สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้จะมาช่วนอ่านเรื่องการสร้างรายได้สำหรับนักเขียนยุค 4G กันค่ะ ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นบทความที่ค่อนข้างยาว แต่ตั้งใจรวบรวมข้อมูลและเขียนขึ้นมาให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์กันนะคะ
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ถ้าเราอยากอ่านหนังสือหรือบทความสักเรื่องก็ต้องไปซื้อตามร้านหนังสือ เช่าตามร้านหนังสือ หรือยืมมาจากห้องสมุด ไม่ก็ยืมเพื่อนอ่าน แต่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ได้มีการผลิกโฉมประวัติศาสตร์ของวงการนักอ่านและนักเขียนขึ้นมาใหม่ ผ่านทางสื่อออนไลน์ ทำให้นักเขียนมีช่องทางในการโปรโมทผลงานของตัวเองมากขึ้น
วันนี้จึงตั้งใจมาแนะนำช่องทางการส้รางรายได้สำหรับนักเขียนในยุค 4G กันค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางหลักคือ ออฟไลน์และออนไลน์
1. ออฟไลน์ >> การโปรโมทงานเขียนแบบออฟไลน์หรือการขายผลงานแบบดั้งเดิม สามารถแบ่งแแกเป็น 2 หัวข้อย่อย คือ ผ่านสำนักพิมพ์และทำมือ
1.1 ผ่านสำนักพิมพ์ เมื่อคุณมีผลงาน / บทความ 1 เรื่อง ที่แต่งจบแล้ว
ย้ำว่าแต่งจบแล้ว!! คุณสามารถส่งผลงานของคุณห้สำนักพิมพ์ต่างๆ พิจารณาได้ ซึ่งปกติแล้วจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ในการรอฟังผล เทคนิคในการส่งผลงานก็คือ
เราจะต้องดูด้วยว่าสำนักพิมพ์นั้นๆ รับพิจารณาผลงานแนวไหนบ้าง และดูว่าผลงานของเราเป็นแนวไหน ตรงกับความต้องการของสำนักพ์ใด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และเบื้องต้นคุณจะต้องพิสูจน์อักษรด้วยตัวเองให้ดี เพื่อเป็นใบเปิดทางที่จะทำให้ผลงานของเราได้รับการพิจารณาเร็วขึ้น
ตัวอย่างสำนักพิมพ์ที่รับพิจารณาผลงาน
บทความ / คอนเทนต์
งานเขียนวรรณกรรม / นวนิยาย
1.2 ทำมือ หนังสือทำมือเหมาะกับนักเขียนที่มีฐานแฟนคลับส่วนหนึ่งแล้ว แต่สำหรับนักเขียนมือใหม่ แนะนำให้ส่งสำนักพิมพ์ดีกว่า เพราะสำนักพิมพ์จะมีระบบบรรณาธิการที่สามารถบอกข้อบกพร่องให้กับเราได้ ขั้นตอนทำหนังสือทำมือค่อนข้างยุ่งยาก และจะมีราคาสูงกว่าหนังสือที่ผ่านทางสำนักพิมพ์ เพราะจัดพิมพ์ในปริมาณที่น้อยกว่า ต้นทุนในการผลิตมีค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่ถ้าขายได้ + ฐานแฟนคลับแน่น นักเขียนจะได้รายได้ / ส่วนแบ่ง มากกว่าสำนักพิมพ์แน่นอน แต่นักเขียนเองก็จะเหนื่อยเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะต้องทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง
