✳︎
✳︎
✳︎
สายลับ มักจะทำงานอยู่ในเงามืด
ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใครบ้าง
บางทีเรื่องนี้อาจจะทำให้สายลับที่มีชื่อเสียงที่สุด
มีแนวโน้มที่จะหลอกลวงชาวบ้าน เช่น James Bond, Jason Bourne and Tom Clancy's Jack Ryan.
นาน ๆ ครั้ง ที่ความดำมืดจะถูกเปิดเผยเรื่องราว
ไม่ว่าจะเป็นการทรยศหักหลังระหว่างสายลับ
และนี่คือ 10 เรื่องที่เป็นตำนานและเปิดเผยต่อสาธารณะ
✳︎
1. Spy vs. Trump
✳︎
✳︎
หลังจากที่ CNN ได้รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2017
หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับที่สหรัฐอเมริกา ได้สรุปสั้น ๆ ว่า
ประธานาธิบดี Donald Trump ที่ได้รับการเลือกตั้ง
มีส่วนพัวพันกับรัสเซียด้วยมือสกปรก
มีการแพร่กระจายข่าวกันอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
โดยการเผยแพร่ภาพถ่ายเอกสารกลยุทธ์การเลือกตั้งที่รั่วไหลออกมา
เอกสารที่ไม่ได้รับการยืนยันว่าจริงหรือไม่
ว่ารัสเซียช่วยเหลือ Trump ด้วยการให้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
เกี่ยวกับคุ่แข่งขันฝายตรงข้าม พร้อมกับให้ข้อเสนอที่ล่อตาล่อใจ
ด้วยอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าและราคาที่น่าพึงพอใจ
และในเอกสารลับที่รั่วไหลนี้ ยังมีการอ้างว่า
หน่วยสืบรัฏฐการลับของรัสเซีย
Russia's Federal Security Service
มีข้อมูลภาพถ่ายและรูปภาพต่าง ๆ
ไว้ข่มขู่แบล็กเมล์ Trump ที่มีกิจกรรมทางเพศกับสตรีอื่น ๆ
ในขณะที่ไปเยี่ยมเยือน Moscow
ในครั้งแรก มีการยืนยันว่าเอกสารลับที่รั่วนี้
ต้องการส่งมอบให้กับอดีตสายลับคนหนี่ง
ที่รัฐบาลสหรัฐไว้วางใจได้มากคนหนึ่ง
แต่ในระหว่างวันที่เริ่มเป็นข่าว
สำนักข่าว Reuters ได้รายงานว่า
คนที่รวบรวมสำนวนเอกสารนี้
คือ Christopher Steele
อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ
ตามรายงานข่าวได้ระบุว่า
Christopher Steele ทำงานสอดแนมภายใต้เอกสิทธิ์ทางการทูต
หนังสือพิมพ์อังกฤษ The Independent รายงานว่า
Christopher Steele ทำงานอยู่ในสถานทูตของสหราชอาณาจักร
เช่นเดียวกับในมอสโก ในปารีส
และยังเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ/สำนักข่าวกรองทางธุรกิจ
Orbis Business Intelligence ใน London
ในวันที่ 12 มกราคม 2019
Christopher Steele ก็หลบหนีออกจากบ้านพัก
แล้วไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง
เพราะเหตุผลที่เอกสารลับเกิดรั่วไหล
จนคนรู้กันไปทั่วหมดแล้ว
✳︎
✳︎
✳︎
หมายเหตุ
KGB เคยแอบถ่ายภาพซูกาโน่ ผู้นำเผด็จการของอินโดนีเซีย
ในขณะที่ท่านกำลังมีเพศสัมพันธ์กับสตรีอื่นที่เป็นสายลับรัสเซีย
ด้วยการแอบถ่ายไว้หลายม้วนและหลายสถานที่
กะว่าจะใช้ Black Mail ท่าน
แต่ท่านบอกให้ช่วยอัดภาพยนตร์เรื่องนี้หลาย ๆ ชุดด้วย
จะได้นำไปฉายหนังกลางแปลงให้ชาวบ้านชม
เพื่อให้รู้ว่า ผู้นำทรงพลังทางเพศขนาดไหน
เรื่องนี้ทำให้รัสเซียไปไม่ถูกทางเลย
✳︎
✳︎
2. Valerie Plame
✳︎
✳︎
Valerie Plame Wilson อดีดสายลับ CIA
ให้การกับ
House Oversight and Government Reform Committee
คณะกรรมาธิการปฏิรูปกิจการภายในและรัฐบาล
วันที่ 16 มีนาคม 2007 ที่ Washington, DC.
© Mark Wilson/Getty Images
✳︎
Valerie Plame Wilson คือ สายลับ
ของ Central Intelligence Agency (CIA)
จนกระทั่งเธอถูกเผยโฉมหน้าและเบื้องหลัง
ในหนังสือพิมพ์ Washington Post ในปี 2003
เธอคือ มืออาชีพในเขตพื้นที่ Washington, DC
เธอทำงานเจาะลึกในการเพิ่มจำนวนสายลับ
เธอให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ในปี 2007
ภารกิจของเธอคือ การรวบรวมข้อมูลและรับสมัครสายลับ
คัดกรองสายลับชั้นเลวออกไปให้ห่างจาก
ข้อมูลต่าง ๆ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์
แต่หน้าที่การงานทั้งหมดของเธอก็จบลง
เมื่อ Robert Novak นักข่าวได้ออกมาเปิดเผยว่า
เธอคือ สายลับ CIA
ต่อมา Richard L. Armitage
อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
ได้ให้ข่าวว่า ตนเองได้เปิดเผยเรื่องนี้โดยไม่ตั้งใจ
ในการให้ข่าวเรื่องนี้กับ Robert Novak
ไม่มีใครถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการรั่วไหล
เรื่องการเป็นสายลับของ Valerie Plame
แม้ว่ากระทรวงยุติธรรมจะได้ทำการสอบสวนเรื่องนี้
และมีข้อสรุปว่า ฝ่ายบริหารของรัฐบาล George W. Bush
ได้ทำเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อแก้แค้นสามีของเธอ
ที่ทำตัวเป็นปรปักษ์ในเรื่องสงครามอีรัค
แต่ในขั้นตอนของการสอบสวน
Lewis Scooter Libby ทนายความและที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร
ถูกตั้งข้อหาว่า มีความผิดในฐานเบิกความเท็จ
และขัดขวางกระบวนยุติธรรม
ทำให้ถูกตัดสินจำคุก 30 เดือนในเรือนจำกลางของรัฐ
ต่อมา George W. Bush ได้อภัยโทษให้
ตอนนี้ Valerie Plame พำนักอยู่ใน New Mexico
✳︎
3. Alexander Litvinenko
✳︎
✳︎
Alexander Litvinenko ที่หอผู้ป่วยหนัก
ของ Intensive Care Unit of University College Hospital
วันที่ 20 พฤศจิกายนปี 2006 ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ
© Natasja Weitsz / Getty
✳︎
Alexander Litvinenko อดีตสายลับรัสเซีย
Federal Security Service (FSB)
ได้หลบหนีมาที่อังกฤษในปี 2000
หลังจากที่รัสเซียสั่งจับเป็นครั้งที่สอง
เพราะถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน
เปิดเผยความลับของคำสั่งเบื้องสูงของ FSB
ในการฆาตกรรมของ Boris Berezovsky
นักธุรกิจคนสำคัญของรัสเซีย
ที่มีเรื่องขัดแย้งไม่ลงรอยกับ
Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย
Alexander Litvinenko หลังจากถูกเนรเทศอยู่ในอังกฤษ
ออกมาพูดต่อต้าน Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006 ก็มีอาการป่วยอย่างแรง
เพราะถูกวางยาพิษตามการตรวจสอบของแพทย์
พบว่าเป็นสารกัมมันตรังสีพอโลเนียม-210
