Kloppage Time

Jackie. · 
ทดเวลาของ คลอปป์
Kloppage Time
วันนี้หลายๆท่านน่าจะได้อ่าน เรื่องนี้ในสตาร์ซอคเกอร์ กันไปบ้างแล้ว ถ้าใครไม่ได้อ่าน ผมคัดลอกคอลั่มน์ ตัวเอง สรุปใจความให้อ่านกัน
นี่เฉพาะ นาทีที่85 จนหมดเวลา
กดไป 4 ลูก ถ้ารวมตั้งแต่ น.75 เป็นต้นไป
7 ลูก
แถมเป็นประตูทำให้ชนะในเกมอีกต่างหาก!
สำนักข่าวบีบีซี ทำรายงานพิเศษเรื่องการยิงประตูช่วงท้ายเกมของหงส์แดง และเรียกมันว่า Kloppage Time อันเป็นการเล่นคำพ้องกับ Stoppage time หรือช่วงทดเวลานั่นเอง
13 นัดพรีเมียร์ลีกที่ผ่านไปเด็กหงส์ กลายเป็นทีมที่ฆ่าไม่ตาย ฟื้นกลับมาได้ และทำสถิติเป็นทีมซึ่งยิงประตูช่วงทดเวลา
เมื่อก่อนเรารับรู้กันว่าทีมของเซอร์ อเลกส์ เฟอร์กูสัน มักทำได้แบบนี้ และประสบความสำเร็จนับตั้งแต่แชมป์ครั้งแรกจนเป็นที่มาของ "เฟอร์กี้ ไทมส์" ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของการกดดันผู้ตัดสินกับเวลาที่ต้องทดต่อ
จนเป็นที่มา "เวลาของเฟอร์กี้"
วันนี้บีบีซี ตั้งคำถามว่า นี่แฟนบอลอังกฤษกำลังเข้าสู่ยุคของ Kloppage Time ใช้หรือไม่ และมันอาจเป็นนิยามในการเดินหน้าสู่ความหวังแชมป์ลีกครั้งแรกของลิเวอร์พูลนับจากปี 1990 เป็นต้นมา
30 ปีที่รอคอย...
เพียงข้อสงสัยหรือคำถามเรื่อง คลอพเพจ ไทม์ มันคล้ายคลึงกับ เฟอร์กี้ ไทม์ และเป็นคุณสมบัติของทีมที่มีโอกาสก้าวไปสัมผัสกับถ้วยแชมป์นั่นเอง
ระหว่างรอคำตอบอีกห้าหกเดือนข้างหน้า...บีบีซี อาสาพาไปดูเรื่องการได้ประตูช่วงทดเวลาของลิเวอร์พูล
1 ทำไมลิเวอร์พูลยิงประตูท้ายเกมเยอะจัง?
