เผยภาพ+ข้อความสุดท้ายพอชเขียนทิ้งไว้ให้แข้งไก่ อ่านแล้วน้ำตาซึม
เฆซุส เปเรซ ผู้ช่วยของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โพสต์ภาพสุดซึ้งขณะที่ "พอช" ซึ่งสวมชุดวอร์ม "ไก่เดือยทอง" เขียนข้อความอำลาลูกทีมของเขาบนบอร์ดวางแผนการเล่นในห้องแต่งตัว หลังโดนปลดฟ้าผ่าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ คงทำให้บรรดานักเตะ "ไก่เดือยทอง" คิดถึงแทบขาดใจ เมื่อเจ้าตัวได้เขียนข้อความกล่าวอำลาลูกทีมเอาไว้บนแผ่นกระดานที่ใช้วางแผนแท็คติกการเล่นภายในห้องแต่งตัวของสโมสร หลังจากโดนไล่ออกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
"พอช" ไม่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยในซีซั่นนี้เขานำทีมชนะเพียงแค่ 3 เกมจาก 12 เกมพรีเมียร์ลีก ทำให้ทีมหล่นไปอยู่อันดับ 14 ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลที่บอร์ดบริหารตัดสินใจยื่นซองขาวให้เจ้าตัว และแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียนแทน
หลังจากนั้น โปเช็ตติโน่ ซึ่งนำ สเปอร์ส ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่น 2018/19 ไม่ได้ออกสื่ออีกเลย จนกระทั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเจ้าตัวได้ตัดสินใจออกมาแสดงความรู้สึกหลังไม่ได้ทำงานร่วมกับบรรดาแข้ง "ไก่เดือยทอง" อีกต่อไป
เฆซุส เปเรซ ผู้ช่วยของโปเช็ตติโน่ ได้โพสต์ภาพผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ขณะที่ "พอช" กำลังเขียนข้อความสุดซึ้งบนบอร์ดวางแท็คติกให้กับลูกทีมของเขาหลังจากไม่มีโอกาสได้กล่าวคำอำลากันเป็นการส่วนตัว
"ขอบคุณมากทุกคน เราไม่สามารถแม้แต่กล่าวคำอาลา พวกนายจะอยู่ในใจเราตลอดไป" ข้อความที่ โปเช็ตติโน่ เขียน
credit : www.siamsport.co.th
เอาจริง!บาเยิร์นเล็งตั้งโปเช็ตติโน่คุมทัพ
บาเยิร์น มิวนิค ยอดสโมสรลูกหนังแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน กำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะแต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีม ตามรายงานจาก สกาย สปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำเมืองผู้ดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา
เวลานี้ยังไม่มีการติดต่ออย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่เข้าใจกันว่า บาเยิร์น ได้เล็ง โปเช็ตติโน่ เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ในการหากุนซือคนใหม่ โดยตอนนี้พวกเขาให้ ฮันซี่ ฟลิค คุมทีมแบบขัดตาทัพไปก่อนอย่างน้อยถึงช่วงคริสต์มาส หลังจากที่ปลด นิโก้ โควัช พ้นเก้าอี้กุนซือเมื่อช่วงต้นเดือน
นอกจากนี้ โปเช็ตติโน่ ยังมีข่าวกำลังได้รับความสนใจจาก บาร์เซโลน่า เช่นกัน ขณะที่ เรอัล มาดริด ก็ได้มอง กุนซือฝีมือดีชาวอาร์เจนไตน์วัย 47 ปี เป็นทางเลือกในการให้มาคุมทีมในฤดูกาลหน้า
ทั้งนี้ โปเช็ตติโน่ ถูก "ไก่เดือยทอง" ปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เมื่อวันอังคารที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่อยู่ทำทีมมานานถึง 5 ปี
credit : www.siamsport.co.th
มูรินโญ่เปิดใจก่อนพาสเปอร์สบุกรังเวสต์แฮม
