ผมมาแชร์ประสบการณ์การจี้ไฟฟ้าหัวใจครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆได้
เรื่องเริ่มจากผมไปตรวจสุขภาพประจำปีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในแพคเกจมี Exercise Stress Test ด้วยการวิ่งสายพาน ผลพบว่ามีกราฟเส้นแสดงความผิดปกติของการเต้นของหัวใจอยู่เยอะมาก คุณหมอวินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาจจะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบหรือไม่ก็เป็นหัวใจเต้นผิดปกติ ตอนนั้นก็รู้สึกหูอื้อไปเลย แบบเฮ้ย เราจะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบหรือ วันต่อมาผมได้ปรึกษาเพื่อนที่เป็นเซลส์ขายเครื่องมือแพทย์ เพื่อนแนะนำไปหา second opinion กับอาจารย์หมอที่รพ.พระมงกุฏ ผมไปตามนัดและมีการทำ EKG และ CTA Coronary (การทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ตรวจหลอดเลือดหัวใจ), ทำ ECHOหัวใจ สุดท้ายผลก็ออกมาว่าเป็นหัวใจห้องล่างเต้นผิดปกติ (Ventricular Tachycardia) เป็นภาวะหัวใจเต้นเร็วชนิดหนึ่งที่อาจมีอันตรายถึงชีวิต ผมต้องได้รับการรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้าหัวใจ คุณหมอบอกว่าถ้าทำที่รพ.พระมงกุฏ ค่าใช้จ่ายประมาณ3แสน แต่ต้องรอคิว 3-4เดือน ด้วยความไม่อยากรอ ประกอบกับคำนวณวงเงินประกันจากประกันสุขภาพของออฟฟิศบวกกับประกันสุขภาพส่วนตัวรวมแล้วน่าจะคุ้มครองอยู่ในวงเงินรักษาประมาณ8แสนบาท ผมก็เลยเริ่มหาข้อมูลแหล่งรักษา
รพ.เอกชนที่แรกคิดค่ารักษาผมเริ่มจาก หกแสนกว่าไปเป็น หกแสนเก้า จนไปถึง 715,000บาทภายใน5วัน ผมก็เลยถอย เพราะไม่แน่ใจจริงๆว่าถึงวันออกจากรพ. จะเกินแปดแสนไหม ถ้าเกินคือต้องออกเอง!
รพ.เอกชนที่สองคิดค่ารักษาผมหกแสนเจ็ด ก็นัดวันทำเรียบร้อย ผมก็คิดว่า ทำที่นี่แล้วกัน ปรากฏว่าช่วงกลางคืนโทรมาแจ้งผมว่าคิวเครื่องมือไม่ได้แล้ว และเสนอวันใหม่ให้ผม แต่วันไม่ตรงกัน ผมก็เลยบอกยกเลิกไป
ตอนนั้นก็รู้สึกเคว้งนะ คิดในใจว่าเราจะไปหาที่ไหนได้อีก แต่ในความมืดก็มีแสงสว่างครับ มี2เหตุการณ์ที่เป็นความบังเอิญอย่างที่สุดที่ทำให้ผมไม่หมดหวัง
