ความน่าสงสารของอาจารย์มหาวิทยาลัยในยุค ปัจจุบัน
ก่อนอื่นใด อยากให้เพื่อนๆลองอ่านบทความนี้นะครับ อาจจะเป็นบทความที่ยาวสักหน่อย แต่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันจริงแสนจริง ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว สมัยนั้นผมยัง เป็นวัยรุ่น จำได้ว่า มีข่าวหนังสือพิมพ์พาดหัว หน้าหนึ่งว่า โชเฟอร์แท็กซี่ถูกแทงตายดับอนาถ เมีย ร่ำไห้ เผยผัวเป็นดร.อาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำ ต้องมาขับแท็กซี่หารายได้เสริม เพราะ เงินเดือนไม่พอ ใช้จ่าย ( คุณภาพชีวิตก็ไม่ได้ดีอะไร คือไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ) ในตอนนั้นผมได้ยินข่าวนี้ผมตกใจมาก เพราะผมรู้สึกว่า คนที่เรียนจบด็อกเตอร์เป็นอาจารย์สอนในระดับมหาวิทยาลัย ให้ความรู้คนมากมาย นักเรียนทำไมถึงมีชีวิตอย่างนี้ เมื่ออ่านเนื้อความในหัวข้อข่าวจบ ผมก็พบว่าเขาไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย เพียงแต่มีบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง ขับรถเก่าๆคันนึงเท่านั้น จนเมื่อผมโตขึ้น โลกกว้างขึ้น ผมพบว่า คุณภาพชีวิตของอาจารย์มหาวิทยาลัย ในประเทศไทยนั้น มันช่างต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แตกต่างกับอาจารย์มหาวิทยาลัย ในต่างประเทศ ชนิดไม่เห็นฝุ่น ผมรู้สึกแปลกใจ ไม่ใช่แต่เฉพาะ คุณภาพชีวิตของอาจารย์มหาวิทยาลัยเท่านั้น ยังรวมไปถึง ครูอาจารย์ในระดับต่างๆอีกด้วย ผมรู้สึกว่า หากคุณต้องการให้ ระบบการศึกษาในประเทศ มีคุณภาพ เพื่อให้ประชากร มีศักยภาพ ที่จะพัฒนาตัวเองให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อทุกวันนี้เราก็รู้อยู่ว่า อาชีพการเป็นครูอาจารย์ในประเทศไทยนั้น เป็นอาชีพหนึ่งที่ ติดอันดับการมีภาระหนี้ท่วมท้น คุณภาพชีวิตต้องเรียกได้ว่า อยู่ได้ด้วยการกู้เงินฉุกเฉิน กันแทบทุกเดือน ผมรู้สึกว่าหากเราไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ ความหวังที่จะยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทย คงต้องใช้คำว่า ไกลเกินเอื้อม อย่างแน่นอน โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาชีพนี้ แต่บอกตรงๆว่าพอเห็นบทความนี้อ่านจบแล้ว รู้สึกอเนจอนาถใจเหลือเกินครับ เลยอยากชวนเพื่อนๆมาคุยเรื่องนี้กันครับ
อยากชวนเพื่อนๆมาสนทนาเรื่องของคุณภาพชีวิตของอาจารย์มหาวิทยาลัย กลับว่ามันน่าสงสารแค่ไหน
ก่อนอื่นใด อยากให้เพื่อนๆลองอ่านบทความนี้นะครับ อาจจะเป็นบทความที่ยาวสักหน่อย แต่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันจริงแสนจริง ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว สมัยนั้นผมยัง เป็นวัยรุ่น จำได้ว่า มีข่าวหนังสือพิมพ์พาดหัว หน้าหนึ่งว่า โชเฟอร์แท็กซี่ถูกแทงตายดับอนาถ เมีย ร่ำไห้ เผยผัวเป็นดร.อาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำ ต้องมาขับแท็กซี่หารายได้เสริม เพราะ เงินเดือนไม่พอ ใช้จ่าย ( คุณภาพชีวิตก็ไม่ได้ดีอะไร คือไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ) ในตอนนั้นผมได้ยินข่าวนี้ผมตกใจมาก เพราะผมรู้สึกว่า คนที่เรียนจบด็อกเตอร์เป็นอาจารย์สอนในระดับมหาวิทยาลัย ให้ความรู้คนมากมาย นักเรียนทำไมถึงมีชีวิตอย่างนี้ เมื่ออ่านเนื้อความในหัวข้อข่าวจบ ผมก็พบว่าเขาไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย เพียงแต่มีบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง ขับรถเก่าๆคันนึงเท่านั้น จนเมื่อผมโตขึ้น โลกกว้างขึ้น ผมพบว่า คุณภาพชีวิตของอาจารย์มหาวิทยาลัย ในประเทศไทยนั้น มันช่างต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แตกต่างกับอาจารย์มหาวิทยาลัย ในต่างประเทศ ชนิดไม่เห็นฝุ่น ผมรู้สึกแปลกใจ ไม่ใช่แต่เฉพาะ คุณภาพชีวิตของอาจารย์มหาวิทยาลัยเท่านั้น ยังรวมไปถึง ครูอาจารย์ในระดับต่างๆอีกด้วย ผมรู้สึกว่า หากคุณต้องการให้ ระบบการศึกษาในประเทศ มีคุณภาพ เพื่อให้ประชากร มีศักยภาพ ที่จะพัฒนาตัวเองให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อทุกวันนี้เราก็รู้อยู่ว่า อาชีพการเป็นครูอาจารย์ในประเทศไทยนั้น เป็นอาชีพหนึ่งที่ ติดอันดับการมีภาระหนี้ท่วมท้น คุณภาพชีวิตต้องเรียกได้ว่า อยู่ได้ด้วยการกู้เงินฉุกเฉิน กันแทบทุกเดือน ผมรู้สึกว่าหากเราไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ ความหวังที่จะยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทย คงต้องใช้คำว่า ไกลเกินเอื้อม อย่างแน่นอน โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาชีพนี้ แต่บอกตรงๆว่าพอเห็นบทความนี้อ่านจบแล้ว รู้สึกอเนจอนาถใจเหลือเกินครับ เลยอยากชวนเพื่อนๆมาคุยเรื่องนี้กันครับ