า อ. ก็เปลี่ยนเป็นฉลามซะอย่างนั้นนะฮะ แล้วเต่ายักษ์ก็กลายเป็นราชาเนปจูนกับปลาวาฬแทน ก็ถ้าเต่าน้อยเป็นฉลาม เต่ายักษ์ก็ต้องปลาวาฬนะฮะ 5555
3. ทามาเตะบาโกะ
ต่อมาก็จะเป็นเรื่องของกล่องที่โอโตฮิเมะให้กับอุราชิมะทาโร่ไว้ หลายคนก็คงจะเดากันได้นะครับว่าในวันพีซกล่องนี้ก็คือ ทามาเตะบาโกะ สมบัติชาติของราชอาณาจักรริวงู นั่นเอง ทามาเตะบาโกะเนี่ยเคยถูกเรียกว่ากล่องของอุราชิม่า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นของวิเศษที่สามารถทำให้คนแก่ลงได้ ซึ่งคนที่พูดถึงก็คือฟาน เดอ เดคเค่นที่ 9 ที่วางแผนจะใช้กล่องของอุราชิม่าในการทำให้เจ้าหญิงชิราโฮชิโตเป็นสาวไวขึ้นเพื่อจะได้แต่งงานด้วยแต่แกก็ต้องตัดใจไปเพราะ กล่องของอุราชิม่าเนี่ยอยู่ในพระราชวังริวงู ซึ่งก็ยากที่จะเข้าไปเอามาได้ แต่แล้ววันนึงกล่องสมบัติลับทามาเตะบาโกะ หรือกล่องของอุราชิม่าเนี่ยก็ถูกขโมยสิ่งที่อยู่ข้างในไปครับ ซึ่งหัวขโมยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน บักโฮดี้โจนส์นี่แหละฮะ ด้วยความที่เค้าเคยเป็นทหารของกองทัพเนปจูนมาก่อนเค้าจึงสามารถฉวยโอกาสเข้าไปขโมยมันมาได้ ซึ่งของที่อยู่ข้างในหรือสมบัติในตำนานของราชวงริวงูเนี่ยก็คือ ยาเอเนจี้สเตียรอยด์ ที่จะมอบพละกำลังให้อย่างมหาศาลโดยต้องแลกกับอายุไขของตัวเอง เป็นเหมือนคำสาบของการเปิดกล่องของอุราชิม่า มันจึงเป็นเหตุให้ในตอบจบภาคพวกโฮดี้โจนส์ต้องกลายเป็นคนแก่ไปครับ ซึ่งผมชอบเรื่องการผูกเรื่องตรงนี้ของ อ. โอดะมากๆ อะแล้วต่อมาเนี่ยทามาเตะบาโกะมีระเบิดอยู่ข้างในได้ยังไง คือรัฐมนตรีขวาเนี่ยเค้าอยากจะแก้เผ็ดพวกหัวขโมยที่มาขโมยของในวังเค้าจึงใส่กลไกลระเบิดไว้ในทามาเตะบาโกะ ถ้าใครมาขโมยไปอีกก็จะต้องโดนระเบิดเวลาเปิดกล่อง แต่ราชาเนปจูนไม่รู้เรื่องนี้จึงยกสมบัตินี้ให้กับพวกลูฟี่ไป ซึ่งลูฟี่ก็ยกให้บิ้กมัมในเวลาต่อมา
สำหรับเรื่องของอุราชิมะ ทาโร่ ที่ผมนึกออกก็จะมีประมาณนี้นะฮะ ว่าแล้วเราก็ไปดูที่ตำนานนิทานเรื่องต่อไปกันเลยดีกว่า ซึ่งก็คือเรื่องของ โมโมทาโร่ ครับ
