สวัสดีเพื่อนๆ Pantip ทุกคนครับ
ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสนำมือถือ
Xiaomi Mi Note 10 มาใช้เป็นเครื่องหลักประมาณ 2 สัปดาห์ โดย Xiaomi Thailand ได้ส่งเครื่องมาให้ทาง
AbZoLute Review ทดสอบใช้ถ่ายรูปอย่างจริงจังในหลายๆ เหตุการณ์ ใช้ออกทริปที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น พาออกไปเที่ยวถ่ายรูปเก็บทุกบรรยากาศ เลยจะมาเล่าถึงความสามารถกล้องมือถือรุ่นนี้อย่างละเอียดครับ
สเปคกล้อง
กล้องหลัง : 5 ตัว
ระบบโฟกัส : PDAF (Phase Detection Auto Focus) + กันสั่นแบบ OIS + Dual Pixel + Laser AF
ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด : 2160p@30fps, 1080p@30/60/120/240fps, 720p@960fps
กล้องตัวที่ 1 กล้องหลัก
ความละเอียด : 108 ล้านพิกเซล, F1.6, ระยะ 25 mm, เซนเซอร์ Samsung ISOCELL Bright S5KHMX, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน
กล้องตัวที่ 2 Telephoto ซูม 2 เท่า + Portrait mode (depth)
ความละเอียด : 12 ล้านพิกเซล, F2.0, ระยะ 50 mm, เซนเซอร์ Samsung S5K2L7, ขนาดเซนเซอร์ 1/2.55 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน
กล้องตัวที่ 3 Telephoto ซูม 5 เท่า
ความละเอียด : 5 ล้านพิกเซล, F2.0, เซนเซอร์ Omnivision OV08A10, ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน
กล้องตัวที่ 4 Ultra wide กว้างพิเศษ
ความละเอียด : 20 ล้านพิกเซล, F2.2, ระยะ 13 mm, เซนเซอร์ Sony IMX350 Exmor RS ขนาดเซนเซอร์ 1/2.8 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน
กล้องตัวที่ 5 ถ่ายระยะใกล้ Macro
ความละเอียด : 2 ล้านพิกเซล, F2.4, ขนาดเซนเซอร์ 1/5 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน
กล้องหน้า 1 ตัว แบบ Water drop
ความละเอียด : 32 ล้านพิกเซล, F2.0, ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน
หน้าจอการถ่ายรูป
คล้ายกับรุ่นอื่นๆ ในค่าย แต่จะมีเปลี่ยนแปลงตรงฟังก์ชัน Straighten (ปรับให้ตรง) ใช้งานได้ง่าย และยืดหยุ่นมากขึ้น โหมดถ่ายวิดีโอมีฟังก์ชัน Super Stabilizer และ VLOG มาให้ใช้งานเลย ตรงนี้สะดวกมากครับ ส่วนการตั้งค่ากล้องอื่นๆ มีมาให้หมดตามมาตรฐาน แถมถ่ายไฟล์ RAW มาได้ในตัวเลย
บททดสอบกล้อง ในแต่ละด้านทั้ง 6 ข้ออย่างละเอียด และเจาะลึกการถ่ายรูป มาให้ดูกันครับ
1.) ภาพในที่มีแสงปกติ (กลางวัน) โหมด Auto
1.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
1.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
1.3 ถ่ายอาหาร =
1.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
1.5 ถ่ายย้อนแสง HDR =
2.) ภายในที่มีแสงน้อย (กลางคืน) โหมด Auto
2.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
2.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
2.3 ถ่ายอาหาร =
2.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
2.5 ถ่ายกลางคืนด้วย Night mode =
2.6 ถ่ายด้วยโหมด Pro ใช้ขาตั้งกล้อง =
3.) ภาพถ่ายบุคคล โหมด Portrait =
4.) กล้องหน้า ถ่าย Selfie =
4.1 ในที่มีแสงปกติ โหมด Auto และ Portrait
4.2 ในที่มีแสงน้อย โหมด Auto และ Portrait
