คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
คำนิยามที่ได้มาไม่ถูกต้องซะทีเดียวครับ เลยทำให้ งง และ สับสนได้
ซากดึกดำบรรพ์หรือ ฟอสซิล (Fossil) คือ ซากหรือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในสมัยดึกดําบรรพ์ที่อยู่ในชั้นเปลือกโลก หรือที่หลุดหรือที่นําออกมาจากชั้นเปลือกโลก
ดังนั้น อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งมีชีวิต หรือ ร่องรอยของมันถือเป็น ฟอสซิลหมด เว้นโบราณวัตถุและโบราณสถานไว้นะครับ
การเกิดฟอสซิล แบ่งได้หลายแบบ เอาที่พอเห็นภาพได้นะครับ
1.เป็นฟอสซิลด้วยตัวมันเอง ส่วนใหญ่มันคือ ส่วนแข็งของร่างกาย เช่น กระดูก เปลือก ฟัน เป็นต้น พวกนี้ถูกฝังตัวพร้อมกับตะกอน และแข็งตัวกลายเป็นหินพร้อมกับตะกอน ท้ายที่สุดก็กลายเป็นหินตะกอนที่มีฟอสซิล
2.การคงสภาพ ส่วนใหญ่เกิดแบบฉับพลัน ถ้าใครดูหนังจูราสสิค พาร์ค (Jurassic Park ปี1993) จะเห็นยุงโดนยางไม้หุ้มไว้ หรือ การตกไปในช่องน้ำแข็งของแมมมอธ ก็เกิดการคงสภาพไว้ได้เช่นกัน
3.การแทนที่ เป็นการแทนที่โครงสร้างเดิมด้วยแร่/น้ำแร่ ชนิดใหม่ที่คงทนถาวร ทำให้รูปร่างหรือลักษณะบางอย่างยังคงอยู่ ยกตัวอย่าง ไม้กลายเป็นหิน ตัวเนื้อไม้ถูกแทนที่ด้วยซิลิกา ทำให้มันแข็งเป็นหินแต่ยังมีลายเนื้อไม้ เปลือกไม้ให้พอได้เห็นอยู่
4.การคงอยู่ของธาตุ ที่สำคัญคือ คาร์บอน ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของพืช แต่กระบวนการนี้ต้องอยู่ในภาวะที่เหมาะสม ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน ที่เป็นะาตุพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตออกไปหมด เหลือแต่คาร์บอนกลายเป็นเหมือนคราบสำเนาสีดำ ถ้าใครทำกระดาษสำเนาคาร์บอนก็จะคล้ายๆกัน
5.ร่องรอย อันนี้มีหลายแบบ เช่น รอยเท้าไดโนเสาร์ แบบพิมพ์ของเปลือกหอย รูที่สัตว์เคยอาศัยหรือเจาะ แม้กระทั่งหินที่กินไปเป็นตัวช่วยย่อยในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า ฟอสซิลเกิดได้หลายแบบหลายวิธี และที่แน่ๆ ส่วนอ่อนหรือเนื้อเยื่อได้หาย หรือเน่าเปื่อยผุพังไปหมด ตามธรรมดา คงเหลือแต่ส่วนแข็งหรือร่องรอยของมันเท่านั้น
ซากดึกดำบรรพ์หรือ ฟอสซิล (Fossil) คือ ซากหรือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในสมัยดึกดําบรรพ์ที่อยู่ในชั้นเปลือกโลก หรือที่หลุดหรือที่นําออกมาจากชั้นเปลือกโลก
ดังนั้น อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งมีชีวิต หรือ ร่องรอยของมันถือเป็น ฟอสซิลหมด เว้นโบราณวัตถุและโบราณสถานไว้นะครับ
การเกิดฟอสซิล แบ่งได้หลายแบบ เอาที่พอเห็นภาพได้นะครับ
1.เป็นฟอสซิลด้วยตัวมันเอง ส่วนใหญ่มันคือ ส่วนแข็งของร่างกาย เช่น กระดูก เปลือก ฟัน เป็นต้น พวกนี้ถูกฝังตัวพร้อมกับตะกอน และแข็งตัวกลายเป็นหินพร้อมกับตะกอน ท้ายที่สุดก็กลายเป็นหินตะกอนที่มีฟอสซิล
2.การคงสภาพ ส่วนใหญ่เกิดแบบฉับพลัน ถ้าใครดูหนังจูราสสิค พาร์ค (Jurassic Park ปี1993) จะเห็นยุงโดนยางไม้หุ้มไว้ หรือ การตกไปในช่องน้ำแข็งของแมมมอธ ก็เกิดการคงสภาพไว้ได้เช่นกัน
3.การแทนที่ เป็นการแทนที่โครงสร้างเดิมด้วยแร่/น้ำแร่ ชนิดใหม่ที่คงทนถาวร ทำให้รูปร่างหรือลักษณะบางอย่างยังคงอยู่ ยกตัวอย่าง ไม้กลายเป็นหิน ตัวเนื้อไม้ถูกแทนที่ด้วยซิลิกา ทำให้มันแข็งเป็นหินแต่ยังมีลายเนื้อไม้ เปลือกไม้ให้พอได้เห็นอยู่
4.การคงอยู่ของธาตุ ที่สำคัญคือ คาร์บอน ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของพืช แต่กระบวนการนี้ต้องอยู่ในภาวะที่เหมาะสม ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน ที่เป็นะาตุพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตออกไปหมด เหลือแต่คาร์บอนกลายเป็นเหมือนคราบสำเนาสีดำ ถ้าใครทำกระดาษสำเนาคาร์บอนก็จะคล้ายๆกัน
5.ร่องรอย อันนี้มีหลายแบบ เช่น รอยเท้าไดโนเสาร์ แบบพิมพ์ของเปลือกหอย รูที่สัตว์เคยอาศัยหรือเจาะ แม้กระทั่งหินที่กินไปเป็นตัวช่วยย่อยในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า ฟอสซิลเกิดได้หลายแบบหลายวิธี และที่แน่ๆ ส่วนอ่อนหรือเนื้อเยื่อได้หาย หรือเน่าเปื่อยผุพังไปหมด ตามธรรมดา คงเหลือแต่ส่วนแข็งหรือร่องรอยของมันเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
ทำไมสิ่งมีชีวิตบางอย่างถึงได้กลายเป็นฟอสซิล?
" ฟอสซิลคือซากหรือร่องรอยของพืชหรือสัตว์ที่ถูกเก็บรักษาไว้โดยธรรมชาติในชั้นหินในเปลือกโลกเป็นเวลานานจนเป็นเนื้อเดียวกับหิน หรือวัตถุแข็ง สามารถเกิดขึ้นได้โดยการคงสภาพทางธรณี ซึ่งการคงสภาพนั้นจะต้องเกิดขึ้นก่อนที่ซากนั้นจะเน่าเปื่อยผุพัง เช่น การฝังกลบอย่างทันทีทันใด และอยู่ในสภาวะปิดจนเกิดการแทนที่ของสารละลายซิลิกา จนทำให้มีสภาพคล้ายหิน "
คำถาม คือ สิ่งมีชีวิตตายไปแล้วปกติก็ต้องย่อยสลายโดยธรรมชาติ แต่ทำไมสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถึงไม่ยอมย่อยสลายแต่กลายเป็นหินแทน