เมื่อไหร่ที่มีประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเดวิด เบ็คแฮม เรามักจะเจอความคิดเห็นประเภทหนึ่งเสมอ ที่มักจะบอกว่าเบ็คแฮมนั้นก็แค่นักเตะที่ดังเพราะหน้าตา เป็นแค่เซเลบริตี้คนนึง เตะบอลจริงๆไม่ได้เก่งอะไร มีแค่ลูกฟรีคิกเท่านั้นแหละ ไม่นับว่าเป็นตำนาน
ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วผมก็จะเจอความคิดเห็นประเภทนี้อย่างมากจากแฟนบอลต่างชาติ และแฟนบอลรุ่นใหม่หลายๆคน ในกระทู้นี้ผมจึงอยากจะมาเขียนบทความเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ซักหน่อย ว่าทำไมในมุมมองของผม เขาถึงคู่ควรกับคำว่า "ตำนาน" และเป็นมากกว่าแค่นักฟุตบอลหน้าตาดี ที่มีแค่ลูกฟรีคิกอย่างเดียว
นับตั้งแต่ปลายยุค90s ลากยาวมาจนถึงต้นๆยุค2010s หากมีการถามคำถามว่า “รู้จักนักฟุตบอลคนไหนบ้าง?” แน่นอนว่ามากกว่า70% ชื่อแรกๆที่ถูกพูดถึงจะต้องเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เดวิด เบ็คแฮม” และถ้าคำถามนี้ถูกถามกับผู้คนที่ไม่ใช่แฟนกีฬาฟุตบอล โอกาสที่ชื่อของอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษคนนี้จะถูกตอบมานั้นคงจะอยู่ที่95%ขึ้นไปเลยทีเดียว แล้วเบ็คแฮมคือใครล่ะ? เขาถึงเป็นที่รู้จักได้ขนาดนี้
เส้นทางอาชีพ “เทพบุตรเท้าชั่งทอง”
แน่นอนว่าผู้คนกลุ่มแรกที่รู้จักผู้ชายคนนี้ดีคงหนีไม่พ้นพลพรรคRed Army เหล่าเด็กผี แฟนบอลของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
“เดวิด โรเบิร์ต โจเซฟ เบ็คแฮม”นั้นเป็นนักเตะเยาวชนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตั้งแต่อายุเพียงแค่16ปีเท่านั้น และได้ขึ้นมาเป็นนักเตะแกนหลักของทีมในช่วงกลางยุค90s ซึ่งเป็นที่จับตามองของสื่อเป็นอย่างมาก หลังจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพลาดในการคว้าแชมป์ลีกและบอลถ้วยในฤดูกาล1994-1995 เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ได้เริ่มต้นฤดูกาลต่อมาด้วยการขายนักเตะดังๆของทีมออก ไม่ว่าจะเป็นมาร์ค ฮิวจ์, พอล อินซ์ และอันเดร แคนเชสกี้ ต่อด้วยการดันนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของทีมขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม ซึ่งเบ็คแฮมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคนที่จะกลายเป็นนักเตะชื่อดังในอนาคตอย่าง พอล สโคล์,นิกกี้ บัต และสองพี่น้องเนวิลล์
เขามีส่วนร่วมในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง6ครั้งใน9ฤดูกาล รวมไปถึงถ้วยFA Cup 2ครั้ง,FA Community Shield 2ครั้ง และแชมป์ UEFA Champions Leagueกับ Intercontinental Cupอีกอย่างละครั้ง เขาได้สวมเสื้อหมายเลข7ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักเตะที่เป็น “ซุปเปอร์สตาร์”ของทีม(สวมต่อจากตำนานอย่าง
เอริค คันโตน่าอีกด้วย) การมีส่วนร่วมกับประตูสำคัญๆของทีมหลายต่อหลายครั้ง สไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ และหน้าตาที่หล่อเหลามากกว่านักฟุตบอลอีกหลายคน ทำให้เดวิด เบ็คแฮมนั้นกลายเป็นที่รักของแฟนๆแมนฯยูไนเต็ดได้อย่างไม่ต้องสงสัย จนแฟนๆปีศาจแดงนั้นได้แต่งเพลงเชียร์ให้เขาอีกด้วย
“One David Beckham, there’s only one David Beckham” ชื่อเสียงในวงการฟุตบอลของเขาโด่งดังอย่างมากและอยู่ในจุดที่สูงมาโดยตลอด เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรชื่อดังของสเปนอย่าง
เรอัล มาดริด เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค
“กาลาติกอส”ที่จะรวมยอดนักเตะดังๆไว้ในทีมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น
โรนัลโด้,หลุยส์ ฟิโก้ หรือ ซีเนอดีน ซีดาน
