สวัสดีค่ะ ปัญหานี้มันเคลียไม่ลงตัวกันสักที ที่เราคบกับแฟนตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มัธยมปลาย เมื่อจบแล้วเราก็มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย แฟนก็เช่นกัน ระหว่างเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเราก็เริ่มย้ายมาอยู่ด้วยกัน พ่อแม่เราทั้งสองก็รับทราบ แล้วเราก็ตกลงกันว่า พอเรียนจบเราก้จะมาตบแต่งให้เป็นพิธี
จนเราเรียนจบ แม่ก็ถามว่าเรียนจบแล้วบอกทางแฟนมาขอได้แล้วหรือยังไงทำไมยังเงียบกันจัง เราก็ไปคุยกับแฟน เขาก็บอกว่าขอซื้อที่ดินก่อนเราก็โอเคให้ทางแฟนเขาซื้อที่ก่อน เวลาผ่านไป ทางบ้านเราญาติเขาก็ถามอีกทำไมไม่มาอีก แฟนก็ตอบว่า คงอีกนานครับ แต่แฟนเขาก็ชอบเล่าเรื่องธุรกิจที่บ้านเขาให้ฝั่งเราฟังบอกได้กำไลวันละ 2000-3000 บาท มันก็เลยทำให้ฝั่งเราคิดว่าถ้าว่าแต่ละวันได้เยอะทำไมจะมาแต่งแค่นี้ไม่ได้ใช่ว่าฝั่งเราจะคิดแพง แค่อยากให้แต่งเป็นเรื่องเป็นราว
เวลาผ่านไปอีก ครอบครัวเราก็ให้เราไปถามแฟนอีก เราก็ถามเขาก็บอกว่าไม่ใช่เขาไม่ถามแม่นะ เขาถามแต่แม่เขาว่าขอสร้างบ้านก่อนจะได้ไหม เราก็เลยมาแจ้งทางฝั่งเราว่าฝั่งนั้นว่าอย่างไร แม่เราก็ตัดสินใจให้เราเรียนต่อ เขาก็ไปมาหาสู่กับทางเราเหมือนเดิม จนฝั่งเราว่ามันจะไม่ไหวแล้วนะ แม่เราเลยว่าครั้งนี้ไปถามให้แน่ชัดนะว่าจะเอายังไง เราก็ให้แฟนไปถามแม่แฟน คำตอบก็ได้แบบเดิม ก็ขอสร้างบ้านก่อนได้ไหม แต่ยังไงแม่เขาก็จะถามพ่อดูก่อนว่าจะเอายังไง
ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วยังไม่ได้คำตอบจากแฟนเลย เขาก้ไม่ค่อยได้ติดต่อมาเหมือนเดิ แค่รายงานว่าวันนี้ไปทำงานแล้วนะ กลับจากที่ทำงานแล้วนะนอกนั้นเขาก็เงียบไปเลย แม่เราเลยทำไมแฟนเราไม่พยายามอะไรเลย เราควรเลือกควรคิดได้แล้วนะว่าจะเอายังไง ทำยังไงต่อ เราก็เสียใจนะ เราอยากให้เกียตริพ่อแม่เรา แม้มันเป็นสิ่งที่เราพลาดไปแล้ว เราสงสารพ่อกับแม่มาก แฟนเราก็พูด ว่าเรียนจบก่อนได้มั้ยค่อยแต่ง
เราเลยคิดว่าจะถอยออกมาดีมั้ยหรือไปต่อดี ดูเหมือนเขาจะไม่แคร์เราเลย เราเคยถามแม่ว่า ถ้าเขาไม่มาขอแต่ง ถ้าหนูไม่ได้แต่งงานกันคนนี้แม่จะเสียใจมั้ย คำตอบของแม่คือ แม่จะดีใจและสบายใจมากถ้าเราไม่แต่งกับคนนี้ เพราะแม่บอกอยู่แล้วว่าคนนี้ไม่โอเคถ้าทำแบบนี้กับลูก แม่ก็บอกว่าแม่รู้ว่าเราจะเสียใจมากถ้าทำไม่ได้ก้ค่อยๆห่าง แต่ถ้าทำแบบนั้นเราคิดว่าเรายิ่งจะเสียใจมาก คำตอบจากแฟนก็ไม่ได้สักที เราควรไปต่อดีมั้ยหรือตัดใจให้เร็วที่สุดและถอยออกมา คิดมากสุดๆเลยค่ะ เป็นทุกข์ใจมากค่ะ เราคิดว่าพ่อกับแม่เราก็เครียดมากๆ สงสารพ่อกับแม่จับใจ
