Teeใครทีมันส์ ความงามที่ก้นเหว คุณ ณัฐิยา ศิรกรวิไล เผย คือ ละครที่เปิดตัวด้วยเรตติ้งต่ำที่สุดในชีวิตการทำงาน 20 กว่าปี

 เครดิจเพจ  คุณ ณัฐิยา ศิรกรวิไล

“ความงามที่ก้นเหว”
หลังจาก “Teeใครทีมันส์” ออกอากาศมาได้ 3 ตอน นัทได้ทำสถิติใหม่ให้ตัวเอง คือ ละครที่เปิดตัวด้วยเรตติ้งต่ำที่สุดในชีวิตการทำงาน 20 กว่าปีที่เขียนบท
ถึงแม้จะทำใจมาบ้างแล้ว แต่ยอมรับว่าเกิด “ความหวั่นไหว” ในใจ และตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ฉันทำอะไรอยู่ (วะ) เนี่ย ?” แล้วต่อด้วย “ฉันจะทำแบบนี้ต่อไปอีกมั้ย (วะ) ?” เพราะละครที่กำลังเขียนอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นละครแนวแหวกๆ อีกเช่นกัน
จริงๆความหวั่นไหวมันมาเรื่อยๆ ตอนเราลงมือเขียนบทก็เกิดคำถามว่า “จะมีคนดูมั้ย?”
และวันนี้..คำตอบที่เราได้ก็คือ..มีคนดูน้อย (ถ้าเราวัดจากเรตติ้งของ AC Neilsen) นัทค้นพบมาตั้งแต่ “วัยแสบ” ทั้ง 2 ภาค และย้ำอีกด้วย “Teeใครทีมันส์” ตั้งแต่ออกอากาศเรตติ้งก็ลดต่ำลงเรื่อยๆ หลายความเห็นในโลกโซเชี่ยลต่างขบขัน ซ้ำเติม และสรุปว่าด้วยเรตติ้งที่ดิ่งลงเหวแปลว่า “คนไทยไม่ได้ต้องการแบบนี้ / คนไทยชอบดูละครที่ดูง่ายๆ / ไม่ต้องคิดมาก / ทำละครกีฬาใครจะดู / หน้าละครแบบนี้ก็ไม่อยากดูแล้ว / เครียดสาระเยอะไป” บอกตรงๆ..นัทก็แอบคิดนะ.. “เออ หรือว่าจะจริง”
ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกอากาศนัทตั้งคำถามกับตัวเอง เราจะหยุด หรือ เราจะไปต่อ .... จนตัดสินใจส่งข้อความหาพี่สมรักษ์ และถามว่า.. “ยังให้ทำละครเรื่องใหม่ต่อหรือเปล่าคะ” เพราะหน้าละครก็แปลกพอๆกัน
คำตอบที่ได้คือ “งานที่ให้ทำพัฒนาต่อไปครับ..เราต้องเดินต่อครับ” ตอนที่นัทได้ข้อความนี้ยอมรับว่าร้องไห้เลยค่ะ แล้วก็คิดในใจ “ทำไมเราถึงได้โชคดีขนาดนี้” ทำละครเรตติ้งก็ไม่ดี นอกจากไม่โดนตำหนิแล้วยังให้ทำงานที่เราอยากทำทั้งที่มัน (โค-ตะ-ระ) เสี่ยงเลย นอกจากพี่สมรักษ์แล้ว “คุณดิว-ปิ่นกมล มาลีนนท์” ก็ให้กำลังใจและให้นัทลุยงานต่อ เพื่อนๆนักเขียนบทก็ให้กำลังใจกันมาอย่างต่อเนื่อง
“ครูแดง-ศัลยา สุขะนิวัตติ์” ส่งข้อความมาบอกว่า “ครูเชียร์อยู่นะนัท” (ตอนอ่านนี่น้ำตาร่วงเลย)
“พี่ลิตา - ละลิตา ฉันทศาสตร์โกศล” ให้กำลังใจและคอยปลอบใจมาตลอด “พี่เอก-เอกลิขิต” คอยดูและคอมเม้นท์ละครอย่างใส่ใจและจริงใจ “พี่ปุ๋ย – พัญสร แห่งเป่าจินจง” ทั้งแชร์ ทั้งเชียร์ แบบสุดๆ “ชุน - แพรพริมา” เจ้าพ่อเรตติ้งแห่งช่อง 7 ให้กำลังใจจากปากเหวส่งมาให้นัทที่อยู่ก้นเหว มีข้อความนึงของชุนที่ประทับใจมาก ชุนบอกว่า “ทำเถอะพี่ เวลามีคนด่าว่าละครไทยมีแต่เดิมๆ เราจะได้บอกว่าไม่จริง” (ฮา)
นอกจากกำลังใจของคนใกล้ตัว “พี่หนุ่ม-กฤษณ์” ก็คอยโทร.มาถามไถ่อัพเดทกันตลอดเวลา “น้องจ๋า-ยศสินี” รวมถึงพี่ๆน้องๆครอบครัวเมกเกอร์ก็ช่วยกันเชียร์ละครในทุกช่องทาง “พี่อึ่ง” ต้นห้องแห่งเมกเกอร์ก็ไลน์มาให้กำลังใจเป็นระยะๆ ทำให้เห็นว่าเราร่วมสุขกันมาจากเรตติ้งถล่มทลายใน “เพลิงบุญ” เราก็ยังร่วมสู้กันต่อใน “Teeใครทีมันส์” ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งกัน
และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ... สิ่งที่นัทค้นพบมากกว่านั้นคือ “ความงดงาม และพลังใจ” ของคนดู คนที่ชอบละครแนวนี้จะเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังพยายามทำ และรักละครของเราเหมือนที่ทีมงานรักและทุ่มเท เขามองเห็นความตั้งใจและให้กำลังใจเรามาอย่างต่อเนื่องและเหนียวแน่นขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ “วัยแสบฯ” จนถึง “Teeใครทีมันส์” เหมือนคนที่กำลังมองหาคนที่พูดภาษาเดียวกันและเพิ่งจะจูนกันเจอ มันเป็นความงดงามอย่างแท้จริง
นัทเป็นคนที่เกิดมาจากละครแนวแปลกๆเริ่มตั้งแต่ “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล” “ชายไม่จริงหญิงแท้” “โซดาชาเย็น” “เจ้าแม่จำเป็น” “สาวใช้หัวใจชิคาโก” หรือแม้แต่หนังอย่าง “เฮี้ยน” และ “999 ต่อติดตาย” นัทพร้อมจะเสี่ยงกับการทำอะไรที่เราไม่เคยทำ แต่ด้วยเงื่อนไขทางการตลาดและการต่อสู้ทางธุรกิจความสำเร็จในแง่เรตติ้งทำให้เราหันเหมาทำละครที่มีความแมสมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น “ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย” “รหัสริษยา” “สวรรค์เบี่ยง” “ตะวันทอแสง” “อย่าลืมฉัน” “เพลิงบุญ” งานทั้ง 2 แนวมีเสน่ห์ มีความยากไม่เหมือนกัน และมีความ “ฟิน” ที่ต่างกัน ..
นัทไม่ได้มีอคติกับงานแมส (ใครอยากจ้างยังรับเขียนนะคะ ^^) เรียกได้ว่า.. “นัทลุ่มหลงการทำละครกระแสหลัก แต่เริ่มหลงรักการทำละครนอกกระแส” งานทั้งสองแบบมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง
ที่ตัดสินใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะอยากจะ “ขอบคุณ” ทุกกำลังใจที่มีให้ทีมบทและทีมงาน “Teeใครทีมันส์” แม้จะเป็นคอมเม้นท์เล็กๆ แต่มันคือกำลังใจอันยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ
และอยากบอกกับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ที่ทำละคร..ถ้าสิ่งที่คุณกำลังทำมันอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ในแง่ของเรตติ้ง แต่มันมี “คุณค่า” กับคนดู (ไม่ว่าจะแง่ใดแง่หนึ่ง) ขอให้คุณทุ่มแบบสุดๆ บ้าแบบสุดๆ ทำให้ดีที่สุดเหมือนชีวิตนี้จะไม่มีใคร “บ้าพอ” จะให้เราทำละครแบบนี้อีกแล้ว เชื่อเถอะค่ะ ..คนดูเขามองเห็นความตั้งใจของเรา..และเขาจะรักละครเราเหมือนที่เรารัก
สุดท้ายขอบคุณผู้บริหารช่อง 3 ที่อนุมัติให้เราทำละครแนวนี้ทั้งๆที่เศรษฐกิจก็เป็นอย่างที่เรารู้ๆกัน แต่ช่องยังให้ทำ ด้วยเหตุผลของนายประวิทย์ที่พูดถึง “วัยแสบฯ” กับ “คุณเอิน-ผู้จัดวัยแสบฯ” (ประมาณ) ว่า ..... “สังคมเราต้องมีละครแบบนี้บ้าง” .... กราบขอบคุณจากหัวใจ
จากนัท..คนที่อยู่ก้นเหว (และอาจจะลงลึกไปมากกว่าวันนี้ใน ep. ต่อไป) และเรียนรู้ว่ามันไม่ได้มืดมิดอย่างที่เราคิดไว้ ^^