โชเซ่ มูรินโญ่ เปิดใจก่อนนำ สเปอร์ส บุกรัง เวสต์แฮม ในเกมคุมทัพ "ไก่เดือยทอง" นัดแรก พร้อมยกย่อง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ทำผลงานไว้เยี่ยม บอกสโมสรพร้อมต้อนรับเสมอ
โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แถลงข่าวครั้งแรกในฐานะกุนซือ "ไก่เดือยทอง" ก่อนเกมบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในศึก พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายนนี้
เริ่มต้นการแถลงข่าวกุนซือชาวโปรตุกีส ได้ยกย่อง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ สเปอร์ส คนก่อนหน้าเขาว่า "ผมรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ผมต้องขอพูดเกี่ยวกับ เมาริซิโอ ผมต้องขอแสดงความยินดีกับผลงานที่เขาทำไว้ที่นี่ สโมสรแห่งนี้จะเป็นบ้านของเขาเสมอ สนามฝึกซ้อมแห่งนี้จะเป็นสนามฝึกซ้อมของเขาเสมอ ประตูสโมสรจะเปิดต้อนรับเขาเสมอ"
"เขาสามารถมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ หากเขาคิดถึงนักเตะ หรือคนที่เคยร่วมงานด้วย ประตูพร้อมเปิดรับเขา เขาจะพบความสุขอีกครั้ง เขาจะพบสโมสรที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง เขาจะมีอนาคตที่เยี่ยมยอด" มูรินโญ่ กล่าว
พร้อมกันนี้ มูรินโญ่ ยังตอบคำถามเรื่องจะดึงนักเตะเข้ามาเสริมทัพในเดือนมกราคมนี้หรือไม่ว่า "ของขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือนักเตะที่อยู่ที่นี่ ผมไม่ได้ต้องการนักเตะใหม่ ผมแค่ต้องทำความรู้จักพวกเขาให้ดีขึ้น ผมรู้จักพวกเขาดี แต่คุณไม่มีทางรู้จักพวกเขาดีพอจนกว่าจะได้พบกับพวกเขา ผมไม่ได้ต้องการนักเตะใหม่ ผมแค่ต้องการเวลาเท่านั้น"
credit : www.siamsport.co.th
สเปอร์สมีลุ้นไหม ? เปิดสถิติสุดเจ๋ง มูรินโญ่ นำทีมคว้าแชมป์เมื่อคุมทีมเต็มซีซั่นแรก
การที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตัดสินใจปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ออกจากตำแหน่งพร้อมกับแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีมในเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสโมสรต้องการที่จะประสบความสำเร็จ หลังจากที่พวกเขาร้างแชมป์มานานหลายสิบปี และการได้ "เฮียมู" เข้ามากุมบังเหียน โอกาสที่ทีมจะได้แชมป์มีค่อนข้างสูง
ย้อนกลับไปที่ผลงานของ "พอช" แน่นอนว่าเขาได้สร้างชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีซให้กับ "ไก่เเดือยทอง" ทั้งการคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัยจาก 5 ปีที่นั่งกุมบังเหียน รวมไปถึงการนำทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วยใบโตยุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้เสริมทัพด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม 5 เดือนหลังแพ้ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" คุณงามความดีที่สร้างมามันไม่สามารถทดแทนผลงานน่าผิดหวังในช่วงต้นฤดูกาลนี้ เพราะพวกเขาเก็บชัยชนะเพียงแค่ 3 จาก 12 เกมในพรีเมียร์ลีก รั้งอยู่อันดับ 14 มีเพียง 14 คะแนน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ชอบธรรมสำหรับบอร์ดบริหาร และ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรที่จะยื่นซองขาวให้กุนซือวัย 47 ปี
