การเดินทางครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว หลังจากตอนแรกวางแผนว่าจะดูใบไม้เปลี่ยนสีอยู่แถวๆโตเกียว แต่ว่าช่วงนี้ใบไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสี เลยไปแถบโทโฮคุแทน เพราะยังไม่เคยไปและช่วงนี้ใบไม้แถบนี้มีหลายจุดที่สวยงามมากๆ
รอบนี้ บินไปกับสายการบินVietnam Airlines ซึ่งต้องเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินที่ฮานอย
เดินทางออกจากสนามบินฮานอยเที่ยวบิน VN310 เวลา 23:30น.ถึงสนามบินนาริตะ 7:00 น. แวะเอา JR EAST PASS ฉบับจริง ที่ JR EAST INFORMATION (สั่งซื้อผ่านKlook)
**พาสนี้ใช้ได้ 5 วันภายใน 14 วัน**
วันแรกของการเดินทางเปิดใช้พาสเลย
3 พ.ย.62 เดินทางจาก สนามบินนาริตะ มุ่งไปยังอาโอโมริไปถึงก็ค่ำพอดี แวะมาดูสะพานแขวนที่สถานี Aomori
จากสถานี Shin-Aomori นั่งรถไฟท้องถิ่นไปยังสถานีHirosaki เพื่อไปยังที่พัก
Smile hotel
วันที่ 4 พ.ย.62 เดินทางไปเที่ยวแถวปราสาทฮิโรซากิซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักสามารถเดินไปได้
ก่อนจะเข้าชมตัวปราสาทหรือสวนต่างๆเราต้องซื้อตั๋วเข้าไปราคาก็แล้วแต่ว่าเราจะเข้าจุดไหนบ้าง
[img]
https://f.ptcdn.info/907/066/000/q12cm8376nQLKSoGwUJA-o.jpg[/img
ตอนแรกวางแผนว่าจะไปเที่ยวสวนแอ๊ปเปิ้ลแต่ว่ากลัวไม่ทันเพราะต้องกลับที่พักที่เซ็นไดระหว่างทางที่กลับไปสถานีรถไฟนั้นเราก็เจอต้นแอ๊ปเปิ้ลหลายต้นเลย
แถวๆนั้นก็มีร้านขายแอ๊ปเปิ้ลเยอะเลย ทั้งแบบมีคนเฝ้าหรือซื้อเองโดยเอาเงินหยอดใส่กระปุกเอง
หลังจากนั้นก็เดินทางจากสถานีHirosaki ไปยังสถานี Shin-Aomori แล้วต่อชินคันเซ็นไปยังสถานีเซ็นได พักที่เซ็นไดหนึ่งคืน
วันที่ 5 พ.ย. 62
ออกเดินทางแต่เช้าจากสถานีเซ็นไดไปยังสถานี Koriyama แล้วต่อรถไฟท้องถิ่นไปยังสถานี Aizu-Wakamatsu เพื่อเอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม
เป้าหมายวันนี้คือ หมู่บ้านOcchi-Juku กับโตรกผาที่สถานี Toh-no-hetsuri
เดินทางจากสถานีAizu-Wakamtsu ไปยังสถานีYuno kami onsen ตรงจุดนี้เจ้าหน้าที่จะให้เราแวะซื้อตั๋วก่อน ซึ่งตั๋วนี้ครอบคลุมทั้งรถไฟและรถบัส
จากนั้นก็ไปลงที่สถานีToh-no-hetsuri
เดินทางเข้าไปประมาณ500เมตร
ถึงแล้ว
หลังจากที่ชื่นชมกับธรรมชาติก็หาของกินแถวนั้น
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟย้อนกลับไปที่สถานี Yonokami onsen เพื่อจะขึ้นรถบัสไปยัง Ouchi-Juku
โดยที่รถบัสจะอยู่ทางซ้ายมือมี ป้ายบอกเวลารถออก ส่วนทางขวามือจะมีบ่อออนเซ็นไว้สำหรับแช่เท้าซึ่งหากรถบัสยังไม่มาเราสามารถไปแช่รอเวลาก่อนก็ได้
หลังจากที่รถบัสมาเจ้าหน้าที่จะตรวจตั๋วแล้วให้ตารางรถ ที่ออกจากOuchi-Juku เพื่อให้เราแจ้งเวลาขากลับ
**จุดรอรถบัส**
**ตารางรถบัสจาก Ouchi-Juku (แถวบน)- Yunokami onsen (แถวล่าง)
ปกติไปกลับจะใช้เวลาเที่ยวละ 20 นาที แต่รอบที่7 ใช้เวลา45นาทีตอนแรก คิดว่าพิมพ์ผิด ที่ไหนได้คือกลับอีกเส้นทาง โดยแวะชมต้นเมเปิ้ลอายุประมาณ600กว่าปี กับ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถดื่มได้
ถึงแล้วครับ น่าจะคล้ายๆหมู่บ้านโบราณมีร้านอาหารและขายของที่ระลึกเยอะแยะเลย
หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พัก
วันที่ 6 พ.ย.62
เดินทางจากสถานีรถไฟ Aizu-Wakamatsu เที่ยว เวลา 6.00น. ถึงสถานี Tadami เวลา 7.30 น.
