สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
John thomas sign
หลายคนคงรู้จักการ xray กันดีนะครับ ว่าเป็นการใช้รังสี มาใช้ตรวจหาความผิดปกติในร่างกาย โดยสมัยก่อนเค้าก็เอามาดูพวกกระดูกหัก กระดูกเคลื่อนอะไรอย่างงี้ ด้วยหลักการที่ว่ากระดูกมันมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบซึ่งมันจะเห็นได้ชัดเมื่อเอาไป xray ครับ
ทีนี้นอกจากกระดูกแล้ว เนื้อเยื่อแต่ละส่วนกับของเหลวต่าง ๆ ในร่างกาย ก็มีการผ่านแสงได้ไม่เท่ากัน เช่นขาวมาก ขาวน้อยอะไรงี้ พอเอาไปฉายก็เลยเกิดเห็นเป็นรูปร่างต่าง ๆ ของอวัยวะขึ้นมาได้นั่นแหละครับ
ทีนี้ในคนไข้เวลามีปัญหาพวกกระดูกสะโพกหักหรือเคลื่อน เค้าก็จะเอาไป xray ตรงนั้นแหละ และสิ่งที่ได้แถมมาบ่อย ๆ ก็คือเห็นเงาลาง ๆ ของ ๆ สำคัญที่มีมากน้อยแล้วแต่บุญทำกรรมแต่งพอให้หมอหมั่นไส้ในบางคนนะครับ
ทีนี้พอเห็นบ่อย ๆ ก็เลยมีหมอคนนึงชื่อ Thomas Bentley Throckmorton (1885 -1961) เป็นคุณหมอระบบประสาทชาวอเมริกาเค้าก็คิดว่ามันน่าจะมีความสัมพันธ์กันระหว่างองศาที่พาดพิงกับกระดูกที่แตกหักครับ โดยเค้าเสนอว่าธรรมชาติของจู๋มักจะพาดไปทางเดียวกับตำแหน่งของร่างกายที่มีการบาดเจ็บ เช่นกระดูกขวาหัก จู๋มันก็มักจะพาดไปทางขวา เรียกว่า John thomas sign positive แต่ถ้าหักขวาแล้วพาดซ้ายก็เรียก John thomas sign negative อะไรแบบนี้อะครับ
ซึ่งก็ใช้แบบนี้กันมานานนะครับ แต่เป็นแนวขำขันมากกว่า ซึ่งก็มีงานวิจัยที่ทำออกมาแบบจริงจังจริง ๆ นะครับก็พบว่าจริง ๆ การพาดมันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับกระดูกหักเลย อารมณ์โยนหัวก้อยห้อยตามความสบายเฉย ๆ ครับ
สรุปปัจจุบันเราก็ไม่ได้ใช้วิธีนี้ในการดูกระดูกหักแล้วนะครับ เพราะมันมีความคลาดเคลื่อนสูง ไม่งั้นอีกหน่อยเวลาผมไปหาหมอเค้าจะคิดว่าเข่ามีปัญหาตลอดนั่นแหละครับ
ผมทำเพจให้ความรู้เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะและเพศศึกษา ลองเข้าไปชมดูนะครับ ที่
เพจ http://www.facebook.com/sarikahappymen ฝากกดไลค์ให้ด้วยนะครับ
หลายคนคงรู้จักการ xray กันดีนะครับ ว่าเป็นการใช้รังสี มาใช้ตรวจหาความผิดปกติในร่างกาย โดยสมัยก่อนเค้าก็เอามาดูพวกกระดูกหัก กระดูกเคลื่อนอะไรอย่างงี้ ด้วยหลักการที่ว่ากระดูกมันมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบซึ่งมันจะเห็นได้ชัดเมื่อเอาไป xray ครับ
ทีนี้นอกจากกระดูกแล้ว เนื้อเยื่อแต่ละส่วนกับของเหลวต่าง ๆ ในร่างกาย ก็มีการผ่านแสงได้ไม่เท่ากัน เช่นขาวมาก ขาวน้อยอะไรงี้ พอเอาไปฉายก็เลยเกิดเห็นเป็นรูปร่างต่าง ๆ ของอวัยวะขึ้นมาได้นั่นแหละครับ
ทีนี้ในคนไข้เวลามีปัญหาพวกกระดูกสะโพกหักหรือเคลื่อน เค้าก็จะเอาไป xray ตรงนั้นแหละ และสิ่งที่ได้แถมมาบ่อย ๆ ก็คือเห็นเงาลาง ๆ ของ ๆ สำคัญที่มีมากน้อยแล้วแต่บุญทำกรรมแต่งพอให้หมอหมั่นไส้ในบางคนนะครับ