จากนั้นเพียงไม่ถึงวัน สเปอร์ส ได้แต่งตั้ง มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียนทันที พร้อมกับสัญญา 3 ปีครึ่ง แน่นอนว่าการได้ "เฮียมู" มาทำงานไม่เพียงแค่ต้องการกอบกู้สถานการณ์ของสโมสรเพื่อกลับมาอยู่ในจุดที่มีลุ้นอันดับท็อปโฟร์เท่านั้น แต่พวกเขายังอาจจะลุ้นเรื่องความสำเร็จด้วยเช่นกัน
โทรฟี่แชมป์ 25 สมัยที่ มูรินโญ่ สะสมนับตั้งแต่ทำงานในฐานะเทรนเนอร์ หรือผู้จัดการทีม ถือเป็นใบเบิกทางสำคัญที่ สเปอร์ส อยากให้เขามาสานต่องานของ โปเช็ตติโน่ ยิ่งไปกว่านั้นสถิติของ กุนซือชาวโปรตุกีส แสดงให้เห็นว่าเขาไปทำงานให้กับทีมไหน สามารถการันตีได้เลยว่าต้องมีถ้วยเงามันวาบวับประดับตู้โชว์สโมสร
ตู้โชว์ของ สเปอร์ส เต็มไปด้วยหยากไย่ เพราะมันร้างแชมป์มานานนับตั้งแต่ที่พวกเขาทำได้ก็คือการสอยโทรฟี่ ลีก คัพ หรือในชื่อปัจจุบัน คาราบาว คัพ เมื่อปี 2008 โดยในปีนั้น มูรินโญ่ เพิ่งบวกความสำเร็จในการนำทีมคว้าแชมป์เป็นรายการที่ 13 (คุม อินเตอร์ มิลาน)
กระนั้นอาจจะมีหลายคนตั้งคำถามว่า "เดอะ สเปเชียล วัน" จะสามารถนำความสำเร็จสู่ถิ่นท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ในซีซั่นนี้ได้ไหม เพราะเขาเข้ามาทำงานในช่วงเกือบกลางซีซั่น ฉะนั้นหากจะมองถึงความสำเร็จแฟน "น้องไก่" ควรจะตั้งเป้าไปที่ผลงานในฤดูกาลหน้า น่าจะมีความเป็นได้ไปมากกว่า
อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่ ถือเป็นกุนซือที่มีเรื่องแปลกมากๆ เกี่ยวกับความสำเร็จ เพราะเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่กุมบังเหียนเต็มฤดูกาลในซีซั่นแรก ก็สามารถเสกแชมป์ให้กับสโมสรใหม่ที่ร่วมงานได้ทันที !!!
มูรินโญ่ สร้างชื่ออย่างยิ่งใหญ่เมื่อรับงานคุมทีมสโมสรที่สามนั่นก็คือ เอฟซี ปอร์โต้ โดยได้รับการแต่งตั้งในเดือนมกราคม 2002 (2001/02 จบอันดับ 5 ในลีกโปรตุเกส) และเมื่อได้ทำงานแบบเต็มซีซั่นในฤดูกาล 2002/03 เจ้าตัวก็จัดการเสกทริปเบิ้ลแชมป์ให้สโมสรทันที (พรีเมียร่า ลีกา, โปรตุเกส คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก) ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะผ่านไป 12 เดือน ปอร์โต้ ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ออกไปทำมาหากินในอังกฤษ ร่วมกับ เชลซี เริ่มต้นในฤดูกาล 2004/05 ก็จัดการนำทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลีก คัพ ในปีแรกที่กุมบังเหียน เมื่อเสร็จภารกิจในการทำงานที่เมืองผู้ดี เจ้าตัวก็ไปร่วมงานกับ อินเตอร์ มิลาน พร้อมกับนำความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2008–09 จากการคุมทัพซีซั่นแรกเช่นกัน (ฤดูกาลต่อมานำ "งูใหญ่" คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ 2009/10)
เมื่อภารกิจในเมืองมะกะโรนีเสร็จสิ้น กุนซือเลือดฝอยทอง ก็เก็บเสื้อผ้าไปทำงานในสเปน กับ เรอัล มาดริด และก็นำทีมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ซีซั่น 2010–11 ซึ่งเป็นฤดูกาลเปิดตัวของเขา ก่อนจะนำ "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์ ลา ลีกา ในฤดูกาลถัดมา