และเขาก็สามารถคว้าแชมป์ลีกสเปนได้ในฤดูกาล2006-2007 ก่อนที่เขาจะย้ายไปสร้างชื่อเสียงให้กีฬาฟุตบอลที่สหรัฐอเมริกากับทีม
แอลเอกาแลคซี่ คว้าแชมป์MLS Cup2ครั้ง และSupporter’s Shieldอีก2ครั้ง เดวิดได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ของอิตาลีอย่างเอซีมิลานในช่วงเวลาสั้นๆกับสัญญายืมตัว และปิดท้ายอาชีพด้วยการคว้าแชมป์ลีกฝรั่งเศสกับทีม
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งถือเป็นเส้นทางอาชีพในวงการฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ไอคอนชายแห่งยุค2000s
นอกเหนือจากความสำเร็จในสนามหญ้าแล้ว มิดฟิลด์ชาวอังกฤษคนนี้ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากๆในวงการบันเทิง เดวิดได้คบหากับ
“วิคตอเรีย อดัมส์” หนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเวลานั้นอย่าง
“สไปซ์เกิร์ล” ซึ่งแน่นอนว่าคู่รักคู่นี้ก็ถูกจับตามองจากสื่อทั่วโลกในขณะนั้นอย่างแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำมักจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ
ด้วยอิทธิพลของเจ้าแม่แฟชั่นอย่างวิคตอเรีย เดวิดได้เพิ่มบทบาทและมูลค่าของตนเองต่อสื่ออย่างมาก จากแค่นักฟุตบอลธรรมดาคนหนึ่ง เขาได้ถูกรู้จักในฐานะของเซเลบริตี้และนายแบบ จนเป็นเหมือนบุคคลสำคัญคนหนึ่งของอังกฤษเลยทีเดียว “Posh and Becks”ถือเป็นคู่รักที่มีอิทธิพลมากที่สุดคู่หนึ่งของโลก ทั้งคู่ซื้อบ้านขนาด24เอเคอร์หลังจากแต่งงานกันในปี1999 และถูกสื่อต่างๆตั้งใช้ให้บ้านหลังนั้นว่า “Beckingham palace” เพื่อให้คล้ายกับพระราชวังBuckingham ถือเป็นการเปรียบเปรยชื่อเสียงของเดวิดและวิคตอเรียราวกับราชวงศ์อังกฤษ เดวิดและวิคตอเรียมีลูกด้วยกัน4คน(
บรูคลิน โรมีโอ ครูซ และ ฮาเปอร์) ชื่อเสียงของครอบครัวเบ็คแฮมดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ชื่อของเดวิดเบ็คแฮมถือเป็นชื่อคนอังกฤษที่ถูกค้นหามากที่สุดในกูเกิลในช่วงทศวรรษที2000 การที่ชื่อของเขานั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เขาก็สามารถสร้างแบรนด์ต่างขึ้นมาภายใต้ชื่อเขา ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม หรือเครื่องแต่งกาย
และทุกอย่างที่เขาหยิบจับนั้น มักจะการเป็นเทรนด์ยอดฮิตในช่วงๆหนึ่งทั้งสิ้น ซึ่งที่โด่งดังมากๆเลยก็คือทรงผมนั่นเอง ที่ผู้ชายหลายๆคนต้องไปตัดผมตามเบ็คแฮมตลอด ไม่ว่าจะเป็นทรงโมว์ฮอค เดรดร็อค หรือสกินเฮด เมื่อไหร่ที่เดวิดนั้นเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะไปเตะฟุตบอลหรือทำกิจกรรมอย่างอื่น ก็มักจะมีแฟนๆไปรับกันอย่างท่วมล้น ถือเป็นเหมือนกับ “ปรากฏการณ์”ในยุค2000เลยทีเดียว หลังจากที่เขาย้ายไปเล่นฟุตบอลในอเมริกา แบรนด์ของเดวิดเบ็คแฮมก็ได้เติบโตขึ้นไปอีก เขาเป็นที่รู้จักเหมือนกับดาราฮอลลีวูด ได้ออกรายการต่างๆมากมาย เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบริษัทชื่อดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นBurger King, H&M ,Calvin Klein, Samsung หรือแม้กระทั่ง Walt Disney ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเป็นส่วนทำให้เดวิดเบ็คแฮมนั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางนอกสนามฟุตบอล เป็น“เซเลบริตี้” เป็น “ไอคอน” เป็นหนึ่งในบุคคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในปี2015โดยนิตยสารPeoples และในปัจจุบันนั้น เบ็คแฮมมีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิ(Net Worth) ถึง 450ล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อกังขา นี่หรา(หรอ)ตำนาน?