radioactive polonium-210
ทั้งนี้ยาพิษใส่มาในน้ำชาที่ดื่มใน London's Millennium Hotel
อีก 3 สัปดาห์ต่อมา Alexander Litvinenko
ก็เสียชีวิต เพราะพิษสารกัมมันตรังสี
ตามรายงานข่าวของ BBC
ผลการตรวจสอบของรัฐบาลอังกฤษ
ได้กล่าวหาว่าอดีตสายลับรัสเซียสอง นาย คือ
Andrei Lugovoi กับ Dmitry Kovtun
เป็นผู้วางยาพิษในครั้งนี้
แต่ทั้งสองปฏิเสธข้อกล่าวหา
และรัสเซียปฏิเสธส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ในปี 2016 รัฐบาลอังกฤษได้สอบสวนเพิ่มเติม
แล้วระบุว่า Alexander Litvinenko ถูกวางยาพิษจนตาย
อาจจะได้รับอนุมัติคำสั่งให้ตายโดย Vladimir Putin
ตามรายงานข่าวของ BBC
✳︎
4. Ethel Rosenberg
✳︎
✳︎
Julius และ Ethel Rosenberg แยกจากกันด้วยตาข่ายลูกกรง
ขณะที่ปรากฏตัวบนศาลสหรัฐฯ หลังจากถูกตัดสินโดยคณะลูกขุน
© Library of Congress's Prints and Photographs division
✳︎
Ethel Rosenberg มีชี่อเสียงโด่งดังมากว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมลับ ๆ
แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่า เธอมีความผิดฐานจารกรรม
เธอถูกตัดสินลงโทษในข้อหากบฏพร้อมกับ Julius สามีของเธอในปี 1951
ข้อหาลักลอบส่งมอบความลับเกี่ยวกับโครงการปรมาณูของสหรัฐฯ ให้กับรัสเซีย
ทั้งคู่ถูกประหารชีวิตในปี 1953
เมื่อเร็ว ๆ นี้เดือนธันวาคม 2016
ลูกชายสองคนของ Rosenbergs
ได้ยื่นคำร้องต่อ ประธานาธิบดี Obama
เพื่อนิรโทษกรรมหรือรื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่
และยืนยันว่า แม่ผู้ล่วงลับไม่มีความผิดแต่ประการใด
Ethel Rosenberg เกิดในปี 1915
ที่ Ethel Greenglass ในมหานครนิวยอร์ก
ตามประวัติของเธอใน Atomic Archive
ระบุว่า เธอทำงานเป็นเลขานุการ
จนกระทั่งแต่งงานกับ Julius และมีลูกชาย 2 คน
ทั้งคู่เป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์อเมริกัน
จนกระทั่งในปี 1943
ภายใต้บรรยากาศสงครามเย็น
ความไม่พอใจอย่างแรงที่รัสเซียพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ไปได้เร็วมาก
จนมีการต่อต้านคอมมิวนิสต์และหาแพะรับบาปในเรื่องนี้
เพราะมีการจับกุมและกล่าวหาลงโทษใครก็ตาม
ที่มีส่วนพัวพันหรือเป็นแนวร่วมคอมมิวนิสต์แบบเหวี่ยงแห
หลายคนต้องตกงาน ฆ่าตัวตายหรือหลบหนีไปต่างประเทศ
ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ภายใต้สภาวะเลวร้ายในการพิจารณาคดี
พยานหลักฐานเบื้องต้นในการพิจารณาคดีนี้คือ
David Greenglass น้องชายของ Ethel
ซึ่งถูกตัดสินลงโทษข้อหาขโมยข้อมูลข่าวกรองอาวุธนิวเคลียร์
จาก Los Alamos, New Mexico
ตามรายงานข่าวของ New York Times
ที่ทำการเผยแพร่เอกสารในปี 2015