ความบังเอิญที่หนึ่งคือกลับไปอ่านข้อมูลเดิมที่เคยเสิร์ชหาไว้ ตอนนั้นผมเจอคุณมกรา ซึ่งเป็นคนไข้ที่ได้ไปจี้ไฟฟ้าหัวใจที่รพ.เวชธานี เลยทักไปในเฟสบุ๊กอินบ๊อกของคุณมกรา ผมได้รับการแนะนำที่ดีมากๆ ทั้งๆที่ทักไปน่ะสามทุ่มกว่าแล้ว แต่คุณมกราก็ตอบ และยังแนะนำคุณหมอ ปริวัตร เพ็งแก้ว มาให้ผมด้วย ซึ่งท่านเป็นคุณหมอที่ทำหัตถการจี้ไฟฟ้าหัวใจให้คุณมกราด้วย
ความบังเอิญที่สองคือ คุณหมอปริวัตร เป็นเพื่อนนักเรียนแพทย์ กับคุณหมอส้ม ซึ่งเป็นคุณหมออีกท่านที่ผมรู้จัก คุณหมอส้มเลยได้กรุณานัดให้ผมเจอกับคุณหมอปริวัตรวันที่11พย.ที่ผ่านมา ผมหอบเอาทุกประวัติการรักษาไปด้วยวันนั้น
คุณหมอปริวัตรใจดีและให้คำปรึกษาที่ละเอียดและชัดเจนดีมาก ผมรู้สึกอุ่นใจว่าเราน่าจะฝากชีวิตเราให้คุณหมอปริวัตรช่วยดูแลได้ ยังมีคุณปู พยาบาลจากวอร์ดหัวใจ คุณส้มฝ่ายดูแลเรื่องการเคลมประกัน ก็ได้มาพูดคุยและให้การแนะนำต่างๆ ค่าใช้จ่ายหัตถการจี้ไฟฟ้าแบบสามมิติ ประเมินที่ 295,000บาท (+/-) ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอกสองแสนเก้าหมื่นห้าพันบาท เทียบกับราคารพ.แรกที่715,000บาทแล้วก็ต่างกันแบบน่าตกใจอยู่ ผมเลยตัดสินใจทำจี้ไฟฟ้าเมื่อวันเสาร์ที่16 พย ที่ผ่านมา
วันที่16 ผมมาถึงรพ. 9โมงเช้า งดน้ำและอาหารหลัง 9โมงเช้า คุณพยาบาลพาไปห้องพัก ก็มีวัดความดัน เจาะเลือด ให้น้ำเกลือ ทำความสะอาดด้วยการโกนขนตรงขาหนีบ ตอนเริ่มทำก็จะมีการแปะแผ่นเจล รอบลำตัวและอก มีสายอะไรมาจิ้มมาแปะตามตัวเต็มไปหมด คุณหมอเริ่มจากฉีดยาชา 2เข็ม ก็เจ็บจี๊ดๆ และก็เริ่มสอดสายเข้าไป คุณหมอจะบอกทุกขั้นตอนว่าจะทำอะไร กำลังสอดสายนะ กำลังจะยิงคลื่นแล้วนะอะไรแบบนี้คุณหมอบอกว่าของผมสอดสายเข้าไปก็เจอจุดที่ผิดปกติเลย ไม่ต้องใช้ยากระตุ้นให้หัวใจแสดงอาการ และที่สำคัญคือผมเป็นเยอะมาก เยอะมากกว่ากราฟที่แสดงผลใน Exercise Stress Test reportซะอีก ตอนยิงคลื่นก็ร้อนๆที่อก รู้สึกตื้อๆที่อกด้วย แต่ก็ทนได้ครับ เพราะอยากหาย 555555 คุณพยาบาลจะคอยถามตลอดว่าทนไหวไหมอะไรแบบนี้ ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ทำเสร็จก็รอเช็คผลอีก 20นาที จึงออกจากห้องหัตถการ กลับไปห้องพักได้ จากนั้นนอนพัก 4ชั่วโมง โดยห้ามชันขาขวา กระดิกขา ยกขา ให้นอนนิ่งๆเลย ผมก็ทานข้าวบนเตียง และปัสสาวะใส่คอมฟอร์ทร้อยบนเตียงเลยครับ รุ่งขึ้นถึงจะเริ่มเดินได้ ตอนนี้กลับมาพักต่อที่บ้านแล้ว ก็ต้องระวังแผลไม่ให้ติดเชื้อ ห้ามเดินเยอะ ห้ามขับรถสักอาทิตย์นึง ผมมีนัด follow upอีกทีวันที่30พย.
จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า
1. โรคนี้เหมือนระเบิดเวลาที่อยู่ในตัวเรา วันร้ายคืนร้ายก็จะแสดงผลจนเราน็อคและเสียชีวิตทันทีเหมือนกรณี Godfrey Gao นักแสดงชาวไต้หวัน-
แคนาดา ที่เสียชีวิตไปเมื่อ27พย.ที่ผ่านมา ซึ่งผมเป็นอาการแบบเดียวกับGodfreyคือ ventricular tachycardia (หัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ)
2. การทำประกันสุขภาพ และมีตัวแทนประกันชีวิตที่ดีและเอาใจใส่เราเป็นสิ่งจำเป็น(มาก) สิ่งนี้จะช่วยเราได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียวเมื่อเวลาจำเป็นมาถึง
3. การตรวจร่างกายประจำปี เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทุกขั้นตอนสามารถตรวจจับความผิดปกติให้เรารับรู้ และเดินหน้าดูแลรักษาได้ทันเวลา
4. การหา second opinion เป็นสิ่งที่ต้องทำ
5. การหาข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็น เช็คข้อมูลให้ละเอียด ปรึกษาแพทย์หรือผู้ที่มีประสบการณ์จากการทำหัตถการหรือการผ่าตัดนั้นๆ จะได้ข้อมูลที่เป็นจริง
และถูกต้อง
ผมประทับใจตัวคุณหมอปริวัตร และทีมงานรพ.เวชธานีทุกคนที่ดูแลผมเป็นอย่างดี แบบมืออาชีพ ทุกขั้นตอน ไม่ละเลยแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย ค่าใช้จ่ายก็สมเหตุสมผลมากๆเมื่อเทียบกับรพ.อื่นๆ ประกันผมครอบคลุมค่าใช้จ่ายหมด มีจ่ายส่วนเกิน 130บาทค่า comfort100 แค่นั้น ^^
เพื่อนๆที่เป็นโรคนี้อยู่ก็รีบหาข้อมูล รีบรักษานะครับ เพราะอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว ผมเคยได้รับโอกาสในการได้รับคำปรึกษาจากคนที่ผมไม่เคยรู้จักจากการทักคุณมกราไปทางFacebook inbox ตอนนี้ผมหายขาดแล้วและผมก็อยากให้คนอื่นๆได้รับโอกาสนี้บ้าง ถ้าอยากพูดคุยเพิ่มเติมกับผมก็อินบ๊อกมาได้ครับ ยินดีให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ
ขอบคุณครับ
ประสบการณ์การการรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ ด้วยการจี้ไฟฟ้าหัวใจ
เรื่องเริ่มจากผมไปตรวจสุขภาพประจำปีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในแพคเกจมี Exercise Stress Test ด้วยการวิ่งสายพาน ผลพบว่ามีกราฟเส้นแสดงความผิดปกติของการเต้นของหัวใจอยู่เยอะมาก คุณหมอวินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาจจะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบหรือไม่ก็เป็นหัวใจเต้นผิดปกติ ตอนนั้นก็รู้สึกหูอื้อไปเลย แบบเฮ้ย เราจะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบหรือ วันต่อมาผมได้ปรึกษาเพื่อนที่เป็นเซลส์ขายเครื่องมือแพทย์ เพื่อนแนะนำไปหา second opinion กับอาจารย์หมอที่รพ.พระมงกุฏ ผมไปตามนัดและมีการทำ EKG และ CTA Coronary (การทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ตรวจหลอดเลือดหัวใจ), ทำ ECHOหัวใจ สุดท้ายผลก็ออกมาว่าเป็นหัวใจห้องล่างเต้นผิดปกติ (Ventricular Tachycardia) เป็นภาวะหัวใจเต้นเร็วชนิดหนึ่งที่อาจมีอันตรายถึงชีวิต ผมต้องได้รับการรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้าหัวใจ คุณหมอบอกว่าถ้าทำที่รพ.พระมงกุฏ ค่าใช้จ่ายประมาณ3แสน แต่ต้องรอคิว 3-4เดือน ด้วยความไม่อยากรอ ประกอบกับคำนวณวงเงินประกันจากประกันสุขภาพของออฟฟิศบวกกับประกันสุขภาพส่วนตัวรวมแล้วน่าจะคุ้มครองอยู่ในวงเงินรักษาประมาณ8แสนบาท ผมก็เลยเริ่มหาข้อมูลแหล่งรักษา
รพ.เอกชนที่แรกคิดค่ารักษาผมเริ่มจาก หกแสนกว่าไปเป็น หกแสนเก้า จนไปถึง 715,000บาทภายใน5วัน ผมก็เลยถอย เพราะไม่แน่ใจจริงๆว่าถึงวันออกจากรพ. จะเกินแปดแสนไหม ถ้าเกินคือต้องออกเอง!
