▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
โฮสเทล
เที่ยวไทย
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
Huawei Mate 30 Pro
บันทึกนักเดินทาง
[CR] รีวิว AT THE TRAIN ที่พักใกล้สถานีรถไฟเชียงใหม่ ราคาหลักร้อย คาเฟ่ข้างล่าง BY MATE 30 PRO !
ที่พักในครั้งนี้เราจะไปเยือนเชียงใหม่กันบ้างครับ ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าในการรีวิวที่พักทุกๆที่นั้นเราจะทำการจองผ่านพวก Agoda หรือ ตามเว็บโรงแรมโดยตรงนะครับ ราคาเลยอาจจะแล้วแต่โรงแรมและสถานที่อีกที แต่ทุกๆครั้งคือการไปเที่ยวจริงๆของทางแอดมินเอง เสียตังกันเองจริงๆเลยเล่ากันจริงๆนะครับ โดยในครั้งนี้เราไปพักกันที่เชียงใหม่ โดยเป็นโรงแรมในเรทราคาไม่แพงเกินไป ในงบ 1,000 บาท โดยจะเน้นพักและมีอาหารเช้าให้ ซึ่งที่พักที่เราไปในครั้งนี้นั้นจะอยู่ตรง บริวเณติดกับสถานีรถไฟเชียงใหม่ เป็นที่พักที่ใกล้สถานีรถไฟมากๆอีกที่ครับ โดยเป็นโรงแรมที่ปรับปรุงใหม่เปลี่ยนเจ้าของอะไรทั้งหมด ชื่อ โรงแรม At The Train โดยที่สำคัญคือทางโรงแรมนี้จะมี คาเฟ่ที่คนชอบไปถ่ายรูปกันอยู่ใต้โรงแรมเลยคือ คาเฟ่ The Baristro at Train Station ที่หลายๆคนคงรู้จักกันดีแน่นอน ซึ่งจากที่ดูๆราคาและทำการจองและทักไปนั้นจะได้ราคามาที่ 890 บาทต่อคืนพร้อมอาหารเช้าครับ
โดยที่พักนั้นจะอยู่ตรงบริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่เลยครับ ซึ่งใกล้มากๆสามารถเดินข้ามมาได้เลยครับ และไม่ได้ไกลจากตัวเมืองมากครับสามารถเรียกรถไปได้ แต่ถ้ามีรถส่วนตัวจะดีกว่าถ้ามาพักที่นี้ครับ หรือใครมาเช่ารถ หรือมารถไฟนั้นที่นี้เหมาะมากๆ แต่แม้จะใกล้สถานี แต่เสียงรถไฟก็ไม่ได้ดังหรือรบกวนอะไรเลยครับ สามารถนอนพักผ่อนได้สบายๆ ซึ่งระยะทางในครั้งนี้เราขับจากกรุงเทพไปนะครับไม่ได้มารถไฟ ส่วนถ้าจะเข้าไปในตัวเมืองนั้นจะใช้เวลา 7-10 นาทีระยะทางแค่ 3 กิโลกว่าๆเท่านั้นถือว่าไม่ได้ไกลเกินไปด้วย และไม่วุ่นวายในโซนนี้ไม่เหมือนที่พักย่านในเมือง