ช่วงซัมเมอร์ 2013 มูรินโญ่ ย้ายกลับมาทำงานให้ เชลซี เป็นสมัยที่สอง โดยซีซั่นแรกไม่สามารถนำทีมคว้าแชมป์ได้เพราะดันแพ้ในเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (เชลซี เป็นแชมป์ ยูโรปา ลีก ตอนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ คุม) จากนั้นก็ตกรอบห้า เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ พร้อมจบฤดูกาลในอันดับ 3 และตกรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ฤดูกาล 2014–15 ก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม 9 เดือนหลังจากนั้น มูรินโญ่ ก็โดนปลดกลางอากาศ แต่ก็ว่างงานไม่นานเพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ส่งเทียบเชิญให้เข้ามาคุมทัพ "ผีแดง" ด้วยสัญญา 3 ปี ในฤดูกาล 2016/17 และก็สามารถนำทีมคว้าแชมป์ได้ทันที นั่นก็คือ ยูโรปา ลีก และ ลีก คัพ จากนั้นในซีซั่นถัดมานำทีมจบอันดับรองแชมป์ลีก พร้อมกับแพ้ เชลซี ในนัดชิง เอฟเอ คัพ ก่อนจะโดนไล่ออกช่วงกลางฤดูกาล 2018/19
ฉะนั้นการที่ มูรินโญ่ เข้ามาคุม สเปอร์ส ในช่วงเกือบกลางซีซั่น น่าจะเพื่อทำให้บรรดานักเตะ "ไก่เดือยทอง" ได้คุ้นชินกับแท็คติก และเล่นตามรูปแบบที่เจ้าตัวต้องการ ก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจสำคัญอย่างจริงจังในฤดูกาลต่อไป ส่วนจะบรรลุเป้าหมายถึงแชมป์หรือไม่ เดี๋ยวมาค่อยดูกัน !!
สถิติคว้าแชมป์ โชเซ่ มูรินโญ่ หลังจากคุมทีมเต็มฤดูกาลให้กับสโมสรใหม่
เอฟซี ปอร์โต้ (ฤดูกาล 2002/03)
พรีเมียร่า ลีกา
โปรตุเกส คัพ
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
เชลซี (ฤดูกาล 2004/05)
พรีเมียร์ลีก
ลีก คัพ
อินเตอร์ มิลาน (ฤดูกาล 2008/09)
กัลโช่ เซเรีย อา
เรอัล มาดริด (ฤดูกาล 2010/11)
โกปา เดล เรย์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ฤดูกาล 2016/17)
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
ลีก คัพ
credit : www.siamsport.co.th
อดีตปธ.มาดริดชี้เหตุผลเดียวมูรินโญ่คุมสเปอร์ส
ราม่อน กัลเดร่อน อดีตประธานสโมสร เรอัล มาดริด เชื่อว่า เหตุผลเดียวที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ตอบรับงานผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพราะเบื่อกับการรอให้ ซีเนดีน ซีดาน อำลาตำแหน่งกุนซือ "ราชันชุดขาว" แม้อยากกลับไปทำงานที่ถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว อีกรอบก็ตาม
กัลเดร่อน เผยผ่าน ทอล์คสปอร์ต สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า "ท็อตแน่ม เป็นแค่แผนสำรองสำหรับ มูรินโญ่ เพราะเขาอยากกลับไปคุม เรอัล มาดริด มากกว่า ผมคิดว่า เขารับงานนี้เนื่องจาก เขาเบื่อแล้วที่จะรอให้ ซีดาน โดนไล่ออก หรือก้าวลงจากตำแหน่ง"
"ดังนั้นเขาจึงรับมันไว้ในโอกาสที่ดีมากๆ พวกเขาเป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ย่ำแย่ของตาราง พรีเมียร์ลีก พวกเขามีสนามที่ยอดเยี่ยม, ประธานสุดยอด และมีทีมที่ดี ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาทุกคน" อดีตประธาน "ราชันชุดขาว" กล่าว
พร้อมกันนี้ กัลเดร่อน ยังพูดถึงโอกาสที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตกุนซือ สเปอร์ส จะกลับมาทำงานที่สเปนอีกครั้งว่า "เป็นไปได้ เขาเป็นโค้ชที่ดีมากๆ และได้รับการยกย่องอย่างมากที่สเปน"
credit : www.siamsport.co.th