รถบัสที่จะไปยังจุดชมวิวมีเพียงรอบเดียวคือ 8.10 น.ซึ่งรถจะจอดที่หน้าสถานีรถไฟ ค่ารถ ขาไปให้จ่ายกับคนขับได้เลยครับ
ผู้ใหญ่ 500 ¥ เด็กต่ำกว่า 12 ปี 300 ¥
เดินทางประมาณ 20 นาทีก็ถึงจุดหมาย
ก่อนที่จะไปยังจุดชมวิวรถไฟสายทาดามิ ถ้าจะกลับกับรถบัสให้แวะเขียนใบจองตรงประชาสัมพันธ์ก่อนนะครับ โดยมีรอบกลับเพียง 2 รอบคือ 10.30 น. ( จองก่อน 9.00 น.)
รอบ 13.30 น.(จองก่อน 12.00 น.) แต่ถ้าลืมก็สามารถเดินกลับไปยังสถานีรถไฟได้ครับ
**ใบจองรถบัสขากลับ**
ก่อนจะถึงจุดชมวิวก็จะมีป้ายประชาสัมพันธ์บอกว่าจุดไหนถ่ายรูปออกมาจะได้รูปแบบไหน ซึ่งมีจุดด้วยกัน 4 จุดคือ A B C D
ช่วงที่ไปฝนตกนิดหน่อย ทางค่อนข้างชัน ลื่น แต่ว่า มีเจ้าหน้าที่คอยขุดดินที่ลื่นๆออกให้ตลอด
ทุกจุดก็จะมีช่างถ่ายถาพตั้งกล้องกันรออยู่ส่วนจุด D นี่คนเยอะที่สุด
รถไฟที่ผ่านอุโมงก็คือรถไฟสายที่เรานั่งมานั่นแหละ รอบนี้จะเห็นรถไฟผ่านประมาณ 9.10 น. (ขามา) และขากลับหลังจากนี้ประมาณ15นาที แต่อย่างไรก็ตามควรเช็คตารางรถไฟอีกครั่งเพื่อความแน่นอน
หลังจากถ่ายรูปเรียบร้อยแล้วก็มารอรถบัสเพื่อเตรียมตัวกลับ พึ่งรู้ว่าต้องจองก่อน 9 โมงเพื่อจะได้กลับรอบ 10.30 น. จะรออีกรอบก็จะไม่ทันรถไฟรอบ 13.00 น.จึงพากันเดินกลับ(เจอคนไทยด้วยกัน) ทั้งหมด 6 คน ครอบครัวนี้3 คน พี่สาวคนสวย พี่ชายคนดี (ของลูกสาวที่พึ่งเจอกันที่สถานีรถไฟ)กับหนุ่มสวนทุเรียนระยอง(อุปกรณ์กล้องเลนส์พร้อมมากๆ)
ระหว่างเดินทางกลับสถานีรถไฟ ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ
หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พัก
วันที่ 7 พ.ย.62
หลังจากcheck out ขึ้นรถไฟที่สถานี Aizu-Wakamatsu ไปยังสถานี Inawashiro
ทีแรกว่าจะฝากกระเป๋าที่ล๊อคเกอร์ที่สถานีรถไฟแต่ว่ารถบัสใกล้จะออกแล้วก็เลยบากกระเป๋าไปด้วยเลย
การจ่ายค่าโดยสาร บัตร IC card ใช้ไม่ได้ครับ ตอนที่เราขึ้นรถจะมีตั๋วหมายเลขสถานีบอกจากจุดเริ่มต้นที่สถานีรถไฟจะขึ้นหมายเลข 1 พอรถออกไปเรื่อยๆตรงจอหน้ารถก็จะบอกราคาไปเรื่อยๆพอเราจะลงก็ใส่ ตั๋วพร้อมเงินลงไปตรงกล่องข้างๆคนขับรถครับ ถึงสถานี
