สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปที่น่ารักทุกคนนน แอบคิดว่าคนที่กดเข้ามาดูในกระทู้นี้น่าจะกำลังสนใจและคิดอยากที่จะทำจมูก

อยู่แน่ๆ เลยใช่ไหมคะ วันนี้เราจะมาบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการทำจมูกที่ DRT Clinic แบบค่อนข้างละเอียด

ที่เราได้ไปทำมาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วให้ฟังกันค่ะ จะเป็นยังไงบ้างลองตามมากันเลยดีกว่าค่ะ เย่ <3

ก่อนอื่นเราจะขอพูดสิ่งที่ควรเตรียมตัวและเตรียมใจก่อนศัลยกรรมให้ฟังก่อนนะคะ

สิ่งแรกเลยคือ ควรศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการทำศัลยกรรมและศึกษาหารีวิวของร้านที่จะไปทำให้ดีค่ะ เพราะว่าไหนๆ ลงทุนทั้งเงินและเจ็บตัวทั้งทีก็ควรทำให้ดีไปเลย อย่าคิดแค่ว่า ทำถูกๆ ก่อนไม่เป็นไร ไว้มีเงินค่อยมาทำดีๆ ส่วนใหญ่พอทำจมูกไปแล้วมาแก้เอาซิลิโคนเดิมออกจากที่โดนพังผืดรัดแกนไปแล้ว เขาว่า มันจะเจ็บกว่าเสริมครั้งแรกและบางครั้งอาจแก้ออกมาให้สวยยากขึ้น

สิ่งที่สองหลังจาก ศึกษาการศัลยกรรม และตัดสินใจเลือกสถานที่ที่จะเสริมจมูกได้แล้ว แนะนำให้ลองเข้าไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาดูก่อนว่า จมูกแบบเราเสริมได้มั้ย เสริมได้มากน้อยแค่ไหน และควรใช้ซิลิโคนแบบไหนให้เหมาะกับเนื้อจมูกของเรามากที่สุด เพื่อดูความเห็นของคุณหมอและเพิ่มความมั่นใจว่า คุณหมอชำนาญและสามารถเสริมจมูกให้เราได้จริง อย่างที่ที่เราไป เราได้คุยกับคุณหมอแล้วรู้สึกเลยว่า คุณหมอชำนาญจริง และแนะนำให้แบบดีมากๆ ค่ะ

สิ่งสุดท้ายคือ อย่าลืมศึกษาการเตรียมตัวก่อนเข้าทำศัลยกรรม และวิธีการดูแลตัวเองหลังจากการพักฟื้น พวกที่ควรเลี่ยงเลยคือ ของหมักดอง ของแสลง ยาที่ทำให้เลือดไหลง่ายขึ้น เช่น แอสไพริน ฯลฯ อาหารเสริมต่างๆ นานา ควรพักก่อนทำศัลยกรรมประมาณ 2-3 สัปดาห์ และควรเตรียมพวกหมอนรองคอ ตัวช่วยประคบเย็น/ประคบร้อน ฯลฯ ส่วนยาที่ต้องทานคุณหมอท่านจะเป็นคนสั่งให้เองค่ะ

หลังจากเวิ่นมานาน เราจะขอย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงประมาณ 2 เดือนที่แล้ว เราได้เดินทางไปที่ DRT Clinic แถวช่วงประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเสริมจมูกกับคุณหมอธนยศ สูยะโพธ มีประวัติการทำงานที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญในเรื่องของการผ่าตัดทำจมูกแบบออกแบบเคสบายเคส ด้วยเทคนิคพิเศษในการเหลาที่เรียกว่า ซิลิโคนปลายสปริง

พอเข้าพบคุณหมอก็พูดคุยกันบ้าง ถามตอบเรื่องที่เราสงสัย และพูดคุยกันว่าเราอยากได้ทรงแบบไหน เราบอกอยากได้แบบธรรมชาติที่สุดค่ะ 5555 เพราะว่าส่วนตัวไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรมาก่อน แม้แต่ฉีดก็ไม่เคย พอจะทำจริงๆ แล้วแอบมีความกังวลหน่อย ดีที่คุณหมอยั้งไว้ว่า ธรรมชาติแบบดูเปลี่ยนหน่อยเนอะ ไม่งั้นแอบเสียใจทีหลังเหมือนกัน จากนั้นก็คุณหมอจะถ่ายรูปเพื่อออกแบบทรงจมูกให้ดูว่า เรามีจุดด้อยตรงไหน และควรเสริมที่ตรงไหน ส่วนตัวเราเป็นคนพอมีจมูกบ้างอยู่แล้ว แต่มีปัญหาตรงช่วงระหว่างตามันเว้าไปเยอะ และมีฮั๊มพ์โผล่ช่วงใต้ตาลงมามันเลยทำให้ดูจมูกสั้น และหน้าก็ดูสั้นตาม ท่านก็เลยแนะนำให้ตะไบตรงฮั๊มแล้วเสริมตรงช่วงช่วงเว้าเยอะหน่อยและตรงปลายนิดนึงก็พอ