ชื่อเสียงนอกสนามอาจะนำความสำเร็จมาสู่เดวิด เบ็คแฮมมากมาย แต่มันก็นำพาความคิดเห็นด้านลบมาสู้เขาด้วยในบางกรณี แฟนบอลสมัยใหม่ที่คุ้นเคยกับความเก่งกาจแบบสุดๆของยอดนักเตะในสมัยนี้แบบ
ลิโอเนล เมสซี่ หรือ
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ก็มักจะมองว่าเบ็คแฮมนั้นเป็นเพียงแค่นักเตะ ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักได้ก็เพราะความเป็นเซเลบริตี้ที่หน้าตาดีของเขา และมีเพียงแค่การยิงฟรีคิกอันโด่งดังเท่านั้นที่เกี่ยวกับฟุตบอล ไม่น้อยเลยที่เรามักจะเห็นความคิดเห็นของแฟนบอลบางกลุ่มในสื่อโซเชียลของต่างประเทศ
"เบ็คแฮมก็ทำได้แค่ยิงฟรีคิกแหละ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเลย” “เขามันก็แค่นักเตะที่เป็นเซเลบ ไม่ได้เก่งอะไรหรอก” “เดวิดก็แค่นักเตะธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่ตำนานของวงการฟุตบอล” “He is the most overrated player in the history.”
หลากหลายคำดูถูกดูแคลนได้ถาโถมเข้ามาใส่ตัวเขา ก็จริงอยู่ที่เดวิดเบ็คแฮมอาจจะไม่ได้เป็นนักเตะที่เก่งกาจ ครบเครื่อง เทียบเท่ากับเมสซี่,โรนัลโด้,ซีดาน หรือโรนัลดิณโญ่ แต่เป็นแค่นักเตะธรรมดางั้นหรือ? เป็นแค่คนที่โด่งดังเพียงเพราะชื่อเสียงนอกสนาม? มีดีเพียงแค่ฟรีคิกจริงๆหรือ? และไม่ควรถูกนับเป็นตำนานของวงการฟุตบอลจริงๆหรือ? เราจะมารู้จักกับเดวิด เบ็คแฮมในสนามกันซักหน่อยดีกว่า
(ต่อในคอนเมนต์นะครับ)
David Beckham: มากกว่าเซเลบริตี้ที่ยิงฟรีคิก
ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วผมก็จะเจอความคิดเห็นประเภทนี้อย่างมากจากแฟนบอลต่างชาติ และแฟนบอลรุ่นใหม่หลายๆคน ในกระทู้นี้ผมจึงอยากจะมาเขียนบทความเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ซักหน่อย ว่าทำไมในมุมมองของผม เขาถึงคู่ควรกับคำว่า "ตำนาน" และเป็นมากกว่าแค่นักฟุตบอลหน้าตาดี ที่มีแค่ลูกฟรีคิกอย่างเดียว
นับตั้งแต่ปลายยุค90s ลากยาวมาจนถึงต้นๆยุค2010s หากมีการถามคำถามว่า “รู้จักนักฟุตบอลคนไหนบ้าง?” แน่นอนว่ามากกว่า70% ชื่อแรกๆที่ถูกพูดถึงจะต้องเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เดวิด เบ็คแฮม” และถ้าคำถามนี้ถูกถามกับผู้คนที่ไม่ใช่แฟนกีฬาฟุตบอล โอกาสที่ชื่อของอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษคนนี้จะถูกตอบมานั้นคงจะอยู่ที่95%ขึ้นไปเลยทีเดียว แล้วเบ็คแฮมคือใครล่ะ? เขาถึงเป็นที่รู้จักได้ขนาดนี้
เส้นทางอาชีพ “เทพบุตรเท้าชั่งทอง”
แน่นอนว่าผู้คนกลุ่มแรกที่รู้จักผู้ชายคนนี้ดีคงหนีไม่พ้นพลพรรคRed Army เหล่าเด็กผี แฟนบอลของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด “เดวิด โรเบิร์ต โจเซฟ เบ็คแฮม”นั้นเป็นนักเตะเยาวชนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตั้งแต่อายุเพียงแค่16ปีเท่านั้น และได้ขึ้นมาเป็นนักเตะแกนหลักของทีมในช่วงกลางยุค90s ซึ่งเป็นที่จับตามองของสื่อเป็นอย่างมาก หลังจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพลาดในการคว้าแชมป์ลีกและบอลถ้วยในฤดูกาล1994-1995 เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ได้เริ่มต้นฤดูกาลต่อมาด้วยการขายนักเตะดังๆของทีมออก ไม่ว่าจะเป็นมาร์ค ฮิวจ์, พอล อินซ์ และอันเดร แคนเชสกี้ ต่อด้วยการดันนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของทีมขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม ซึ่งเบ็คแฮมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคนที่จะกลายเป็นนักเตะชื่อดังในอนาคตอย่าง พอล สโคล์,นิกกี้ บัต และสองพี่น้องเนวิลล์