เปิดเผยว่า David Greenglass โกหกเรื่องนี้
เรื่องที่ Ethel มีส่วนเกี่ยวข้องในตอนให้การ
กับคณะลูกขุนในตอนแรกที่ถูกดำเนินคดี
เพื่อต้องการจะได้รับการลดโทษ/กันตัวเป็นพยาน
ในปีต่อมา David Greenglass
ได้เปิดเผยต่อ CBS กับ New York Times
มันได้โกหกเรื่องการมีส่วนร่วมของ Ethel Rosenberg
เพื่อให้ภริยาของมันพ้นผิด
ด้วยการเบี่ยงเบนความสงสัยไปที่พี่สาวของมัน
" ผมคิดว่า จริง ๆ แล้วภริยาผม
คือคนพิมพ์เอกสารลับ แต่ผมจำไม่ได้แล้ว
ภริยาผมสำคัญกับผมมาก
มากกว่าพี่สาวผม แม่ผม หรือพ่อผม
O.K.? เธอคือ แม่ของลูก ๆ ผม "
(มันตายไปแล้ว 1 กรกฏาคม 2014)
ในคดีอาญาบางคดีมีการต่อรองเรื่องการเปิดเผยความลับ
แบบซัดทอดได้มากหรือมีจำเลยมากโทษก็จะเบาบางลง
เรื่องน่าเศร้าของ
Julius และ Ethel Rosenberg
✳︎
✳︎
5. Virginia Hall
✳︎
✳︎
Virginia Hall สายลับ CIA หน่วยปฏิบัติการพิเศษ
ได้รับเหรียญ Distinguished Service Cross
จากนายพล Donovan ในเดือนกันยายน 1945
© CIA, Public Domain
✳︎
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สายลับหญิงที่มีขาไม้ เรื่องราวดูเหลือเชื่อแต่เป็นความจริง
เรื่องเล่าของ Virginia Hall เหมือนนวนิยายที่พูดกันมาก
กล่าวคือ ในตอนที่เธออายุได้ 27 ปีก่อนที่จะมาเป็นสายลับ CIA
เธอสูญเสียขาซ้ายล่างจากอุบัติเหตุในการล่าสัตว์
ตามประวัติของหน่วยงานของเธอ
เธอตั้งชื่อขาเทียมนี้ว่า Cuthbert
เธอทำตัวเหมือนคนพิการเวลาเดินทางหลบซ่อน
หรือทำตัวเหมือนคนปรกติทั่วไป
ทั้งยังหลบซ่อนข้อมูลข่าวสารลับในขาเทียม
ก่อนส่งมอบให้กับฝ่ายของตน
Virginia Hall เป็นชาวบ้าน Baltimore
แม้ว่าเธอจะไม่สามารถรับใช้ชาติในตอนแรก
ในการไปอาสาร่วมรบในต่างประเทศเพราะความพิการของเธอ
แต่ต่อมา เธอได้เข้าร่วมกับคณะพยาบาลไปที่ประเทศฝรั่งเศส
เมื่อช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่นั่น เธออาสาทำงานร่วมกับ
หน่วยยุทธการระดับสูงพิเศษของอังกฤษ
British Special Operations Executive
และทำการจัดตั้งหน่วยต่อต้านนาซีเยอรมันในฝรั่งเศส
พวกนาซีเยอรมันเรียกเธอว่า
สายลับพันธมิตรที่อันตรายที่สุด
และมุ่งมั่นที่จะกำจัดเธอให้จงได้
แต่นาซีเยอรมันก็ทำอะไรเธอไม่ได้
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
Virginia Hall ยังปฏิบัติงานต่อในยุโรป
ก่อนเข้าร่วมงานกับ CIA ในปี 1951
เธอทำงานที่นั่นจนกระทั่งอายุเกษียณ 60 ปี
10 สายลับระดับตำนาน
✳︎
✳︎
สายลับ มักจะทำงานอยู่ในเงามืด
ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใครบ้าง
บางทีเรื่องนี้อาจจะทำให้สายลับที่มีชื่อเสียงที่สุด
มีแนวโน้มที่จะหลอกลวงชาวบ้าน เช่น James Bond, Jason Bourne and Tom Clancy's Jack Ryan.