ตอนช่วงคุณหมอผ่าไม่มีภาพนะคะ พยายามนึกภาพตามเอาเด้อ คือตอนที่ทำอะไม่เจ็บ แต่ตอนฉีดยาชาคือมีน้ำตาร่วง 555 คุณหมอจะฉีดทั่วจมูกเลยความเจ็บอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ค่ะ ระหว่างที่ทำก็จะรู้สึกว่ากึกๆ แบบรู้ว่าตอนนี้คุณหมอกำลังตะไบฮั๊มพ์อยู่นะ หรือตอนนี้กำลังใส่ซิลิโคนเข้าไปแล้ว ฯลฯ แต่ไม่รู้สึกเจ็บหรืออะไรเลยค่ะ และก็ซิลิโคนที่คุณหมอใส่ให้เป็นซิลิโคนเกรดอเมริกา มีค่าใช้จ่าย25,000 บาท หน้าตาคือเป็นแท่งเหลี่ยมๆ มาเลย ไม่ใช่ซิลิโคนสำเร็จรูป คุณหมอกะประมาณและก็ตะไบเองเลยค่ะ ถ้าลองใส่เข้าไปในจมูกแล้วคุณหมอยังไม่พอใจก็จะเอาออกมาตะไบใหม่อีกครั้งจนรู้สึกว่าเป๊ะ ค่อยเย็บแผลแบบไหมละลายที่ด้านในจมูกให้ค่ะ ไม่ต้องเจ็บอีกครั้ง เพราะไม่ต้องดึงไหมออก

ถามว่าช้ำมากมั้ย แน่นอนว่าช่วง 2-3 วันแรกมันช้ำและบวมมากเป็นปกติทุกที่อยู่แล้ว แต่ส่วนตัวเราช้ำค่อนข้างนานเป็นสัปดาห์ เพราะเราเป็นคนผิวช้ำแล้วหายช้าเป็นปกติอยู่แล้วด้วย แต่เห็นพี่ที่ไปพร้อมกัน ประมาณ 4 วันก็หายช้ำแต่งหน้าออกจากบ้านได้แล้วนะคะ หรือถ้าใครอยากหายไวก็อาจจะต้องหาอาหารเสริมหรือตัวช่วยอื่นเพิ่มเติมแต่แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนทานหรือใช้ค่ะ

และก็ส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างประทับใจที่นี่ก็คือ พี่พยาบาลจะให้แอดไลน์และคอยให้เราส่งภาพให้คุณหมอช่วยดูแลอาการทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์ หากมีตรงไหนสงสัย หรือมีอาการอะไรสามารถแจ้งพี่เขาได้เลย และก็ด้วยความที่บ้านเราอยู่ไม่ไกลจากคลินิก เราก็ไปหาคุณหมอได้ค่อนข้างบ่อย ให้คุณหมอเช็คอาการจริงๆ ได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ในช่วงสัปดาห์แรกจมูกเรามันรัดออกมามีตรงช่วงหัวตาไม่สมูธเท่าไหร่ คุณหมอก็บีบเบาๆ ตรงส่วนนั้นให้ ทำให้ทรงจมูกที่ได้ออกมาสวยมากยิ่งขึ้น

ในที่สุดก็ผ่านมา 2 เดือนแล้วค่ะเย่! รู้สึกว่า ตอนนี้มีความมั่นใจขึ้นมากๆ สามารถแต่งหน้าถ่ายรูปแล้วออกมาดูมีมิติยิ่งขึ้น ถ่ายไกลๆ ก็ยังดูมีดั้งอยู่ค่ะ แถมไล้ดั้งก็ไม่ดูปลอม ตอนแรกแอบกังวลว่าแต่งหน้าไล้ดั้งจมูกจะดูเป็นแท่งปลอมๆ มั้ย สรุปคือไม่เลยค่ะ และก็เจอคนในชีวิตจริงส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครทักว่าไปทำอะไรมานะคะ น้อยคนมากๆ ที่เขาจะรู้และถามเรา บางคนเราก็ถามเองเลยว่า เราไปทำจมูกมาเป็นไงบ้าง มันโอเคมั้ย เขาก็บอกว่า ทรงสวยมากค่ะ ค่อนข้างแฮปปี้เลยตอนนี้ คิดว่า ชาตินี้ก็คงไม่แก้หรือไปทำอะไรเพิ่มอีกแล้วค่ะ 555 สุดท้ายนี้คือ อยากขอบคุณคุณหมอมากจริงๆ ค่ะที่ตั้งใจเสกดั้งใหม่ให้น้องดูเป็นธรรมชาติสมความต้องการของน้อง

สำหรับใครที่สนใจก็ขอแนะนำให้ลองเข้าไปที่คลินิกเพื่อพูดคุยปรึกษากับคุณหมอดูก่อนก็ได้นะคะ

ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ <3