1. ต้องยอมรับก่อนว่า ต่อให้เราทะลุเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย แต่เราก็คงไม่ได้ไปบอลโลกที่กาต้าร์อยู่ดี เพราะฝีเท้าเรายังไม่ถึงขั้นนั้น โอกาสเร็วที่สุดของเราคือปี 2026 ที่เพิ่มจำนวนทีม
2. ถ้าเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายได้ ก็ถือว่าดีไป ได้ลับฝีเท้ากับทีมเก่งๆ
3. ถ้าตกรอบนี้ แล้วตกแบบหมดสภาพ เสมอมาเลย์ในบ้าน แพ้ยูเออี จานโน๊ะก็จานโน๊ะเหอะ ไม่น่ารอด แต่เราก็ยังมีเวลาอีกตั้ง 3 ปีเพื่อเฟ้นหาโค้ชที่โดน คนที่ใช่ก่อนจะเริ่มคัดบอลโลกครั้งหน้า ปี 2023
4. ถ้าตกรอบนี้ แล้วตกแบบมีสภาพ มีความหวัง ชนะมาเลย์ ไม่แพ้ยูเออี ทรงบอลดี มีพัฒนาการ แปลว่าเราอาจจะมาถูกทางแล้ว
5. ถึงตกรอบ เราก็ยังได้เล่นรอบคัดเลือก Asian Cup รอบ 3 ต่อไป แปลว่าเรามีโอกาสจะเก็บแต้มเป็นกอบเป็นกำ ทำอันดับขยับ FIFA ranking ได้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
6. แฟนบอลสายเชียร์ที่สนาม ก็มีโอกาสได้เจอทีมใหม่ๆ ไปเยือนประเทศใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ คุณอาจจะได้โอกาสไปกินโรตีที่อินเดีย เจอม็อบที่ฮ่องกง หรือแม้แต่ไปเยี่ยมท่านคิมที่เกาหลีเหนือ!!!
7. รอบคัดเลือก Asian Cup รอบ 3 เราจะเจอทีมที่ไม่แข็งมาก หรืออ่อนกว่า เราก็มีโอกาสจะทดลองนักเตะหน้าใหม่ๆได้มากกว่า ถ้าคุณเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย เจอทีมใหญ่ๆ ยังไงเสียหน้าเป้าก็ต้องเป็นธีรศิลป์ แต่ถ้าคุณลงมาเล่นเจอทีมอย่างเนปาลในบ้าน นักเตะอย่างอย่างศุภณัฏฐ์ ศุภชัยอาจจะได้รับโอกาสลงสนาม มีโอกาสเก็บประสบการณ์มากขึ้น
8. เป้าหมายที่เป็นไปได้จริงของทีมชาติไทยตอนนี้ น่าจะเป็นการยกระดับการเล่นให้ขึ้นมาได้มากที่สุด หาโค้ชที่ลงตัว แท็กติกที่ใช่ 11-15 ตัวจริงที่ดีที่สุดทุกตำแหน่ง ทุกอย่างควรจะต้องคลิ๊ก ลงตัวก่อนที่เราจะเข้าไปเล่น Asian Cup 2023 รอบสุดท้ายที่จีน (แฟนบอลตามไปเชียร์กันสนั่นแน่นอน) แล้วไปให้ไกลที่สุด (เป้าหมายคือรอบ 8 ทีมสุดท้าย)
9. ระหว่างทาง เราควรจะใช้เวที AFF Suzuki Cup ปรับปรุงการเล่นเวลาออกไปเยือน ถ้าเราตั้งเป้าจะไปบอลโลก เราควรจะต้องบุกไปชนะมาเลเซีย เวียดนาม พวกนี้ให้ได้
