วงการกีฬาไทยควรให้ความสำคัญกับ "จิตวิทยาการกีฬา" มากกว่านี้มั้ยครับ

สังเกตนักกีฬาหลายคน ฟอร์มดี ๆ มา พอมีปัญหาสภาพจิตใจ ก็ฟอร์มดิ่งเหวแบบหาทางกลับไม่ได้อีกเลย 
เคสที่เห็นชัด ๆ คือ ภราดร จากจุดแข็งคือไม่กลัวการตีโต้ ตอนหลังกลายเป็นใจร้อน ตีโต้นาน ๆ ไม่ได้ 
น้องเมย์ก็เคยขาดความมั่นใจไปพักใหญ่
ปัจจุบันก็มีศุภชัย ใจเด็ด ที่หลังจากพลาดไปมีเรื่องชกต่อย ก็ดูแววตาซึมๆ ไปเลย 
คนที่กลับมาได้ก็พอมีครับ แต่เขาต้องจิตใจแข็งแกร่งมาก อย่างเจ้าอุ้ม 

การที่ฟอร์มตกจากสภาพจิตใจ มันน่าแตกต่างจาก ฟอร์มตกเพราะไม่ฟิต หรือบาดเจ็บ เพราะมันไม่สามารถกลับมาได้ด้วยการฝึกหนักหรือพักฟื้น 
ที่ผ่านมา เวลานักกีฬามีปัญหาสภาพจิตใจ มักไม่ได้รับการเห็นใจจากแฟนกีฬา เพราะมองเผินๆ  เหมือนปัญหาเล็ก ๆ (ซึ่งไม่เล็กเลย) 
ซึ่งพอใครเจอปัญหานี้มันไม่ใช่แก้กันง่าย ๆ แบบ ให้โค้ชพูดกระตุ้น หรือไล่ไปเข้าวัดนั่งสมาธิ แล้วมันจะหาย 
จริงๆ การมีปัญหาสภาพจิตใจ ควรจะถือเป็นอาการบาดเจ็บชนิดนึงด้วยซ้ำเพราะมันมัผลต่อตัวนักกีฬา ทั้งในสนามและนอกสนาม 
ซ้ำร้ายยิ่งนักกีฬาที่อยู่ในยุคโซเชียล ยิ่งตกเป็นเป้าโจมตีทางสภาพจิตใจได้ง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก 

ไม่แน่ใจว่าปัจจุบ้านเมืองไทยมีอาชีพ นักจิตวิทยาการกีฬา (Sport Psychologist) มั้ยครับ และนักกีฬาหรือทีมกีฬาใช้บริการมากแค่ไหน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่