5.) การบันทึกวีดีโอ, กันสั่น, Time Lapse, Super slow motion
6.) สรุปการใช้งานด้านกล้อง จุดเด่น / จุดสังเกต
จุดเด่น
- ถ่ายไฟล์ RAW ได้แล้ว ตรงนี้ดีใจมาก เพราะยี่ห้ออื่นทำได้นานแล้ว รอมานานเหลือเกิน ฮ่าๆ
- ไฟล์ 108 ล้านพิกเซลที่ใช้งานได้จริง และใช้การ Process ภาพให้เหลือ 27 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพที่คมชัดแบบคุณภาพ
- มีกันสั่น OIS มาให้ทั้งเลนส์ wide และ telephoto 5x
- นอกจากได้เซนเซอร์รับภาพที่ละเอียดแล้ว ยังมีขนาด 1/1.3 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในตลาดมือถือ
- แถมกล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ทำให้เก็บรายละเอียดหน้าของเรา ไป process ให้ผิวเนียนใสได้ดี และสมจริงมากยิ่งขึ้น
- ใส่เลนส์มาถึง 8 ชั้น (ในรุ่น Pro) มากกว่ายิ่งยี่ห้ออื่นที่ใส่มา 6 ชั้น ข้อดีคือทำให้การรับภาพชัดมากขึ้น สีตรงตามที่ตาเราเห็นมากที่สุด และแก้ความคลาดสี
- กล้อง telephoto 2x ใส่เทคโนโลยี Dual Pixel มาให้ด้วย
- กล้อง ultrawide เป็นแบบ auto focus และมีความกว้างในการรับภาพถึง 117 องศา
- สามารถใช้ hybrid zoom ได้ถึง 10x โดยใช้กล้อง 108 ล้านพิกเซล และ telephoto ช่วยกันเก็บภาพและมา process เป็นรูปออกมา
จุดสังเกต
- เนื่องจากเซนเซอร์ใหญ่ถึง 108 ล้านพิกเซล เวลาถ่ายเสร็จต้องใช้เวลา Process ค่อนข้างนาน กว่าจะได้ดูรูป เพราะตัว CPU Snapdragon 730G เอาไม่ค่อยอยู่เท่าไร
- วิดีโอมีโหมด Super Stabilizer กันสั่นได้ดีขึ้นมาก และฟังก์ชัน VLOG ให้เราได้ Process วิดีโอเรามีลูกเล่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- กล้อง telephoto 5x ใช้วิธีการคล้ายๆ กับของ Oneplus คือซูมด้วย Optical ด้วยเลนส์ได้ถึง 3.7 เท่า ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และใช้ Software ช่วย crop และ process ภาพให้เป็น 5 เท่า
- กล้องถ่ายระยะใกล้ macro ให้ความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซล พอใช้จริงแล้ว ภาพยังไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก แต่สามารถถ่ายได้ใกล้จากวัตถุเพียง 2 ซม.
สรุปการใช้งานภาพรวม
- ดู Netflix ชัดได้ คมชัดถึง HDR10 แต่บางครั้งเวลาเปิดดูภาพไม่ขึ้น น่าจะอยู่ที่เครื่องที่ผมใช้รีวิว เป็นเครื่องทดสอบก่อนเปิดขายจริง Software อาจจะยังไม่เสถียร
- หน้าจอโค้งแบบ 3D ดูสวยงามมีระดับ แต่ต้องแลกกับฟิล์มกระจกที่ราคาค่อนข้างแพง และถ้าไม่ใส่เคสมือชอบลั่นไปดูขอบหน้าจอบ่อย- มาพร้อมกับ MIUI 11 ใหม่ล่าสุดที่เสถียรดีขึ้น และฟังก์ชันเพิ่มมากขึ้น
- ให้แบตมาถึง 5,260 mAh ใช้งานหนักๆ ถ่ายรูปรัวๆ ได้เกินวัน
*รูปในกระทู้ไม่มีการปรับแต่งสี และไม่เพิ่มความคมชัด หรือลด noise เพื่อให้เหมือนจากต้นฉบับหลังกล้องมากที่สุด
**รูปในกระทู้มีการเพิ่มความสว่างเล็กน้อย และ crop ภาพ เพื่อให้เห็นรายละเอียดภาพได้มากขึ้น ด้วยโปรแกรม Lightroom
ขอบคุณที่ติดตาม และช่วยกด "+" กระทู้ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค๊าบ
วิน
AbZoLute Review
https://www.facebook.com/AbzoluteReview/
[SR] รีวิวเจาะลึกการถ่ายรูป ด้วยกล้องมือถือ Xiaomi Mi Note 10 กับความละเอียดมากที่สุดถึง 108 ล้านพิกเซล
