สวัสดีค่ะ 🙏🏻
ก่อนอื่นต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เราเคยอ้วนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ จำได้ว่าขาแตกลายตั้งแต่ประถมแล้วค่ะ จนตอนนี้ก็น่าจะ 10 ปี กว่าๆแล้ว ลองมาทุกวิธีแล้วค่ะ ทั้งโลชั่นทา ยาทา ครีมทา สบู่ เกือบทุกๆอย่างที่พอจะหาได้ค่ะ บอกเลยว่า ไม่ได้ผลเลยค่ะ ไม่จางลงด้วย อาจจะเป็นเพราะระยะเวลาที่นาน รอยแตกเป็นสีขาวฝังลึกไปแล้วเลยแก้ยาก วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเลเซอร์และการสักลบรอยแตกลายค่ะ
ตอนเรียนมหาลัยช่วงปี 2 เราได้มีโอกาสรู้จักคลินิกนึงในจังหวัดที่เราเรียน ผ่านเพจเฟซบุ๊กค่ะ เป็นคลินิกเวชกรรมความงามชื่อดังในจังหวัดนั้น เราศึกษาดูรีวิวมานิดหน่อยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเป็นคนไม่ค่อยศึกษาอะไรมาก อยากทำก็ทำเลยค่ะ แล้วช่วงนั้นมีโปรโมชั่นเลเซอร์รักษารอยแตกลาย คอร์ส 5 ครั้ง จากราคา 2 หมื่นอัพ เหลือแค่ 9,900 บาทค่ะ
โอ้โหหห เราใช้เวลาคิดไม่นานค่ะตัดสินใจไปเลยค่ะ ตอนไปครั้งแรกก็กรอกประวัติปกติทั่วไปค่ะ ทางคลินิกไม่ได้ถามอะไรมาก เราเองก็ลืมๆรายละเอียดแล้วด้วยเพราะผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว เลเซอร์ 5 ครั้งค่ะ เดือนละครั้ง ไม่เจ็บค่ะรู้สึกจี๊ดๆ 😂 หลังเลเซอร์เสร็จทางคลินิกก็จะให้ครีมมาทาค่ะ กระปุกเล็กเท่าจิ๋มมดค่ะ ทา 2-3รอบก็หมดแล้วค่ะ หลังเซเลอร์ก็จะเป็นรอยแดงๆตามรอยแตก ไม่กี่วันก็หายค่ะ ทำจนจบคอร์ส บอกเลยค่ะว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือดีขึ้นเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราทำโทรศัพท์พังรูปก่อนและหลังเลเซอร์เลยหายไปค่ะ 😭😭 พนักงานที่คลินิกบอกเราว่าอาจจะต้องลงเพิ่มอีกคอร์ส เราขอบายค่ะ
ปกติเราก็ดูผิวตลอดนะคะ เราคิดเองตลอดว่าถ้าขาวขึ้นก็คงจะเห็นรอยแตกจางลง 555 ก็ไม่จางค่ะ 🤣 จนเราจะเรียนจบได้มีโอกาสไปฝึกงานที่ปทุมค่ะ แล้วดันไปรู้จักเพื่อนที่ชอบสักค่ะ สักในที่นี้คือสักลายปกตินี่แหละค่ะ เค้าก็บอกเราว่าลองไปสักสีเนื้อดูไหม เราก็หาข้อมูลเลยค่ะ จนไปเจอเพจๆนึง เป็นเพจเกี่ยวกับการสักลบรอยแตกลายค่ะ ซึ่งไม่ใช่เป็นการสักสี แต่ใช้เทคนิคสักกระตุ้นคอลลาเจน เน้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง เป็นสักลบรอยแผลเป็นด้วยเทคนิคกึ่งการแพย์
ไม่ใช้สี ไม่มีเพี้ยน หายแล้วหายเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อยากที่บอกค่ะ เราไม่ค่อยศึกษาอะไรนานๆ อยากทำก็ตัดสินใจทำเลยค่ะ
เราทักอินบล็อกสอบถามราคาไปค่ะ เรามีรอยแตกที่น่องขาและข้อพับ ทางร้านจะประเมินราคาให้ค่ะ ของเราอยู่ 10,000 บาท สามารถมาสักเติมได้ตลอดจนหายในราคานี้ค่ะ เราก็คิดอยู่วันนึงด้วยระยะทางจากที่เราอยู่ไปคลินิกมันใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ แต่สุดท้ายยยยยย ก็อดใจไม่ไหวจริงๆค่ะ โอนมัดจำไป 1,000 บาท และจ่ายหลังสักในส่วนที่เหลือค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คลินิกอยู่ ศรีนครินทร์ ตรงข้ามตลาดรถไฟค่ะ
ครั้งแรกที่ไปทำก็ตื่นเต้นค่ะ ทางร้านไม่ใช้สี ใช้เข็มเปล่า จิ้มที่รอยแตกลายกระตุ้นการผลัดเซล์และกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง พนักงานจะให้เราดูเข็มด้วยค่ะ ว่าใช้เข็มใหม่และอธิบายหลักการในการทำ สบายๆเป็นกันเองค่ะ ความรู้สึกก็จี๊ดๆเหมือนมดกัด บางจุดก็เหมือนมด