https://www.facebook.com/NuttiyaSirakornwilai/photos/a.168307889894847/2736750086383935/?type=3&theater

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
เราไม่ชอบเลย​ พวกทำละครมาแล้วไม่มีคนดู​ แต่กลับโทษคนดู​ หาว่าคนดูชอบดูละคร​ง่ายๆ

ปัญหา​จริงๆ​ของ​ Teeใครทีมันส์​ อยู่​ที่​การตัดตัวอย่าง​ ที่ตัดได้แย่​มาก​ ทั้งที่​ตัวอย่าง​ละครมันสำคัญ​มากๆนะ​ แต่​ดูสิ่ง​ที่​เราได้จากตัวอย่างละครเรื่องนี้สิ

เรารู้​ว่า​พระเอกเป็นนักกอล์ฟ​ พระเอกมีปัญหา​กับ​พ่อเพราะ​พระเอกเปลี่ยน​แคดดี้​ (what!)​ โมเป็นลูกคุณหนู​ที่สนับสนุน​กอล์ฟ​และมีกิ๊กกับพระเอก​ ทำให้โดนกีดกัน​ อเล็กซ์​เป็นใครว่ะ​ นักกอล์ฟ​เหมือนกัน​หรือลูกคนรวยที่มาจีบโมก็ไม่รู้​ นางเอกเล่นเป็นอะไรก็ไม่รู้​ รู้​แค่​โก๊ะๆหน่อย​ ตอนแรกผมนึ​กว่า​โมเป็นนางเอก​ด้วยซ้ำ

เนี่ย​ ตัวอย่าง​เล่ามาแค่เนี้ย​แล้ว​ใครมันจะไปดู​ จริงๆ​ไม่ต้องเทียบที่ไหนไกล​ เทียบกับเขาวานให้หนู​เป็นสายลับก็คนล่ะเรื่อง​แล้ว

นี่ยังไม่นับทีมดาราอีกนะ​ นายคนเดียว​เรียก​คนดูไม่ได้​หรอก​ ต้องมีนางเอก​ดังๆหน่อยมาช่วยด้วย