ทีนี้พอเห็นบ่อย ๆ ก็เลยมีหมอคนนึงชื่อ Thomas Bentley Throckmorton (1885 -1961) เป็นคุณหมอระบบประสาทชาวอเมริกาเค้าก็คิดว่ามันน่าจะมีความสัมพันธ์กันระหว่างองศาที่พาดพิงกับกระดูกที่แตกหักครับ โดยเค้าเสนอว่าธรรมชาติของจู๋มักจะพาดไปทางเดียวกับตำแหน่งของร่างกายที่มีการบาดเจ็บ เช่นกระดูกขวาหัก จู๋มันก็มักจะพาดไปทางขวา เรียกว่า John thomas sign positive แต่ถ้าหักขวาแล้วพาดซ้ายก็เรียก John thomas sign negative อะไรแบบนี้อะครับ
ซึ่งก็ใช้แบบนี้กันมานานนะครับ แต่เป็นแนวขำขันมากกว่า ซึ่งก็มีงานวิจัยที่ทำออกมาแบบจริงจังจริง ๆ นะครับก็พบว่าจริง ๆ การพาดมันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับกระดูกหักเลย อารมณ์โยนหัวก้อยห้อยตามความสบายเฉย ๆ ครับ
สรุปปัจจุบันเราก็ไม่ได้ใช้วิธีนี้ในการดูกระดูกหักแล้วนะครับ เพราะมันมีความคลาดเคลื่อนสูง ไม่งั้นอีกหน่อยเวลาผมไปหาหมอเค้าจะคิดว่าเข่ามีปัญหาตลอดนั่นแหละครับ
ผมทำเพจให้ความรู้เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะและเพศศึกษา ลองเข้าไปชมดูนะครับ ที่
เพจ http://www.facebook.com/sarikahappymen ฝากกดไลค์ให้ด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
จริงหรอครับ ที่การเอกซเรย์ทำให้เห็น อวัยวะเพศ ได้ชัดเจนขนาดนั้น และเพราะอะไร ครับ
เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องน่าขยะแขยงเลยนะครับ วอนทางทีมงานพันทิปจะไม่พิจารณาลบออก เช่นกันกับผู้ชม ขอความกรุณาเปิดกว้าง
เพราะนี่เองก็เป็นความสงสัยหนึ่งที่ผมไม่สามารถหาคำตอบจากไหนได้เลยครับ ไม่ได้มีญาติหรือคนรู้จักเป็นหมอ จะเข้าโรงพยาบาลไปถามก็กระไรอยู่เนอะ นั่นคงจะน่าอายกว่า
การทำงานของ การเอกซเรย์ คือ การฉายรังสีเอ็กซ์ใส่บริเวณที่ต้องการ ซึ่ง
ส่วนที่มีความหนาแน่นสูง เช่น กระดูก จะไปประกฎสีขาวที่จอ
ล่าสุดผมไปเจอภาพนี้
ก็เลยสงสัยว่า เห้ย มันใช่หรอ นี่ดูจะสีเข้มกว่าขาด้วยนะ
ขาเป็นกล้ามเนื้อมัดๆ ยังไม่ชัดเท่า ท่อนเอ็นที่มีช่องว่างจำนวนมากเหมือนฟองน้ำ
ผมว่าแปลก เพราะว่า ส่วนที่มีพื้นที่ว่างมากๆหรือก็คือความหนาแน่นต่ำ จะ ปรากฎสีใส แม้แต่ปอดที่เต็มไปด้วยถุงลมนับล้าน มันควรจะแน่นจากผนังเนื้อเยื่อ
แต่เพราะความที่บรรจุก๊าซอยู่มาก หากล้างกันแล้วก๊าซชนะเสียอีก
ผมเลยไปหาในเนต ก็เจอว่าเห็นแค่นี้
หรือถ้าตอนแข็งโด่ก็จะชัดๆหน่อย แบบนี้
ก็เห็นได้ว่า แม้จะเป็นภาพที่ชัดเจน มันก็ไม่ได้เข้มไปกว่ากระดูกเลย ไม่เหมือนรูปแรกที่ผมแนบเลย
ผมคิดว่ารูปแรกแต่ง อะ
อยากถามคนที่เคยเอกซเรย์อวัยวะเพศ ครับ
ว่าของคุณ เห็นชัดแค่ไหน
เข้มชัดแบบรูป 1
หรือ ชัดแต่ไม่ได้เข้มมากนักแบบรูป 4
หรือ แค่ลางๆแบบรูป 3
แล้วตอนนั้นของคุณแข็งมั้ย
ผมว่ามันมีผลอะ ฟองน้ำที่มีเลือดไหลเวียนปกติ กับ ฟองน้ำที่ถูกอัดฉีดด้วยแรงดันจากเลือดมหาศาล