- ผมมีเรื่องราวจะมาเล่าขอแสดงความคิดเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆน้องทุกคนในกระทู้พันทิพย์ครับ
ขอเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นเลยนะครับ อาจจะยาวหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า ผมรู้จักจักกับน้องคนหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน รวมๆก็คงน่าจะ 10 ปี กว่าๆ ตั้งแต่สมัยน้องเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 1 ถ้าจำไม่ผิด ก็น่าจะ ปี 2543 ก็คุยติดต่อกันมาเรื่อยๆ ครับ แรกๆ ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เพราะอะไร ผมชอบน้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และหายจากกันไปเป็นพักๆ บางครั้งน้องหายไปเฉยๆ ก็มี บางครั้งก็หายไปเพราะทะเลาะกัน ไม่ผมชวนทะเลาะ ก็น้องชวนทะเลาะ แต่น้องก็ติดต่อมาหาผม เหมือนเดิม ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าน้องมีแฟนแล้ว
ฯลฯ
เราเริ่มกลับมาคุยกันอีก ประมาณ เมื่อ เดือนพฤศจิกายน ปี 2561 ที่ผ่านมานี่ครับ น้องติดต่อมา น้องบอกว่าแม่ป่วยหนักกว่าเดิม แฟนก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระอะไรเลย น้องก็บอกว่าสถานะแฟนของน้องคนนั้น ก็คลอนแคลนอยู่ เรื่องแม่ของน้องไม่สบาย ผมก็รับรู้มาตลอด เพราะว่า เมื่อ 5-6 ปี ที่แล้ว ผมก็ไปเยี่ยมแม่ของน้องครับ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2561 เป็นต้นมา เราก็ติดต่อคุยกันมาเรื่อยๆ จนกระทั้งเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม่ของน้องป่วยหนักมาก ผมก็ตัดสินใจไปเยี่ยม ก็เพราะรักน้องละครับ ไม่รู้ไปรักตั้งแต่ตอนไหน ทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมากเลย และแม่ของน้องก็เสีย ผมกับน้องก็คุยกันทุกวันครับ จนถึงวาระสุดท้ายชีวิตของคุณแม่ของน้องเขา กระทั้งน้องจัดงานให้คุณแม่ของน้องเสร็จ
เสร็จจากงานแม่ของน้อง เราก็คบหากันมาเรื่อยๆครับ สถานะความสัมพันธ์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากแค่ที่คุยๆกันคุ้นเคยกันมากขึ้น จากเดิมที่ผมรักน้อง รักบ้าง ไม่รักบ้าง แล้วแต่อารมณ์ จากนั้นมาผมก็รู้สึกรักน้องมากขึ้นกว่าที่เคย เราก็ไปมาหาสู่กันบ่อยขึ้น สถานะความสัมพันธ์ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกันครับ กระทั้งผมรู้สึกรัก หึงหวง อยากครอบครอง แลก็ไปมาหาสู่กันบ่อยขึ้น ไม่รู้ว่าผมเป็นมือที่ 3 หรือว่าเป็นแฟนเบอร์ 1 หรือแฟนเบอร์ 2 ของน้อง บางครั้งก็งงตัวเองเหมือนกัน เพราะความรู้สึก บางครั้งก็เหมือนเราเป็นตัวจริง บางครั้งก็เหมือนเราเป็นเบอร์ 2
