ACER NITRO 5 รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับสเปค Intel Core i5-8300H + NVIDIA GeForce GTX 1050 RAM 8GB + SSD 512GB ซึ่งอาจจะใช้โมเดลที่ไม่ได้ตัวลาสุดแต่ก็เป็นจุดที่ทำให้มันทำราคาได้เพียง 19,990 บาท แน่นอนว่าเป็นช่วงเรทราคาที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับหลายๆคนที่เริ่มตำในการหาคอมพิวเตอร์สายเกมมาใช้งานกันครับ และในรุ่นนี้สเปคที่ได้นั้นต้องบอกว่าเพียงพอทั้งหน้าจอ IPS และ ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อที่ค่อนข้างครบเลย ทำให้มันค่อนข้างน่าสนใจอย่างมากครับ ส่วนทางด้านการใช้งานจริงๆนั้นจะเป็นยังไงกันบ้างมาชมกันได้เลย
Acer Nitro 5 มาพร้อมกับ Intel Core i5-8300H พร้อม NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) + SSD M.2 PCIe 512GB และให้ RA, 8 GB จำนวน 1 แถว มาพร้อมจอด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 IPS ระบบเสียง DOLBY AUDIO และในรุ่นนี้มีช่องเชื่อมต่อค่อนข้างครบ ทั้ง HDMI,USB 3.0, USB 3.1 Type-C, USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 และที่เด่นๆคือเรื่องของประกันนั้นมาพร้อมกับ On-site Service ถึง 3 ปี แน่นอนว่าเปิดตัวมาด้วยราคา19,990 บาท สำหรับ ACER NITRO 5
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้นั้นจะเด่นไปในแนวทางสายเกมจัดๆเลยก็ถือว่าค่อนข้างสวยและเท่ครับโทนสีใช้โทนสีดำแดงเป็นหลักทำให้ดูตัดกันได้อย่างลงตัวส่วนวัสดุนั้นเป็นพลาสติกมีการเล่นลวดลายคาร์บอนพอดูสวยงามได้แต่ไม่ใช่คาร์บอนจริงๆครับ โลโก้อะไรนั้นจะเป็นโทนเข้มทั้งหมดเลยทำให้ดูดุดันพอสมควร ส่วนความหนาอะไรนั้นอยู่ในระดับกลางๆรวมถึงการออกแบบขอบหน้าจอนั้นยังมีความหนาและดูย้อนยุคไปหน่อย แต่ก็มีรุ่นใหม่ออกมาแล้วที่หน้าจอนั้นทำได้บางขึ้นนั้นเองครับ แต่ในรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ทำราคาได้ค่อนข้างคุ้มอยู่และอยู่ในช่วงเรทที่ต่ำแต่ได้สเปคที่ดีนั้นเอง
การออกแบบโดยรวมนนั้นถือว่าไปแนวทางสายเกมได้แบบเต็มที่ พื้นผิววัสดุแบบด้านไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายและทนทานต่อการใช้งาน แต่จะเป็นพลาสติกล้วนๆทั้งตัวเครื่องครับส่วนของงานประกอบนั้นอยู่ในระดับที่ดี แต่ช่วงรอยต่อในบางส่วนเช่นพวกขอบจออาจจะดูไม่ได้แน่นหนาเท่าที่ควรครับ ส่วนช่องระบายหลักๆนั้นจะเป็นด้านหลังจุดเดียวของรุ่นนี้
เมื่อดูทางด้านในนั้นจะเป็นตัวแถบสีแดงมีการเล่นสีตัดกันและตัววัสดุนั้นแม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็ยังมีการเล่นลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์อยู่ครับ และยังคงใช้งานวัสดุแบบผิวด้านจริงๆในภาพรวมนั้นถือว่าดูดีเหมือนการใช้คาร์บอนจริงๆเลยถือว่าเป็นการออกแบบที่ฉลาด แต่ตัวจริงนั้นยังคงเป็นพลาสติกครับรวมถึงตัวปุ่มบนคียบอร์ดด้วยนั้นเอง พื้นที่รอบๆตัวแป้นและที่วางมือมีพื้นที่เหลือพอสมควรครับเนื่องจากขอบหน้าจอไม่ได้บางมากนัก ทำให้มีพื้นที่วางมือเหลือพอสมควร และตัวบริเวณ คีย์บอร์ดนั้นจะเว้าลงไปเล็กน้อยทำให้เวลาใช้งานนั้นจะค่อนข้างพอดีกันตำแหน่งทั่วไปครับ
ตัวขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะเป็นที่อยู่ของโลโก้และจะเห็นว่าชื่อรุ่นนั้นจะอยู่ตรงแถบหน้าจอส่วนล่างที่เป็นสีแดงครับก็ดูเด่นสวยงามเอาเรื่องดูมีลูกเล่นอะไรนิดหน่อย ส่วนหน้าจอในขอบด้านบนต้องบอกว่าหนามาก รวมถึงด้านข้างด้วยเช่นกัน ส่วนกล้องหน้ายังคงมีมาให้และไมค์ด้านบนครับ ยางรองหน้าจอก็มีตามมุมเป็นระยะๆ ไม่ได้มีรอบตัวเครื่อง
งานประกอบรอยต่อในภาพรวมนั้นทำได้ดีแต่มีบางช่วงที่อาจจะดูแปลกๆไปนิดหน่อยครับ แต่ข้อพับเท่าที่ลองใช้งานดูแข็งแรงดีไม่มีปัญหาอะไรส่วนด้านหน้านั้นจะมีลวดลายแปลกๆมาให้แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ลำโพง หรือช่องอะไรเลยเป็นลวดลายทำไว้หลอกๆให้ดูสวยงามแค่นั้น จริงๆถ้าเป็นช่องลำโพงน่าจะดีเลยแหละในจุดนี้ครับ
ในด้านฐานล่างนั้นจะเป็นยางรองแบบ 4 จุดมีรูปทรงแปลกๆทั้ง 4 อันรวมถึงลวดลายของตัวฐานเครื่องนั้นมีเส้นสายค่อนข้างเยอะครับส่วนช่องระบายนั้นก็มีมาให้ในฝั่งซ้ายในภาพฝั่งเดียวครับเป็นฝั่งเดียวกับช่องระบายข้างหลังนั้นเอง ส่วนการอัพเกรดนั้นสามารถอัพได้ง่ายๆ คือตัว HDD RAM ในช่องเล็กมุมซ้ายล่าง และ ขวาบนเลยครับ ใช้น็อตตัวเดียวเท่านั้น แต่ถ้าอัพเกรดส่วนอื่นๆนั้นจะต้องถอดฝาทั้งหมดเลยเช่น SSD ที่ติดตั้งมาครับ
SPEC
• 8th Generation Intel® Core™ i5-8300H Processor ( 8MB SmartCache, 2.3GHz Turbo Boost up to 4.0GHz)
• NVIDIA® GeForce® GTX 1050 (4GB GDDR5)
• Windows 10 Home 64-bit
• RAM 8GB DDR4
• SSD 512GB PCIe NVMe
• 15.6 inch (1920 x 1080) Full HD IPS
• Dolby® Audio Premium® sound & Acer TrueHarmony™
• 802.11ac with 2×2 MU-MIMO, Supports Bluetooth® 5.0
• Gigabit Ethernet, Wake-on-LAN ready
• SD™ Card reader
• 1 x USB Type-C™ port
• 1 x USB 3.0 port one featuring power-off USB charging
• 2 x USB 2.0 ports
• HDMI® 2.0 port with HDCP support
• 3.5 mm headphone/speaker jack, supporting headsets with built-in microphone
• Ethernet (RJ-45) port
• Weight : 2.5 kg (5.51 lbs.) with 4-cell battery pack
• 3 Years (Parts & Labor & Onsite) & 1 Year International Travelers Warranty
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับ Intel Core i5-8300H 2.3 GHz – 4.0 GHz แบบ 4 Core 8 Threads มาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 Buss 2400MHz ซึ่งสามารถอัพเกรดได้อีก 1 แถวครับ ส่วนตัวการ์ดจอนั้น ติดตั้งมาเลยกับตัว Intel UHD Graphics 630 และมี การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050 RAM 4 GB GDDR5 และมาพร้อม SSD 512GB PCIe NVMe ในตัว แต่จะไม่มี HDD มาให้นะครับ แต่ในส่วนตัว ระบบนั้น ติดตั้งตัว Windows 10 มาให้เรียบร้อย
3D MARK เราทดสอบแบบสายเกมเลยนั้นถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยแหละคะแนนในส่วนของ Firestrike แบบโหด และพื้นฐานนั้นทำได้ดีมากๆ EXTREAM สามารถทำได้ 2751 และ Time Spy Extream ทำได้ 857 เลยครับในแง่ของการประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายนั้นทำได้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์สายเกมเริ่มต้นได้เลยครับส่วนของ Timespy ที่จะโหดขึ้นมาหน่อยนั้นทำไปได้ 1850 คะแนน Firestrike ธรรมดานั้น 5633 คะแนนถือว่า CPU ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆทั้งเล่นเกม ทำงานครับ ซึ่งถ้าเอามาทำงานหนักๆนั้น RAM 8GB อาจจะไม่พอครับแนะนำให้เพิ่มอีก 8 จะดีมากๆ และ ความร้อนทำได้ 72 GPU 89 CPU
