คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ตอบจากประสบการณ์ที่เคยเป็นกรรมการสภาอุตสาหกรรม ในจังหวัดใหญ่ๆ แห่งหนึ่ง ปัจจุบันอยู่ในวงการวิชาการ
และส่วนตัวก็จบมาทางสายวิศวกรรม ทั้งตรีและโท
เท่าที่ผมเห็นและทราบมา วิศวกรรมเครื่องกล ออกจะ Classic หน่อย ไม่หวือหวาตามเศรษฐกิจและเทคโนโลยีมากนัก โอกาสได้งานมีมาก โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ต้องใช้ ในไทย ส่วนใหญ่จำเป็นเพราะต้องอิง ใบ กว. ด้วย บางทีใช้ทำงานแทนงานบางอย่างในงานวิศวกรรมอุตสาหการ คือ ใช้เครื่องกลดูงานเครื่องจักร. งานซ่อมและดูการผลิตไปด้วยก็มี งานทางวิศวกรรมเครื่องกล จะครอบคลุมงานเครื่องจักรไอน้ำต่างๆ โรงงานที่ต้องมีฆ่าเชื่อด้วยไอน้ำทั้งหลายต้องมี กว.เครื่องกล หรือโรงผลิตกระแสไฟฟ้า (Power Plant) รวมถึงงานระบบความเย็น , งานระบบท่อ , วิศวกรรมยานยนต์ เป็นต้น
คณิตศาสตร์จะเรียนเยอะมากหน่อย
ส่วนงานทางวิศวกรรมไฟฟ้า อันนี้ มันหลากหลาย ต้องไปดูสาขาย่อย เช่น ไฟฟ้าสื่อสารหรือโทรคมนาคม, ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์, ไฟฟ้าระบบควบคุม และไฟฟ้ากำลัง เป็นต้น บางสาขาหางานยากขึ้น ในมหาวิทยาลัยบางแห่งยุบบางสาขาทิ้งไปเลย เพราะไม่มีเด็กมาเรียน ที่ยังพอมีคือ ไฟฟ้าระบบควบคุม และไฟฟ้ากำลัง
ในบางมหาวิทยาลัยก็ปรับหลักสูตร จะสองสาขาย่อยมารวมกัน เช่นไฟฟ้ากำลังกับระบบควบคุม หรือ รบบควบคุมกับอิเล็กทรอนิกส์
หรือ จับมารวมกันกับสาขาอื่น เป็นหลักสูตรใหม่ เช่น วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ ซึ่ง ณ ปี พ.ศ. ก็ไม่นับว่าใหม่เท่าไหร่นะครับ ดังนั้นบางมหาวิทยาลัยก็จะเอาพวกหุ่นยนต์หรือ AI เข้าไปผนวกไว้ด้วย
งานทางวิศวกรรมไฟฟ้า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีค่อนข้างมาก ศาสตร์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารหรือโทรคมนาคม อาจมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป เรียนกว่าจะจบ จบมา เทคโนโลยีเปลี่ยนไปแล้ว หากงานก็จะเหนื่อยหน่อยครับ
สาขาทางวิศวกรรมพวกนี้ ที่มีการพัฒนาหลักสูตร เรียนแบบผสมผสานเป็นสหวิทยาการ เช่น นาโนเทคโนโลยี ที่เกี่ยวกับด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ก็เช่น Nanoelectronics, Nanosensor, และพวก Nanomotor เป็นต้น หรือ ประยุกต์เป็น สาขาใหม่ๆ เรียนทุกเรื่อง เช่น วิศวกรรมชีวการแพทย์ บางแห่งเรียกว่า วิศวกรรมทางการแพทย์ (Medical Engineering) อันนี้เรียนแบบสห จริงๆ ต้องเรียนวิชาของ วิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมเครื่องกล เคมีชีวภาพ เป็นต้น ฯลฯ อันนี้ ตลาดยังไปได้
ยิ่งหาจะกลับมาอยู่ไทยด้วย ก็ยิ่งดี เพราะไทยเรากำลังเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งความต้องการด้านวิศวกรรมทางการแพทย์ก็จะมีไม่น้อยเลยครับ รายได้ดี หางานไม่ยาก