นาน ๆ ครั้ง ที่ความดำมืดจะถูกเปิดเผยเรื่องราว
ไม่ว่าจะเป็นการทรยศหักหลังระหว่างสายลับ
และนี่คือ 10 เรื่องที่เป็นตำนานและเปิดเผยต่อสาธารณะ
1. Spy vs. Trump
✳︎
✳︎
หลังจากที่ CNN ได้รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2017
หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับที่สหรัฐอเมริกา ได้สรุปสั้น ๆ ว่า
ประธานาธิบดี Donald Trump ที่ได้รับการเลือกตั้ง
มีส่วนพัวพันกับรัสเซียด้วยมือสกปรก
มีการแพร่กระจายข่าวกันอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
โดยการเผยแพร่ภาพถ่ายเอกสารกลยุทธ์การเลือกตั้งที่รั่วไหลออกมา
เอกสารที่ไม่ได้รับการยืนยันว่าจริงหรือไม่
ว่ารัสเซียช่วยเหลือ Trump ด้วยการให้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
เกี่ยวกับคุ่แข่งขันฝายตรงข้าม พร้อมกับให้ข้อเสนอที่ล่อตาล่อใจ
ด้วยอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าและราคาที่น่าพึงพอใจ
และในเอกสารลับที่รั่วไหลนี้ ยังมีการอ้างว่า
หน่วยสืบรัฏฐการลับของรัสเซีย
Russia's Federal Security Service
มีข้อมูลภาพถ่ายและรูปภาพต่าง ๆ
ไว้ข่มขู่แบล็กเมล์ Trump ที่มีกิจกรรมทางเพศกับสตรีอื่น ๆ
ในขณะที่ไปเยี่ยมเยือน Moscow
ในครั้งแรก มีการยืนยันว่าเอกสารลับที่รั่วนี้
ต้องการส่งมอบให้กับอดีตสายลับคนหนี่ง
ที่รัฐบาลสหรัฐไว้วางใจได้มากคนหนึ่ง
แต่ในระหว่างวันที่เริ่มเป็นข่าว
สำนักข่าว Reuters ได้รายงานว่า
คนที่รวบรวมสำนวนเอกสารนี้
คือ Christopher Steele
อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ
ตามรายงานข่าวได้ระบุว่า
Christopher Steele ทำงานสอดแนมภายใต้เอกสิทธิ์ทางการทูต
หนังสือพิมพ์อังกฤษ The Independent รายงานว่า
Christopher Steele ทำงานอยู่ในสถานทูตของสหราชอาณาจักร
เช่นเดียวกับในมอสโก ในปารีส
และยังเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ/สำนักข่าวกรองทางธุรกิจ
Orbis Business Intelligence ใน London
ในวันที่ 12 มกราคม 2019
Christopher Steele ก็หลบหนีออกจากบ้านพัก
แล้วไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง
เพราะเหตุผลที่เอกสารลับเกิดรั่วไหล
จนคนรู้กันไปทั่วหมดแล้ว
✳︎
✳︎
หมายเหตุ
KGB เคยแอบถ่ายภาพซูกาโน่ ผู้นำเผด็จการของอินโดนีเซีย
ในขณะที่ท่านกำลังมีเพศสัมพันธ์กับสตรีอื่นที่เป็นสายลับรัสเซีย
ด้วยการแอบถ่ายไว้หลายม้วนและหลายสถานที่
กะว่าจะใช้ Black Mail ท่าน
แต่ท่านบอกให้ช่วยอัดภาพยนตร์เรื่องนี้หลาย ๆ ชุดด้วย
จะได้นำไปฉายหนังกลางแปลงให้ชาวบ้านชม
เพื่อให้รู้ว่า ผู้นำทรงพลังทางเพศขนาดไหน
เรื่องนี้ทำให้รัสเซียไปไม่ถูกทางเลย
✳︎
2. Valerie Plame
✳︎
✳︎
Valerie Plame Wilson อดีดสายลับ CIA
ให้การกับ
House Oversight and Government Reform Committee
คณะกรรมาธิการปฏิรูปกิจการภายในและรัฐบาล
วันที่ 16 มีนาคม 2007 ที่ Washington, DC.