Goshikinuma แล้วแวะฝากกระเป๋าที่จุดประชาสัมพันธ์ เปิดเวลา 9.00น.-17.00น. ค่าฝาก200¥โดยแลกเหรียญที่เจ้าหน้าที่แล้วเอาใส่กระเป๋าใส่ล๊อคเกอร์ได้เลย
ตารางรถ กับแผนที่บึง 5 สี
ด้วยเวลาจำกัดได้แวะแค่บึงเดียวแต่ถ้าใครมีเวลาก็เก็บให้ได้ทุกสีนะครับ
และไฮไลต์ของที่บึงสีฟ้านี้ก็คือปลาที่มีรูปหัวใจครับ
ได้เวลากลับแล้วนั่งรถบัสมาลงสถานีGoshikinuma แล้วนั่งรถไฟมาสถานีKoriyama มาลงสถานีUeno ไปยังที่พักแถวอาซากุสะ
สำหรับคนที่พาเด็กๆมาด้วยแถวนี้ก็มีที่เล่นอยู่นะครับ
วันที่ 8 พ.ย. 62 เดินทางกลับแล้วครับ
รีวิวเที่ยว ญี่ปุ่น ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแถบโทโฮคุ 3 - 8 พฤศจิกายน 2562
การเดินทางครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว หลังจากตอนแรกวางแผนว่าจะดูใบไม้เปลี่ยนสีอยู่แถวๆโตเกียว แต่ว่าช่วงนี้ใบไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสี เลยไปแถบโทโฮคุแทน เพราะยังไม่เคยไปและช่วงนี้ใบไม้แถบนี้มีหลายจุดที่สวยงามมากๆ
รอบนี้ บินไปกับสายการบินVietnam Airlines ซึ่งต้องเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินที่ฮานอย
เดินทางออกจากสนามบินฮานอยเที่ยวบิน VN310 เวลา 23:30น.ถึงสนามบินนาริตะ 7:00 น. แวะเอา JR EAST PASS ฉบับจริง ที่ JR EAST INFORMATION (สั่งซื้อผ่านKlook)
**พาสนี้ใช้ได้ 5 วันภายใน 14 วัน**
วันแรกของการเดินทางเปิดใช้พาสเลย
3 พ.ย.62 เดินทางจาก สนามบินนาริตะ มุ่งไปยังอาโอโมริไปถึงก็ค่ำพอดี แวะมาดูสะพานแขวนที่สถานี Aomori
จากสถานี Shin-Aomori นั่งรถไฟท้องถิ่นไปยังสถานีHirosaki เพื่อไปยังที่พัก
Smile hotel
วันที่ 4 พ.ย.62 เดินทางไปเที่ยวแถวปราสาทฮิโรซากิซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักสามารถเดินไปได้
ก่อนจะเข้าชมตัวปราสาทหรือสวนต่างๆเราต้องซื้อตั๋วเข้าไปราคาก็แล้วแต่ว่าเราจะเข้าจุดไหนบ้าง
[img]https://f.ptcdn.info/907/066/000/q12cm8376nQLKSoGwUJA-o.jpg[/img
ตอนแรกวางแผนว่าจะไปเที่ยวสวนแอ๊ปเปิ้ลแต่ว่ากลัวไม่ทันเพราะต้องกลับที่พักที่เซ็นไดระหว่างทางที่กลับไปสถานีรถไฟนั้นเราก็เจอต้นแอ๊ปเปิ้ลหลายต้นเลย
แถวๆนั้นก็มีร้านขายแอ๊ปเปิ้ลเยอะเลย ทั้งแบบมีคนเฝ้าหรือซื้อเองโดยเอาเงินหยอดใส่กระปุกเอง