การรักษา การดูแลผู้สูงอายุต่างๆ จะสูงมาก แพทย์ดังเดิมจะเหนื่อยมาก จำเป้นต้องพึ่งวิศวกรรมการแพทย์มาช่วย พร้อมกับผลิต แพทย์และวิศวกรในคนเดียวกันไปเลย ในไทยเรียน 7 ปี พ.บ. - วศ.ม. (วิศวกรรมชีวการแพทย์) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่การให้น้องศึกษาข้อมูล เรียนรู้ความต้องการของตลาดวิศวกรรมในอนาคต เป็นเรื่องดีเลยครับ อยู่น้องชอบด้วย ความรู้พื้นฐานในสายที่ชอบ อย่างน้อยต้องคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ บางวิชาอาจไม่ต้องเก่งเลิศ
ในยุคอนาคต ที่ท่านสุนทรภู่สอนว่า "อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่าเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
อาจจะไม่พอ ในยุคที่พลเมืองเยอะขนาดนี้ และการแข่งขันเริ่มคลายจุดกำเนิด มากขึ้น (คือ คล้ายกับช่วงที่เป็นอสุจิ พุ่งเข้าสู่เป้าหมาย มากขึ้นนะครับ)
ผมว่า อาจต้องนั่งคุยกับน้อง ว่าน้องอยากทำงานอะไร บุคลิกของน้อง วิชาที่ชอบ งานที่ใช่
ปล. [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และส่วนตัวก็จบมาทางสายวิศวกรรม ทั้งตรีและโท
เท่าที่ผมเห็นและทราบมา วิศวกรรมเครื่องกล ออกจะ Classic หน่อย ไม่หวือหวาตามเศรษฐกิจและเทคโนโลยีมากนัก โอกาสได้งานมีมาก โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ต้องใช้ ในไทย ส่วนใหญ่จำเป็นเพราะต้องอิง ใบ กว. ด้วย บางทีใช้ทำงานแทนงานบางอย่างในงานวิศวกรรมอุตสาหการ คือ ใช้เครื่องกลดูงานเครื่องจักร. งานซ่อมและดูการผลิตไปด้วยก็มี งานทางวิศวกรรมเครื่องกล จะครอบคลุมงานเครื่องจักรไอน้ำต่างๆ โรงงานที่ต้องมีฆ่าเชื่อด้วยไอน้ำทั้งหลายต้องมี กว.เครื่องกล หรือโรงผลิตกระแสไฟฟ้า (Power Plant) รวมถึงงานระบบความเย็น , งานระบบท่อ , วิศวกรรมยานยนต์ เป็นต้น
คณิตศาสตร์จะเรียนเยอะมากหน่อย
ส่วนงานทางวิศวกรรมไฟฟ้า อันนี้ มันหลากหลาย ต้องไปดูสาขาย่อย เช่น ไฟฟ้าสื่อสารหรือโทรคมนาคม, ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์, ไฟฟ้าระบบควบคุม และไฟฟ้ากำลัง เป็นต้น บางสาขาหางานยากขึ้น ในมหาวิทยาลัยบางแห่งยุบบางสาขาทิ้งไปเลย เพราะไม่มีเด็กมาเรียน ที่ยังพอมีคือ ไฟฟ้าระบบควบคุม และไฟฟ้ากำลัง
ในบางมหาวิทยาลัยก็ปรับหลักสูตร จะสองสาขาย่อยมารวมกัน เช่นไฟฟ้ากำลังกับระบบควบคุม หรือ รบบควบคุมกับอิเล็กทรอนิกส์
หรือ จับมารวมกันกับสาขาอื่น เป็นหลักสูตรใหม่ เช่น วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ ซึ่ง ณ ปี พ.ศ. ก็ไม่นับว่าใหม่เท่าไหร่นะครับ ดังนั้นบางมหาวิทยาลัยก็จะเอาพวกหุ่นยนต์หรือ AI เข้าไปผนวกไว้ด้วย
งานทางวิศวกรรมไฟฟ้า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีค่อนข้างมาก ศาสตร์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารหรือโทรคมนาคม อาจมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป เรียนกว่าจะจบ จบมา เทคโนโลยีเปลี่ยนไปแล้ว หากงานก็จะเหนื่อยหน่อยครับ
สาขาทางวิศวกรรมพวกนี้ ที่มีการพัฒนาหลักสูตร เรียนแบบผสมผสานเป็นสหวิทยาการ เช่น นาโนเทคโนโลยี ที่เกี่ยวกับด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ก็เช่น Nanoelectronics, Nanosensor, และพวก Nanomotor เป็นต้น หรือ ประยุกต์เป็น สาขาใหม่ๆ เรียนทุกเรื่อง เช่น วิศวกรรมชีวการแพทย์ บางแห่งเรียกว่า วิศวกรรมทางการแพทย์ (Medical Engineering) อันนี้เรียนแบบสห จริงๆ ต้องเรียนวิชาของ วิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมเครื่องกล เคมีชีวภาพ เป็นต้น ฯลฯ อันนี้ ตลาดยังไปได้