© Mark Wilson/Getty Images
✳︎
Valerie Plame Wilson คือ สายลับ
ของ Central Intelligence Agency (CIA)
จนกระทั่งเธอถูกเผยโฉมหน้าและเบื้องหลัง
ในหนังสือพิมพ์ Washington Post ในปี 2003
เธอคือ มืออาชีพในเขตพื้นที่ Washington, DC
เธอทำงานเจาะลึกในการเพิ่มจำนวนสายลับ
เธอให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ในปี 2007
ภารกิจของเธอคือ การรวบรวมข้อมูลและรับสมัครสายลับ
คัดกรองสายลับชั้นเลวออกไปให้ห่างจาก
ข้อมูลต่าง ๆ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์
แต่หน้าที่การงานทั้งหมดของเธอก็จบลง
เมื่อ Robert Novak นักข่าวได้ออกมาเปิดเผยว่า
เธอคือ สายลับ CIA
ต่อมา Richard L. Armitage
อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
ได้ให้ข่าวว่า ตนเองได้เปิดเผยเรื่องนี้โดยไม่ตั้งใจ
ในการให้ข่าวเรื่องนี้กับ Robert Novak
ไม่มีใครถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการรั่วไหล
เรื่องการเป็นสายลับของ Valerie Plame
แม้ว่ากระทรวงยุติธรรมจะได้ทำการสอบสวนเรื่องนี้
และมีข้อสรุปว่า ฝ่ายบริหารของรัฐบาล George W. Bush
ได้ทำเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อแก้แค้นสามีของเธอ
ที่ทำตัวเป็นปรปักษ์ในเรื่องสงครามอีรัค
แต่ในขั้นตอนของการสอบสวน
Lewis Scooter Libby ทนายความและที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร
ถูกตั้งข้อหาว่า มีความผิดในฐานเบิกความเท็จ
และขัดขวางกระบวนยุติธรรม
ทำให้ถูกตัดสินจำคุก 30 เดือนในเรือนจำกลางของรัฐ
ต่อมา George W. Bush ได้อภัยโทษให้
ตอนนี้ Valerie Plame พำนักอยู่ใน New Mexico
3. Alexander Litvinenko
✳︎
✳︎
Alexander Litvinenko ที่หอผู้ป่วยหนัก
ของ Intensive Care Unit of University College Hospital
วันที่ 20 พฤศจิกายนปี 2006 ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ
© Natasja Weitsz / Getty
✳︎
Alexander Litvinenko อดีตสายลับรัสเซีย
Federal Security Service (FSB)
ได้หลบหนีมาที่อังกฤษในปี 2000
หลังจากที่รัสเซียสั่งจับเป็นครั้งที่สอง
เพราะถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน
เปิดเผยความลับของคำสั่งเบื้องสูงของ FSB
ในการฆาตกรรมของ Boris Berezovsky
นักธุรกิจคนสำคัญของรัสเซีย
ที่มีเรื่องขัดแย้งไม่ลงรอยกับ
Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย
Alexander Litvinenko หลังจากถูกเนรเทศอยู่ในอังกฤษ
ออกมาพูดต่อต้าน Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006 ก็มีอาการป่วยอย่างแรง