ตัวอย่างก็ไม่ดี​ ดาราก็ไม่ดึงดูด​ แล้วใครมันจะดู

อ้อ​ ถ้า​ยังเป็นเรื่องราวรักหลายเส้า​ อย่าบอกว่าตัวเองเป็นละครนอกกระแสเลย​ แค่พระเอกเป็นนักกีฬา​มันไม่ได้​นอกกระแสอะไรเลย
ความคิดเห็นที่ 23
เป็นคนหนึ่งที่เขียนบทเก่ง
แต่ประโยคหนึ่งไม่น่าจะมีเลยสำหรับบทความนี้
สรุปว่าด้วยเรตติ้งที่ดิ่งลงเหวแปลว่า “คนไทยไม่ได้ต้องการแบบนี้ / คนไทยชอบดูละครที่ดูง่ายๆ / ไม่ต้องคิดมาก / ทำละครกีฬาใครจะดู / หน้าละครแบบนี้ก็ไม่อยากดูแล้ว / เครียดสาระเยอะไป” บอกตรงๆ..นัทก็แอบคิดนะ.. “เออ หรือว่าจะจริง”
มันเป็นการดูถูกคนดู คือเราบังคับเขาไม่ได้ ว่าทำไมคุณถึงไม่ดูเรื่องนี้ เรื่องนี้ดีนะครับ

อย่างเรื่อง VOICE สัมผัสมรณะ ที่ผมดูอยู่ เรตติ้ง 0.1 ผมยังไม่โวยเลย ทำไมคนไทยไม่ดูเรื่องนี้
หน้าที่ผมคือช่วยโปรโมท ช่วยกันดัน ให้เห็นว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ควรดูยังไง
ดูไม่ดูอยู่ที่คุณตัดสิน
ความคิดเห็นที่ 17
หลงประเด็นแล้ว 555 คนที่ไม่ดู กลายเป็นจำเลยไปซะงั้น ทำไมไม่คิดว่า ความชาญฉลาดในการสร้างละครที่แปลกแหวกแนวแบบนี้ของตนเองน่ะ...มันมีไม่พอนะ
ความคิดเห็นที่ 19
Teeใครทีมันส์ เป็นละครที่ตั้งตารอเลยตั้งแต่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนบท และ ยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีกว่าทำไมถึงเลือกกีฬาอย่างกอล์ฟที่กลุ่มคนดูไม่ได้กว้างมากนัก

ยิ่งพอติดตามการอัพเดทของคุณนัทจากเพจเรื่อยๆ คุณนัทและทีมยังมีละครที่เขียนบท วางโครงเรื่องเอง แบบวัยแสบฯ อีกหลายเรื่องอยู่ในมือ


สำหรับTeeใครทีมันส์ ผ่านมา 3 ตอน ไม่ผิดหวังเลยกับบทแบบนี้ แต่ตอนนี้การเล่าเรื่องหรือการตัดต่อยังไม่ช่วยให้ละครสนุก ดูกระชับหรือลุ้นมากเท่าที่ควร นี่จะรอดูตอนแข่งขันว่าจะทำได้แต่ไหน เพราะหนังหรือละครที่เกี่ยวกับกีฬา มันจะสนุกหรือน่าเบื่อ ก็อยู่ที่การตัดต่อนี่แหละว่าจะเล่าเรื่องแบบไหน แต่เรื่องนี้ตัดต่อยังตีหัวคนดูเข้าบ้านไม่ได้

เรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำนานมากๆ ส่วนนึงคงเพราะรอบท ซึ่งคนดูคงเห็นแล้วว่า เพราะบทมันแน่นแบบนี้ไง มันถึงถ่ายทำช้ากว่าที่ควรจะเป็น การจะย่อยข้อมูลวิชาการยังไงให้กลายเป็นบทพูดที่ไม่น่าเบื่อ ไม่ง่ายเลยแฮะ บทละครของทีมคุณนัทมาจากการหาข้อมูลขององค์ประกอบทุกอณูของนักกีฬากอล์ฟ เครดิตท้ายเรื่องเลยยาวเหยียด ครบทุกมิติก็ว่าได้