เผยภาพ+ข้อความสุดท้ายพอชเขียนทิ้งไว้ให้แข้งไก่ อ่านแล้วน้ำตาซึม & มูรินโญ่เปิดใจก่อนพาสเปอร์สบุกรังเวสต์แฮม
เฆซุส เปเรซ ผู้ช่วยของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โพสต์ภาพสุดซึ้งขณะที่ "พอช" ซึ่งสวมชุดวอร์ม "ไก่เดือยทอง" เขียนข้อความอำลาลูกทีมของเขาบนบอร์ดวางแผนการเล่นในห้องแต่งตัว หลังโดนปลดฟ้าผ่าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ คงทำให้บรรดานักเตะ "ไก่เดือยทอง" คิดถึงแทบขาดใจ เมื่อเจ้าตัวได้เขียนข้อความกล่าวอำลาลูกทีมเอาไว้บนแผ่นกระดานที่ใช้วางแผนแท็คติกการเล่นภายในห้องแต่งตัวของสโมสร หลังจากโดนไล่ออกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
"พอช" ไม่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยในซีซั่นนี้เขานำทีมชนะเพียงแค่ 3 เกมจาก 12 เกมพรีเมียร์ลีก ทำให้ทีมหล่นไปอยู่อันดับ 14 ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลที่บอร์ดบริหารตัดสินใจยื่นซองขาวให้เจ้าตัว และแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียนแทน
หลังจากนั้น โปเช็ตติโน่ ซึ่งนำ สเปอร์ส ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่น 2018/19 ไม่ได้ออกสื่ออีกเลย จนกระทั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเจ้าตัวได้ตัดสินใจออกมาแสดงความรู้สึกหลังไม่ได้ทำงานร่วมกับบรรดาแข้ง "ไก่เดือยทอง" อีกต่อไป
เฆซุส เปเรซ ผู้ช่วยของโปเช็ตติโน่ ได้โพสต์ภาพผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ขณะที่ "พอช" กำลังเขียนข้อความสุดซึ้งบนบอร์ดวางแท็คติกให้กับลูกทีมของเขาหลังจากไม่มีโอกาสได้กล่าวคำอำลากันเป็นการส่วนตัว
"ขอบคุณมากทุกคน เราไม่สามารถแม้แต่กล่าวคำอาลา พวกนายจะอยู่ในใจเราตลอดไป" ข้อความที่ โปเช็ตติโน่ เขียน
credit : www.siamsport.co.th
เอาจริง!บาเยิร์นเล็งตั้งโปเช็ตติโน่คุมทัพ
บาเยิร์น มิวนิค ยอดสโมสรลูกหนังแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน กำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะแต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีม ตามรายงานจาก สกาย สปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำเมืองผู้ดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา
เวลานี้ยังไม่มีการติดต่ออย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่เข้าใจกันว่า บาเยิร์น ได้เล็ง โปเช็ตติโน่ เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ในการหากุนซือคนใหม่ โดยตอนนี้พวกเขาให้ ฮันซี่ ฟลิค คุมทีมแบบขัดตาทัพไปก่อนอย่างน้อยถึงช่วงคริสต์มาส หลังจากที่ปลด นิโก้ โควัช พ้นเก้าอี้กุนซือเมื่อช่วงต้นเดือน
นอกจากนี้ โปเช็ตติโน่ ยังมีข่าวกำลังได้รับความสนใจจาก บาร์เซโลน่า เช่นกัน ขณะที่ เรอัล มาดริด ก็ได้มอง กุนซือฝีมือดีชาวอาร์เจนไตน์วัย 47 ปี เป็นทางเลือกในการให้มาคุมทีมในฤดูกาลหน้า
ทั้งนี้ โปเช็ตติโน่ ถูก "ไก่เดือยทอง" ปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เมื่อวันอังคารที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่อยู่ทำทีมมานานถึง 5 ปี
credit : www.siamsport.co.th
มูรินโญ่เปิดใจก่อนพาสเปอร์สบุกรังเวสต์แฮม