@@@@@ ประเด็นของเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมมีน้องคนหนึ่งที่รู้จักคุ้นเคยกันมานาน ไม่ใช่น้องแท้ๆ นะครับ แต่เป็นน้องที่รู้จักคุ้นเคยกัน เขาก็รู้จักกันกับน้องผู้หญิงคนนี้จากการแนะนำของผมเอง ผมก็ทำงานอยู่อีกที่หนึ่ง น้องก็อยู่บ้าน ซึ่งอีกฟากที่หนึ่ง และใกล้ๆกันกับที่ทำงานน้องชายที่ผมรู้จักคุ้นเคยกัน จะมีบางครั้งที่น้องผู้หญิงชวนน้องผู้ชาย ไปกินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกัน จริงๆ เวลาเขาจะไปไหนด้วยกัน เขาก็บอกผมนะครับ ปกติดึกๆ ผมจะคุยไลน์กะน้องผู้หญิงทุกวัน แล้วก็โทรคุยกัน ดึกดื่น แต่วันไหนที่เขาชวนกันไปธุระโน้น นี่ มืดค่ำ ผมก็โทรหาน้อง โทรหาน้องผู้หญิงไม่รับโทรศัพท์ ไลน์ก็ไม่อ่าน แล้วผมก็โทรหาน้องผู้ชาย ก็ไม่รับอีก ในจริงผมแค่อยากรู้ว่า ไปธุระเป็นไง ถึงไหน แค่นั้นเอง โทรหาแล้วคนหนึ่งไม่รับสาย แต่คนหนึ่งรับ ผมก็ไม่คิดอะไรนะครับ แต่นี่ ดัน ไม่รับทั้ง 2 คน ผมก็เลยเกิดอาการหึงหวง และเกิดระแวงขึ้นมา หึงหวงแม้กระทั้งน้องตัวเองที่รู้จักคุ้นเคยกันมานาน แม้เขาจะไปด้วยกันหรือไม่ได้ไปด้วยกัน แต่ด้วยความที่เขาอยู่ใกล้กัน ความคิดระแวงมันก็ผุดขึ้นมาตลอดว่า เขาคงนัดเจอกันแหล่ะ เมื่อความรู้สึกระแวงมันฝังในความคิด มันก็ยากที่จะถอดมันออกมาได้ ผมก็คุยกะน้องผู้ชาย น้องผู้ชายก็เฉยๆนะ แต่อาจจะเบื่อผมบ้าง และคุยกะน้องผู้หญิง น้องผู้หญิงชอบต่อว่าผมว่าเหมือนเด็กปัญญาอ่อน ก็อาจจะจริงนะครับ เพราะว่าตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยรักใครในฐานะแฟนเลย มีน้องคนนี้คนเดียวและเป็นคนแรกของผมด้วย และแล้วก็ทะเลาะกัน บางทีผมก็ทะเลาะ บางทีน้องก็ทะเลาะ ผมชวนทะเลาะเพราะผมหึงหวง น้องก็ทะเลาะว่าผมปัญญาอ่อน ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ ไร้สาระ น้องผู้ชายก็ยืนยันกับผมว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับแฟนผม เขาก็เฉยๆเขายกผู้หญิงให้อยู่ในฐานะพี่ ส่วนแฟนผมเขาก็บอกว่า ไม่ได้มีอะไร เขาบอกว่าผมคิดมากไปเอง ไร้สาระ ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ จริงๆ ผมควรจะระแวงแฟนของน้องนะ แต่กลายเป็นว่า ผมระแวงน้องตัวเองที่รู้จักคุ้นเคยกัน ที่อยู่ใกล้ๆกับน้องผู้หญิง แล้วชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง @@@@@
คำถามคือ
@1 ผมควรจะทำความเข้าใจใช่ไหมครับ และไม่ต้องหึง ไม่ต้องหวง ให้คิดว่าน้องเขาไม่ได้มีอะไรกันหรอก แต่เราปัญญาอ่อน ไร้สาระ ไร้ภาวะ ชอบคิดไปเอง ทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเลย ก็ชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง เฉยๆ เหมือนที่น้องบอก