ทางด้านโรงแรมนั้นจะมีป้ายบอกอะไรชัดเจนซึ่งก็เป็นการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ชื่อโรงแรมอะไรอาจจะไม่ได้เด่นเท่าไรครับ จริงๆสถานที่นี้เคยเป็นที่อยู่ของ Oasis Hotel แต่ก็เปลี่ยนไปทั้งหมดเลยทั้งเจ้าของ เรียกได้ว่าทำใหม่ทั้งหมดเลย และที่พักโรงแรมนั้นใหม่และสะอาดขึ้นแบบชัดเจน รวมถึงมีการออกแบบให้เป็นโทนสีขาวทั้งหมด และ ในด้านหน้าโรงแรมนั้นเป็นที่อยู่ของค่าเฟ่ The Baristro at Train Station ที่สวยและถ่ายรูปสวยมาก คนเยอะมากเช่นกันครับและ กาแฟ อร่อยและเข้มดี เป็นร้านที่กาแฟดีมากๆอีกร้านแนะนำครับ และถ่ายรูปในร้านได้หลากหลายมุม โรงแรมนั้นหลักๆเป็น 4 ชั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากครับผม เป็นที่พักในเรทต่ำกว่าพันบาทที่โอเคเลยจากที่ไปพักมา
ก่อนจะไปโรงแรม At The Train นั้น ทางเราขอมาส่องคาเฟ่ The Baristro at Train Station ก่อนเลยตัวคาเฟ่นั้นจะตั้งอยู่ในโซนหน้าของโรงแรมเลยครับสามารถเข้าถึงได้จากทางริมถนนข้างหน้า และ ริมด้านข้างจากที่จอดรถ รวมถึงด้านหลังที่เดินมาจากโรงแรมครับ การออกแบบในภาพรวมนั้นถือว่าสวยและโมเดิร์น ดิบๆมาก เป็นคาเฟ่ที่สวยและถ่ายรูปสวย รวมถึงการจัดแสงสวยงามและดึงแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี และรองรับลูกค้าได้เยอะมากๆครับ
เมื่อเข้ามาด้านในนั้นจะเห็นเลยว่าการออกแบบเน้นความโปร่งสูงและเป็นปูนเปลือยล้วนๆและแต่งด้วยสีเทาดำเป็นหลักทำให้คุมโทนได้ดีและถ่ายรูปสวยมากๆ มีการดึงแสงเข้ามาทำให้ไม่อึดอัดจนเกินไปและรองรับที่นั้งได้เยอะมากๆ รวมถึง เครื่องดื่ม อาหารก็ไม่ได้มีราคาแพงเกินไป ประมาณ 50-70 แล้วแต่ชนิดทั่วไปครับ โดยเปิดประมาณ 8 โมงเช้าคนก็เริ่มมากัน บ้างเอางานมานั้งทำ ส่วนคนจะเยอะแล้วครับในช่วงเวลา บ่ายๆตามที่เห็นในภาพนั้นเองคือช่วงเวลาประมาณ 11 โมงเช้าก็ถือว่าพอมีคนมานั่งเล่นอะไรกันพอสมควรและมาถ่ายรูปกันเยอะ และเข้ามาเรื่อยๆครับ ทางร้านมีห้องน้ำในตัวและมีน้ำเปล่าให้ดื่ม กดฟรีได้เลยครับก็เป็นอีกร้านที่แนะนำและกาแฟคุณภาพพอสมควรเลย
ในด้านของขนมก็มีให้เลือกทานหลากหลายเลยทั้งเป็นเค้ก หรือ ว่าพวก สโคน ครัวซองค์ บราวน์นี่ต่างๆซึ่งเรทราคาที่เห็นก็ตามภาพเลยครับจะอยู่ที่ 50-80 บาทโดยประมาณ ซึ่งก็ถือว่าอร่อยเลยแหละพวกเค้กอะไรต่างๆ แต่ที่เด่นๆจะเป็นกาแฟ และเครื่องดื่มของที่นี้ครับ แนะนำว่าถ้าใครมาให้มาลองแวะสั่งทานกัน และนั่งชิลพักสบายๆครับในค่าเฟ่ที่นี้ อยู่ตรงบริเวณ ริมทางรถไฟเชียงใหม่เลย และ อยู่ใต้โรงแรม เป็นอีกจุดที่ทางผมเองนั้นจองที่พักที่นี้