10. ถ้าเราทำผลงานได้ดีใน Asian Cup ได้ มีทีมที่ลงตัว ทั้งโค้ช ทั้งแท็กติก ทั้งนักเตะ แล้วใช้ทีมชุดนั้นต่อยอด ยิงยาว เพื่อเตรียมคัดบอลโลก 2026 ที่เอเชียเราจะได้เพิ่มมา 8 ที่ เชื่อว่าเรามีลุ้นแน่นอน
ส่วนตัวคิดว่า
- ก่อน 2023 ไทยควรจะมีแท็กติก ระบบการเล่นที่ชัดเจน (และแน่นอน มีประสิทธิภาพ) ไม่ใช่ลองเปลี่ยนโน่น เปลี่ยนนี่ไปเรื่อยๆ
- หาพูลนักเตะที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่งได้ เซ็นเตอร์ที่เชื่อถือได้ 3-4 คน, กองหน้าตัวแทนมุ้ย ฯลฯ ไม่ใช่คัดไป ลองนักเตะไปเรื่อยๆ
- การที่เบสิคนักเตะเราแย่กว่าชาติใหญ่ๆ สิ่งที่จะช่วยให้เราพอสู้กับเค้าได้ก็คือทีมเวิร์ค กับแท็คติกเท่านั้น ส่วนตัวเลยคิดว่าการที่หาทีมที่ลงตัวได้เร็วนั้นสำคัญมากสำหรับไทย
- สามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีในเกมเยือนที่ยากๆได้บ้าง
อย่างเวียดนาม ผมว่าเค้าได้ทีมที่ลงตัวแล้วนะ โค้ชก็คิดว่าไม่น่าจะมีใครมาทำแล้วคลิ๊กได้เท่าปาร์ค ฮัง ซออีกแล้ว ที่เหลือคือทางระบบฟุตบอลลีกเวียดนาม จะช่วยพัฒนานักเตะให้อัพฝีเท้าได้ขนาดไหนเท่านั้น
ส่วนไทยเรา ไทยลีกสร้างนักเตะเก่งๆออกมาได้เรื่อยๆอยู่แล้ว แต่ถ้าได้ตัวที่เก่งกว่าปัจจุบันก็ยิ่งดี ส่วนเรื่องโค้ช ก็หวังว่านิชิโน๊ะจะเป็นคนที่ใช่ ไม่งั้นก็ต้องควานหาหัวเรือกันใหม่ เริ่มต้นนับ 1 กันใหม่อีก
===== วิธีดูฟุตบอลทีมชาติไทยให้มีความสุข =====
2. ถ้าเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายได้ ก็ถือว่าดีไป ได้ลับฝีเท้ากับทีมเก่งๆ
3. ถ้าตกรอบนี้ แล้วตกแบบหมดสภาพ เสมอมาเลย์ในบ้าน แพ้ยูเออี จานโน๊ะก็จานโน๊ะเหอะ ไม่น่ารอด แต่เราก็ยังมีเวลาอีกตั้ง 3 ปีเพื่อเฟ้นหาโค้ชที่โดน คนที่ใช่ก่อนจะเริ่มคัดบอลโลกครั้งหน้า ปี 2023
4. ถ้าตกรอบนี้ แล้วตกแบบมีสภาพ มีความหวัง ชนะมาเลย์ ไม่แพ้ยูเออี ทรงบอลดี มีพัฒนาการ แปลว่าเราอาจจะมาถูกทางแล้ว
5. ถึงตกรอบ เราก็ยังได้เล่นรอบคัดเลือก Asian Cup รอบ 3 ต่อไป แปลว่าเรามีโอกาสจะเก็บแต้มเป็นกอบเป็นกำ ทำอันดับขยับ FIFA ranking ได้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
6. แฟนบอลสายเชียร์ที่สนาม ก็มีโอกาสได้เจอทีมใหม่ๆ ไปเยือนประเทศใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ คุณอาจจะได้โอกาสไปกินโรตีที่อินเดีย เจอม็อบที่ฮ่องกง หรือแม้แต่ไปเยี่ยมท่านคิมที่เกาหลีเหนือ!!!