@2 ผู้หญิง เวลาเขารู้ว่าแฟนหึง แฟนหวง จนจะเกิดการทะเลาะ ทำไมเขาทำเป็นรำราญไปเลย ทำไมเขาไม่พูด ไม่คุยไม่ทำความเข้าใจให้เรารู้สึกสบายใจและมั่นใจขึ้นว่าไม่มีอะไรจริงๆ เราจะได้รู้สึกสบายใจ แล้วคุณจะปไหน ไปทำอะไร ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่นี่เวลาเราหึงเราหวง เขาจะทำเป็นรำคาญ พอเขาทำเป็นรำราญ เราก็คิดต่อเติมไปอีกว่า นั่นซิ ไปกับคนอื่น อยู่กับคนอื่น ก็เลยรำราญเรา ไปโน้น......ยิ่งทำให้เราสงสัย ยิ่งทำให้เราระแวง ยิ่งทำให้เราชวนทะเลาะ พอเราระแวง สงสัย ชวนทะเลาะ ก็จะมาว่าเราปัญญาอ่อน ไม่มีภาวะ
@3 จริงๆ แรกๆเลย ผมก็ไม่ได้รู้สึกระแวง หรือหึงหวงอะไรนะครับ น้องเขาชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง หรือพูดแซวกันเล่นๆ ว่าคบกัน แต่อาการหึงหวง ระแวง มันเกิดขึ้นเพราะว่า เวลาเขาไปไหนด้วยกันแล้วเราโทรหาทั้ง 2 คน ไม่มีใครรับสายเลย ตกลง ผมปัญญาอ่อน ไร้สาระ ไร้ภาวะ ชอบคิดไปเอง จริงๆ ใช่ไหมครั้ง ทั้งๆที่น้องก็บอกว่ามันไม่มีอะไรเลย ก็น้องชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง เฉยๆ
@4 ตกลง จริงๆแล้ว เรื่องทั้งหมด ผมคิดไปเอง ใช่ไหมครับ เพราะว่าน้องก็มีแฟนแล้ว และผมควรจะเลิกติดต่อกับน้องเขาไหมครับ ให้น้องเขากลับไปหาแฟนน้องเขา แต่ต้องก็บอกอยู่บ่อยๆว่ากับแฟน ก็ไม่มีความสุขเลยที่อยู่ด้วยกัน อยากออกไปใกลๆ ห่างๆ
@5 ล่าสุดก็ทะเลาะกัน ผมบอกน้องว่าผมรักน้องนะ แต่ทำไมรักแล้วมันเหนื่อยยย ผมจะเลิกคุย เลิกติดต่อ ทั้งๆที่ยังรัก และรักมากด้วย แล้วน้องก็มาว่าผม ไร้สาระ ไม่มีภาวะ แล้วก็มาชวนทะเลาะกัน แต่ก็คงกลับมาคุยกัน
ของถามความคิดเห็นเพื่อนๆพี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิพย์ครับ รักจนหึงหวงมาก แล้วทะเลาะ ควรทำอย่างไร
ขอเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นเลยนะครับ อาจจะยาวหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า ผมรู้จักจักกับน้องคนหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน รวมๆก็คงน่าจะ 10 ปี กว่าๆ ตั้งแต่สมัยน้องเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 1 ถ้าจำไม่ผิด ก็น่าจะ ปี 2543 ก็คุยติดต่อกันมาเรื่อยๆ ครับ แรกๆ ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เพราะอะไร ผมชอบน้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และหายจากกันไปเป็นพักๆ บางครั้งน้องหายไปเฉยๆ ก็มี บางครั้งก็หายไปเพราะทะเลาะกัน ไม่ผมชวนทะเลาะ ก็น้องชวนทะเลาะ แต่น้องก็ติดต่อมาหาผม เหมือนเดิม ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าน้องมีแฟนแล้ว
ฯลฯ