ภาพบรรยากาศอื่นๆของทางคาเฟ่ครับ มีที่นั่งรองรับหลายๆมุมรวมถึงมุมถ่ายรูปสวยๆรองรับได้หลากหลายที่ทั้งแบบมากันหลายๆคนหรือนั่งคนเดียวรวมถึงมีปลักอะไรมาให้เสียบใช้งานทำงานกันได้ยาวๆครับ ไม่อึดอัดจนเกินไปด้วย
มากันที่ตัวโรงแรมกันเลย ที่โรงแรม At The Train นั้น Lobby จะอยู่เดินลึกออกมาจนสุดของอาคารต่อจากคาเฟ่ครับ ซึ่งเมื่อมาถึงก็จะมีพนักงานที่คอย Stanby ตลอดเวลาคอยดูเช็คอินอะไรพวกนี้ครับ แต่เวลาที่เราไปนั้นจะไม่เจอพนักงานมาช่วยขนของหรือยกของอะไรนะครับจุดนี้แอบจะลำบากไปนิดหน่อย ซึ่งทาง Lobby เองนั้นก็มีที่นั่งพักอะไรให้ และ ใหญ่พอสมควรซึ่งการตกแต่งก็ถือว่าทันสมัยเป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมดของที่นี้ครับ ก็สวยงามไม่เลยร้าย
เมื่อคุยจ่ายเงินอะไรได้เรียบร้อยแล้วนั้นก็จะได้คียการ์ดมา 1 ใบเท่านั้นพร้อมคูปองอาหารเช้าคนละใบครับ เมื่อได้เรียบร้อยก็ขึ้นลิฟท์โรงแรมมา จริงๆลิฟท์นั้นค่อนข้างเล็กพอสมควรเลยไปประมาณ 4-5 คนก็พอดีๆกับตัวลิฟท์แล้วครับ และเมื่อขึ้นมาแล้วนั้นเราจะเจอประตูปิดอีกชั้นต้องใช้คียการ์ดในการแตะเพื่อจะเข้าไปสู่ตรงที่พักอีกทีถือว่าปลอดภัยพอสมควรเลยครับ และห้องจะเป็นทางเดินยาวๆ และจะเห็นว่าตรงทางเข้าจากลิฟท์จะมีน้ำร้อนบริการให้
แน่นอนว่าประตูคอยกั้นแบบนี้ก็ปลอดภัยขึ้นแน่นอนแต่ก็อาจจะลำบากเพราะ คียการ์ดมีให้ใบเดียวเท่านั้นเวลาใครจะไปไหนแล้วมีคนอยู่ห้องนั้นก็ลำบากต้องมาคอยเปิดประตูให้ อะไรแบบนั้นครับเป็นข้อเสียของการใช้งานประตูอีกชั้นนึงแบบนี้ หรือถ้าให้คีย์การ์ดมา 2 ใบก็จะไม่เจอปัญหานี้ครับ และในห้องนั้นไม่มี กาต้มน้ำร้อนมาให้ ต้องใช้ส่วนกลางครับ และพวก ไดร์เป่าผมอะไรพวกนี้ไม่มีติดห้อง แต่สามารถของข้างล่างได้เลยจะมีมาให้ใช้งานกันครับ
เมื่อมาถึงห้องพักนั้นทางเรานั้นของไปเป็นแบบ 2 เตียงแยกครับห้องนั้นอยู่ในระดับกลางๆไม่เล็กเกินไปแต่ที่ชอบคือมีความใหม่และสะอาดมากๆถือว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดแล้วในการพักโรงแรมครับ การตกแต่งอะไรคุมโทนสวยและดูดีเหมือนกันแน่นอนว่ามีโต๊ะทำงาน อะไรมาให้อยู่ครับพร้อตำแหน่งปลั๊กอะไรที่ครอบคลุมทั้งบนเตียงทั้ง 2 เตียงเลย จะเห็นว่ามันไม่มีตู้เสื้อผ้าแล้วแต่จะเป็นไม้แขวนโล่งๆแทนครับ อย่างที่เคยบอกไปว่าโรงแรมหลายๆที่ไม่มีตู้เสื้อผ้ากันเท่าไร เพราะจะได้พื้นที่ความโล่งของห้องพักมาแทนนั้นเอง จึงเห็นว่าที่เราไปพักนั้นจะไม่ค่อยเจอตู้เสื้อผ้าเท่าไรครับ
