ตามหัวข้อเลยค่ะ อยากทราบว่าแต่ละคนมีมุมมองกับหัวข้อกระทู้อย่างไรกันบ้างคะ
คือ แฟนเป็นคนดี ขยันทำงาน ทั้งงานหลัก และฟรีแล้นซ์ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ซึ่งเป็นไปตามอุดมคติเราเลยค่ะ
แต่ก็ตามหลักลูกคนเล็ก จะงอแงหน่อยๆ ค่อนข้างมีนิสัยหยุมหยิมแบบผู้หญิง โดยมากเราจะเป็นคนดูแล ขับรถให้ บลาๆ แซวกันบ่อยๆว่าคู่เราสลับเพศกัน เราเป็นชาย เค้าเป็นหญิง (เราเป็นลูกคนโต อายุน้อยกว่าแฟน 4 ปี)
ที่ผ่านมา มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่เคยรุนแรง เรามักเลือกที่จะเงียบ ไม่โต้ตอบ หรือเดินหนีออกมาแทน เพราะเค้าจะนิสัยเป็นแบบผู้หญิง เวลาทะเลาะกันแล้วไม่จบง่ายๆ จะคอยหยิบมาพูดอยู่เรื่อยเมื่อเรื่องจบ เราเลยเลือกที่จะเงียบ และไม่ค่อยโต้ตอบ ไม่บอกความต้องการ เพราะกลัวจะมีปัญหา และกลัวคุมตัวเองไม่อยู่ กลัวทะเลาะกันแล้วพูดจารุนแรงใส่กัน ไม่อยากเลิกลา เพราะมองอนาคตร่วมกันไว้แล้วด้วย แต่ยังไม่มีแพลนแต่งนะคะ เคยคุยกันแล้วทะเลาะ เลยเลือกที่จะไม่พูดถึงอีก จนตอนนี้เฉยๆไปแล้ว
ส่วนตัวเราเอง ด้วยความที่เป็นลูกคนโต ทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด มันเหมือนเป็นปมในใจที่อยากมีใครดูแล ให้ความรู้สึกเป็นพี่ เป็นที่ปรึกษา มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า อะไรประมาณนี้ ซึ่งเราไม่ค่อยได้รับเท่าไร
และช่วง 3-4 เดือนมานี้ เราพบจิตแพทย์ ร่วมกับทานยาซึมเศร้า +วิตกกังวล หลังๆเลยไม่ค่อยหวานกันเท่าไร เอาจะเป็น effect ของยาด้วย และเวลาที่มีให้กันน้อยลง เสาร์อาทิตย์ต่างคนต้องกลับบ้าน เวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยหวานกันเท่าไร มันเลยเหมือนห่างๆ แต่ไม่มีใครนอกใจใครนะคะ
ช่วงสัปดาห์ก่อน เค้าเอ่ยขึ้นมาว่า.ช่วงนี้ไม่เหมือนเดิมเลย ไม่ค่อยหวาน ไม่ค่อยมีเวลาแบบคนรักกัน ซึ่งก็ยังไม่ได้เคลียร์กัน (พอดีเค้าไลน์มาตอนเรางานยุ่ง) และแน่นอน คำถามต่างๆที่เค้าถามมา และคำถามในใจเรา มันอยู่ในหัวตลอด ว่าจริงๆแล้วยังรักกัน หรืออยากไปต่ออยู่มั้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งเริ่มรู้สึกเหมือนรักที่มีมันน้อยลง มันเหมือนไม่ใช่ความรักที่เต็มอิ่มแบบเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้อยากเลิกลากันไป อยากเคลียร์ใจตัวเอง แต่ก็ไม่รู้จะสะสางยังไง อยากปรับแก้ ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
เล่ามายาว ถามเป็นข้อดังนี้แล้วกันนะคะ ถ้าเล่าไม่รู้เรื่อง ต้องขออภัยด้วยค่ะ เรื่องราวมันเยอะ ไม่รู้จะเล่ายังไง
1. รักที่รู้สึกเติมไม่เต็ม สำหรับเพื่อนๆ มันยังเป็นรักที่ดีอยู่มั้ย
2. หากอยากไปต่อ ควรซ่อมความรู้สึกอย่างไรดี
คือที่สุดแล้ว มันก็เป็นเรื่องของเราเนอะ 555 แต่อยากได้ความเห็นจากหลายๆท่านค่ะ ว่าคิดยังไงกันบ้าง
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
