คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับประเทศเรา ปัจจุบัน คนที่มีใบขับขี่แต่ไม่สามารถขับรถได้ มีเยอะ พอ ๆ กับ คนที่ขับรถได้ แต่ไม่มีใบขับขี่ !!!!!!
คนที่มีใบขับขี่ถ้าเรียนผ่าน โรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมขนส่งทางบก เรียน 15 ชม. รวม อบรม 5 ชม. เท่ากับ ได้เรียนภาคปฏิบัติ 10 ชม. !!!! ใน 10 ชม. คงจะยากสำหรับหลาย ๆ คนที่จะขับรถได้คล่องเลย แล้วสอบผ่านได้ใบขับขี่มาได้อย่างไร หลัก ๆ โรงเรียนจะสอนพื้นฐานการใช้รถ การบำรุงดูแลรักษา การบังคับรถเข้าท่าสอบ ใช้ คันเร่ง เบรค ซึ่งเป็นพื้นฐานจริง ๆ แต่เป็นพื้นฐาน ที่ถูกต้อง และ ปลอดภัยในการออกไปใช้รถใช้ถนน ที่เหลือก็ต้องไปฝึกเพิ่มเติม โดยฝึกขับบ่อย ๆ
ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า เงื่อนไขของการสอบใบขับขี่สำหรับประเทศเรามีอะไรบ้าง เอาคร่าว ๆ ก็แค่มีอายุครบ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นโรคที่ได้ระบุไว้ สามารถนำรถเข้าท่าสอบที่กรมกำหนดไว้ 3 ท่า แล้วก็สอบ ทฤษฏี ให้ผ่านเกินเกณฑ์ ที่กำหนด แค่นี้ ก็ได้ใบขับขี่แล้วครับ
ทำไมท้องถนนประเทศเราความปลอดภัยจึงมีน้อย ก็คงจะหลาย ๆ อย่างรวมกัน เช่น ผู้ขับขี่ รถ ถนน สิ่งแวดล้อม รวมถึงการบังคับใช้กฏหมาย แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็ อธิบายไม่หมดแล้วครับ
กับคำที่ว่า ใบขับขี่ ไม่ใช่เครื่องมือที่ยืนยันตัวตนว่าคุณรู้วิธีขับขี่ที่ปลอดภัยหรอกหรอ (คำนี้ใช้ได้กับประเทศที่ก่อนจะได้ใบขับขี่ คุณต้องเรียนผ่านโรงเรียนสอนขับรถเท่านั้น และ ได้รับรองการประเมินว่าผ่าน สามารถขึ้นไปใช้รถ ใช้ถนนได้ ซึ่งประเทศเหล่านั้น สอนกันที่ 200 - 300 ชม. เวลาขนาดนี้ผมว่าขับรถได้คล่องรวมถึงการต้องเคารถกฏจราจร ไม่ทำผิดกฏ เพราะคนสอนจะต้องประเมินตลอด ส่วนค่าเรียนไม่ต้องพูดถึง )
บ้านเรายังไม่ถึงขนาดนั้น จริง ๆ กรมขนส่งก็อยากจะทำนั่นแหล่ะครับ แต่คงจะต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไป บังคับทีเดียวดูท่าจะยาก
แค่เรา "คำนึงถึงปลอดภัยของตนเองให้มาก ๆ " แค่นี้ ก็จะทำให้ถนนปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นแล้วครับ ^_^
คนที่มีใบขับขี่ถ้าเรียนผ่าน โรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมขนส่งทางบก เรียน 15 ชม. รวม อบรม 5 ชม. เท่ากับ ได้เรียนภาคปฏิบัติ 10 ชม. !!!! ใน 10 ชม. คงจะยากสำหรับหลาย ๆ คนที่จะขับรถได้คล่องเลย แล้วสอบผ่านได้ใบขับขี่มาได้อย่างไร หลัก ๆ โรงเรียนจะสอนพื้นฐานการใช้รถ การบำรุงดูแลรักษา การบังคับรถเข้าท่าสอบ ใช้ คันเร่ง เบรค ซึ่งเป็นพื้นฐานจริง ๆ แต่เป็นพื้นฐาน ที่ถูกต้อง และ ปลอดภัยในการออกไปใช้รถใช้ถนน ที่เหลือก็ต้องไปฝึกเพิ่มเติม โดยฝึกขับบ่อย ๆ
ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า เงื่อนไขของการสอบใบขับขี่สำหรับประเทศเรามีอะไรบ้าง เอาคร่าว ๆ ก็แค่มีอายุครบ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นโรคที่ได้ระบุไว้ สามารถนำรถเข้าท่าสอบที่กรมกำหนดไว้ 3 ท่า แล้วก็สอบ ทฤษฏี ให้ผ่านเกินเกณฑ์ ที่กำหนด แค่นี้ ก็ได้ใบขับขี่แล้วครับ
ทำไมท้องถนนประเทศเราความปลอดภัยจึงมีน้อย ก็คงจะหลาย ๆ อย่างรวมกัน เช่น ผู้ขับขี่ รถ ถนน สิ่งแวดล้อม รวมถึงการบังคับใช้กฏหมาย แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็ อธิบายไม่หมดแล้วครับ
กับคำที่ว่า ใบขับขี่ ไม่ใช่เครื่องมือที่ยืนยันตัวตนว่าคุณรู้วิธีขับขี่ที่ปลอดภัยหรอกหรอ (คำนี้ใช้ได้กับประเทศที่ก่อนจะได้ใบขับขี่ คุณต้องเรียนผ่านโรงเรียนสอนขับรถเท่านั้น และ ได้รับรองการประเมินว่าผ่าน สามารถขึ้นไปใช้รถ ใช้ถนนได้ ซึ่งประเทศเหล่านั้น สอนกันที่ 200 - 300 ชม. เวลาขนาดนี้ผมว่าขับรถได้คล่องรวมถึงการต้องเคารถกฏจราจร ไม่ทำผิดกฏ เพราะคนสอนจะต้องประเมินตลอด ส่วนค่าเรียนไม่ต้องพูดถึง )
บ้านเรายังไม่ถึงขนาดนั้น จริง ๆ กรมขนส่งก็อยากจะทำนั่นแหล่ะครับ แต่คงจะต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไป บังคับทีเดียวดูท่าจะยาก
แค่เรา "คำนึงถึงปลอดภัยของตนเองให้มาก ๆ " แค่นี้ ก็จะทำให้ถนนปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นแล้วครับ ^_^
แสดงความคิดเห็น
มีใบขับขี่แต่ขับรถไม่เป็น ?
แค่หมุนพวงมาลัยให้ล้อตรงยังทำไม่ได้เลย ก็เลยสงสัยถ้าจะขนาดนี้มันได้ใบขับขี่มาได้ไง
ถ้าได้ใบขับขี่มาแบบฟรุ๊คๆ สุดท้าย ใบขับขี่ ก็เป็นแค่เครื่องหมายกันตำรวจแค่นั้นเองหรอ
ไม่ใช่ว่า ใบขับขี่ คือ เครื่องมือยืนยันตัวตนว่าคุณรู้วิธีขับขี่ได้อย่างดีและปลอดภัยแล้ว หรอกหรอ
อย่างส่วนตัวผม เมื่อ 6-7 ปีที่แล้วผมก็ฝึกขับรถในซอย พาหลานไปโรงเรียนหมู่บ้าน ก็ขับจนชิน ทำแบบนี้เกือบทุกวันเกือบปี จนตอนนี้เรียนจบแล้วมีงานที่ต้องใช้รถออกถนนทางหลวง
ก็เลยตัดสินใจที่จะไปเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถเอกชน แล้วก็ได้ใบขับขี่มา ทุกวันนี้ก็ขับคร่องเลย
คือที่ออกมาตั้งคำถามคือตอนไปทำงานทุกเช้าก็จะเห็นรถที่มันไม่ดูตามาตาเรือ คิดจะออกจากปากซอยก็ออก ไม่ได้ดูรถทางเอกเล้ยย
ไม่ใช่ว่าเราไม่มีน้ำใจบนทางถนนนะ แต่นี้เราขับมาในสถานการณ์ที่มันกระชั้นชิดมาก แล้วจู่ๆก็ขับออกจากซอยไม่เบรคดูรถขับปาดหน้าออกไปเฉยเลย