หากมองโดยผิวเผินแล้ว คนจำนวนไม่น้อย อาจจะมองว่าอนิเมเรื่อง Hello World นั้นคงจะเป็นอนิเมแนว Fantasy-Romantic ที่ออกมาหลังกระแส Your Name เพราะหนัง/การ์ตูนญี่ปุ่นแนวโลกเสมือน+ ย้อนกลับไปช่วยเหลือคนรักไม่ให้เจอโศกนาฎกรรมนั้น ก็มีอยู่แล้วหลายเรื่อง
ที่จริง ผมก็จัดเป็นคนที่เข้าข่ายดังกล่าวเช่นกันในช่วงแรก แต่ความสนใจต่ออนิเมเรื่องนี้ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกระแสตอบรับและเสียงวิจารณ์เรื่อง Hello World ที่ญี่ปุ่นออกมาดีมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมตั้งใจจะไปดูหนังเรื่อง JOKER (ที่ญี่ปุ่น)แต่บังเอิญว่าโรงหนังมีคนดูเต็มยาวไปจนถึงค่ำๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว ผมเลยตัดสินใจลองไปดูเรื่อง Hello World ก็ได้ ความรู้สึกที่ได้จากการรับชมนั้น ถือว่าดีเกินคาด จนเข้าขั้นประทับใจเลยทีเดียว โดยส่วนตัวผมให้คะแนนเรื่องนี้แซง Weathering with You ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่ประจำปีนี้เสียอีก
Hello World นั้น จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับในระบบฐานข้อมูลโลกเสมือนที่จำลองเอาเมืองเกียวโตมาทั้งเมือง แต่ตัวระบบนั้นจะมีความล้ำยุคมากจนถึงขนาดบันทึกแม้กระทั่งความทรงจำและความรู้สึกของคนที่อยู่ในเมืองได้ ตัวพระเอก 'นาโอมิ' นั้นจะเป็นเด็กมัธยมขี้อายคนหนึ่ง ที่กำลังใช้ชีวิตมัธยมปลายอยู่ในเมืองเกียวโต จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับตัวเองในวัยผู้ใหญ่ และค้นพบความจริงที่น่าตะลึงว่า เขาและโลกที่เขาอยู่เป็นเพียงข้อมูลเท่านั้น ในขณะที่อีกฝ่ายเป็น'ตัวจริง' ที่มาจาก'โลกจริง'
ในการนี้ 'นาโอมิตัวจริง' ได้มอบหมายภารกิจสำคัญให้พระเอกสองเรื่องด้วยกัน อย่างแรกนั้น เขาจะต้องจีบเป็นแฟนกับนางเอก 'อิจิเกียว' ให้สำเร็จ โดย 'ตัวจริง' จะคอยช่วยสนับสนุนให้ อย่างที่สองนั้น เขาจะต้องช่วยชีวิตของนางเอกให้สำเร็จ เพราะในโลกที่นาโอมิตัวจริงจากมานั้น หลังจากที่ได้คบกันเป็นแฟน นางเอกก็ประสบอุบัติเหตุจนต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
ความรู้สึกที่ผมมีต่อเรื่อง Hello World มีดังนี้ครับ
1.แค่เริ่มเรื่องได้ไม่นาน ผมก็รู้สึกชื่นชมในความล้ำของ Concept ที่หนังได้นำเสนอครับ โดยทั่วไป ในหนังแนวโลกเสมือนนั้น พระเอกจะเป็นคนในโลกจริงที่มีเหตุให้ต้องเข้ามายังโลกเสมือน ส่วนตัวละครเสมือนจะมีบทบาทรองเสียมากกว่า แต่เรื่องนี้กลับให้ 'ข้อมูล' เป็นพระเอกส่วนคนในโลกจริงเป็นผู้สนับสนุน
2. ช่วงตอนแรก หนังจะให้อารมณ์โรแมนติกแบบสบายๆ แทรกตลกเล็กๆ ความสัมพันธ์ระหว่างนาโอมิกับนางเอกจะผลิบานขึ้นเรื่อยๆ โดยมีตัวจริงเป็นคนติวเข้ม จะว่าไปแล้ว เนื้อหาในช่วงนี้ชวนให้ผมนึกถึงหนังญี่ปุ่นโรแมนติกที่ผมชอบมากๆ เรื่อง Tomorrow I will date with Yesterday's You ขึ้นมาเลยทีเดียวอาจจะต่างกันหน่อยตรงที่ นางเอกในเรื่องนี้จะออกแนวสาวเงียบ ไม่ได้หวานชวนฝันเหมือนเอมิจังจากเรื่องนั้น
3. ความดีงามที่แท้จริงของหนังเรื่องนี้ จะเริ่มตั้งแต่ฉาก 'วันสำคัญ' ที่พระเอกต้องไปช่วยนางเอกไม่ให้เจออุบัติเหตุ ตอนแรก ผมก็นึกว่า ไม่เห็นโหดเท่าที่คิดแฮะ แต่แล้วจุดหักมุมก็ออกจู่โจมคนดูโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ระดับความตะลึงนี่ถือว่าไม่แพ้ฉากที่ทากิคุงอ่านเจอข่าวเกี่ยวกับหมู่บ้านของมิทสึฮะในเรื่อง Kimi no Na Wa เลยทีเดียว
อารมณ์ในหนังตั้งแต่ช่วงนี้ในจนจบนั้นนับว่าหลากรสมาก มีทั้งสมหวัง อ้างว้าง ตกตะลึง และลุ้นระทึก การต่อสู้และจุดพลิกล็อกไปมาในส่วนนี้ ชวนให้ผมนึกถึงหนัง Sci-Fi เจ๋งๆอีกสองเรื่องคือ Matrix และ Inception เลย จะต่างกันก็แค่พระเอกใน Hello World ไม่ถึงขั้นชักปืนออกมารัวกระสุนก็เท่านั้นเอง และHello World ก็นำเสนอออกมาได้กลมกล่อมในแบบฉบับของตนเอง ในส่วนที่เป็นดราม่านั้น เนื้อหาของช่วงที่สบายๆ นั้น ก็ช่วยส่งเสริมให้คนดูทั้งสะเทือนใจและอิ่มใจไปกับตัวละครได้ทีเดียว
4. หากเทียบเรื่องนี้กับ Kimi no Na Wa แล้ว ผมว่าทั้งสองเรื่องนี้พอฟัดพอเหวี่ยงแบบกินกันไม่ลงทีเดียว
Hello World จะเด่นกว่าเรื่อง ความเป็น Sci-Fi ฉากตื่นเต้นที่อลังการกว่า และจุดหักมุมที่พลิกไปมาจนหยดสุดท้าย
ส่วน Kimi no Na Wa นั้น จะเด่นกว่าเรื่องงานศิลป์ที่งามมาก ฉากธรรมชาติ และฉากบีบอารมณ์
ผมรู้สึกว่า ถ้า Hollywood เอาเรื่อง Hello World ไปทำเป็นหนังคนแสดงได้ก็จะเยี่ยมมาก
แต่ถ้าให้เทียบกับ Weathering with you ละก็ ผมให้ Hello World กินขาดเลย
ผมทราบมาว่าที่ไทย Hello World นั้นกระแสค่อนข้างเงียบ โรงฉายน้อยมาก
ก็เลยอยากชวนท่านที่มีโอกาสได้ไปดูกันครับ
Hello World: หลับตาฝัน...ว่าพรุ่งนี้ผมจะพก Totem ไปเดทกับเธอคนเมื่อวานใน The Matrix
ที่จริง ผมก็จัดเป็นคนที่เข้าข่ายดังกล่าวเช่นกันในช่วงแรก แต่ความสนใจต่ออนิเมเรื่องนี้ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกระแสตอบรับและเสียงวิจารณ์เรื่อง Hello World ที่ญี่ปุ่นออกมาดีมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมตั้งใจจะไปดูหนังเรื่อง JOKER (ที่ญี่ปุ่น)แต่บังเอิญว่าโรงหนังมีคนดูเต็มยาวไปจนถึงค่ำๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว ผมเลยตัดสินใจลองไปดูเรื่อง Hello World ก็ได้ ความรู้สึกที่ได้จากการรับชมนั้น ถือว่าดีเกินคาด จนเข้าขั้นประทับใจเลยทีเดียว โดยส่วนตัวผมให้คะแนนเรื่องนี้แซง Weathering with You ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่ประจำปีนี้เสียอีก
Hello World นั้น จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับในระบบฐานข้อมูลโลกเสมือนที่จำลองเอาเมืองเกียวโตมาทั้งเมือง แต่ตัวระบบนั้นจะมีความล้ำยุคมากจนถึงขนาดบันทึกแม้กระทั่งความทรงจำและความรู้สึกของคนที่อยู่ในเมืองได้ ตัวพระเอก 'นาโอมิ' นั้นจะเป็นเด็กมัธยมขี้อายคนหนึ่ง ที่กำลังใช้ชีวิตมัธยมปลายอยู่ในเมืองเกียวโต จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับตัวเองในวัยผู้ใหญ่ และค้นพบความจริงที่น่าตะลึงว่า เขาและโลกที่เขาอยู่เป็นเพียงข้อมูลเท่านั้น ในขณะที่อีกฝ่ายเป็น'ตัวจริง' ที่มาจาก'โลกจริง'