เราเริ่มกลับมาคุยกันอีก ประมาณ เมื่อ เดือนพฤศจิกายน ปี 2561 ที่ผ่านมานี่ครับ น้องติดต่อมา น้องบอกว่าแม่ป่วยหนักกว่าเดิม แฟนก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระอะไรเลย น้องก็บอกว่าสถานะแฟนของน้องคนนั้น ก็คลอนแคลนอยู่ เรื่องแม่ของน้องไม่สบาย ผมก็รับรู้มาตลอด เพราะว่า เมื่อ 5-6 ปี ที่แล้ว ผมก็ไปเยี่ยมแม่ของน้องครับ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2561 เป็นต้นมา เราก็ติดต่อคุยกันมาเรื่อยๆ จนกระทั้งเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม่ของน้องป่วยหนักมาก ผมก็ตัดสินใจไปเยี่ยม ก็เพราะรักน้องละครับ ไม่รู้ไปรักตั้งแต่ตอนไหน ทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมากเลย และแม่ของน้องก็เสีย ผมกับน้องก็คุยกันทุกวันครับ จนถึงวาระสุดท้ายชีวิตของคุณแม่ของน้องเขา กระทั้งน้องจัดงานให้คุณแม่ของน้องเสร็จ
เสร็จจากงานแม่ของน้อง เราก็คบหากันมาเรื่อยๆครับ สถานะความสัมพันธ์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากแค่ที่คุยๆกันคุ้นเคยกันมากขึ้น จากเดิมที่ผมรักน้อง รักบ้าง ไม่รักบ้าง แล้วแต่อารมณ์ จากนั้นมาผมก็รู้สึกรักน้องมากขึ้นกว่าที่เคย เราก็ไปมาหาสู่กันบ่อยขึ้น สถานะความสัมพันธ์ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกันครับ กระทั้งผมรู้สึกรัก หึงหวง อยากครอบครอง แลก็ไปมาหาสู่กันบ่อยขึ้น ไม่รู้ว่าผมเป็นมือที่ 3 หรือว่าเป็นแฟนเบอร์ 1 หรือแฟนเบอร์ 2 ของน้อง บางครั้งก็งงตัวเองเหมือนกัน เพราะความรู้สึก บางครั้งก็เหมือนเราเป็นตัวจริง บางครั้งก็เหมือนเราเป็นเบอร์ 2
@@@@@ ประเด็นของเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมมีน้องคนหนึ่งที่รู้จักคุ้นเคยกันมานาน ไม่ใช่น้องแท้ๆ นะครับ แต่เป็นน้องที่รู้จักคุ้นเคยกัน เขาก็รู้จักกันกับน้องผู้หญิงคนนี้จากการแนะนำของผมเอง ผมก็ทำงานอยู่อีกที่หนึ่ง น้องก็อยู่บ้าน ซึ่งอีกฟากที่หนึ่ง และใกล้ๆกันกับที่ทำงานน้องชายที่ผมรู้จักคุ้นเคยกัน จะมีบางครั้งที่น้องผู้หญิงชวนน้องผู้ชาย ไปกินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกัน จริงๆ เวลาเขาจะไปไหนด้วยกัน เขาก็บอกผมนะครับ ปกติดึกๆ ผมจะคุยไลน์กะน้องผู้หญิงทุกวัน แล้วก็โทรคุยกัน ดึกดื่น แต่วันไหนที่เขาชวนกันไปธุระโน้น นี่ มืดค่ำ ผมก็โทรหาน้อง โทรหาน้องผู้หญิงไม่รับโทรศัพท์ ไลน์ก็ไม่อ่าน แล้วผมก็โทรหาน้องผู้ชาย ก็ไม่รับอีก ในจริงผมแค่อยากรู้ว่า ไปธุระเป็นไง ถึงไหน แค่นั้นเอง โทรหาแล้วคนหนึ่งไม่รับสาย แต่คนหนึ่งรับ ผมก็ไม่คิดอะไรนะครับ แต่นี่ ดัน ไม่รับทั้ง 2 คน ผมก็เลยเกิดอาการหึงหวง และเกิดระแวงขึ้นมา หึงหวงแม้กระทั้งน้องตัวเองที่รู้จักคุ้นเคยกันมานาน แม้เขาจะไปด้วยกันหรือไม่ได้ไปด้วยกัน แต่ด้วยความที่เขาอยู่ใกล้กัน ความคิดระแวงมันก็ผุดขึ้นมาตลอดว่า เขาคงนัดเจอกันแหล่ะ เมื่อความรู้สึกระแวงมันฝังในความคิด มันก็ยากที่จะถอดมันออกมาได้ ผมก็คุยกะน้องผู้ชาย น้องผู้ชายก็เฉยๆนะ แต่อาจจะเบื่อผมบ้าง และคุยกะน้องผู้หญิง น้องผู้หญิงชอบต่อว่าผมว่าเหมือนเด็กปัญญาอ่อน ก็อาจจะจริงนะครับ เพราะว่าตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยรักใครในฐานะแฟนเลย มีน้องคนนี้คนเดียวและเป็นคนแรกของผมด้วย และแล้วก็ทะเลาะกัน บางทีผมก็ทะเลาะ บางทีน้องก็ทะเลาะ ผมชวนทะเลาะเพราะผมหึงหวง น้องก็ทะเลาะว่าผมปัญญาอ่อน ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ ไร้สาระ น้องผู้ชายก็ยืนยันกับผมว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับแฟนผม เขาก็เฉยๆเขายกผู้หญิงให้อยู่ในฐานะพี่ ส่วนแฟนผมเขาก็บอกว่า ไม่ได้มีอะไร เขาบอกว่าผมคิดมากไปเอง ไร้สาระ ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ จริงๆ ผมควรจะระแวงแฟนของน้องนะ แต่กลายเป็นว่า ผมระแวงน้องตัวเองที่รู้จักคุ้นเคยกัน ที่อยู่ใกล้ๆกับน้องผู้หญิง แล้วชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง @@@@@
คำถามคือ
@1 ผมควรจะทำความเข้าใจใช่ไหมครับ และไม่ต้องหึง ไม่ต้องหวง ให้คิดว่าน้องเขาไม่ได้มีอะไรกันหรอก แต่เราปัญญาอ่อน ไร้สาระ ไร้ภาวะ ชอบคิดไปเอง ทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเลย ก็ชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง เฉยๆ เหมือนที่น้องบอก
@2 ผู้หญิง เวลาเขารู้ว่าแฟนหึง แฟนหวง จนจะเกิดการทะเลาะ ทำไมเขาทำเป็นรำราญไปเลย ทำไมเขาไม่พูด ไม่คุยไม่ทำความเข้าใจให้เรารู้สึกสบายใจและมั่นใจขึ้นว่าไม่มีอะไรจริงๆ เราจะได้รู้สึกสบายใจ แล้วคุณจะปไหน ไปทำอะไร ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่นี่เวลาเราหึงเราหวง เขาจะทำเป็นรำคาญ พอเขาทำเป็นรำราญ เราก็คิดต่อเติมไปอีกว่า นั่นซิ ไปกับคนอื่น อยู่กับคนอื่น ก็เลยรำราญเรา ไปโน้น......ยิ่งทำให้เราสงสัย ยิ่งทำให้เราระแวง ยิ่งทำให้เราชวนทะเลาะ พอเราระแวง สงสัย ชวนทะเลาะ ก็จะมาว่าเราปัญญาอ่อน ไม่มีภาวะ
@3 จริงๆ แรกๆเลย ผมก็ไม่ได้รู้สึกระแวง หรือหึงหวงอะไรนะครับ น้องเขาชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง หรือพูดแซวกันเล่นๆ ว่าคบกัน แต่อาการหึงหวง ระแวง มันเกิดขึ้นเพราะว่า เวลาเขาไปไหนด้วยกันแล้วเราโทรหาทั้ง 2 คน ไม่มีใครรับสายเลย ตกลง ผมปัญญาอ่อน ไร้สาระ ไร้ภาวะ ชอบคิดไปเอง จริงๆ ใช่ไหมครั้ง ทั้งๆที่น้องก็บอกว่ามันไม่มีอะไรเลย ก็น้องชวนกันไปกินข้าว ไปดูหนัง เฉยๆ
@4 ตกลง จริงๆแล้ว เรื่องทั้งหมด ผมคิดไปเอง ใช่ไหมครับ เพราะว่าน้องก็มีแฟนแล้ว และผมควรจะเลิกติดต่อกับน้องเขาไหมครับ ให้น้องเขากลับไปหาแฟนน้องเขา แต่ต้องก็บอกอยู่บ่อยๆว่ากับแฟน ก็ไม่มีความสุขเลยที่อยู่ด้วยกัน อยากออกไปใกลๆ ห่างๆ
@5 ล่าสุดก็ทะเลาะกัน ผมบอกน้องว่าผมรักน้องนะ แต่ทำไมรักแล้วมันเหนื่อยยย ผมจะเลิกคุย เลิกติดต่อ ทั้งๆที่ยังรัก และรักมากด้วย แล้วน้องก็มาว่าผม ไร้สาระ ไม่มีภาวะ แล้วก็มาชวนทะเลาะกัน แต่ก็คงกลับมาคุยกัน