PC MARK คะแนนทำได้ 4054 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะ i5ตระกูล H นั้นตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไรเลยทำงานได้ครบทุกอย่างโหดๆก็ไหวสบาย รวมถึงเล่นเกมสบายครับ แน่นอนว่าทำงานหลายๆอย่างนั้นไม่มีปัญหา และจัดการเรื่องความร้อนได้กลางๆครับมีแต่ 80-90 บ้าง
CINEBENCH R15 – R20 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 779 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดีมากๆเพราะตัว H นั้นแรงอยู่แล้ว และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1730cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ในส่วนของ SSD ใส่มาให้แต่เรื่องของความเร็วนั้นทำได้ปานกลางไม่ใช่ตัวแรงเท่าไรครับ อ่านไปได้ที่ 1737 และ เขียนที่ 1316
SCREEN / SPEAKER
หน้าจอในรุ่นนี้ 15.6 ” (1920×1080) Full HD IPS 60Hz แน่นอนว่าขอบหน้าจอนั้นหนามากๆครับด้วยความที่มันไม่ใช่รุ่นล่าสุด เลยอาจจะไม่ได้ทำขอบบางตามสมัยนิยมเท่าไร แต่มาดูกันที่ตัวหน้าจอนั้นก็ยังดีที่ได้หน้าจอแบบ IPS มาและก็เป็นหน้าจอแบบด้านทำให้มุมมองค่อนข้างดีและสวยงามครับอีกทั้ง หน้าจอแบบด้านทำให้เล่นเกมอะไรไม่รบกวนสายตาและเล่นนานๆได้ดีกว่าแบบจอเงาปกติพอสมควร แต่ถ้ามองในแง่การทำงานนั้นอาจจะดรอปลงครับ ส่วนทางด้านของลำโพงในรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบ Dolby เสียงก็กระหึ่มดีเหมือนกันครับแต่คุณภาพอาจจะไม่ได้โหดมากนัดในแง่ของรายละเอียดเสียง และ ความแน่นของเสียง แต่ทิศทางเสียงนั้นชัดเจนดีเหมือนกันครับ
KEYBOARD
แน่นนอนว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 ” ทำให้รองรับการติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โทนสีนั้นจะเป็นแบบสีดำแดงทั้งหมดมีการตัดขอบแดง และ เด่นๆเน้นๆไปที่ตัว WASD ที่จะเด่นกว่าปุ่มอื่นๆเมื่อไม่ได้เปิดไฟครับ และ ยังมีตัวไฟ Backlit สีแดงค่อนข้างเข้ากับธีมสีของตัวเครื่องเป็นหลักและสีสดเข้มสวยงามและมองทั้งกลางวันกลางคืนได้ค่อนข้างชัด ส่วนระยะของปุ่มกดนั้นกลางๆไม่ได้ลึกมากเท่าไรครับ ดีกว่าพวก Notebook ทั่วไปพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook ตัวปุ่มอาจจะยังไม่เด่นเท่าไรนั้นเอง
TOUCHPAD
ในส่วนของทัชแพดนั้นจะเป็นแบบไม่ได้มีปุ่มแยกอะไรครับ ขนาดกลางๆไม่ใหญ่เท่าไรนักเมื่อเทียบกับตัวเครื่อง มีการเล่นสีขอบสีแดงรอบๆและเป็นวัสดุแบบด้านๆครับใช้งานได้ค่อนข้างลื่นไหลปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร รองรับการสั่งงานต่างๆ 2-3 นิ้วได้แบบไม่มีปัญหา วางทัชแพดอยู่ตรงกลางๆเท่ากับ Spacebar พอดีครับผม แต่อาจจะไม่ได้กลางเครื่องมากนัก วัสดุงานประกอบตรงส่วนนี้ใช้งานไม่ได้มีติดขัดอะไรนะไม่มีเสียงหรืออะไรแปลกๆในการใช้งานครับ
[SR] รีวิว Acer Nitro 5 สเปค i5 + GTX 1050 พร้อม SSD 512GB ในงบ 19,990
