(กำลังหัดรีวิวอยู่ค่ะ ผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ)

 เซี่ยงไฮ้ 4 วัน 3คืน หมื่นสองเงินเหลือ บ้าไปแล้ววว 

ก่อนอื่น ก็มาวางแผนกันก่อน แรกเริ่มจริงๆมีเพื่อนสนิทกันอยู่ 3 คน อยากจะไปทดสอบมิตรภาพ ว่าทำงานด้วยกันได้แล้ว ถ้าไปเที่ยวด้วยกันจะรอดมั๊ย 

(ก็ประมาณ ต่างพ่อต่างแม่เลี้ยงดูไม่เหมือนกัน มาอยู่กินนอนด้วยกัน จะตีกันมั๊ย) แต่จับผลัดจับผลู ได้พี่สาวร่วมทางอีกคน ครบ 4 คนหารเพิ่มขึ้นอีก 1 อิอิ

ด้วยความที่รู้ภาษาจีนนิดหน่อย (หน่อยจริงๆแค่พอสั่งน้ำ ถามราคาได้) แล้วก็เป็นคนอยากเที่ยวจีนมานานแล้ว (ติดซีรี่ย์จีนอยากเจอต้าเกอ)

เราก็อ่านรีวิวจากในพันทิปนี่แหละค่ะ 

ทริปนี้เน้นกิน และเดินตามที่ตลาด ไม่เน้นคาเฟ่ และถ่ายรูปไม่เก่ง อาจไม่มีภาพสวยๆให้ชมเท่าไหร่นะคะ

ก่อนจะเข้าทริปจะแจกแจงค่าใช้จ่ายคร่าวๆก่อนนะคะ (ไม่รวมค่าตั๋วนะคะ แล้วแต่ดวง แล้วแต่โปรที่หาได้กันเนอะ)

   สำหรับใครที่ยังไม่เคยมีแอคเคานท์ Air BNB สมัครผ่านลิ้งค์นี้ได้นะคะ จะได้มีส่วนลดด้วยกัน อิอิ https://abnb.me/e/FEuxoOxtS1

   ฝากลิ้งค์ เหมือนเดิมส่วนลด เหมือนเดิมอิอิ https://www.klook.com/th/invite/VUBYUN?c=THB

- แลกเงินติดตัวกันไปคนละประมาณ 1000 หยวน เป็นเงินไทยก็ เกือบ 5000 บาท วางกองกลางคนละ 200 หยวน

   ซึ่ง 200 หยวนนี้ อยู่กันได้ถึง 4 วัน เราไม่เน้นร้านดัง ร้านในห้าง เน้นสตรีทฟู้ด แต่ก็กินจนจุก กินจนต้องบอกเพื่อนว่า เออ เธอ เราลองฮึบหยุดกินกันซักแป๊บมั๊ย 5555555 เพื่อนเราเหลือเงินกลับไทยมาเกือบพันบาทด้วยซ้ำ

วีซ่าจีนทำได้ง่ายมากค่ะ เราอ่านและทำตามกระทู้ท่านนี้ https://ppantip.com/topic/37565400 ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

เป็นแอพที่คนจีนใช้กัน แม่นยำแน่นอน ตอนใช้จะมีออพชั่นนำทางแบบ เปิดกล้องให้เราเดินตามเส้นด้วยค่ะ (ไม่รู้เรียกว่าอะไร)

ใช้ตามหาพิกัดร้านรวง สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ สำหรับเรื่องกินเราไม่ได้เดินสุ่มไปเรื่อยๆ เพราะจีนช่างกว้างใหญ่ ไม่รู้เมื่อไหร่จะเจอร้านอาหาร แอพจีนก็ตามปกติเค้าค่ะ ในแอพจะมีคนรีวิวและให้คะแนน ร้านต่างๆ ก็มั่นใจเรื่องความอร่อยและราคาไปได้ เพราะมีบอกครบหมด แอพนี้สามารถค้นหาด้วยภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยด้วยนะคะ

                              มุมซ้ายบนจะมีให้เลือกเมืองที่ต้องการหาร้าน               บอกราคา และพิกัดของร้าน แค่จิ้มเข้าไปก็จะมีแผนที่นำทาง