สวัสดีเพื่อนๆ Pantip ทุกคนครับ
ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสนำมือถือ Xiaomi Mi Note 10 มาใช้เป็นเครื่องหลักประมาณ 2 สัปดาห์ โดย Xiaomi Thailand ได้ส่งเครื่องมาให้ทาง AbZoLute Review ทดสอบใช้ถ่ายรูปอย่างจริงจังในหลายๆ เหตุการณ์ ใช้ออกทริปที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น พาออกไปเที่ยวถ่ายรูปเก็บทุกบรรยากาศ เลยจะมาเล่าถึงความสามารถกล้องมือถือรุ่นนี้อย่างละเอียดครับ
สเปคกล้อง
กล้องหลัง : 5 ตัว
ระบบโฟกัส : PDAF (Phase Detection Auto Focus) + กันสั่นแบบ OIS + Dual Pixel + Laser AF
ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด : 2160p@30fps, 1080p@30/60/120/240fps, 720p@960fps
กล้องตัวที่ 1 กล้องหลัก
ความละเอียด : 108 ล้านพิกเซล, F1.6, ระยะ 25 mm, เซนเซอร์ Samsung ISOCELL Bright S5KHMX, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน
กล้องตัวที่ 2 Telephoto ซูม 2 เท่า + Portrait mode (depth)
ความละเอียด : 12 ล้านพิกเซล, F2.0, ระยะ 50 mm, เซนเซอร์ Samsung S5K2L7, ขนาดเซนเซอร์ 1/2.55 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน
กล้องตัวที่ 3 Telephoto ซูม 5 เท่า
ความละเอียด : 5 ล้านพิกเซล, F2.0, เซนเซอร์ Omnivision OV08A10, ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน
กล้องตัวที่ 4 Ultra wide กว้างพิเศษ
ความละเอียด : 20 ล้านพิกเซล, F2.2, ระยะ 13 mm, เซนเซอร์ Sony IMX350 Exmor RS ขนาดเซนเซอร์ 1/2.8 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน
กล้องตัวที่ 5 ถ่ายระยะใกล้ Macro
ความละเอียด : 2 ล้านพิกเซล, F2.4, ขนาดเซนเซอร์ 1/5 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน
กล้องหน้า 1 ตัว แบบ Water drop
ความละเอียด : 32 ล้านพิกเซล, F2.0, ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน
หน้าจอการถ่ายรูป
คล้ายกับรุ่นอื่นๆ ในค่าย แต่จะมีเปลี่ยนแปลงตรงฟังก์ชัน Straighten (ปรับให้ตรง) ใช้งานได้ง่าย และยืดหยุ่นมากขึ้น โหมดถ่ายวิดีโอมีฟังก์ชัน Super Stabilizer และ VLOG มาให้ใช้งานเลย ตรงนี้สะดวกมากครับ ส่วนการตั้งค่ากล้องอื่นๆ มีมาให้หมดตามมาตรฐาน แถมถ่ายไฟล์ RAW มาได้ในตัวเลย
บททดสอบกล้อง ในแต่ละด้านทั้ง 6 ข้ออย่างละเอียด และเจาะลึกการถ่ายรูป มาให้ดูกันครับ
1.) ภาพในที่มีแสงปกติ (กลางวัน) โหมด Auto
1.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
1.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
1.3 ถ่ายอาหาร =
1.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
1.5 ถ่ายย้อนแสง HDR =
2.) ภายในที่มีแสงน้อย (กลางคืน) โหมด Auto
2.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
2.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
2.3 ถ่ายอาหาร =
2.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
2.5 ถ่ายกลางคืนด้วย Night mode =
2.6 ถ่ายด้วยโหมด Pro ใช้ขาตั้งกล้อง =
3.) ภาพถ่ายบุคคล โหมด Portrait =
4.) กล้องหน้า ถ่าย Selfie =
4.1 ในที่มีแสงปกติ โหมด Auto และ Portrait