ACER NITRO 5 รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับสเปค Intel Core i5-8300H + NVIDIA GeForce GTX 1050 RAM 8GB + SSD 512GB ซึ่งอาจจะใช้โมเดลที่ไม่ได้ตัวลาสุดแต่ก็เป็นจุดที่ทำให้มันทำราคาได้เพียง 19,990 บาท แน่นอนว่าเป็นช่วงเรทราคาที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับหลายๆคนที่เริ่มตำในการหาคอมพิวเตอร์สายเกมมาใช้งานกันครับ และในรุ่นนี้สเปคที่ได้นั้นต้องบอกว่าเพียงพอทั้งหน้าจอ IPS และ ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อที่ค่อนข้างครบเลย ทำให้มันค่อนข้างน่าสนใจอย่างมากครับ ส่วนทางด้านการใช้งานจริงๆนั้นจะเป็นยังไงกันบ้างมาชมกันได้เลย
Acer Nitro 5 มาพร้อมกับ Intel Core i5-8300H พร้อม NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) + SSD M.2 PCIe 512GB และให้ RA, 8 GB จำนวน 1 แถว มาพร้อมจอด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 IPS ระบบเสียง DOLBY AUDIO และในรุ่นนี้มีช่องเชื่อมต่อค่อนข้างครบ ทั้ง HDMI,USB 3.0, USB 3.1 Type-C, USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 และที่เด่นๆคือเรื่องของประกันนั้นมาพร้อมกับ On-site Service ถึง 3 ปี แน่นอนว่าเปิดตัวมาด้วยราคา19,990 บาท สำหรับ ACER NITRO 5
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้นั้นจะเด่นไปในแนวทางสายเกมจัดๆเลยก็ถือว่าค่อนข้างสวยและเท่ครับโทนสีใช้โทนสีดำแดงเป็นหลักทำให้ดูตัดกันได้อย่างลงตัวส่วนวัสดุนั้นเป็นพลาสติกมีการเล่นลวดลายคาร์บอนพอดูสวยงามได้แต่ไม่ใช่คาร์บอนจริงๆครับ โลโก้อะไรนั้นจะเป็นโทนเข้มทั้งหมดเลยทำให้ดูดุดันพอสมควร ส่วนความหนาอะไรนั้นอยู่ในระดับกลางๆรวมถึงการออกแบบขอบหน้าจอนั้นยังมีความหนาและดูย้อนยุคไปหน่อย แต่ก็มีรุ่นใหม่ออกมาแล้วที่หน้าจอนั้นทำได้บางขึ้นนั้นเองครับ แต่ในรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ทำราคาได้ค่อนข้างคุ้มอยู่และอยู่ในช่วงเรทที่ต่ำแต่ได้สเปคที่ดีนั้นเอง
การออกแบบโดยรวมนนั้นถือว่าไปแนวทางสายเกมได้แบบเต็มที่ พื้นผิววัสดุแบบด้านไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายและทนทานต่อการใช้งาน แต่จะเป็นพลาสติกล้วนๆทั้งตัวเครื่องครับส่วนของงานประกอบนั้นอยู่ในระดับที่ดี แต่ช่วงรอยต่อในบางส่วนเช่นพวกขอบจออาจจะดูไม่ได้แน่นหนาเท่าที่ควรครับ ส่วนช่องระบายหลักๆนั้นจะเป็นด้านหลังจุดเดียวของรุ่นนี้
เมื่อดูทางด้านในนั้นจะเป็นตัวแถบสีแดงมีการเล่นสีตัดกันและตัววัสดุนั้นแม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็ยังมีการเล่นลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์อยู่ครับ และยังคงใช้งานวัสดุแบบผิวด้านจริงๆในภาพรวมนั้นถือว่าดูดีเหมือนการใช้คาร์บอนจริงๆเลยถือว่าเป็นการออกแบบที่ฉลาด แต่ตัวจริงนั้นยังคงเป็นพลาสติกครับรวมถึงตัวปุ่มบนคียบอร์ดด้วยนั้นเอง พื้นที่รอบๆตัวแป้นและที่วางมือมีพื้นที่เหลือพอสมควรครับเนื่องจากขอบหน้าจอไม่ได้บางมากนัก ทำให้มีพื้นที่วางมือเหลือพอสมควร และตัวบริเวณ คีย์บอร์ดนั้นจะเว้าลงไปเล็กน้อยทำให้เวลาใช้งานนั้นจะค่อนข้างพอดีกันตำแหน่งทั่วไปครับ
ตัวขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะเป็นที่อยู่ของโลโก้และจะเห็นว่าชื่อรุ่นนั้นจะอยู่ตรงแถบหน้าจอส่วนล่างที่เป็นสีแดงครับก็ดูเด่นสวยงามเอาเรื่องดูมีลูกเล่นอะไรนิดหน่อย ส่วนหน้าจอในขอบด้านบนต้องบอกว่าหนามาก รวมถึงด้านข้างด้วยเช่นกัน ส่วนกล้องหน้ายังคงมีมาให้และไมค์ด้านบนครับ ยางรองหน้าจอก็มีตามมุมเป็นระยะๆ ไม่ได้มีรอบตัวเครื่อง
งานประกอบรอยต่อในภาพรวมนั้นทำได้ดีแต่มีบางช่วงที่อาจจะดูแปลกๆไปนิดหน่อยครับ แต่ข้อพับเท่าที่ลองใช้งานดูแข็งแรงดีไม่มีปัญหาอะไรส่วนด้านหน้านั้นจะมีลวดลายแปลกๆมาให้แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ลำโพง หรือช่องอะไรเลยเป็นลวดลายทำไว้หลอกๆให้ดูสวยงามแค่นั้น จริงๆถ้าเป็นช่องลำโพงน่าจะดีเลยแหละในจุดนี้ครับ
ในด้านฐานล่างนั้นจะเป็นยางรองแบบ 4 จุดมีรูปทรงแปลกๆทั้ง 4 อันรวมถึงลวดลายของตัวฐานเครื่องนั้นมีเส้นสายค่อนข้างเยอะครับส่วนช่องระบายนั้นก็มีมาให้ในฝั่งซ้ายในภาพฝั่งเดียวครับเป็นฝั่งเดียวกับช่องระบายข้างหลังนั้นเอง ส่วนการอัพเกรดนั้นสามารถอัพได้ง่ายๆ คือตัว HDD RAM ในช่องเล็กมุมซ้ายล่าง และ ขวาบนเลยครับ ใช้น็อตตัวเดียวเท่านั้น แต่ถ้าอัพเกรดส่วนอื่นๆนั้นจะต้องถอดฝาทั้งหมดเลยเช่น SSD ที่ติดตั้งมาครับ
SPEC
• 8th Generation Intel® Core™ i5-8300H Processor ( 8MB SmartCache, 2.3GHz Turbo Boost up to 4.0GHz)
• NVIDIA® GeForce® GTX 1050 (4GB GDDR5)
• Windows 10 Home 64-bit
• RAM 8GB DDR4
• SSD 512GB PCIe NVMe
• 15.6 inch (1920 x 1080) Full HD IPS
• Dolby® Audio Premium® sound & Acer TrueHarmony™
• 802.11ac with 2×2 MU-MIMO, Supports Bluetooth® 5.0
• Gigabit Ethernet, Wake-on-LAN ready
• SD™ Card reader
• 1 x USB Type-C™ port
• 1 x USB 3.0 port one featuring power-off USB charging
• 2 x USB 2.0 ports
• HDMI® 2.0 port with HDCP support
• 3.5 mm headphone/speaker jack, supporting headsets with built-in microphone
• Ethernet (RJ-45) port
• Weight : 2.5 kg (5.51 lbs.) with 4-cell battery pack
• 3 Years (Parts & Labor & Onsite) & 1 Year International Travelers Warranty
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับ Intel Core i5-8300H 2.3 GHz – 4.0 GHz แบบ 4 Core 8 Threads มาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 Buss 2400MHz ซึ่งสามารถอัพเกรดได้อีก 1 แถวครับ ส่วนตัวการ์ดจอนั้น ติดตั้งมาเลยกับตัว Intel UHD Graphics 630 และมี การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050 RAM 4 GB GDDR5 และมาพร้อม SSD 512GB PCIe NVMe ในตัว แต่จะไม่มี HDD มาให้นะครับ แต่ในส่วนตัว ระบบนั้น ติดตั้งตัว Windows 10 มาให้เรียบร้อย
3D MARK เราทดสอบแบบสายเกมเลยนั้นถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยแหละคะแนนในส่วนของ Firestrike แบบโหด และพื้นฐานนั้นทำได้ดีมากๆ EXTREAM สามารถทำได้ 2751 และ Time Spy Extream ทำได้ 857 เลยครับในแง่ของการประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายนั้นทำได้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์สายเกมเริ่มต้นได้เลยครับส่วนของ Timespy ที่จะโหดขึ้นมาหน่อยนั้นทำไปได้ 1850 คะแนน Firestrike ธรรมดานั้น 5633 คะแนนถือว่า CPU ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆทั้งเล่นเกม ทำงานครับ ซึ่งถ้าเอามาทำงานหนักๆนั้น RAM 8GB อาจจะไม่พอครับแนะนำให้เพิ่มอีก 8 จะดีมากๆ และ ความร้อนทำได้ 72 GPU 89 CPU