รพ.เอกชนที่สองคิดค่ารักษาผมหกแสนเจ็ด ก็นัดวันทำเรียบร้อย ผมก็คิดว่า ทำที่นี่แล้วกัน ปรากฏว่าช่วงกลางคืนโทรมาแจ้งผมว่าคิวเครื่องมือไม่ได้แล้ว และเสนอวันใหม่ให้ผม แต่วันไม่ตรงกัน ผมก็เลยบอกยกเลิกไป
ตอนนั้นก็รู้สึกเคว้งนะ คิดในใจว่าเราจะไปหาที่ไหนได้อีก แต่ในความมืดก็มีแสงสว่างครับ มี2เหตุการณ์ที่เป็นความบังเอิญอย่างที่สุดที่ทำให้ผมไม่หมดหวัง
ความบังเอิญที่หนึ่งคือกลับไปอ่านข้อมูลเดิมที่เคยเสิร์ชหาไว้ ตอนนั้นผมเจอคุณมกรา ซึ่งเป็นคนไข้ที่ได้ไปจี้ไฟฟ้าหัวใจที่รพ.เวชธานี เลยทักไปในเฟสบุ๊กอินบ๊อกของคุณมกรา ผมได้รับการแนะนำที่ดีมากๆ ทั้งๆที่ทักไปน่ะสามทุ่มกว่าแล้ว แต่คุณมกราก็ตอบ และยังแนะนำคุณหมอ ปริวัตร เพ็งแก้ว มาให้ผมด้วย ซึ่งท่านเป็นคุณหมอที่ทำหัตถการจี้ไฟฟ้าหัวใจให้คุณมกราด้วย
ความบังเอิญที่สองคือ คุณหมอปริวัตร เป็นเพื่อนนักเรียนแพทย์ กับคุณหมอส้ม ซึ่งเป็นคุณหมออีกท่านที่ผมรู้จัก คุณหมอส้มเลยได้กรุณานัดให้ผมเจอกับคุณหมอปริวัตรวันที่11พย.ที่ผ่านมา ผมหอบเอาทุกประวัติการรักษาไปด้วยวันนั้น
คุณหมอปริวัตรใจดีและให้คำปรึกษาที่ละเอียดและชัดเจนดีมาก ผมรู้สึกอุ่นใจว่าเราน่าจะฝากชีวิตเราให้คุณหมอปริวัตรช่วยดูแลได้ ยังมีคุณปู พยาบาลจากวอร์ดหัวใจ คุณส้มฝ่ายดูแลเรื่องการเคลมประกัน ก็ได้มาพูดคุยและให้การแนะนำต่างๆ ค่าใช้จ่ายหัตถการจี้ไฟฟ้าแบบสามมิติ ประเมินที่ 295,000บาท (+/-) ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอกสองแสนเก้าหมื่นห้าพันบาท เทียบกับราคารพ.แรกที่715,000บาทแล้วก็ต่างกันแบบน่าตกใจอยู่ ผมเลยตัดสินใจทำจี้ไฟฟ้าเมื่อวันเสาร์ที่16 พย ที่ผ่านมา
วันที่16 ผมมาถึงรพ. 9โมงเช้า งดน้ำและอาหารหลัง 9โมงเช้า คุณพยาบาลพาไปห้องพัก ก็มีวัดความดัน เจาะเลือด ให้น้ำเกลือ ทำความสะอาดด้วยการโกนขนตรงขาหนีบ ตอนเริ่มทำก็จะมีการแปะแผ่นเจล รอบลำตัวและอก มีสายอะไรมาจิ้มมาแปะตามตัวเต็มไปหมด คุณหมอเริ่มจากฉีดยาชา 2เข็ม ก็เจ็บจี๊ดๆ และก็เริ่มสอดสายเข้าไป คุณหมอจะบอกทุกขั้นตอนว่าจะทำอะไร กำลังสอดสายนะ กำลังจะยิงคลื่นแล้วนะอะไรแบบนี้คุณหมอบอกว่าของผมสอดสายเข้าไปก็เจอจุดที่ผิดปกติเลย ไม่ต้องใช้ยากระตุ้นให้หัวใจแสดงอาการ และที่สำคัญคือผมเป็นเยอะมาก เยอะมากกว่ากราฟที่แสดงผลใน Exercise Stress Test reportซะอีก ตอนยิงคลื่นก็ร้อนๆที่อก รู้สึกตื้อๆที่อกด้วย แต่ก็ทนได้ครับ เพราะอยากหาย 555555 