คันไฟกัด พนักงานจะจิ้มสองข้างพร้อมกันเลยค่ะความรู้สึกคงไม่ต้องบรรยายนะคะ ลองเอาเข็มมาจิ้มๆที่ผิวดูเอาเองนะคะ ใช้เวลาทำประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ หลังทำไปก็จะเป็นรอยแดงๆค่ะ มีสเก็ดหลังทำก็อย่าพึ่งไปถูสบู่ตรงที่บริเวณสักนะคะ เพราะมันจะแสบ จริงๆรายละเอียดการดูแลทางพนักงานจะแจ้งบอกนะคะ เราทำได้ 2 ครั้งค่ะ เมื่อต้นปี พอจบฝึกงานก็ไม่ได้ไปเติมอีกเลย กะว่าถ้ามีโอกาสก็จะไปค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จ่าย 10,000 เติมได้เรื่อยๆจนกว่าจะหาย
แต่ต้องจองคิวนะคะ ทางร้านคิวแน่นมาก เรามีรูปรีวิวไม่เยอะค่ะ เราไม่ค่อยเก็บรูปเท่าไหร่ 📷 แต่ถ้ามีโอกาสกลับไปจะมาลงรีวิวแบบละเอียดๆให้นะคะ
ถามว่าได้ผลไหม ตอบเลยค่ะว่า เห็นผลจริงๆ
แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่า ถ้าอ้วนขึ้นรอยแตกก็ยังแตกอยู่นะคะ
ปัจจุบันนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นค่ะ รอยแตกกลับมาแล้ว คงต้องหาเวลาไปสักเติมค่ะ แล้วคงต้องลดน้ำหนักด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปัจจุบัน น้ำหนัก 55 ค่ะ
ถ้ามีคนสนใจมากๆ เรายินดีบอกชื่อเพจร้านนะคะ ไม่ได้ค่าโปรโมทแต่อย่างใดค่ะ อิอิ
😊 ปัจจุบันนี้เรามั่นใจขึ้นนะคะ กล้าที่จะโชว์รอยแตกค่ะ รักในความเป็นเราและมั่นใจตัวเองนะคะ ขอยกยอต่างประเทศเสียหน่อย เค้ามีแคมเปญ "I love my stretch marks" ลองค้นประโยคนี้จะเจอรูปสาวๆ กล้าเปิดเผยรอยแตกลายของตัวเอง ส่วนตัวเราว่าสิ่งที่ควรอายคือ การแต่งกายไม่รู้กาละเทศะมากกว่า เช่น แต่งกายโป๊ล่อแหลมเข้าไปในศาสนพิธี ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นหรือชุดที่ไม่ใช่ชุดว่ายน้ำลงสระว่ายน้ำ
แชร์ประสบการณ์รักษารอยแตกลาย ขาแตกลาย
ก่อนอื่นต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เราเคยอ้วนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ จำได้ว่าขาแตกลายตั้งแต่ประถมแล้วค่ะ จนตอนนี้ก็น่าจะ 10 ปี กว่าๆแล้ว ลองมาทุกวิธีแล้วค่ะ ทั้งโลชั่นทา ยาทา ครีมทา สบู่ เกือบทุกๆอย่างที่พอจะหาได้ค่ะ บอกเลยว่า ไม่ได้ผลเลยค่ะ ไม่จางลงด้วย อาจจะเป็นเพราะระยะเวลาที่นาน รอยแตกเป็นสีขาวฝังลึกไปแล้วเลยแก้ยาก วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเลเซอร์และการสักลบรอยแตกลายค่ะ
ตอนเรียนมหาลัยช่วงปี 2 เราได้มีโอกาสรู้จักคลินิกนึงในจังหวัดที่เราเรียน ผ่านเพจเฟซบุ๊กค่ะ เป็นคลินิกเวชกรรมความงามชื่อดังในจังหวัดนั้น เราศึกษาดูรีวิวมานิดหน่อยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้วช่วงนั้นมีโปรโมชั่นเลเซอร์รักษารอยแตกลาย คอร์ส 5 ครั้ง จากราคา 2 หมื่นอัพ เหลือแค่ 9,900 บาทค่ะ
โอ้โหหห เราใช้เวลาคิดไม่นานค่ะตัดสินใจไปเลยค่ะ ตอนไปครั้งแรกก็กรอกประวัติปกติทั่วไปค่ะ ทางคลินิกไม่ได้ถามอะไรมาก เราเองก็ลืมๆรายละเอียดแล้วด้วยเพราะผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว เลเซอร์ 5 ครั้งค่ะ เดือนละครั้ง ไม่เจ็บค่ะรู้สึกจี๊ดๆ 😂 หลังเลเซอร์เสร็จทางคลินิกก็จะให้ครีมมาทาค่ะ กระปุกเล็กเท่าจิ๋มมดค่ะ ทา 2-3รอบก็หมดแล้วค่ะ หลังเซเลอร์ก็จะเป็นรอยแดงๆตามรอยแตก ไม่กี่วันก็หายค่ะ ทำจนจบคอร์ส บอกเลยค่ะว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือดีขึ้นเลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พนักงานที่คลินิกบอกเราว่าอาจจะต้องลงเพิ่มอีกคอร์ส เราขอบายค่ะ