PC MARK คะแนนทำได้ 4054 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะ i5ตระกูล H นั้นตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไรเลยทำงานได้ครบทุกอย่างโหดๆก็ไหวสบาย รวมถึงเล่นเกมสบายครับ แน่นอนว่าทำงานหลายๆอย่างนั้นไม่มีปัญหา และจัดการเรื่องความร้อนได้กลางๆครับมีแต่ 80-90 บ้าง
CINEBENCH R15 – R20 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 779 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดีมากๆเพราะตัว H นั้นแรงอยู่แล้ว และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1730cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ในส่วนของ SSD ใส่มาให้แต่เรื่องของความเร็วนั้นทำได้ปานกลางไม่ใช่ตัวแรงเท่าไรครับ อ่านไปได้ที่ 1737 และ เขียนที่ 1316
SCREEN / SPEAKER
หน้าจอในรุ่นนี้ 15.6 ” (1920×1080) Full HD IPS 60Hz แน่นอนว่าขอบหน้าจอนั้นหนามากๆครับด้วยความที่มันไม่ใช่รุ่นล่าสุด เลยอาจจะไม่ได้ทำขอบบางตามสมัยนิยมเท่าไร แต่มาดูกันที่ตัวหน้าจอนั้นก็ยังดีที่ได้หน้าจอแบบ IPS มาและก็เป็นหน้าจอแบบด้านทำให้มุมมองค่อนข้างดีและสวยงามครับอีกทั้ง หน้าจอแบบด้านทำให้เล่นเกมอะไรไม่รบกวนสายตาและเล่นนานๆได้ดีกว่าแบบจอเงาปกติพอสมควร แต่ถ้ามองในแง่การทำงานนั้นอาจจะดรอปลงครับ ส่วนทางด้านของลำโพงในรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบ Dolby เสียงก็กระหึ่มดีเหมือนกันครับแต่คุณภาพอาจจะไม่ได้โหดมากนัดในแง่ของรายละเอียดเสียง และ ความแน่นของเสียง แต่ทิศทางเสียงนั้นชัดเจนดีเหมือนกันครับ
KEYBOARD
แน่นนอนว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 ” ทำให้รองรับการติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โทนสีนั้นจะเป็นแบบสีดำแดงทั้งหมดมีการตัดขอบแดง และ เด่นๆเน้นๆไปที่ตัว WASD ที่จะเด่นกว่าปุ่มอื่นๆเมื่อไม่ได้เปิดไฟครับ และ ยังมีตัวไฟ Backlit สีแดงค่อนข้างเข้ากับธีมสีของตัวเครื่องเป็นหลักและสีสดเข้มสวยงามและมองทั้งกลางวันกลางคืนได้ค่อนข้างชัด ส่วนระยะของปุ่มกดนั้นกลางๆไม่ได้ลึกมากเท่าไรครับ ดีกว่าพวก Notebook ทั่วไปพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook ตัวปุ่มอาจจะยังไม่เด่นเท่าไรนั้นเอง
TOUCHPAD
ในส่วนของทัชแพดนั้นจะเป็นแบบไม่ได้มีปุ่มแยกอะไรครับ ขนาดกลางๆไม่ใหญ่เท่าไรนักเมื่อเทียบกับตัวเครื่อง มีการเล่นสีขอบสีแดงรอบๆและเป็นวัสดุแบบด้านๆครับใช้งานได้ค่อนข้างลื่นไหลปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร รองรับการสั่งงานต่างๆ 2-3 นิ้วได้แบบไม่มีปัญหา วางทัชแพดอยู่ตรงกลางๆเท่ากับ Spacebar พอดีครับผม แต่อาจจะไม่ได้กลางเครื่องมากนัก วัสดุงานประกอบตรงส่วนนี้ใช้งานไม่ได้มีติดขัดอะไรนะไม่มีเสียงหรืออะไรแปลกๆในการใช้งานครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้