คุณพยาบาลจะคอยถามตลอดว่าทนไหวไหมอะไรแบบนี้ ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ทำเสร็จก็รอเช็คผลอีก 20นาที จึงออกจากห้องหัตถการ กลับไปห้องพักได้ จากนั้นนอนพัก 4ชั่วโมง โดยห้ามชันขาขวา กระดิกขา ยกขา ให้นอนนิ่งๆเลย ผมก็ทานข้าวบนเตียง และปัสสาวะใส่คอมฟอร์ทร้อยบนเตียงเลยครับ รุ่งขึ้นถึงจะเริ่มเดินได้ ตอนนี้กลับมาพักต่อที่บ้านแล้ว ก็ต้องระวังแผลไม่ให้ติดเชื้อ ห้ามเดินเยอะ ห้ามขับรถสักอาทิตย์นึง ผมมีนัด follow upอีกทีวันที่30พย.
จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า
1. โรคนี้เหมือนระเบิดเวลาที่อยู่ในตัวเรา วันร้ายคืนร้ายก็จะแสดงผลจนเราน็อคและเสียชีวิตทันทีเหมือนกรณี Godfrey Gao นักแสดงชาวไต้หวัน-
แคนาดา ที่เสียชีวิตไปเมื่อ27พย.ที่ผ่านมา ซึ่งผมเป็นอาการแบบเดียวกับGodfreyคือ ventricular tachycardia (หัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ)
2. การทำประกันสุขภาพ และมีตัวแทนประกันชีวิตที่ดีและเอาใจใส่เราเป็นสิ่งจำเป็น(มาก) สิ่งนี้จะช่วยเราได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียวเมื่อเวลาจำเป็นมาถึง
3. การตรวจร่างกายประจำปี เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทุกขั้นตอนสามารถตรวจจับความผิดปกติให้เรารับรู้ และเดินหน้าดูแลรักษาได้ทันเวลา
4. การหา second opinion เป็นสิ่งที่ต้องทำ
5. การหาข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็น เช็คข้อมูลให้ละเอียด ปรึกษาแพทย์หรือผู้ที่มีประสบการณ์จากการทำหัตถการหรือการผ่าตัดนั้นๆ จะได้ข้อมูลที่เป็นจริง
และถูกต้อง
ผมประทับใจตัวคุณหมอปริวัตร และทีมงานรพ.เวชธานีทุกคนที่ดูแลผมเป็นอย่างดี แบบมืออาชีพ ทุกขั้นตอน ไม่ละเลยแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย ค่าใช้จ่ายก็สมเหตุสมผลมากๆเมื่อเทียบกับรพ.อื่นๆ ประกันผมครอบคลุมค่าใช้จ่ายหมด มีจ่ายส่วนเกิน 130บาทค่า comfort100 แค่นั้น ^^
เพื่อนๆที่เป็นโรคนี้อยู่ก็รีบหาข้อมูล รีบรักษานะครับ เพราะอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว ผมเคยได้รับโอกาสในการได้รับคำปรึกษาจากคนที่ผมไม่เคยรู้จักจากการทักคุณมกราไปทางFacebook inbox ตอนนี้ผมหายขาดแล้วและผมก็อยากให้คนอื่นๆได้รับโอกาสนี้บ้าง ถ้าอยากพูดคุยเพิ่มเติมกับผมก็อินบ๊อกมาได้ครับ ยินดีให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ
ขอบคุณครับ