มีคนรักที่ดี แต่รู้สึกไม่เติมเต็มในความสัมพันธ์ ยังเป็นความรักที่ดีอยู่มั้ยคะ
คือ แฟนเป็นคนดี ขยันทำงาน ทั้งงานหลัก และฟรีแล้นซ์ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ซึ่งเป็นไปตามอุดมคติเราเลยค่ะ
แต่ก็ตามหลักลูกคนเล็ก จะงอแงหน่อยๆ ค่อนข้างมีนิสัยหยุมหยิมแบบผู้หญิง โดยมากเราจะเป็นคนดูแล ขับรถให้ บลาๆ แซวกันบ่อยๆว่าคู่เราสลับเพศกัน เราเป็นชาย เค้าเป็นหญิง (เราเป็นลูกคนโต อายุน้อยกว่าแฟน 4 ปี)
ที่ผ่านมา มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่เคยรุนแรง เรามักเลือกที่จะเงียบ ไม่โต้ตอบ หรือเดินหนีออกมาแทน เพราะเค้าจะนิสัยเป็นแบบผู้หญิง เวลาทะเลาะกันแล้วไม่จบง่ายๆ จะคอยหยิบมาพูดอยู่เรื่อยเมื่อเรื่องจบ เราเลยเลือกที่จะเงียบ และไม่ค่อยโต้ตอบ ไม่บอกความต้องการ เพราะกลัวจะมีปัญหา และกลัวคุมตัวเองไม่อยู่ กลัวทะเลาะกันแล้วพูดจารุนแรงใส่กัน ไม่อยากเลิกลา เพราะมองอนาคตร่วมกันไว้แล้วด้วย แต่ยังไม่มีแพลนแต่งนะคะ เคยคุยกันแล้วทะเลาะ เลยเลือกที่จะไม่พูดถึงอีก จนตอนนี้เฉยๆไปแล้ว
ส่วนตัวเราเอง ด้วยความที่เป็นลูกคนโต ทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด มันเหมือนเป็นปมในใจที่อยากมีใครดูแล ให้ความรู้สึกเป็นพี่ เป็นที่ปรึกษา มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า อะไรประมาณนี้ ซึ่งเราไม่ค่อยได้รับเท่าไร
และช่วง 3-4 เดือนมานี้ เราพบจิตแพทย์ ร่วมกับทานยาซึมเศร้า +วิตกกังวล หลังๆเลยไม่ค่อยหวานกันเท่าไร เอาจะเป็น effect ของยาด้วย และเวลาที่มีให้กันน้อยลง เสาร์อาทิตย์ต่างคนต้องกลับบ้าน เวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยหวานกันเท่าไร มันเลยเหมือนห่างๆ แต่ไม่มีใครนอกใจใครนะคะ
ช่วงสัปดาห์ก่อน เค้าเอ่ยขึ้นมาว่า.ช่วงนี้ไม่เหมือนเดิมเลย ไม่ค่อยหวาน ไม่ค่อยมีเวลาแบบคนรักกัน ซึ่งก็ยังไม่ได้เคลียร์กัน (พอดีเค้าไลน์มาตอนเรางานยุ่ง) และแน่นอน คำถามต่างๆที่เค้าถามมา และคำถามในใจเรา มันอยู่ในหัวตลอด ว่าจริงๆแล้วยังรักกัน หรืออยากไปต่ออยู่มั้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งเริ่มรู้สึกเหมือนรักที่มีมันน้อยลง มันเหมือนไม่ใช่ความรักที่เต็มอิ่มแบบเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้อยากเลิกลากันไป อยากเคลียร์ใจตัวเอง แต่ก็ไม่รู้จะสะสางยังไง อยากปรับแก้ ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
เล่ามายาว ถามเป็นข้อดังนี้แล้วกันนะคะ ถ้าเล่าไม่รู้เรื่อง ต้องขออภัยด้วยค่ะ เรื่องราวมันเยอะ ไม่รู้จะเล่ายังไง
1. รักที่รู้สึกเติมไม่เต็ม สำหรับเพื่อนๆ มันยังเป็นรักที่ดีอยู่มั้ย
2. หากอยากไปต่อ ควรซ่อมความรู้สึกอย่างไรดี
คือที่สุดแล้ว มันก็เป็นเรื่องของเราเนอะ 555 แต่อยากได้ความเห็นจากหลายๆท่านค่ะ ว่าคิดยังไงกันบ้าง
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