มีหลายปัจจัยท่ีเกิดขึ้นภายใต้งานของ คลอปป์ ด้วยความเข้าใจและการรักษาเวลาที่ตรงเป๊ะ นำไปสู่การทดเวลาหลายนาทีในเกมพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ปี 1992 ทำให้มีการยิงประตูช่วงนาทีที่ 90 หรือช่วงทดเวลาเกิดขึ้นเยอะ
ถ้าเทียบกับตัวเลขในปีแรกของการก่อตั้งพรีเมียร์ลีก 1992 จำนวน 1.7% ถึงซีซั่นที่แล้ว 2018-19 จำนวน 7.1%
คลอปป์ จัดการให้ทีมของเขามีคุณภาพในเรื่องการยิงประตูช่วงใกล้หมดเวลามากมายหลายลูก ประเด็นนี้ เวอร์จิล ฟานไดจ์ บอกเรื่องสติสตังของนักเตะหงส์ที่มีความเชื่อในแผนการรุกของผู้จัดการทีม ส่วนอดัม ลัลลานา บอกว่านักเตะหงส์ "มีสัมผัสที่หก" หรือ ซิกส์เซ้นส์
"พวกเราไม่ต้องการพึ่งพาโชคมากนัก เกมนัดชนะวิลล่า เป็นตัวอย่างที่ว่า ผมไม่คิดว่าเราจะยิงประตูร้อยเปอร์เซนต์ แต่ผมแค่มั่นใจว่าหากเราคุมเกมรุกและสร้างสรรรค์โอกาสจังหวะเพื่อยิงประตู เหมือนครึ่งหลังในเกมนั้น"
"เรามีโอกาสยิงและเราต้องใช้มันให้ได้"
"นั่นคือสิ่งที่ลูกทีมของผมทำในวินาทีตัดสินเกม เราจึงชนะในเกม เราจึงยิงสองประตูช่วงท้าย เหมือนนัดพบสเปอร์ส, แมนฯยูไนเต็ด นั่นหละครับ"
นั่นคือปัจจัยที่ เจเค พอใจหากมันเกิดโชคชะตาในสนามซึ่งมาจากการฝึกซ้อมอย่างหนักในสนามซ้อมตลอดสัปดาห์
เรื่องนี้ เป๊ป บอกว่าลูกสาวและลูกชายของเขาเองยังพูดกันว่าลิเวอร์พูลทำไมโชคดี ยิงประตูชนะช่วงท้ายเกม
"ลูกชายกับลูกสาวของผมถามทุกครั้งที่ลิเวอร์พูลชนะในช่วงนาทีสุดท้าย ถามว่าทำไมลิเวอร์พูลโชคดีจังเลย"
เป๊ปพูดเมื่อเร็วๆนี้
ซึ่งเขาพูดต่อว่า "ผมบอกกับเด็กๆว่า มันไม่ใช่โชคดี ในสิ่งที่พวกเขาทำได้เมื่อปีที่แล้วต่อเนื่องจนถึงปีนี้คือคุณภาพอันน่าทึ่งของทีมที่มาพร้อมกับความสามารถอันเหลือเชื่อในการต่อสู้จนกระทั่งหมดเวลา"
"นั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับนักเตะของผม อ้างจากสิ่งที่ผมพูดกับลูกๆว่ามันไม่ใช่โชคดี ถ้ามันเกิดขึ้นครั้งหรือสองครั้ง แบบนั้นคือโชค แต่นี่เกิดขึ้น 12,13 ครั้ง มันบ่อยเกินไปมันคือความสามารถ"
2 ประตูท้ายเกม มีส่วนตัดสินแชมป์หรือไม่?
ค่าเฉลี่ยของการได้แต้มช่วงท้ายเกมส่งผลให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หากทีมเก็บแต้มได้ 1.78 ที่ยิงได้ช่วงนาทีที่90 หรือทดเวลา หรือ 4.38แต้มช่วงนาทีที่ 85 เป็นต้นไป นี่คือคุณสมบัติหนึ่งของแชมป์ลีกสูงสุด
ทว่ามีเพียงสามใน 26 ฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเท่านั้นมีทีมที่ยิงประตูช่วงท้ายเกมหรือทดเวลามากสุดแล้วชนะในเกม จบซีซั่นในฐานะแชมป์
ยิ่งกว่านั้น 4 ฤดูกาลยุคพรีเมียร์ลีก บรรดาทีมที่ได้แต้มจากการยิงประตูนาทีที่ 90 หรือทดเวลา มีช่องว่างคะแนนเท่าหรือมากกว่าเมื่อเทียบกับแชมป์และรองแชมป์ อันนี้นับรวมการยิงประตูนาทีที่ 85 เป็นต้นไป เพิ่มเป็น 8 ฤดูกาลที่มีผลต่อช่องว่างในตารางคะแนนระหว่างอันดับหนึ่งและสอง อีกด้วย
นี่แหละครับที่เราทุ่มเถียงกันน้ำท่วมทุ่งว่า
ความสามารถ, การจัดการทีมที่ดี และทีมที่ประสบความสำเร็จมักคว้าชัยชนะได้ก่อน5 นาทีสุดท้าย โดยไม่จำเป็นต้องมาลุ้นยิงก่อนหมดเวลาน.90 หรือช่วงทดเวลา
ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าทีมแชมป์มักชนะในเกมได้ก่อนหมดเวลา ไม่ต้องมาลุ้นยิงตอนท้าย...แต่ความรู้สึกของเรากลับมองว่า "ประตูช่วงท้ายเกม" มันมีส่วนตัดสินแชมป์ ซึ่งเรื่องนี้ชี้ชัดว่า...