โชเซ่ มูรินโญ่ เปิดใจก่อนนำ สเปอร์ส บุกรัง เวสต์แฮม ในเกมคุมทัพ "ไก่เดือยทอง" นัดแรก พร้อมยกย่อง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ทำผลงานไว้เยี่ยม บอกสโมสรพร้อมต้อนรับเสมอ
โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แถลงข่าวครั้งแรกในฐานะกุนซือ "ไก่เดือยทอง" ก่อนเกมบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในศึก พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายนนี้
เริ่มต้นการแถลงข่าวกุนซือชาวโปรตุกีส ได้ยกย่อง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ สเปอร์ส คนก่อนหน้าเขาว่า "ผมรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ผมต้องขอพูดเกี่ยวกับ เมาริซิโอ ผมต้องขอแสดงความยินดีกับผลงานที่เขาทำไว้ที่นี่ สโมสรแห่งนี้จะเป็นบ้านของเขาเสมอ สนามฝึกซ้อมแห่งนี้จะเป็นสนามฝึกซ้อมของเขาเสมอ ประตูสโมสรจะเปิดต้อนรับเขาเสมอ"
"เขาสามารถมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ หากเขาคิดถึงนักเตะ หรือคนที่เคยร่วมงานด้วย ประตูพร้อมเปิดรับเขา เขาจะพบความสุขอีกครั้ง เขาจะพบสโมสรที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง เขาจะมีอนาคตที่เยี่ยมยอด" มูรินโญ่ กล่าว
พร้อมกันนี้ มูรินโญ่ ยังตอบคำถามเรื่องจะดึงนักเตะเข้ามาเสริมทัพในเดือนมกราคมนี้หรือไม่ว่า "ของขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือนักเตะที่อยู่ที่นี่ ผมไม่ได้ต้องการนักเตะใหม่ ผมแค่ต้องทำความรู้จักพวกเขาให้ดีขึ้น ผมรู้จักพวกเขาดี แต่คุณไม่มีทางรู้จักพวกเขาดีพอจนกว่าจะได้พบกับพวกเขา ผมไม่ได้ต้องการนักเตะใหม่ ผมแค่ต้องการเวลาเท่านั้น"
credit : www.siamsport.co.th
สเปอร์สมีลุ้นไหม ? เปิดสถิติสุดเจ๋ง มูรินโญ่ นำทีมคว้าแชมป์เมื่อคุมทีมเต็มซีซั่นแรก
การที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตัดสินใจปลด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ออกจากตำแหน่งพร้อมกับแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีมในเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสโมสรต้องการที่จะประสบความสำเร็จ หลังจากที่พวกเขาร้างแชมป์มานานหลายสิบปี และการได้ "เฮียมู" เข้ามากุมบังเหียน โอกาสที่ทีมจะได้แชมป์มีค่อนข้างสูง
ย้อนกลับไปที่ผลงานของ "พอช" แน่นอนว่าเขาได้สร้างชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีซให้กับ "ไก่เเดือยทอง" ทั้งการคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัยจาก 5 ปีที่นั่งกุมบังเหียน รวมไปถึงการนำทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วยใบโตยุโรปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้เสริมทัพด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม 5 เดือนหลังแพ้ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" คุณงามความดีที่สร้างมามันไม่สามารถทดแทนผลงานน่าผิดหวังในช่วงต้นฤดูกาลนี้ เพราะพวกเขาเก็บชัยชนะเพียงแค่ 3 จาก 12 เกมในพรีเมียร์ลีก รั้งอยู่อันดับ 14 มีเพียง 14 คะแนน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ชอบธรรมสำหรับบอร์ดบริหาร และ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรที่จะยื่นซองขาวให้กุนซือวัย 47 ปี