ไว้ดูเส้นทางรถไฟใต้ดินค่ะ ถึงแอพจะบอกว่า Shanghai แต่จริงๆแล้ว เราสามารถโหลดแมพรถไฟใต้ดินเมืองอื่นๆในจีนได้อีก! เรื่องนี้ทำให้เรานับถือจีนขึ้นมาอีกเรื่อง เค้ามีรถไฟใต้ดินในหลายๆเมืองที่เราไม่คิดว่าจะมีด้วยสาเหตุของพื้นที่ แต่บ้านเค้ามี! รถไฟตรงเวลารอไม่นาน  ในแอพบอกเวลาตรงเป๊ะ  

บ้านเค้าสังคมเกือบไร้เงินสดแล้วค่ะ 90% ใช้โทรศัพท์จ่ายเงินทั้งนั้น รอบนี้ที่เราไป พี่สาวฝากซื้อตุ๊กตา PUCKY ซึ่งร้าน POP MART ที่เราไปซื้อ รับจ่ายผ่าน คิวอาร์โค้ดเท่านั้นพยายาม verify ยังไงก็ไม่ผ่าน มาผ่านเอาตอนกลับมาไทยแล้ว พอ verify ผ่านแล้ว ดันออก tourist ที่ไม่ต้อง verify อะไร แค่มีพาสปอร์ตก็พอ ตามหลังมาอีก ที่พยายามไปทั้งหมดนั้นนนนนน

เสริมนิดนึงว่า ALIPAY แบบ tourist จะสามารถแลกเงินได้สูงสุดแค่ 2000 หยวน และใช้ได้ 3 เดือน พอครบสามเดือนถ้าเงินเหลือ จะโอนคืนกลับบัญชีธนาคารที่เราใช้โอนเงินเข้าไป แบบนี้สะดวกดีค่ะ แต่สำหรับติ่งอย่างเรา ก็คงอยากเก็บเงินไว้จ่ายเงินซื้อเพลง ซื้อ VIP ซื้อของอะไรในบ้านเค้าอ่ะนะ ก็แล้วแต่คนนะฮะ!

มีตั๋วเครื่องบินแล้ว มีวีซ่าแล้ว มีเงินแล้ว มีแอพนำทางแล้ว ไปกันเลยค่าา

อันนี้แพลนที่คิดไว้ค่ะ

มาดูสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆกันดีกว่า 555

พอไปถึงสนามบิน ทำ immigration กันเรียบร้อย (เค้ามีเครื่องให้ลงทะเบียน มีภาษาไทยด้วย) ผ่านตม.ได้ (ถามเราด้วยว่ามาทำไม มากี่คน) ก็ออกมาเอาบัตรรถไฟที่ซื้อกับ Klook ไว้ เดินออกมาตรงสายพานกระเป๋าเลยค่ะ เคาท์เตอร์รับบัตรก็อยู่ตรงสายพานนั้นเลย 

ณ จุดๆนี้ มีความดีย์เกิดขึ้นค่ะ 

คือตัวเราเป็นคนขี้ลืม บ่นกับเพื่อนๆตั้งแต่บนเครื่องแล้วว่า "เธอ สายรัดกระเป๋าฃั้นมันรหัสอะไรวะ ชั้นว่าชั้นจำไม่ได้" จำไม่ได้จริงๆค่ะ เราเอากระเป๋าออกจากสายพานมานั่งนึกรหัสผ่านตรงนั้น เพราะกลัวว่าตอนผ่านจุดตรวจต่างๆ เค้าจะให้เปิดกระเป๋า ก็นั่งงมกันอยู่สี่คน งมไปกลัวเค้าหาว่าขโมยกระเป๋าไป สุดท้ายพี่ใหญ่ของทริปก็ไขรหัสลับดาวินชี่ให้จนได้ 5555555555

เสร็จจากตรงนี้เราก็เดินไปขึ้น Maglev กันค่ะ บัตรรถไฟที่ซื้อมา เป็นแพคเกจ Maglev ไปกลับ และขึ้นรถไฟใต้ดินไม่จำกัดรอบ 3 วัน  ตอนไปถึง สถานียังไม่เปิด น่าจะเปิดประมาณ 06.00 หรือเปล่าไม่แน่ใจ ก็รอกันแป๊บนึงค่ะ

เนื่องจากไฟลท์เรา เป็นไฟลท์กลางคืน ถึงเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง ตอนเช้า แพลนคือฝากกระเป๋าที่ห้องเพื่อนที่บังเอิญ มีทริปพร้อมกัน แต่ไม่ได้ไปด้วยกัน (Air bnb ไม่ให้เราฝากกระเป๋าค่ะ เช็คอิน 3โมงเย็น อาจเป็นเพราะยังมีคนก่อนหน้าอยู่)  เสร็จแล้วกะว่าจะไป ตลาดน้ำจูเจียเจี้ยว (Zhu Jia Jiao) 

แต่ด้วยความที่มันเป็นไฟลท์เช้า เพื่อนเราไม่มีใครไหว เลยพากันนอนตายอยู่ที่ห้องเพื่อนกลุ่มนี้ก่อน แล้วมีความรู้สึกว่าตลาดน้ำไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้นด้วย เลยเปลี่ยนแพลน

เนื่องจากห้องเพื่อนกลุ่มนี้อยู่ แถบ Xin Tian Di (ซินเทียนตี้) เค้าว่าเป็นย่านคนเดินอีกแถบหนึ่ง ซึ่งพวกเราคือกลุ่มก้อนคนหิว กินและนอน อยู่บนเครื่องก็กิน กินเสร็จแล้วก็นอน ลงจากเครื่องก็นอน พอนอนจนหายง่วง (ถึงประมาณตีห้า เดินทางไปห้องเพื่อนก็ประมาณเจ็ดโมง สลบไสลกันถึงเที่ยง) ก็เลยหิว (แหงล่ะ)

สำหรับ Air bnb แนะนำว่าให้แชทไปถามโฮสต์ก่อนว่ารับต่างชาติมั๊ย เพราะจีนมีกฏหมายว่า เจ้าของที่พักจะต้องนำพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวที่มาพักไปลงทะเบียนที่สถานีตำรวจ หรือ นักท่องเที่ยว ต้องขอทะเบียนบ้านที่พักไปลงทะเบียนที่สถานีตำรวจเอง ซึ่ง ยากเนอะ เออ ถามเค้าก่อนสักหน่อยดีกว่า ว่ารับมั๊ย ซึ่งที่พักของเราและเพื่อนรับ แล้วก็ไม่ได้ให้ลงทะเบียนอะไร (คิดว่าเจ้าของบ้านแอบปล่อยให้จองแน่นอน อิอิ)

ก็จะแนะนำสองที่นะคะ 

ที่แรกของเพื่อนเรา https://th.airbnb.com/rooms/37952502?s=67&shared_item_type=1&virality_entry_point=1&sharer_id=294448843

ห้องเพื่อนถือว่าดีเลยค่ะ ห้องเป็นแบบยาว มีเครื่องครัว เครื่องซักผ้า ความสวยงามก็ตามรูปภาพเลย ตรงปก สะดวกสบาย เดินทางง่าย หาของกินง่าย แต่ทางไปจะขรุขระนิดนึงสงสารล้อกระเป๋าเดินทาง 

ก็สลบกันไปซักพัก ตื่นมาก็หิว อากาศตอนนั้น 25 องศาได้ เพื่อนๆต่างชะล่าใจ เดชะบุญเราเคยอยู่ในอุณภูมิประมาณนี้แล้วหนาว เลยเอาโค้ทไป แคมเปญนี้ ชั้นรอด พวกเธอเดินปากสั่นกันไปนะจ๊ะ

ก็ด้วยว่าหิว ก็เลยพากันออกมาเดินหาของกินระหว่างทาง แต่ก็กล้าๆกล้วๆเพราะมันดูข้างทางจนเกินไป ก็ไปเจอร้านเกี๊ยวเข้าค่ะ 

ลองก้อปปี้ 吉祥馄饨(重庆店) ไปหาใน app Dian Ping ดูนะคะ

ร้านนี้มีเมนูภาษาอังกฤษ สั่งแล้วจ่ายเงินเลยนะคะ รอบแรกเราสั่งไปแค่ เกี๊ยว 1 ชาม แพนเค้กจีน กับขนมจีบที่มีข้าวอยู่ข้างในคิดว่าเออ ชามใหญ่กินแค่นี้ 4 คนน่าจะอิ่ม แต่หันไปมองโต๊ะข้างๆ เค้ากินคนเดียว 1 ชามอ่ะ ละชามเบ้อเร้อ คุยกัน 4 คน กินหมดได้ไงวะ

พอของมา อากาศมันหนาวอ่ะเนอ พาได้กินซุปร้อนๆ ก็อื้มหืม เลยสั่งขนมจีบ เกี๊ยวซุปแบบเผ็ด กับเกี๊ยวซุปมะเขือเทศเพิ่ม ซุปมะเขือเทศเห็นหน้าตาแบบนั้น จินตนาการไปว่ารสชาติต้องแปลกๆ แต่ไม่นะ คือรสชาติก็คือซอสมะเขือเทศแหละ แต่กลมกล่อมมากกก