รายละเอียดของคาแรคเตอร์ทุกตัวละคร ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี และค่อนข้างทันสมัย ในแง่ของการเจาะลึกวงการกีฬา ต่อให้ไม่ใช่กอล์ฟ นักกีฬาอาชีพก็ต้องมีบุคลากรมากมายที่จะช่วยสนับสนุนให้เค้าเล่นได้ดียิ่งขึ้น

หลายอาชีพถูกจัดลำดับความสำคัญสำหรับคนดูส่วนใหญ่ไว้น้อยมาก อย่างเช่น อาชีพแคดดี้ อาจจะเพราะว่าภาพจำ คือ แค่คนที่ถือถุงกอล์ฟ ถือร่ม เดินตามนักกอล์ฟเท่านั้น แต่ถ้าคนเคยดูแข่งขันกอล์ฟอาชีพ จะทราบได้ทันทีว่าทำไมแคดดี้มืออาชีพสำหรับนักกอล์ฟระดับโปรถึงมีความสำคัญมากๆ แล้วละครก็ทำให้เห็นแบบนั้น

ยกตัวอย่างเช่น ไทเกอร์ วู้ด แคดดี้คู่ใจของเค้าในอดีต อย่าง สตีฟ วิลเลียมส์ คนนี้ดังมากและเคยช่วยให้ไทเกอร์ได้แชมป์เมเจอร์ ถึง 13 ครั้ง ถึงจะแยกทางกันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ช่วงที่ถือถุงให้ไทเกอร์ เค้ามีมูลค่าทางการตลาดมากขนาดที่ Nike ยังยอมจ่ายเงินค่าพรีเซนเตอร์ให้ด้วย เนื่องจากว่า ภาพเวลาถ่ายทอดสด จะเห็นภาพทั้งคู่ใส่เสื้อผ้า หมวก ของNike อยู่ในจอ ไปพร้อมๆกันตลอดทั้งเกมส์


เราชอบที่บททำให้เห็นมุมการทำธุรกิจในหลายรูปแบบ มุมของพ่อลูกในหลายๆมิติ 3 คู่ 3 แบบเลย แคสติ้งเรื่องนี้ค่อยข้างลงตัวทีเดียว จากที่ค่ายไม่ค่อย pr บทนางเอกมากนัก พอละครฉายจริง กลับพบว่าเป็นตัวละครที่เหมือนมีทั้งความเฉียบคมในการทำงาน และดูสบายตา สบายใจไปหมด สมกับที่เหมือนเป็นที่พักใจให้พระเอก จีน่าเล่นคาแรกเตอร์นี้ได้ออกมาพอดีมากๆ

นาย ณภัทร ในบทนักกอล์ฟแบบมวยวัด นายมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าละครเรื่องแรกเยอะเลย เคมีกับจีน่าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเส้นเรื่องเข้าไปในโหมดการแข่งขัน น่าจะยิ่งดีขึ้นไปอีก

เอกิ ในแบบของอเล็กซ์ คือ มือชั้นเซียน อเล็กซ์ออกแบบการแสดงได้ลงตัวมาก สายตา น้ำเสียง จะว่าเป็นคนอวดภูมิ มีอีโก้ก็จะว่าไม่ได้ทั้งหมด เพราะสิ่งที่เอกิใช้สงครามจิตวิทยาต่อตฤน มันเป็นความจริงทั้งนั้น ถ้ามองว่าตัวนี้เป็นตัวร้าย ก็เป็นตัวร้ายที่ฉลาดมากๆ


โม มนชนก ในบทมิตตาก็โดดเด่น แถมMakerตัดตัวอย่างมาซะอย่างกะบทนี้เป็นนางเอกเลย โมยังแอบติดวิธีการแสดง วิธีการพูดแบบคมๆ อย่างละครช่อง One หรือ Gmm อยู่นิดๆ จะรอดูต่อไปว่าบทนี้จะไปในทิศทางไหน