จากนั้นเพียงไม่ถึงวัน สเปอร์ส ได้แต่งตั้ง มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียนทันที พร้อมกับสัญญา 3 ปีครึ่ง แน่นอนว่าการได้ "เฮียมู" มาทำงานไม่เพียงแค่ต้องการกอบกู้สถานการณ์ของสโมสรเพื่อกลับมาอยู่ในจุดที่มีลุ้นอันดับท็อปโฟร์เท่านั้น แต่พวกเขายังอาจจะลุ้นเรื่องความสำเร็จด้วยเช่นกัน
โทรฟี่แชมป์ 25 สมัยที่ มูรินโญ่ สะสมนับตั้งแต่ทำงานในฐานะเทรนเนอร์ หรือผู้จัดการทีม ถือเป็นใบเบิกทางสำคัญที่ สเปอร์ส อยากให้เขามาสานต่องานของ โปเช็ตติโน่ ยิ่งไปกว่านั้นสถิติของ กุนซือชาวโปรตุกีส แสดงให้เห็นว่าเขาไปทำงานให้กับทีมไหน สามารถการันตีได้เลยว่าต้องมีถ้วยเงามันวาบวับประดับตู้โชว์สโมสร
ตู้โชว์ของ สเปอร์ส เต็มไปด้วยหยากไย่ เพราะมันร้างแชมป์มานานนับตั้งแต่ที่พวกเขาทำได้ก็คือการสอยโทรฟี่ ลีก คัพ หรือในชื่อปัจจุบัน คาราบาว คัพ เมื่อปี 2008 โดยในปีนั้น มูรินโญ่ เพิ่งบวกความสำเร็จในการนำทีมคว้าแชมป์เป็นรายการที่ 13 (คุม อินเตอร์ มิลาน)
กระนั้นอาจจะมีหลายคนตั้งคำถามว่า "เดอะ สเปเชียล วัน" จะสามารถนำความสำเร็จสู่ถิ่นท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ในซีซั่นนี้ได้ไหม เพราะเขาเข้ามาทำงานในช่วงเกือบกลางซีซั่น ฉะนั้นหากจะมองถึงความสำเร็จแฟน "น้องไก่" ควรจะตั้งเป้าไปที่ผลงานในฤดูกาลหน้า น่าจะมีความเป็นได้ไปมากกว่า
อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่ ถือเป็นกุนซือที่มีเรื่องแปลกมากๆ เกี่ยวกับความสำเร็จ เพราะเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่กุมบังเหียนเต็มฤดูกาลในซีซั่นแรก ก็สามารถเสกแชมป์ให้กับสโมสรใหม่ที่ร่วมงานได้ทันที !!!
มูรินโญ่ สร้างชื่ออย่างยิ่งใหญ่เมื่อรับงานคุมทีมสโมสรที่สามนั่นก็คือ เอฟซี ปอร์โต้ โดยได้รับการแต่งตั้งในเดือนมกราคม 2002 (2001/02 จบอันดับ 5 ในลีกโปรตุเกส) และเมื่อได้ทำงานแบบเต็มซีซั่นในฤดูกาล 2002/03 เจ้าตัวก็จัดการเสกทริปเบิ้ลแชมป์ให้สโมสรทันที (พรีเมียร่า ลีกา, โปรตุเกส คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก) ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะผ่านไป 12 เดือน ปอร์โต้ ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ออกไปทำมาหากินในอังกฤษ ร่วมกับ เชลซี เริ่มต้นในฤดูกาล 2004/05 ก็จัดการนำทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลีก คัพ ในปีแรกที่กุมบังเหียน เมื่อเสร็จภารกิจในการทำงานที่เมืองผู้ดี เจ้าตัวก็ไปร่วมงานกับ อินเตอร์ มิลาน พร้อมกับนำความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2008–09 จากการคุมทัพซีซั่นแรกเช่นกัน (ฤดูกาลต่อมานำ "งูใหญ่" คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ 2009/10)
เมื่อภารกิจในเมืองมะกะโรนีเสร็จสิ้น กุนซือเลือดฝอยทอง ก็เก็บเสื้อผ้าไปทำงานในสเปน กับ เรอัล มาดริด และก็นำทีมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ซีซั่น 2010–11 ซึ่งเป็นฤดูกาลเปิดตัวของเขา ก่อนจะนำ "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์ ลา ลีกา ในฤดูกาลถัดมา