หลังจากนั้นก็เดินทางจากสถานีHirosaki ไปยังสถานี Shin-Aomori แล้วต่อชินคันเซ็นไปยังสถานีเซ็นได พักที่เซ็นไดหนึ่งคืน
วันที่ 5 พ.ย. 62
ออกเดินทางแต่เช้าจากสถานีเซ็นไดไปยังสถานี Koriyama แล้วต่อรถไฟท้องถิ่นไปยังสถานี Aizu-Wakamatsu เพื่อเอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม
เป้าหมายวันนี้คือ หมู่บ้านOcchi-Juku กับโตรกผาที่สถานี Toh-no-hetsuri
เดินทางจากสถานีAizu-Wakamtsu ไปยังสถานีYuno kami onsen ตรงจุดนี้เจ้าหน้าที่จะให้เราแวะซื้อตั๋วก่อน ซึ่งตั๋วนี้ครอบคลุมทั้งรถไฟและรถบัส
จากนั้นก็ไปลงที่สถานีToh-no-hetsuri
เดินทางเข้าไปประมาณ500เมตร
ถึงแล้ว
หลังจากที่ชื่นชมกับธรรมชาติก็หาของกินแถวนั้น
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟย้อนกลับไปที่สถานี Yonokami onsen เพื่อจะขึ้นรถบัสไปยัง Ouchi-Juku
โดยที่รถบัสจะอยู่ทางซ้ายมือมี ป้ายบอกเวลารถออก ส่วนทางขวามือจะมีบ่อออนเซ็นไว้สำหรับแช่เท้าซึ่งหากรถบัสยังไม่มาเราสามารถไปแช่รอเวลาก่อนก็ได้
หลังจากที่รถบัสมาเจ้าหน้าที่จะตรวจตั๋วแล้วให้ตารางรถ ที่ออกจากOuchi-Juku เพื่อให้เราแจ้งเวลาขากลับ
**จุดรอรถบัส**
**ตารางรถบัสจาก Ouchi-Juku (แถวบน)- Yunokami onsen (แถวล่าง)
ปกติไปกลับจะใช้เวลาเที่ยวละ 20 นาที แต่รอบที่7 ใช้เวลา45นาทีตอนแรก คิดว่าพิมพ์ผิด ที่ไหนได้คือกลับอีกเส้นทาง โดยแวะชมต้นเมเปิ้ลอายุประมาณ600กว่าปี กับ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถดื่มได้
ถึงแล้วครับ น่าจะคล้ายๆหมู่บ้านโบราณมีร้านอาหารและขายของที่ระลึกเยอะแยะเลย
หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พัก
วันที่ 6 พ.ย.62
เดินทางจากสถานีรถไฟ Aizu-Wakamatsu เที่ยว เวลา 6.00น. ถึงสถานี Tadami เวลา 7.30 น.
รถบัสที่จะไปยังจุดชมวิวมีเพียงรอบเดียวคือ 8.10 น.ซึ่งรถจะจอดที่หน้าสถานีรถไฟ ค่ารถ ขาไปให้จ่ายกับคนขับได้เลยครับ
ผู้ใหญ่ 500 ¥ เด็กต่ำกว่า 12 ปี 300 ¥
เดินทางประมาณ 20 นาทีก็ถึงจุดหมาย
ก่อนที่จะไปยังจุดชมวิวรถไฟสายทาดามิ ถ้าจะกลับกับรถบัสให้แวะเขียนใบจองตรงประชาสัมพันธ์ก่อนนะครับ โดยมีรอบกลับเพียง 2 รอบคือ 10.30 น. ( จองก่อน 9.00 น.)