2. ออนไลน์ >> การโปรโมทงานเขียนแบบออนไลน์แบ่งออกเป็น 3 หัวข้อย่อย และใีต้นทุนต่ำกว่าวิธีการออฟไลน์ แต่นักเขียนจะต้องทำงานทุกขั้นตอนด้วยตัวเองเช่นกัน ตั้งแต่การตรวจทานต้นฉบับ จนถึงการวางแผนการตลาดเพื่อโปรโมทผลงาน
2.1 E Book การที่เราจะทำ E Book ออกมาขายได้นั้นเราจะต้องมีผลงานที่แต่งจบแล้ว หรือแบ่งเป็นตอนๆ ก็ได้ โดยการนำผลงานของเราไปฝากขายกับเว็บเพ็จ E Book ต่างๆ
ตัวอย่างเว็บเพ็จสำหรับขาย E Book
2.2 เว็บ / บล็อก วิธีการนี้เหมาะกับนักเขียนหน้าใหม่ หรือนักเขียนที่ต้องการสร้างฐานแฟนคลับ โดยเราสามารถลงเป็นตอนๆ ได้ เมื่อมีแฟนคลับพอประมาณแล้วเรายังสามารถเปิดขายเป็นตอนๆ ให้กับแฟนคลับได้ด้วย
ตัวอย่างเว็บเพ็จโปรโมทผลงาน
2.3 Facebook / Youtube ช่องทางใหม่มาแรงสำหรับการโปรโมทผลงานเขียนในยุค 4 G เหมาะกับนักเขียนมือใหม่และมืออาชีพทุกคน แถมวิธีการนี้ยังสะดวกกับนักอ่านที่ไม่ค่อยมีเวลาในการอ่านหนังสือมากนัก เราเรียกวิธีการโปรโมทงานเขียนนี้ว่า Audio Book หรือหนังสือเสียง นั่นเอง
ตัวอย่างหนังสือเสียงทางยูทูบ
นอกจากนี้หากนักเขียนคนใดสนใจวิธีการโปรโมทงานเขียนแบบใหม่โดยการใช้ Youtube
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่อยากจะมีผลงานเป็นของตัวเอง ขอบคุณค่ะ
ช่องทางสร้างรายได้สำหรับงานเขียนในยุคปัจจุบัน....เมื่อสื่อออนไลน์กำลังขยายตัว
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ถ้าเราอยากอ่านหนังสือหรือบทความสักเรื่องก็ต้องไปซื้อตามร้านหนังสือ เช่าตามร้านหนังสือ หรือยืมมาจากห้องสมุด ไม่ก็ยืมเพื่อนอ่าน แต่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ได้มีการผลิกโฉมประวัติศาสตร์ของวงการนักอ่านและนักเขียนขึ้นมาใหม่ ผ่านทางสื่อออนไลน์ ทำให้นักเขียนมีช่องทางในการโปรโมทผลงานของตัวเองมากขึ้น
วันนี้จึงตั้งใจมาแนะนำช่องทางการส้รางรายได้สำหรับนักเขียนในยุค 4G กันค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางหลักคือ ออฟไลน์และออนไลน์
1. ออฟไลน์ >> การโปรโมทงานเขียนแบบออฟไลน์หรือการขายผลงานแบบดั้งเดิม สามารถแบ่งแแกเป็น 2 หัวข้อย่อย คือ ผ่านสำนักพิมพ์และทำมือ
1.1 ผ่านสำนักพิมพ์ เมื่อคุณมีผลงาน / บทความ 1 เรื่อง ที่แต่งจบแล้ว ย้ำว่าแต่งจบแล้ว!! คุณสามารถส่งผลงานของคุณห้สำนักพิมพ์ต่างๆ พิจารณาได้ ซึ่งปกติแล้วจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ในการรอฟังผล เทคนิคในการส่งผลงานก็คือ เราจะต้องดูด้วยว่าสำนักพิมพ์นั้นๆ รับพิจารณาผลงานแนวไหนบ้าง และดูว่าผลงานของเราเป็นแนวไหน ตรงกับความต้องการของสำนักพ์ใด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และเบื้องต้นคุณจะต้องพิสูจน์อักษรด้วยตัวเองให้ดี เพื่อเป็นใบเปิดทางที่จะทำให้ผลงานของเราได้รับการพิจารณาเร็วขึ้น