ปัญหาเรื่องขอหมั้นขอแต่งงาน จะไปต่อหรือถอยดี(อยากได้คำปรึกษามากค่ะ)
จนเราเรียนจบ แม่ก็ถามว่าเรียนจบแล้วบอกทางแฟนมาขอได้แล้วหรือยังไงทำไมยังเงียบกันจัง เราก็ไปคุยกับแฟน เขาก็บอกว่าขอซื้อที่ดินก่อนเราก็โอเคให้ทางแฟนเขาซื้อที่ก่อน เวลาผ่านไป ทางบ้านเราญาติเขาก็ถามอีกทำไมไม่มาอีก แฟนก็ตอบว่า คงอีกนานครับ แต่แฟนเขาก็ชอบเล่าเรื่องธุรกิจที่บ้านเขาให้ฝั่งเราฟังบอกได้กำไลวันละ 2000-3000 บาท มันก็เลยทำให้ฝั่งเราคิดว่าถ้าว่าแต่ละวันได้เยอะทำไมจะมาแต่งแค่นี้ไม่ได้ใช่ว่าฝั่งเราจะคิดแพง แค่อยากให้แต่งเป็นเรื่องเป็นราว
เวลาผ่านไปอีก ครอบครัวเราก็ให้เราไปถามแฟนอีก เราก็ถามเขาก็บอกว่าไม่ใช่เขาไม่ถามแม่นะ เขาถามแต่แม่เขาว่าขอสร้างบ้านก่อนจะได้ไหม เราก็เลยมาแจ้งทางฝั่งเราว่าฝั่งนั้นว่าอย่างไร แม่เราก็ตัดสินใจให้เราเรียนต่อ เขาก็ไปมาหาสู่กับทางเราเหมือนเดิม จนฝั่งเราว่ามันจะไม่ไหวแล้วนะ แม่เราเลยว่าครั้งนี้ไปถามให้แน่ชัดนะว่าจะเอายังไง เราก็ให้แฟนไปถามแม่แฟน คำตอบก็ได้แบบเดิม ก็ขอสร้างบ้านก่อนได้ไหม แต่ยังไงแม่เขาก็จะถามพ่อดูก่อนว่าจะเอายังไง
ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วยังไม่ได้คำตอบจากแฟนเลย เขาก้ไม่ค่อยได้ติดต่อมาเหมือนเดิ แค่รายงานว่าวันนี้ไปทำงานแล้วนะ กลับจากที่ทำงานแล้วนะนอกนั้นเขาก็เงียบไปเลย แม่เราเลยทำไมแฟนเราไม่พยายามอะไรเลย เราควรเลือกควรคิดได้แล้วนะว่าจะเอายังไง ทำยังไงต่อ เราก็เสียใจนะ เราอยากให้เกียตริพ่อแม่เรา แม้มันเป็นสิ่งที่เราพลาดไปแล้ว เราสงสารพ่อกับแม่มาก แฟนเราก็พูด ว่าเรียนจบก่อนได้มั้ยค่อยแต่ง
เราเลยคิดว่าจะถอยออกมาดีมั้ยหรือไปต่อดี ดูเหมือนเขาจะไม่แคร์เราเลย เราเคยถามแม่ว่า ถ้าเขาไม่มาขอแต่ง ถ้าหนูไม่ได้แต่งงานกันคนนี้แม่จะเสียใจมั้ย คำตอบของแม่คือ แม่จะดีใจและสบายใจมากถ้าเราไม่แต่งกับคนนี้ เพราะแม่บอกอยู่แล้วว่าคนนี้ไม่โอเคถ้าทำแบบนี้กับลูก แม่ก็บอกว่าแม่รู้ว่าเราจะเสียใจมากถ้าทำไม่ได้ก้ค่อยๆห่าง แต่ถ้าทำแบบนั้นเราคิดว่าเรายิ่งจะเสียใจมาก คำตอบจากแฟนก็ไม่ได้สักที เราควรไปต่อดีมั้ยหรือตัดใจให้เร็วที่สุดและถอยออกมา คิดมากสุดๆเลยค่ะ เป็นทุกข์ใจมากค่ะ เราคิดว่าพ่อกับแม่เราก็เครียดมากๆ สงสารพ่อกับแม่จับใจ