อ่านบทความถึงเรตติ้งที่คุณนัทเขียนจบ ได้แต่เอาใจช่วยทีมเค้าจริงๆ อยากให้คนดูเปิดใจหันมาดูกันมากขึ้น วงการละครไทย มันต้องมีละครทางเลือกแบบนี้บ้าง ผู้ใหญ่ในช่องก็คงพอจะเดาเรตติ้งได้ แต่ก็ยังยอมให้ทำ เจ๋งมากเลยนะ

หวังว่า Ep. หน้าที่พอเข้าเรื่องแข่งขัน จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เอาใจช่วยเรื่องนี้มากจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 14
วัยแสบสาแหรกขาด มันเป็นละครของชีวิตคนที่มีข้อบกพร่อง มีปัญหาของแต่ละคน ให้เราได้เรียนรู้หาวิธีแก้ปัญหา
พูดง่ายๆ มันก็เป็นละครชีวิตเหมือนกัน เพียงแต่เป็นละครชีวิตที่มีหลักวิชาการเข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่มันมีทั้งทุกข์สุข มีเศร้าเคล้าน้ำตา มีรอยยิ้ม ให้เราเอาใจช่วยให้ตัวละครฟันฝ่าปัญหาไปให้ได้
มันก็เลยแบบสนุก น่าติดตาม น่าเอาใจช่วย ทำให้รู้สึกชอบเรื่องนี้มาก
แล้วบทก็ดีมาก เก่งในการหาข้อมูลวิชาการแล้วเอามาผูกเรื่องให้สนุก ไม่น่าเบื่อ

แต่ ทีใครทีมันส์ คือละครกีฬา เอาดีๆพี่จ๋า ทุกวันนี้กีฬาสักประเภท น้องยังไม่ดูเลยจ้ะ
แล้วพูดถึงกีฬา มันเล่าเกี่ยวกับความฝันของคนที่อยากจะเอาชนะฝันให้ได้
แต่มันไม่ใช่อุปสรรค ไม่ใช่ละครชีวิตที่รู้สึกว่าต้องเอาใจช่วย ต้องสงสาร
ก็แค่กีฬา ทำไม่สำเร็จ ก็ไปทำอย่างอื่นก็เท่านั้น มันไม่ทำให้เรารู้สึกยิ่งใหญ่หรือมีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่
ละครเกี่ยวกับสู้เพื่อฝันมันเป็นอุปสรรคทางอ้อม จึงมักไม่ถูกจริตเราเท่าละครที่เป็นอุปสรรคกับชีวิตโดยตรง

เพราะฉะนั้นละครอะไรที่แก่นของเรื่องมันเกี่ยวกับความฝัน เราเลยเฉยๆ ไม่เซนส์ซีทีฟเท่าละครที่เป็นปัญหาชีวิตตรงๆ
อันนี้แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แล้วทีใครทีมันส์มันเล่าเรื่องความฝันกับความรัก มันเลยยิ่งไม่แข็งแรงพอที่จะให้ดู
มันก็เหมือนละครเกาหลี ญี่ปุ่น ที่เขาทำมาหมดแล้ว ถ้าอยากเล่าเรื่องให้แข็งแรง ต้องเล่าแบบซีรีส์ พี่น้องลูกขนไก่ ของนาดาว
โอ้โห อันนั้นเขาผูกปมครอบครัว อุปสรรคชีวิตการเป็นออทิสติกแล้วมาแข่งกีฬา คือดูแล้วน้ำตาหมดตัว เพราะพล็อตเขาแน่น
อย่างนั้นจะถูกจริต และดูเป็นชีวิตมากกว่า เรื่องนี้มันเบาไป เล่ากีฬาก็เบา เล่าความรักก็เบา เรตติ้งเลยเบาตาม!!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่