ยิ่งหาจะกลับมาอยู่ไทยด้วย ก็ยิ่งดี เพราะไทยเรากำลังเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งความต้องการด้านวิศวกรรมทางการแพทย์ก็จะมีไม่น้อยเลยครับ รายได้ดี หางานไม่ยาก
การรักษา การดูแลผู้สูงอายุต่างๆ จะสูงมาก แพทย์ดังเดิมจะเหนื่อยมาก จำเป้นต้องพึ่งวิศวกรรมการแพทย์มาช่วย พร้อมกับผลิต แพทย์และวิศวกรในคนเดียวกันไปเลย ในไทยเรียน 7 ปี พ.บ. - วศ.ม. (วิศวกรรมชีวการแพทย์) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่การให้น้องศึกษาข้อมูล เรียนรู้ความต้องการของตลาดวิศวกรรมในอนาคต เป็นเรื่องดีเลยครับ อยู่น้องชอบด้วย ความรู้พื้นฐานในสายที่ชอบ อย่างน้อยต้องคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ บางวิชาอาจไม่ต้องเก่งเลิศ
ในยุคอนาคต ที่ท่านสุนทรภู่สอนว่า "อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่าเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"
อาจจะไม่พอ ในยุคที่พลเมืองเยอะขนาดนี้ และการแข่งขันเริ่มคลายจุดกำเนิด มากขึ้น (คือ คล้ายกับช่วงที่เป็นอสุจิ พุ่งเข้าสู่เป้าหมาย มากขึ้นนะครับ)
ผมว่า อาจต้องนั่งคุยกับน้อง ว่าน้องอยากทำงานอะไร บุคลิกของน้อง วิชาที่ชอบ งานที่ใช่
ปล. [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
วิศวะ เครื่องกล หรือ ไฟฟ้า
ความสนใจ หรือ ความสามารถในการเรียน ลูกมีข้อมูลไปเลือกพิจารณาเอง
เกรดที่ทำได้ดีอยู่ อยู่ในระดับต้นๆที่พอสามารถเลือกสาขา แล้วน่าจะได้รับเลือกลำดับต้นๆ
แต่ในฐานะพ่อ
อยากหาข้อมูลเพื่อให้ลูกนำไปพิจารณา ในอีกมุมนึง ในโอกาสของรายได้จากสาขานั้นๆ
อยากเรียนถามว่า
1. สาขา เครื่องกล หรือ ไฟฟ้า โดยทั่วๆไป การจ้างงานในท้องตลาด ในปัจจุบัน หรือ ระยะ 5 ปีข้างหน้า
อย่างไหน เปิดรับ หรือ มีความต้องการมากกว่ากัน และค่าตอบแทนโดยภาพรวมเฉลี่ยเท่าไหร่ในแต่ละสาขา
2. นอกจาก 2 สาขานี้ สาขาไหนที่ ความต้องการ และ รายได้ ดีกว่า
3. สาขาใดในอนาคต ที่หลังจากการมาของ AI ยังมีความต้องการ หรือ ไม่ได้รับผลกระทบต่อการจ้างงาน
4. หรือมีเวปไหนที่มีข้อมูล เพื่อนำไปเปรียบเทียบได้
5. คำถามนี้ถามทั้งในตลาดแรงงานใน และ ต่างประเทศครับ
คำถามมี range ที่กว้างมาก เพราะสุดท้าย การรับเข้าทำงาน รายได้ คงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล
grade ที่ได้ ประสบการณ์ที่มี เงื่อนไขของบริษัท ตามสถานะการณ์ในขณะนั้นๆ
จึงขอเรียนถามเป็นความเห็นในภาพรวม เพื่อดูโอกาส ในการรับเข้าทำงาน ค่าตอบแทน และ อนาคตของสาขานั้นๆ
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
สรุปง่ายๆ สาขาใดในวิศวะ ที่มีอนาคตที่ดีกว่า เพื่อเป็นแนวทางโอกาส หารายได้เลี้ยงชีพ
โดยตัดปัจจัยทางความสนใจ ความเก่ง ของเด็กออกไป
ขอบคุณครับ
ลองดูของ us
ของ usa
เปรียบเทียบวิศวะ
เปรียบเทียบสาขา ของ USA
จาก
Michigan Tech