คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เพื่อนคุณเป็นคนเก่ง เป็นคนทำงานได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพ ส่งงานรวดเร็ว และแม่นยำ
แนะนำเพื่อนแบบนี้นะครับ
ให้ทำงานของตัวเองต่อไป อย่างเต็มที่เต็มกำลัง ทำ "เท่าที่จะรับมาทำได้" มันมีเทคนิคการปฎิเสธง่ายๆแบบนี้ครับ หากมีงานที่ต้องรับเพิ่มจากงานในหน้าที่ของตัวเอง ให้บอกหัวหน้าไปก่อนที่จะรับมาทำเลยครับ ว่าจะสามารถทำเสร็จได้ในระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้ ตามความเป็นจริงที่เราประเมินว่าทำได้จริงน่ะครับ
ไม่ต้องไปสนใจอะไรหรอกครับ ว่าอยู่เป็น หรืออยู่ไม่เป็น ประโยชน์ของการทำงาน มันไม่ใช่แค่เงินเดือนๆหนึ่งที่ได้รับนะครับ แต่มันคือความชำนาญและความเชี่ยวชาญในงานนั้นๆด้วย ในอนาคตเพื่อนคุณจะเป็นคนที่เก่งขึ้น มีคุณค่า และเป็นที่ต้องการองค์กร ...นี้ หรือองค์กรในอนาคต เพื่อนคุณสามารถเติบโตได้ไม่ยากเลยครับ
บางคนที่คิดหลบๆหลีกๆ ทำตัวขี้เกียจ แล้วบอกว่าอยู่เป็น นี่คือ อยู่เป็นจริง ครับ แต่อยู่ได้ไม่นานหรอก ....
แนะนำเพื่อนแบบนี้นะครับ
ให้ทำงานของตัวเองต่อไป อย่างเต็มที่เต็มกำลัง ทำ "เท่าที่จะรับมาทำได้" มันมีเทคนิคการปฎิเสธง่ายๆแบบนี้ครับ หากมีงานที่ต้องรับเพิ่มจากงานในหน้าที่ของตัวเอง ให้บอกหัวหน้าไปก่อนที่จะรับมาทำเลยครับ ว่าจะสามารถทำเสร็จได้ในระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้ ตามความเป็นจริงที่เราประเมินว่าทำได้จริงน่ะครับ
ไม่ต้องไปสนใจอะไรหรอกครับ ว่าอยู่เป็น หรืออยู่ไม่เป็น ประโยชน์ของการทำงาน มันไม่ใช่แค่เงินเดือนๆหนึ่งที่ได้รับนะครับ แต่มันคือความชำนาญและความเชี่ยวชาญในงานนั้นๆด้วย ในอนาคตเพื่อนคุณจะเป็นคนที่เก่งขึ้น มีคุณค่า และเป็นที่ต้องการองค์กร ...นี้ หรือองค์กรในอนาคต เพื่อนคุณสามารถเติบโตได้ไม่ยากเลยครับ
บางคนที่คิดหลบๆหลีกๆ ทำตัวขี้เกียจ แล้วบอกว่าอยู่เป็น นี่คือ อยู่เป็นจริง ครับ แต่อยู่ได้ไม่นานหรอก ....
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ฟังแล้วเหมือนพี่สาวผมเลยครับ ผมให้คำแนะนำไปแบบนี้ วิธีแก้คือ เมื่อเจ้านายจ่ายงานมาให้คุณ ให้คุณจ่ายงานต่อให้คนอื่นที่เหมาะสมกับงานนั้นทำ
และเมื่องานเสร็จแล้ว ให้คุณเอางานมาตรวจทานอีกที ดูความถูกต้องเรียบร้อย แล้วค่อยนำส่งให้เจ้านาย พอทำแบบนี้ไปได้ซักพัก
คุณค่อยบอกเจ้านายว่า งานชิ้นนั้น พี่คนนี้เป็นคนทำ งานชิ้นโน้น น้องคนนั้นเป็นคนทำ งานชิ้นนี้ คุณทำเอง แบบนี้ทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่รู้สึกว่า
โดนคุณเอาผลงานเขาไปเอาหน้า แล้วต่อไปก้อบอกเจ้านายว่า ส่งงานไปให้พวกเขาทำได้เลย แล้วเดี๊ยวคุณจะเอางานมาตรวจทานอีกที
และเมื่องานเสร็จแล้ว ให้คุณเอางานมาตรวจทานอีกที ดูความถูกต้องเรียบร้อย แล้วค่อยนำส่งให้เจ้านาย พอทำแบบนี้ไปได้ซักพัก
คุณค่อยบอกเจ้านายว่า งานชิ้นนั้น พี่คนนี้เป็นคนทำ งานชิ้นโน้น น้องคนนั้นเป็นคนทำ งานชิ้นนี้ คุณทำเอง แบบนี้ทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่รู้สึกว่า
โดนคุณเอาผลงานเขาไปเอาหน้า แล้วต่อไปก้อบอกเจ้านายว่า ส่งงานไปให้พวกเขาทำได้เลย แล้วเดี๊ยวคุณจะเอางานมาตรวจทานอีกที
แสดงความคิดเห็น
เพื่อนขอคำปรึกษา กรณีลูกน้องที่ทำงานดี รวดเร็ว ถูกใจเจ้านาย จนเจ้านายไม่กระจายงานให้คนอื่น
รู้ตัวอีกทีเพื่อนคนนี้ก็หลวมตัวรับงานมามากมาย ทั้งๆที่บางงาน ไม่ใช่หน้าที่รับผิดชอบโดยตรงด้วยซ้ำ กลายเป็นว่าทำงานเยอะ งานโหลดจนเครียดไปหมด ทั้งงานประจำและงานอื่นๆที่นอกเหนือจากงานประจำที่เจ้านายมอบหมายใช้สอยเป็นกรณีพิเศษ
..พอได้ฟังเรื่องนี้ ทำให้ จขกท.นึกขึ้นได้ว่า ตัว จขกท.เองก็เคยทำตัวอย่างเจ้านายคนนี้เหมือนกันนะคะ ที่ไว้ใจใคร ถูกใจใคร ก็มักจะชอบเรียกใช้แต่คนเดิมๆซ้ำๆ จนไม่ทันได้คิดว่า ปริมาณงานของคนคนนั้นจะมากเกินไปไหม ด้วยความเร่งเอางาน บวกกับความเคยชินและเคยตัว จึงไม่ได้คิดกระจายงานให้คนอื่นบ้างเลยเหมือนกัน เอาสะดวก เอาเร็วเข้าว่า
..เบื้องต้น จขกท.บอกเพื่อนว่าให้คุยกับเจ้านาย และให้รู้จักปฏิเสธบ้าง ไม่ใช่รับมาหมด แต่เพื่อนกลับเกรงใจ กลัวหักหาญเจ้านาย กลัวเจ้านายไม่พอใจ คุยไปคุยมา เพื่อนก็คงทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาทำงานที่ได้รับมอบหมายต่อไป ฟังดูเหนื่อยแทนเลยค่ะ
กรณีแบบนี้ คนวัยทำงานโดยทั่วไป ทั้งในฐานะหัวหน้างาน หรือลูกน้อง น่าจะเคยเจอะเจอมาเหมือนกันใช่ไหมคะ ไม่ทราบว่าคุณมีวิธีการบริหารจัดการอย่างไรบ้างคะ ช่วยแชร์ประสบการณ์และแนะนำด้วยนะคะ