ประตูท้ายเกมตั้งแต่นาทีที่ 90 + มีส่วนทำให้คว้าแชมป์แค่7-8 ซีซั่นเท่านั้นเอง
ลองดูตัวเลขที่พรีเมียร์ลีกสรุปคงมองเห็นภาพว่าทีมที่ยิงประตูนาทีที่ 85 เป็นต้นไปแล้วชนะในเกม มากที่สุดในลีกกลับยังไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก
ทีม............ ยิงประตู น.90+
ลิเวอร์พูล 35
อาร์เซนอล 25
แมนฯยูไนเต็ด 22
สเปอร์ส 22
เชลซี 21
เอฟเวอร์ตัน 20
3 ลุ้นแชมป์กันสูสี...มีผลแน่
จำนวนประตูช่วงวินาทีสุดท้าย...
ไม่สำคัญว่ามากหรือน้อย สำคัญกว่ายิงแล้วมีผลต่อการคว้าแชมป์เลยหรือไม่ แน่นอนเหลือเกินว่าถ้าดูจากทำเนียบการยิงประตูวินาทีทดเวลาของ "เรือใบสีฟ้า" นั้นคือไม่ติดอันดับเลย
เป็นของทอปโฟร์ชุดเดิมบวกกับทอฟฟี...�
ทว่า....กุน อเกรโร ยิงประตูนาทีที่ 94 ให่แมนฯซิตี้ ชนะควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 นั่นคือแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของเรือใบสีฟ้า และพวกเขาได้แชมป์จากการที่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่าแมนฯยูไนเต็ด
ในวันสุดท้ายของซีซั่น 2011-12
ประตูเดียวของ กุน คือประตูตัดสินทุกอย่าง ยิ่งกว่านั้นแฟนแมนฯซิตี้ ต่างพากันร้องเพลงเกทับ บลัฟแหลกแฟนผี ในเรื่อง "เฟอร์กี้ ไทม์"
"We won the league in Fergie Time"
ว่ากันว่าหลังจาก กุน ยิงประตูชัยช่วงทดเวลาวินาทีสุดท้ายก่อนจบเกม ส่งผลให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มีการทำวิจัยเรื่องนี้โดยสำนักข่าวบีบีซี เพื่อค้นหาตำนาน "เฟอร์กี้ ไทม์" และพบข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาว่า...
มันไม่ใช่ "เฟอร์กี้ ไทม์" กับแมนฯยูไนเต็ดเท่านั้น หากแต่ทีมยักษ์ใหญ่ทีมที่มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการคว้าแชมป์ ที่มักจะยิงประตูได้ช่วงก่อนหมดเวลา และมีผลต่อชัยชนะหรือกระทั่งแชมป์
เห็นด้วยครับ
การยิงประตูช่วงท้ายเกมแล้วชนะ เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของทีมที่พร้อมจะเป็นแชมป์ และนับว่าเป็นเรื่องที่ดี
แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดนะครับ
ปิดเกมตั้งแต่ก่อน น.85
แบบนั้น...

(ทางที่ดีให้ไปอ่านต้นฉบับเอาเองดีกว่า)
ที่มาhttps://www.siamsport.co.th/column/detail/72602
 
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่