ในห้องพักนั้นมีทีวี ตู้เย็นอะไรให้พร้อม Wifi แยกแต่ละห้องเป็นรหัสแยกเลยครับ รวมถึงมีกระจกตรงบริเวณประตู มาให้สำหรับดูการแต่งตัวอะไรต่างๆ และ ห้องน้ำนั้นจะอยู่ตรงข้างหน้ามุมซ้ายครับ และโต๊ะวางของอะไรต่างๆนั้นจะมีอยู่ตรงข้างหน้าเป็นแนวยาวสำหรับวางกระเป๋าเป็นหลัก และ สิ่งของใช้ต่างๆรวมถึง มีปลั๊กมาให้ในด้านหน้าด้วยครับ
ทางโรงแรมนั้นจะให้พวก แชมพู สบู อะไรมาให้พอประมาณ ตามภาพเลยแต่จะไม่มี กระติกน้ำร้อน หรือ ไดร์เป่าผมมาให้ครับแต่สามารถของทาง Lobby ได้เลยเค้าก็จะให้ไดร์เป่าผมมาครับ ส่วนน้ำร้อนสามารถใช้ส่วนกลางได้ถึง 22.00 ตามเวลาที่เค้ามาตั้งเลย และผังที่พักนั้นเป็นอาคารตัว L ห้องเราจะอยู่ตรงกลางของบันไดหนีไฟเลยครับ
ตัวห้องน้ำนั้นค่อนข้างเล็กมากๆ และแยกส่วนแห้งกับส่วนเปียกได้ไม่ดีเท่าไรและระบายน้ำไม่ค่อยดีเพราะฝาตรงระบายมันชอบปิดแน่นเกินไปครับ และระยะลึกของส่วนเปียกนั้นไม่ลึกเท่าไรทำให้น้ำกระเด็นมาส่วนแห่งได้ง่ายมากๆ และม่านกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่เรื่องความสะอาดใหม่นั้นก็ถือว่าทำได้ดีในตัวของห้องน้ำและที่พัก รวมถึงผ้าเช็ดตัวอะไรต่างๆนั้นสะอาดดีเลยครับผม แต่อย่างที่บอกนั้นห้องน้ำเล็กและอาจจะเปียกได้ง่ายพอสมควรในภาพรวม
ตอนเช้าเลยเอามุมมองพระอาทิตย์ขึ้นจากหน้าต่างโรงแรมมาให้ชมกันครับมองออกไปจะเห็นทางรถไฟและพระอาทิตย์ขึ้น ตอนเช้าที่เราไปหนาวๆเลยแหละ 15 องศาประมาณนั้นครับมุมมองแถวนี้ก็เป็นบ้านคนเตี้ยๆทั้งหมดไม่ได้อึดอัดแต่อย่างใด และสามารถเปิดหน้าต่างได้แต่ไม่มีระเบียงนะครับในห้องพักที่เราไปพักในเรทราคาเริ่มต้นอันนี้
ตอนเช้านั้นมาทานอาหารเช้ากันชั้นล่างสุด ห้องขนาดใหญ่พอสมควรแต่อาหารเช้านั้นก็มีไม่ได้เยอะมากครับแต่ก็ตามเรทราคาของมัน เพราะบางที่ต่ำกว่าพันก็อาจจะไม่มีอาหารเช้าให้ครับ แต่ที่นั่งอะไรนั้นมีให้รองรับได้ดี และใหม่สะอากครับของที่พักที่นี้ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ทั้งหมดเลยก็ดูสวยงามดี ส่วนโซนด้านขวานั้นจะเป็นสระว่ายน้ำของโรงแรม
สระว่ายน้ำของโรงแรมจะมองออกไปได้เลยจากโซนทานอาหารเช้าครับ และ ส่วนของอาหารเช้านั้นมีไม่ได้เยอะแต่ก็พอแก้ขัดไปได้ครับทั้งเรื่องของ สลัด ข้ามต้ม ไข่ดาว ไส้กรอก และน้ำผลไม้ รวมถึงชากาแฟ และ ขนมปังปิ้งครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้