ช่วงซัมเมอร์ 2013 มูรินโญ่ ย้ายกลับมาทำงานให้ เชลซี เป็นสมัยที่สอง โดยซีซั่นแรกไม่สามารถนำทีมคว้าแชมป์ได้เพราะดันแพ้ในเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (เชลซี เป็นแชมป์ ยูโรปา ลีก ตอนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ คุม) จากนั้นก็ตกรอบห้า เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ พร้อมจบฤดูกาลในอันดับ 3 และตกรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ฤดูกาล 2014–15 ก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม 9 เดือนหลังจากนั้น มูรินโญ่ ก็โดนปลดกลางอากาศ แต่ก็ว่างงานไม่นานเพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ส่งเทียบเชิญให้เข้ามาคุมทัพ "ผีแดง" ด้วยสัญญา 3 ปี ในฤดูกาล 2016/17 และก็สามารถนำทีมคว้าแชมป์ได้ทันที นั่นก็คือ ยูโรปา ลีก และ ลีก คัพ จากนั้นในซีซั่นถัดมานำทีมจบอันดับรองแชมป์ลีก พร้อมกับแพ้ เชลซี ในนัดชิง เอฟเอ คัพ ก่อนจะโดนไล่ออกช่วงกลางฤดูกาล 2018/19
ฉะนั้นการที่ มูรินโญ่ เข้ามาคุม สเปอร์ส ในช่วงเกือบกลางซีซั่น น่าจะเพื่อทำให้บรรดานักเตะ "ไก่เดือยทอง" ได้คุ้นชินกับแท็คติก และเล่นตามรูปแบบที่เจ้าตัวต้องการ ก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจสำคัญอย่างจริงจังในฤดูกาลต่อไป ส่วนจะบรรลุเป้าหมายถึงแชมป์หรือไม่ เดี๋ยวมาค่อยดูกัน !!
สถิติคว้าแชมป์ โชเซ่ มูรินโญ่ หลังจากคุมทีมเต็มฤดูกาลให้กับสโมสรใหม่
เอฟซี ปอร์โต้ (ฤดูกาล 2002/03)
พรีเมียร่า ลีกา
โปรตุเกส คัพ
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
เชลซี (ฤดูกาล 2004/05)
พรีเมียร์ลีก
ลีก คัพ
อินเตอร์ มิลาน (ฤดูกาล 2008/09)
กัลโช่ เซเรีย อา
เรอัล มาดริด (ฤดูกาล 2010/11)
โกปา เดล เรย์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ฤดูกาล 2016/17)
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
ลีก คัพ
credit : www.siamsport.co.th
อดีตปธ.มาดริดชี้เหตุผลเดียวมูรินโญ่คุมสเปอร์ส
ราม่อน กัลเดร่อน อดีตประธานสโมสร เรอัล มาดริด เชื่อว่า เหตุผลเดียวที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ตอบรับงานผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพราะเบื่อกับการรอให้ ซีเนดีน ซีดาน อำลาตำแหน่งกุนซือ "ราชันชุดขาว" แม้อยากกลับไปทำงานที่ถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว อีกรอบก็ตาม
กัลเดร่อน เผยผ่าน ทอล์คสปอร์ต สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า "ท็อตแน่ม เป็นแค่แผนสำรองสำหรับ มูรินโญ่ เพราะเขาอยากกลับไปคุม เรอัล มาดริด มากกว่า ผมคิดว่า เขารับงานนี้เนื่องจาก เขาเบื่อแล้วที่จะรอให้ ซีดาน โดนไล่ออก หรือก้าวลงจากตำแหน่ง"
"ดังนั้นเขาจึงรับมันไว้ในโอกาสที่ดีมากๆ พวกเขาเป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ย่ำแย่ของตาราง พรีเมียร์ลีก พวกเขามีสนามที่ยอดเยี่ยม, ประธานสุดยอด และมีทีมที่ดี ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาทุกคน" อดีตประธาน "ราชันชุดขาว" กล่าว
พร้อมกันนี้ กัลเดร่อน ยังพูดถึงโอกาสที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตกุนซือ สเปอร์ส จะกลับมาทำงานที่สเปนอีกครั้งว่า "เป็นไปได้ เขาเป็นโค้ชที่ดีมากๆ และได้รับการยกย่องอย่างมากที่สเปน"
credit : www.siamsport.co.th