เรื่องราวของโมโมทาโร่คร่าว ๆ เนี่ยเริ่มต้นที่ลำธารแห่งนึง มีคุณยายคนนึงที่โศกเศร้าเพราะไม่สามารถมีลูกได้กำลังนั่งซักผ้าอยู่แล้ว จู่ๆ ก็มีลูกท้อยักษ์ลอยมา คุณยายจึงนำลูกท้อยักษ์กลับไปบ้าน เมื่อคุณตาผ่าลูกท้อออกเป็น 2 ซีก คุณตากับคุณยายก็ได้พบว่ามีเด็กผู้ชายอยู่ข้างใน พวกเขาจึงเชื่อว่านี่คือเด็กที่สวรรค์ส่งมาให้ จึงตั้งใจจะเลี้ยงดูและตั้งชื่อให้ว่า โมโมทาโร่ โดย โมโมะแปลว่าลูกท้อ ส่วนทาโร่เป็นชื่อที่นิยมตั้งให้เด็กผู้ชายในสมัยนั้น เมื่อโมโมทาโร่เติบโตขึ้นเค้ากลายเป็นเด็กที่แข็งแรงมาก และในช่วงวัยเด็กของเขาเนี่ยโมโมทาโร่ได้ยินข่าวการออกอาละวาดของพวกยักษ์ซึ่งทำให้คนในหมู่บ้านเดือดร้อนอยู่เสมอ ๆ วันนึงเค้าจึงขออนุญาตตายายเพื่ออาสาไปปราบยักษ์ ก่อนไปคุณยายก็ได้ทำขนมคิบิดังโงะ เพื่อให้เค้านำติดตัวไปด้วย ระหว่างทางโมโมทาโร่ ได้พบกับ หมา ลิง และไก่ฟ้า ซึ่งโมโมทาโร่ก็ได้เอาขนมคิบิดังโงะให้สัตว์ทั้ง 3 พร้อมทั้งเล่าเรื่องของยักษ์ให้ฟัง สัตว์ทั้ง 3 จึงตกลงที่จะร่วมเดินทางไปปราบยักษ์ด้วย ในที่สุดทั้ง 4 ก็ผจญภัยไปด้วยกันจนสามารถปราบยักษ์ได้และก็นำสมบัติกลับมาคืนคนทั้งหมู่บ้านได้สำเร็จ
ซึ่งตำนานของโมโมทาโร่เนี่ยก็ได้ถูกนำมาผนวกเข้ากับวันพีซในหลาย ๆ เรื่องเลยครับแต่จะมีเรื่องไหนบ้างเรามาดูกันดีกว่า
1. หมา ลิง และไก่ฟ้า
เรื่องแรกเนี่ย ผมมุ่งประเด็นไปที่ตัวละครหลักที่เป็นสัตว์ ทั้ง 3 ก่อนนะครับ ถ้าเราจะพูดถึง หมา ลิง และ ไก่ฟ้า เนี่ยในโลกของวันพีซคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากอดีต 2 พลเอก กับอีกหนึ่งพลเอกในปัจจุบัน แห่งกองทัพเรือใช่มั้ยฮะ ซึ่งก็จะมี หมาแดง อาคาอินุ ลิงเหลือง คิซารุ และ ไก่ฟ้าครามอาโอคิยิ ซึ่งอ. โอดะคงต้องการจะสื่อประมาณว่า ทั้ง 3 เป็นผู้พิทักษ์ที่คอยต่อต้านความชั่วร้าย จึงได้ใช้สัตว์ทั้ง 3 ในเรื่องโมโมทาโร่มาเป็นฉายาของแต่ละคนครับ
2. คิบิดังโงะ
ต่อมาคือเรื่องของขนมคิบิดังโงะ คือโมโมทาโร่เนี่ยเป็นนิทานพื้นบ้านของจังหวัดโอกายามะ ซึ่งคิบิดังโงะเองก็เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งคิบิเนี่ยมันแปลว่าข้าวฟ่างครับ คิบิดังโงะก็หมายถึงขนมดังโงะที่ทำจากข้าวฟ่างนั่นเอง ซึ่งในตำนานของโมโมทาโร่เนี่ย โมโมทาโร่เอาขนมคิบิดังโงะให้สัตว์ทั้ง 3 กิน สัตว์ทั้ง 3 จึงยอมติดตามไปด้วย คนญี่ปุ่นเค้าจึงเชื่อว่าขนมคิบิดังโงะของโมโมทาโร่เนี่ยแหละที่ทำให้สัตว์เชื่องได้ ซึ่งเราก็จะเห็นได้บ่อย ๆ ในการ์ตูนโดราเอม่อนครับ คือมันจะมีของวิเศษชิ้นนึงชื่อว่า คิบิดังโงะ ตราโมโมทาโร่ ที่ให้สัตว์กินแล้วสัตว์จะเชื่องได้ครับ ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานนี้แหละฮะ แล้วในโลกของวันพีซเองเนี่ยก็ได้มีการนำคิบิดังโงะมาผนวกเข้ากับเรื่องให้เป็นพลังพิเศษจากผลปีศาจ โดยเด็กที่เป็นเจ้าของพลังเนี่ยก็คือ โอทามะ ครับ ซึ่งเธอสามารถดึงคิบิดังโงะออกมาจากแก้มได้แล้วพอเอาให้สัตว์กินสัตว์ตัวนั้นเนี่ยก็จะเชื่องกับเธอครับ
3. โมโมทาโร่ กับ วาโนะคุนิ
ต่อมาคือเนื้อเรื่องของโมโมทาโร่เนี่ยก็เรียกได้ว่าเป็นธีมใหญ่ธีมนึงสำหรับภาควาโนะคุนินี้เลยล่ะครับ ลองมาคิดกันนะครับเนื้อเรื่องที่โมโมทาโร่นำ หมา ลิง แล้วก็ไก่ฟ้าไปปราบยักษ์ เนี่ยมันฟังดูคุ้นๆ มั้ยครับ โมโมทาโร่เนี่ยก็คือโมโมโนะสุเกะครับ เด็กผู้ชายที่ต้องการรวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อช่วยเหลืออาณาจักรของตัวเอง ทางฝั่งของยักษ์นี่ก็จะเป็นใครไปไม่ได้ครับนอกจากไคโดกับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร ในส่วนที่น่าสนใจเนี่ยคือส่วนของ หมา ลิง และ ไก่ฟ้า ครับเพราะ ผมเชื่อว่าในคราวนี้เนี่ยสัตว์ทั้ง 3 ไม่ได้หมายถึง 3 พลเอก แต่อย่างใด แต่จะหมายถึงใครกันได้บ้างไปดูกันดีกว่าครับ ลิง เนี่ยแน่นอนอยู่แล้วครับว่าจะต้องเป็น มังกี้ ดี ลูฟี่อย่างแน่นอน ไก่ฟ้า เนี่ยตอนแรกผมคิดว่ายังไงก็คงจะต้องเป็นมัลโก้แน่ ๆ ฮะ แต่ที่นี้ในเนื้อเรื่องเนี่ยมัลโก้ก็ไม่ยอมมาตามคำชวนของเนโกะมามูชิซะแล้วครับ ก็ไม่รู้นะฮะว่าอาจจะตามมาทีหลังรึเปล่า หรือว่าคุซันอาจจะมามีบทบาทในส่วนนี้แทน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ในส่วนของหมาเนี่ยบทมันค่อนข้างจะไปทาง อินุอาราชิ นะฮะ แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจเพราะว่า ในวันพีซเนี่ยอินุอาราชิ กับเนโกะมามูชิเค้าจะมีบทบาทไล่เลี่ยกันมาตลอด ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ถ้าจะให้กองทัพของเผ่ามิงค์ทั้งหมดไปรวมอยู่ในส่วนของ หมา ฝ่ายเดียวเนี่ยผมก็ยังรู้สึกขัด ๆ ใจอยู่ครับ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเนี่ยก็ไม่รู้นะครับว่าใครจะมาแทนบทบาทของหมาได้บ้าง ซึ่งที่ผมนึกออกก็มีแค่ หมาบ้าไฮยีน่าเบลลามี่ กับ กาฟ เนี่ยแหละครับ