เพราะถูกวางยาพิษตามการตรวจสอบของแพทย์
พบว่าเป็นสารกัมมันตรังสีพอโลเนียม-210
radioactive polonium-210
ทั้งนี้ยาพิษใส่มาในน้ำชาที่ดื่มใน London's Millennium Hotel
อีก 3 สัปดาห์ต่อมา Alexander Litvinenko
ก็เสียชีวิต เพราะพิษสารกัมมันตรังสี
ตามรายงานข่าวของ BBC
ผลการตรวจสอบของรัฐบาลอังกฤษ
ได้กล่าวหาว่าอดีตสายลับรัสเซียสอง นาย คือ
Andrei Lugovoi กับ Dmitry Kovtun
เป็นผู้วางยาพิษในครั้งนี้
แต่ทั้งสองปฏิเสธข้อกล่าวหา
และรัสเซียปฏิเสธส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ในปี 2016 รัฐบาลอังกฤษได้สอบสวนเพิ่มเติม
แล้วระบุว่า Alexander Litvinenko ถูกวางยาพิษจนตาย
อาจจะได้รับอนุมัติคำสั่งให้ตายโดย Vladimir Putin
ตามรายงานข่าวของ BBC
4. Ethel Rosenberg
✳︎
✳︎
Julius และ Ethel Rosenberg แยกจากกันด้วยตาข่ายลูกกรง
ขณะที่ปรากฏตัวบนศาลสหรัฐฯ หลังจากถูกตัดสินโดยคณะลูกขุน
© Library of Congress's Prints and Photographs division
✳︎
Ethel Rosenberg มีชี่อเสียงโด่งดังมากว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมลับ ๆ
แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่า เธอมีความผิดฐานจารกรรม
เธอถูกตัดสินลงโทษในข้อหากบฏพร้อมกับ Julius สามีของเธอในปี 1951
ข้อหาลักลอบส่งมอบความลับเกี่ยวกับโครงการปรมาณูของสหรัฐฯ ให้กับรัสเซีย
ทั้งคู่ถูกประหารชีวิตในปี 1953
เมื่อเร็ว ๆ นี้เดือนธันวาคม 2016
ลูกชายสองคนของ Rosenbergs
ได้ยื่นคำร้องต่อ ประธานาธิบดี Obama
เพื่อนิรโทษกรรมหรือรื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่
และยืนยันว่า แม่ผู้ล่วงลับไม่มีความผิดแต่ประการใด
Ethel Rosenberg เกิดในปี 1915
ที่ Ethel Greenglass ในมหานครนิวยอร์ก
ตามประวัติของเธอใน Atomic Archive
ระบุว่า เธอทำงานเป็นเลขานุการ
จนกระทั่งแต่งงานกับ Julius และมีลูกชาย 2 คน
ทั้งคู่เป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์อเมริกัน
จนกระทั่งในปี 1943
ภายใต้บรรยากาศสงครามเย็น
ความไม่พอใจอย่างแรงที่รัสเซียพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ไปได้เร็วมาก
จนมีการต่อต้านคอมมิวนิสต์และหาแพะรับบาปในเรื่องนี้
เพราะมีการจับกุมและกล่าวหาลงโทษใครก็ตาม
ที่มีส่วนพัวพันหรือเป็นแนวร่วมคอมมิวนิสต์แบบเหวี่ยงแห
หลายคนต้องตกงาน ฆ่าตัวตายหรือหลบหนีไปต่างประเทศ
ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ภายใต้สภาวะเลวร้ายในการพิจารณาคดี
พยานหลักฐานเบื้องต้นในการพิจารณาคดีนี้คือ
David Greenglass น้องชายของ Ethel
