วันนี้เราเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานีสามยอด ให้มาออกที่ทางออกหมายเลข 3 ถนนอุณากรรณ

ออกจากสถานีก็แลซ้ายชมความงามของสถานี แต่ให้เลี้ยวขวามาทางสี่แยกนี้จ้า

เมื่อถึงสี่แยกก็ให้เลี้ยวขวาอีกที

เดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับทางแยก ให้ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม 

จากนั้นก็เดินตรงต่อมาเรื่อยๆจ้า ให้เดินเลียบรั้ววัดสุทัศน์มาได้เลย

เดินมาเรื่อยๆก็ถึงเสาชิงช้าแล้วจ้า ระยะทางจาก MRT ไปที่ร้านก็ไม่ไกลมาก ประมาณ 1 กิโลเมตรนิดๆเท่านั้นเอง เดินชิวๆ 
ใครอยากจะแวะถ่ายรูปก็จัดไปเลยจ้า สวยงามแน่นอน

เดินผ่านเสาชิงช้ามา ก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเลยจ้า

เดินมาประมาณ 50 เมตร ก็จะเจอกับป้ายนี้ ก็ให้เลี้ยวซ้าย เดินเข้าซอยนี้จ้า

ถึงแล้ววว เพื่อนสาวมาถึงช่วงบ่ายก็จะมีลูกค้าเยอะนิดนึง ก็มาลงชื่อเข้าคิวรอเรียกนะจ๊ะ

บรรยากาศคึกคักมาก ลูกค้าเยอะเหมือนกันนะเนี่ย

ในระหว่างรอคิว เรามาดูเมนูกันก่อนดีกว่า

ก็มีชุดแนะนำต่างๆหลายราคาเลย ดูหรูหราไฮโซ ราคาก็ไม่เบาเหมือนกันจ้า

ในส่วนเครื่องดื่มนั้น ก็มีตามนี้เลยจ้า จุกๆ ดูเมนูไปได้สักพัก พนักงานก็เรียกให้ไปสั่งเมนู เพราะว่าใกล้ถึงคิวแล้ว วันนี้ไปกับเพื่อนสาว 3 คน 
เลยจัดชุดข้าวเหนียวมะม่วง 599 บาท ซึ่งสามารถเปลี่ยนบางเมนูได้ เช่น ชุดนี้เมนูที่ได้คือ ไอศกรีมกะทิลอดช่อง จะเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นเลือกได้เลย 
ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีมชาไทยเฉาก๊วย ไอศกรีมใบเตยบัวลอย หรือจะเป็นไอศกรีมทุเรียนบัวลอย 
อีกส่วนที่เปลี่ยนได้ก็คือเค้ก เราเลยขอมาเลือกเค้กที่ตู้ด้านในก่อน

เดินเข้ามาด้านในก็จะสัมผัสกับบรรยากาศบ้านไทยสมัยก่อน มีความสวยงาม

ว้าววว นี่เลยจ้า เลือกเค้กได้ตามใจชอบ จัดไปฟินๆ


เลือกเค้กกับเพื่อนสาว ก็ลงความเห็นว่า เปลี่ยนเค้กเป็น Hokkaido Milk น่ากินมาก

จากนั้นไม่นานก็ถึงคิวเราแล้ว เราก็ไปที่โต๊ะกันเลยจ้า

ชมบรรยากาศบ้านกันเสียหน่อย


นั่งเม้าท์มอยกันไปซัก 2-3 เรื่อง ถ่ายรูปกันไปซัก 2-3 แมตช์ อาหารก็มาเสิร์ฟแล้วจ้า ชุดข้าวเหนียวมะม่วงของเรานั่งเอง

เปิดตัวด้วยข้าวเหนียวมะม่วงในกรงทอง คือสวยงามตามท้องเรื่อง ในส่วนของรสชาติก็คือไม่ได้ว้าวมากนะ เป็นรสชาติข้าวเหนียวมะม่วงทั่วๆไป

ลำดับถัดมา เพื่อนสาวถูกใจสิ่งนี้ นั่นก็คือ ไอศกรีมกะทิ ลอดช่องฝอยทอง รสชาติหวานมันอร่อย แนะนำเลย ไม่ควรพลาด

ถัดมาก็เป็นเค้ก Hokkaido Milk ที่เราเลือกไว้ รสชาติอร่อยเลยทีเดียว แต่คิดในใจว่าแอบแพงไปนิดนึง ชิ้นละ 120 บาทแหน่ะ

สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ ชานั่นเอง ต้องจิบชายามบ่ายเม้าท์มอยให้ได้อรรถรส รสชาติของชานี้ช่วยตัดเลี่ยนได้ด้วยนะ

บ้านขนมปังขิงนี้เป็นบ้านไม้เก่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2456 มีอายุราว 106 ปีเลยนะ ซึ่งได้รับการรีโนเวทให้เป็นร้านกาแฟ 
ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของร้านที่น่าสนใจมากๆเลยหล่ะ นั่งเม้าท์มอยไปสักพัก อ้าว! เริ่มมืดแล้วจ้า ต้องขอตัวแยกย้ายกลับบ้านกันก่อนนะ

ร้านเปิดทุกวันเลยจ้า ใครที่อยากจะนัดเพื่อนมาเม้าท์มอยแต่นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหน ก็ลองแวะมาบ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า เดินทางไม่ยากแล้วจ้า 
นอกจะนี้ ยังมีร้านอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทยประตูผี ร้านเจ๊ไฝ มนต์นมสด บลาๆๆ แวะมาเที่ยวกันได้นะจ๊ะ


วันนี้เพื่อนสาวพาเที่ยวขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้านะจ๊ะ สวัสดีจ้า

[[ อุปกรณ์ถ่ายภาพโดย: Olympus PEN EP-5 ]]
 

"เพื่อนพาฉันเที่ยว ฉันพาเพื่อนเที่ยว" 

ติดตามเพจได้ที่
http://www.facebook.com/bestiefriendster

#เพื่อนสาวพาเที่ยว
#bestiefriendster

ฝากกระทู้ก่อนหน้าด้วยจ้า

: เพื่อนสาวพาเที่ยว ตอน "สิงคโปร์ ไม่มีโปรก็โอนะ 4 วัน 3 คืน งบไม่เกิน 15,000 (รวมทุกอย่าง)"
https://ppantip.com/topic/39355813

: เพื่อนสาวพาเที่ยว ตอน "เดินเล่นถ่ายรูปชิวๆ ย่านบางรัก-ตลาดน้อย 2019"
https://ppantip.com/topic/39095938

: เพื่อนสาวพาเที่ยว ตอน "ตามรอยบาร์ Rooftop วิวหลักล้าน ราคาหลักร้อย 2019"
https://ppantip.com/topic/38743326