รอบ 13.30 น.(จองก่อน 12.00 น.) แต่ถ้าลืมก็สามารถเดินกลับไปยังสถานีรถไฟได้ครับ
**ใบจองรถบัสขากลับ**
ก่อนจะถึงจุดชมวิวก็จะมีป้ายประชาสัมพันธ์บอกว่าจุดไหนถ่ายรูปออกมาจะได้รูปแบบไหน ซึ่งมีจุดด้วยกัน 4 จุดคือ A B C D
ช่วงที่ไปฝนตกนิดหน่อย ทางค่อนข้างชัน ลื่น แต่ว่า มีเจ้าหน้าที่คอยขุดดินที่ลื่นๆออกให้ตลอด
ทุกจุดก็จะมีช่างถ่ายถาพตั้งกล้องกันรออยู่ส่วนจุด D นี่คนเยอะที่สุด
รถไฟที่ผ่านอุโมงก็คือรถไฟสายที่เรานั่งมานั่นแหละ รอบนี้จะเห็นรถไฟผ่านประมาณ 9.10 น. (ขามา) และขากลับหลังจากนี้ประมาณ15นาที แต่อย่างไรก็ตามควรเช็คตารางรถไฟอีกครั่งเพื่อความแน่นอน
หลังจากถ่ายรูปเรียบร้อยแล้วก็มารอรถบัสเพื่อเตรียมตัวกลับ พึ่งรู้ว่าต้องจองก่อน 9 โมงเพื่อจะได้กลับรอบ 10.30 น. จะรออีกรอบก็จะไม่ทันรถไฟรอบ 13.00 น.จึงพากันเดินกลับ(เจอคนไทยด้วยกัน) ทั้งหมด 6 คน ครอบครัวนี้3 คน พี่สาวคนสวย พี่ชายคนดี (ของลูกสาวที่พึ่งเจอกันที่สถานีรถไฟ)กับหนุ่มสวนทุเรียนระยอง(อุปกรณ์กล้องเลนส์พร้อมมากๆ)
ระหว่างเดินทางกลับสถานีรถไฟ ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ
หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พัก
วันที่ 7 พ.ย.62
หลังจากcheck out ขึ้นรถไฟที่สถานี Aizu-Wakamatsu ไปยังสถานี Inawashiro
ทีแรกว่าจะฝากกระเป๋าที่ล๊อคเกอร์ที่สถานีรถไฟแต่ว่ารถบัสใกล้จะออกแล้วก็เลยบากกระเป๋าไปด้วยเลย
การจ่ายค่าโดยสาร บัตร IC card ใช้ไม่ได้ครับ ตอนที่เราขึ้นรถจะมีตั๋วหมายเลขสถานีบอกจากจุดเริ่มต้นที่สถานีรถไฟจะขึ้นหมายเลข 1 พอรถออกไปเรื่อยๆตรงจอหน้ารถก็จะบอกราคาไปเรื่อยๆพอเราจะลงก็ใส่ ตั๋วพร้อมเงินลงไปตรงกล่องข้างๆคนขับรถครับ ถึงสถานี
Goshikinuma แล้วแวะฝากกระเป๋าที่จุดประชาสัมพันธ์ เปิดเวลา 9.00น.-17.00น. ค่าฝาก200¥โดยแลกเหรียญที่เจ้าหน้าที่แล้วเอาใส่กระเป๋าใส่ล๊อคเกอร์ได้เลย
ตารางรถ กับแผนที่บึง 5 สี
ด้วยเวลาจำกัดได้แวะแค่บึงเดียวแต่ถ้าใครมีเวลาก็เก็บให้ได้ทุกสีนะครับ
และไฮไลต์ของที่บึงสีฟ้านี้ก็คือปลาที่มีรูปหัวใจครับ
ได้เวลากลับแล้วนั่งรถบัสมาลงสถานีGoshikinuma แล้วนั่งรถไฟมาสถานีKoriyama มาลงสถานีUeno ไปยังที่พักแถวอาซากุสะ
สำหรับคนที่พาเด็กๆมาด้วยแถวนี้ก็มีที่เล่นอยู่นะครับ
วันที่ 8 พ.ย. 62 เดินทางกลับแล้วครับ