7. รอบคัดเลือก Asian Cup รอบ 3 เราจะเจอทีมที่ไม่แข็งมาก หรืออ่อนกว่า เราก็มีโอกาสจะทดลองนักเตะหน้าใหม่ๆได้มากกว่า ถ้าคุณเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย เจอทีมใหญ่ๆ ยังไงเสียหน้าเป้าก็ต้องเป็นธีรศิลป์ แต่ถ้าคุณลงมาเล่นเจอทีมอย่างเนปาลในบ้าน นักเตะอย่างอย่างศุภณัฏฐ์ ศุภชัยอาจจะได้รับโอกาสลงสนาม มีโอกาสเก็บประสบการณ์มากขึ้น
8. เป้าหมายที่เป็นไปได้จริงของทีมชาติไทยตอนนี้ น่าจะเป็นการยกระดับการเล่นให้ขึ้นมาได้มากที่สุด หาโค้ชที่ลงตัว แท็กติกที่ใช่ 11-15 ตัวจริงที่ดีที่สุดทุกตำแหน่ง ทุกอย่างควรจะต้องคลิ๊ก ลงตัวก่อนที่เราจะเข้าไปเล่น Asian Cup 2023 รอบสุดท้ายที่จีน (แฟนบอลตามไปเชียร์กันสนั่นแน่นอน) แล้วไปให้ไกลที่สุด (เป้าหมายคือรอบ 8 ทีมสุดท้าย)
9. ระหว่างทาง เราควรจะใช้เวที AFF Suzuki Cup ปรับปรุงการเล่นเวลาออกไปเยือน ถ้าเราตั้งเป้าจะไปบอลโลก เราควรจะต้องบุกไปชนะมาเลเซีย เวียดนาม พวกนี้ให้ได้
10. ถ้าเราทำผลงานได้ดีใน Asian Cup ได้ มีทีมที่ลงตัว ทั้งโค้ช ทั้งแท็กติก ทั้งนักเตะ แล้วใช้ทีมชุดนั้นต่อยอด ยิงยาว เพื่อเตรียมคัดบอลโลก 2026 ที่เอเชียเราจะได้เพิ่มมา 8 ที่ เชื่อว่าเรามีลุ้นแน่นอน
ส่วนตัวคิดว่า
- ก่อน 2023 ไทยควรจะมีแท็กติก ระบบการเล่นที่ชัดเจน (และแน่นอน มีประสิทธิภาพ) ไม่ใช่ลองเปลี่ยนโน่น เปลี่ยนนี่ไปเรื่อยๆ
- หาพูลนักเตะที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่งได้ เซ็นเตอร์ที่เชื่อถือได้ 3-4 คน, กองหน้าตัวแทนมุ้ย ฯลฯ ไม่ใช่คัดไป ลองนักเตะไปเรื่อยๆ
- การที่เบสิคนักเตะเราแย่กว่าชาติใหญ่ๆ สิ่งที่จะช่วยให้เราพอสู้กับเค้าได้ก็คือทีมเวิร์ค กับแท็คติกเท่านั้น ส่วนตัวเลยคิดว่าการที่หาทีมที่ลงตัวได้เร็วนั้นสำคัญมากสำหรับไทย
- สามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีในเกมเยือนที่ยากๆได้บ้าง
อย่างเวียดนาม ผมว่าเค้าได้ทีมที่ลงตัวแล้วนะ โค้ชก็คิดว่าไม่น่าจะมีใครมาทำแล้วคลิ๊กได้เท่าปาร์ค ฮัง ซออีกแล้ว ที่เหลือคือทางระบบฟุตบอลลีกเวียดนาม จะช่วยพัฒนานักเตะให้อัพฝีเท้าได้ขนาดไหนเท่านั้น
ส่วนไทยเรา ไทยลีกสร้างนักเตะเก่งๆออกมาได้เรื่อยๆอยู่แล้ว แต่ถ้าได้ตัวที่เก่งกว่าปัจจุบันก็ยิ่งดี ส่วนเรื่องโค้ช ก็หวังว่านิชิโน๊ะจะเป็นคนที่ใช่ ไม่งั้นก็ต้องควานหาหัวเรือกันใหม่ เริ่มต้นนับ 1 กันใหม่อีก