เขามีส่วนร่วมในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง6ครั้งใน9ฤดูกาล รวมไปถึงถ้วยFA Cup 2ครั้ง,FA Community Shield 2ครั้ง และแชมป์ UEFA Champions Leagueกับ Intercontinental Cupอีกอย่างละครั้ง เขาได้สวมเสื้อหมายเลข7ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักเตะที่เป็น “ซุปเปอร์สตาร์”ของทีม(สวมต่อจากตำนานอย่างเอริค คันโตน่าอีกด้วย) การมีส่วนร่วมกับประตูสำคัญๆของทีมหลายต่อหลายครั้ง สไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ และหน้าตาที่หล่อเหลามากกว่านักฟุตบอลอีกหลายคน ทำให้เดวิด เบ็คแฮมนั้นกลายเป็นที่รักของแฟนๆแมนฯยูไนเต็ดได้อย่างไม่ต้องสงสัย จนแฟนๆปีศาจแดงนั้นได้แต่งเพลงเชียร์ให้เขาอีกด้วย “One David Beckham, there’s only one David Beckham” ชื่อเสียงในวงการฟุตบอลของเขาโด่งดังอย่างมากและอยู่ในจุดที่สูงมาโดยตลอด เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรชื่อดังของสเปนอย่างเรอัล มาดริด เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค “กาลาติกอส”ที่จะรวมยอดนักเตะดังๆไว้ในทีมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโรนัลโด้,หลุยส์ ฟิโก้ หรือ ซีเนอดีน ซีดาน
และเขาก็สามารถคว้าแชมป์ลีกสเปนได้ในฤดูกาล2006-2007 ก่อนที่เขาจะย้ายไปสร้างชื่อเสียงให้กีฬาฟุตบอลที่สหรัฐอเมริกากับทีมแอลเอกาแลคซี่ คว้าแชมป์MLS Cup2ครั้ง และSupporter’s Shieldอีก2ครั้ง เดวิดได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ของอิตาลีอย่างเอซีมิลานในช่วงเวลาสั้นๆกับสัญญายืมตัว และปิดท้ายอาชีพด้วยการคว้าแชมป์ลีกฝรั่งเศสกับทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งถือเป็นเส้นทางอาชีพในวงการฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ไอคอนชายแห่งยุค2000s
นอกเหนือจากความสำเร็จในสนามหญ้าแล้ว มิดฟิลด์ชาวอังกฤษคนนี้ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากๆในวงการบันเทิง เดวิดได้คบหากับ “วิคตอเรีย อดัมส์” หนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเวลานั้นอย่าง “สไปซ์เกิร์ล” ซึ่งแน่นอนว่าคู่รักคู่นี้ก็ถูกจับตามองจากสื่อทั่วโลกในขณะนั้นอย่างแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำมักจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ
ด้วยอิทธิพลของเจ้าแม่แฟชั่นอย่างวิคตอเรีย เดวิดได้เพิ่มบทบาทและมูลค่าของตนเองต่อสื่ออย่างมาก จากแค่นักฟุตบอลธรรมดาคนหนึ่ง เขาได้ถูกรู้จักในฐานะของเซเลบริตี้และนายแบบ จนเป็นเหมือนบุคคลสำคัญคนหนึ่งของอังกฤษเลยทีเดียว “Posh and Becks”ถือเป็นคู่รักที่มีอิทธิพลมากที่สุดคู่หนึ่งของโลก ทั้งคู่ซื้อบ้านขนาด24เอเคอร์หลังจากแต่งงานกันในปี1999 และถูกสื่อต่างๆตั้งใช้ให้บ้านหลังนั้นว่า “Beckingham palace” เพื่อให้คล้ายกับพระราชวังBuckingham ถือเป็นการเปรียบเปรยชื่อเสียงของเดวิดและวิคตอเรียราวกับราชวงศ์อังกฤษ เดวิดและวิคตอเรียมีลูกด้วยกัน4คน(บรูคลิน โรมีโอ ครูซ และ ฮาเปอร์) ชื่อเสียงของครอบครัวเบ็คแฮมดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ชื่อของเดวิดเบ็คแฮมถือเป็นชื่อคนอังกฤษที่ถูกค้นหามากที่สุดในกูเกิลในช่วงทศวรรษที2000 การที่ชื่อของเขานั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เขาก็สามารถสร้างแบรนด์ต่างขึ้นมาภายใต้ชื่อเขา ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม หรือเครื่องแต่งกาย