ในการนี้ 'นาโอมิตัวจริง' ได้มอบหมายภารกิจสำคัญให้พระเอกสองเรื่องด้วยกัน อย่างแรกนั้น เขาจะต้องจีบเป็นแฟนกับนางเอก 'อิจิเกียว' ให้สำเร็จ โดย 'ตัวจริง' จะคอยช่วยสนับสนุนให้ อย่างที่สองนั้น เขาจะต้องช่วยชีวิตของนางเอกให้สำเร็จ เพราะในโลกที่นาโอมิตัวจริงจากมานั้น หลังจากที่ได้คบกันเป็นแฟน นางเอกก็ประสบอุบัติเหตุจนต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
ความรู้สึกที่ผมมีต่อเรื่อง Hello World มีดังนี้ครับ
1.แค่เริ่มเรื่องได้ไม่นาน ผมก็รู้สึกชื่นชมในความล้ำของ Concept ที่หนังได้นำเสนอครับ โดยทั่วไป ในหนังแนวโลกเสมือนนั้น พระเอกจะเป็นคนในโลกจริงที่มีเหตุให้ต้องเข้ามายังโลกเสมือน ส่วนตัวละครเสมือนจะมีบทบาทรองเสียมากกว่า แต่เรื่องนี้กลับให้ 'ข้อมูล' เป็นพระเอกส่วนคนในโลกจริงเป็นผู้สนับสนุน
2. ช่วงตอนแรก หนังจะให้อารมณ์โรแมนติกแบบสบายๆ แทรกตลกเล็กๆ ความสัมพันธ์ระหว่างนาโอมิกับนางเอกจะผลิบานขึ้นเรื่อยๆ โดยมีตัวจริงเป็นคนติวเข้ม จะว่าไปแล้ว เนื้อหาในช่วงนี้ชวนให้ผมนึกถึงหนังญี่ปุ่นโรแมนติกที่ผมชอบมากๆ เรื่อง Tomorrow I will date with Yesterday's You ขึ้นมาเลยทีเดียวอาจจะต่างกันหน่อยตรงที่ นางเอกในเรื่องนี้จะออกแนวสาวเงียบ ไม่ได้หวานชวนฝันเหมือนเอมิจังจากเรื่องนั้น
3. ความดีงามที่แท้จริงของหนังเรื่องนี้ จะเริ่มตั้งแต่ฉาก 'วันสำคัญ' ที่พระเอกต้องไปช่วยนางเอกไม่ให้เจออุบัติเหตุ ตอนแรก ผมก็นึกว่า ไม่เห็นโหดเท่าที่คิดแฮะ แต่แล้วจุดหักมุมก็ออกจู่โจมคนดูโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ระดับความตะลึงนี่ถือว่าไม่แพ้ฉากที่ทากิคุงอ่านเจอข่าวเกี่ยวกับหมู่บ้านของมิทสึฮะในเรื่อง Kimi no Na Wa เลยทีเดียว
อารมณ์ในหนังตั้งแต่ช่วงนี้ในจนจบนั้นนับว่าหลากรสมาก มีทั้งสมหวัง อ้างว้าง ตกตะลึง และลุ้นระทึก การต่อสู้และจุดพลิกล็อกไปมาในส่วนนี้ ชวนให้ผมนึกถึงหนัง Sci-Fi เจ๋งๆอีกสองเรื่องคือ Matrix และ Inception เลย จะต่างกันก็แค่พระเอกใน Hello World ไม่ถึงขั้นชักปืนออกมารัวกระสุนก็เท่านั้นเอง และHello World ก็นำเสนอออกมาได้กลมกล่อมในแบบฉบับของตนเอง ในส่วนที่เป็นดราม่านั้น เนื้อหาของช่วงที่สบายๆ นั้น ก็ช่วยส่งเสริมให้คนดูทั้งสะเทือนใจและอิ่มใจไปกับตัวละครได้ทีเดียว
4. หากเทียบเรื่องนี้กับ Kimi no Na Wa แล้ว ผมว่าทั้งสองเรื่องนี้พอฟัดพอเหวี่ยงแบบกินกันไม่ลงทีเดียว
Hello World จะเด่นกว่าเรื่อง ความเป็น Sci-Fi ฉากตื่นเต้นที่อลังการกว่า และจุดหักมุมที่พลิกไปมาจนหยดสุดท้าย
ส่วน Kimi no Na Wa นั้น จะเด่นกว่าเรื่องงานศิลป์ที่งามมาก ฉากธรรมชาติ และฉากบีบอารมณ์
ผมรู้สึกว่า ถ้า Hollywood เอาเรื่อง Hello World ไปทำเป็นหนังคนแสดงได้ก็จะเยี่ยมมาก
แต่ถ้าให้เทียบกับ Weathering with you ละก็ ผมให้ Hello World กินขาดเลย
ผมทราบมาว่าที่ไทย Hello World นั้นกระแสค่อนข้างเงียบ โรงฉายน้อยมาก
ก็เลยอยากชวนท่านที่มีโอกาสได้ไปดูกันครับ