ปกติเราก็ดูผิวตลอดนะคะ เราคิดเองตลอดว่าถ้าขาวขึ้นก็คงจะเห็นรอยแตกจางลง 555 ก็ไม่จางค่ะ 🤣 จนเราจะเรียนจบได้มีโอกาสไปฝึกงานที่ปทุมค่ะ แล้วดันไปรู้จักเพื่อนที่ชอบสักค่ะ สักในที่นี้คือสักลายปกตินี่แหละค่ะ เค้าก็บอกเราว่าลองไปสักสีเนื้อดูไหม เราก็หาข้อมูลเลยค่ะ จนไปเจอเพจๆนึง เป็นเพจเกี่ยวกับการสักลบรอยแตกลายค่ะ ซึ่งไม่ใช่เป็นการสักสี แต่ใช้เทคนิคสักกระตุ้นคอลลาเจน เน้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง เป็นสักลบรอยแผลเป็นด้วยเทคนิคกึ่งการแพย์
ไม่ใช้สี ไม่มีเพี้ยน หายแล้วหายเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราทักอินบล็อกสอบถามราคาไปค่ะ เรามีรอยแตกที่น่องขาและข้อพับ ทางร้านจะประเมินราคาให้ค่ะ ของเราอยู่ 10,000 บาท สามารถมาสักเติมได้ตลอดจนหายในราคานี้ค่ะ เราก็คิดอยู่วันนึงด้วยระยะทางจากที่เราอยู่ไปคลินิกมันใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ แต่สุดท้ายยยยยย ก็อดใจไม่ไหวจริงๆค่ะ โอนมัดจำไป 1,000 บาท และจ่ายหลังสักในส่วนที่เหลือค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ครั้งแรกที่ไปทำก็ตื่นเต้นค่ะ ทางร้านไม่ใช้สี ใช้เข็มเปล่า จิ้มที่รอยแตกลายกระตุ้นการผลัดเซล์และกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง พนักงานจะให้เราดูเข็มด้วยค่ะ ว่าใช้เข็มใหม่และอธิบายหลักการในการทำ สบายๆเป็นกันเองค่ะ ความรู้สึกก็จี๊ดๆเหมือนมดกัด บางจุดก็เหมือนมดคันไฟกัด พนักงานจะจิ้มสองข้างพร้อมกันเลยค่ะความรู้สึกคงไม่ต้องบรรยายนะคะ ลองเอาเข็มมาจิ้มๆที่ผิวดูเอาเองนะคะ ใช้เวลาทำประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ หลังทำไปก็จะเป็นรอยแดงๆค่ะ มีสเก็ดหลังทำก็อย่าพึ่งไปถูสบู่ตรงที่บริเวณสักนะคะ เพราะมันจะแสบ จริงๆรายละเอียดการดูแลทางพนักงานจะแจ้งบอกนะคะ เราทำได้ 2 ครั้งค่ะ เมื่อต้นปี พอจบฝึกงานก็ไม่ได้ไปเติมอีกเลย กะว่าถ้ามีโอกาสก็จะไปค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ต้องจองคิวนะคะ ทางร้านคิวแน่นมาก เรามีรูปรีวิวไม่เยอะค่ะ เราไม่ค่อยเก็บรูปเท่าไหร่ 📷 แต่ถ้ามีโอกาสกลับไปจะมาลงรีวิวแบบละเอียดๆให้นะคะ
ถามว่าได้ผลไหม ตอบเลยค่ะว่า เห็นผลจริงๆ
แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่า ถ้าอ้วนขึ้นรอยแตกก็ยังแตกอยู่นะคะ
ปัจจุบันนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นค่ะ รอยแตกกลับมาแล้ว คงต้องหาเวลาไปสักเติมค่ะ แล้วคงต้องลดน้ำหนักด้วย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้ามีคนสนใจมากๆ เรายินดีบอกชื่อเพจร้านนะคะ ไม่ได้ค่าโปรโมทแต่อย่างใดค่ะ อิอิ
😊 ปัจจุบันนี้เรามั่นใจขึ้นนะคะ กล้าที่จะโชว์รอยแตกค่ะ รักในความเป็นเราและมั่นใจตัวเองนะคะ ขอยกยอต่างประเทศเสียหน่อย เค้ามีแคมเปญ "I love my stretch marks" ลองค้นประโยคนี้จะเจอรูปสาวๆ กล้าเปิดเผยรอยแตกลายของตัวเอง ส่วนตัวเราว่าสิ่งที่ควรอายคือ การแต่งกายไม่รู้กาละเทศะมากกว่า เช่น แต่งกายโป๊ล่อแหลมเข้าไปในศาสนพิธี ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นหรือชุดที่ไม่ใช่ชุดว่ายน้ำลงสระว่ายน้ำ