4.2 ในที่มีแสงน้อย โหมด Auto และ Portrait
5.) การบันทึกวีดีโอ, กันสั่น, Time Lapse, Super slow motion
6.) สรุปการใช้งานด้านกล้อง จุดเด่น / จุดสังเกต
จุดเด่น
- ถ่ายไฟล์ RAW ได้แล้ว ตรงนี้ดีใจมาก เพราะยี่ห้ออื่นทำได้นานแล้ว รอมานานเหลือเกิน ฮ่าๆ
- ไฟล์ 108 ล้านพิกเซลที่ใช้งานได้จริง และใช้การ Process ภาพให้เหลือ 27 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพที่คมชัดแบบคุณภาพ
- มีกันสั่น OIS มาให้ทั้งเลนส์ wide และ telephoto 5x
- นอกจากได้เซนเซอร์รับภาพที่ละเอียดแล้ว ยังมีขนาด 1/1.3 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในตลาดมือถือ
- แถมกล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ทำให้เก็บรายละเอียดหน้าของเรา ไป process ให้ผิวเนียนใสได้ดี และสมจริงมากยิ่งขึ้น
- ใส่เลนส์มาถึง 8 ชั้น (ในรุ่น Pro) มากกว่ายิ่งยี่ห้ออื่นที่ใส่มา 6 ชั้น ข้อดีคือทำให้การรับภาพชัดมากขึ้น สีตรงตามที่ตาเราเห็นมากที่สุด และแก้ความคลาดสี
- กล้อง telephoto 2x ใส่เทคโนโลยี Dual Pixel มาให้ด้วย
- กล้อง ultrawide เป็นแบบ auto focus และมีความกว้างในการรับภาพถึง 117 องศา
- สามารถใช้ hybrid zoom ได้ถึง 10x โดยใช้กล้อง 108 ล้านพิกเซล และ telephoto ช่วยกันเก็บภาพและมา process เป็นรูปออกมา
จุดสังเกต
- เนื่องจากเซนเซอร์ใหญ่ถึง 108 ล้านพิกเซล เวลาถ่ายเสร็จต้องใช้เวลา Process ค่อนข้างนาน กว่าจะได้ดูรูป เพราะตัว CPU Snapdragon 730G เอาไม่ค่อยอยู่เท่าไร
- วิดีโอมีโหมด Super Stabilizer กันสั่นได้ดีขึ้นมาก และฟังก์ชัน VLOG ให้เราได้ Process วิดีโอเรามีลูกเล่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- กล้อง telephoto 5x ใช้วิธีการคล้ายๆ กับของ Oneplus คือซูมด้วย Optical ด้วยเลนส์ได้ถึง 3.7 เท่า ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และใช้ Software ช่วย crop และ process ภาพให้เป็น 5 เท่า
- กล้องถ่ายระยะใกล้ macro ให้ความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซล พอใช้จริงแล้ว ภาพยังไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก แต่สามารถถ่ายได้ใกล้จากวัตถุเพียง 2 ซม.
สรุปการใช้งานภาพรวม
- ดู Netflix ชัดได้ คมชัดถึง HDR10 แต่บางครั้งเวลาเปิดดูภาพไม่ขึ้น น่าจะอยู่ที่เครื่องที่ผมใช้รีวิว เป็นเครื่องทดสอบก่อนเปิดขายจริง Software อาจจะยังไม่เสถียร
- หน้าจอโค้งแบบ 3D ดูสวยงามมีระดับ แต่ต้องแลกกับฟิล์มกระจกที่ราคาค่อนข้างแพง และถ้าไม่ใส่เคสมือชอบลั่นไปดูขอบหน้าจอบ่อย- มาพร้อมกับ MIUI 11 ใหม่ล่าสุดที่เสถียรดีขึ้น และฟังก์ชันเพิ่มมากขึ้น
- ให้แบตมาถึง 5,260 mAh ใช้งานหนักๆ ถ่ายรูปรัวๆ ได้เกินวัน
*รูปในกระทู้ไม่มีการปรับแต่งสี และไม่เพิ่มความคมชัด หรือลด noise เพื่อให้เหมือนจากต้นฉบับหลังกล้องมากที่สุด
**รูปในกระทู้มีการเพิ่มความสว่างเล็กน้อย และ crop ภาพ เพื่อให้เห็นรายละเอียดภาพได้มากขึ้น ด้วยโปรแกรม Lightroom
ขอบคุณที่ติดตาม และช่วยกด "+" กระทู้ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค๊าบ
วิน
AbZoLute Review
https://www.facebook.com/AbzoluteReview/
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้