และทุกอย่างที่เขาหยิบจับนั้น มักจะการเป็นเทรนด์ยอดฮิตในช่วงๆหนึ่งทั้งสิ้น ซึ่งที่โด่งดังมากๆเลยก็คือทรงผมนั่นเอง ที่ผู้ชายหลายๆคนต้องไปตัดผมตามเบ็คแฮมตลอด ไม่ว่าจะเป็นทรงโมว์ฮอค เดรดร็อค หรือสกินเฮด เมื่อไหร่ที่เดวิดนั้นเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะไปเตะฟุตบอลหรือทำกิจกรรมอย่างอื่น ก็มักจะมีแฟนๆไปรับกันอย่างท่วมล้น ถือเป็นเหมือนกับ “ปรากฏการณ์”ในยุค2000เลยทีเดียว หลังจากที่เขาย้ายไปเล่นฟุตบอลในอเมริกา แบรนด์ของเดวิดเบ็คแฮมก็ได้เติบโตขึ้นไปอีก เขาเป็นที่รู้จักเหมือนกับดาราฮอลลีวูด ได้ออกรายการต่างๆมากมาย เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบริษัทชื่อดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นBurger King, H&M ,Calvin Klein, Samsung หรือแม้กระทั่ง Walt Disney ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเป็นส่วนทำให้เดวิดเบ็คแฮมนั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางนอกสนามฟุตบอล เป็น“เซเลบริตี้” เป็น “ไอคอน” เป็นหนึ่งในบุคคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในปี2015โดยนิตยสารPeoples และในปัจจุบันนั้น เบ็คแฮมมีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิ(Net Worth) ถึง 450ล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อกังขา นี่หรา(หรอ)ตำนาน?
ชื่อเสียงนอกสนามอาจะนำความสำเร็จมาสู่เดวิด เบ็คแฮมมากมาย แต่มันก็นำพาความคิดเห็นด้านลบมาสู้เขาด้วยในบางกรณี แฟนบอลสมัยใหม่ที่คุ้นเคยกับความเก่งกาจแบบสุดๆของยอดนักเตะในสมัยนี้แบบลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ก็มักจะมองว่าเบ็คแฮมนั้นเป็นเพียงแค่นักเตะ ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักได้ก็เพราะความเป็นเซเลบริตี้ที่หน้าตาดีของเขา และมีเพียงแค่การยิงฟรีคิกอันโด่งดังเท่านั้นที่เกี่ยวกับฟุตบอล ไม่น้อยเลยที่เรามักจะเห็นความคิดเห็นของแฟนบอลบางกลุ่มในสื่อโซเชียลของต่างประเทศ "เบ็คแฮมก็ทำได้แค่ยิงฟรีคิกแหละ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเลย” “เขามันก็แค่นักเตะที่เป็นเซเลบ ไม่ได้เก่งอะไรหรอก” “เดวิดก็แค่นักเตะธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่ตำนานของวงการฟุตบอล” “He is the most overrated player in the history.”
หลากหลายคำดูถูกดูแคลนได้ถาโถมเข้ามาใส่ตัวเขา ก็จริงอยู่ที่เดวิดเบ็คแฮมอาจจะไม่ได้เป็นนักเตะที่เก่งกาจ ครบเครื่อง เทียบเท่ากับเมสซี่,โรนัลโด้,ซีดาน หรือโรนัลดิณโญ่ แต่เป็นแค่นักเตะธรรมดางั้นหรือ? เป็นแค่คนที่โด่งดังเพียงเพราะชื่อเสียงนอกสนาม? มีดีเพียงแค่ฟรีคิกจริงๆหรือ? และไม่ควรถูกนับเป็นตำนานของวงการฟุตบอลจริงๆหรือ? เราจะมารู้จักกับเดวิด เบ็คแฮมในสนามกันซักหน่อยดีกว่า
(ต่อในคอนเมนต์นะครับ)