ซึ่งถูกตัดสินลงโทษข้อหาขโมยข้อมูลข่าวกรองอาวุธนิวเคลียร์
จาก Los Alamos, New Mexico
ตามรายงานข่าวของ New York Times
ที่ทำการเผยแพร่เอกสารในปี 2015
เปิดเผยว่า David Greenglass โกหกเรื่องนี้
เรื่องที่ Ethel มีส่วนเกี่ยวข้องในตอนให้การ
กับคณะลูกขุนในตอนแรกที่ถูกดำเนินคดี
เพื่อต้องการจะได้รับการลดโทษ/กันตัวเป็นพยาน
ในปีต่อมา David Greenglass
ได้เปิดเผยต่อ CBS กับ New York Times
มันได้โกหกเรื่องการมีส่วนร่วมของ Ethel Rosenberg
เพื่อให้ภริยาของมันพ้นผิด
ด้วยการเบี่ยงเบนความสงสัยไปที่พี่สาวของมัน
" ผมคิดว่า จริง ๆ แล้วภริยาผม
คือคนพิมพ์เอกสารลับ แต่ผมจำไม่ได้แล้ว
ภริยาผมสำคัญกับผมมาก
มากกว่าพี่สาวผม แม่ผม หรือพ่อผม
O.K.? เธอคือ แม่ของลูก ๆ ผม "
(มันตายไปแล้ว 1 กรกฏาคม 2014)
ในคดีอาญาบางคดีมีการต่อรองเรื่องการเปิดเผยความลับ
แบบซัดทอดได้มากหรือมีจำเลยมากโทษก็จะเบาบางลง
เรื่องน่าเศร้าของ Julius และ Ethel Rosenberg
✳︎
5. Virginia Hall
✳︎
✳︎
Virginia Hall สายลับ CIA หน่วยปฏิบัติการพิเศษ
ได้รับเหรียญ Distinguished Service Cross
จากนายพล Donovan ในเดือนกันยายน 1945
© CIA, Public Domain
✳︎
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สายลับหญิงที่มีขาไม้ เรื่องราวดูเหลือเชื่อแต่เป็นความจริง
เรื่องเล่าของ Virginia Hall เหมือนนวนิยายที่พูดกันมาก
กล่าวคือ ในตอนที่เธออายุได้ 27 ปีก่อนที่จะมาเป็นสายลับ CIA
เธอสูญเสียขาซ้ายล่างจากอุบัติเหตุในการล่าสัตว์
ตามประวัติของหน่วยงานของเธอ
เธอตั้งชื่อขาเทียมนี้ว่า Cuthbert
เธอทำตัวเหมือนคนพิการเวลาเดินทางหลบซ่อน
หรือทำตัวเหมือนคนปรกติทั่วไป
ทั้งยังหลบซ่อนข้อมูลข่าวสารลับในขาเทียม
ก่อนส่งมอบให้กับฝ่ายของตน
Virginia Hall เป็นชาวบ้าน Baltimore
แม้ว่าเธอจะไม่สามารถรับใช้ชาติในตอนแรก
ในการไปอาสาร่วมรบในต่างประเทศเพราะความพิการของเธอ
แต่ต่อมา เธอได้เข้าร่วมกับคณะพยาบาลไปที่ประเทศฝรั่งเศส
เมื่อช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่นั่น เธออาสาทำงานร่วมกับ
หน่วยยุทธการระดับสูงพิเศษของอังกฤษ
British Special Operations Executive
และทำการจัดตั้งหน่วยต่อต้านนาซีเยอรมันในฝรั่งเศส
พวกนาซีเยอรมันเรียกเธอว่า
สายลับพันธมิตรที่อันตรายที่สุด
และมุ่งมั่นที่จะกำจัดเธอให้จงได้
แต่นาซีเยอรมันก็ทำอะไรเธอไม่ได้
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
Virginia Hall ยังปฏิบัติงานต่อในยุโรป
ก่อนเข้าร่วมงานกับ CIA ในปี 1951
เธอทำงานที่นั่นจนกระทั่งอายุเกษียณ 60 ปี